เสียงดุเหว่าแว่ว
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
22 พฤศจิกายน 2024, 04:41:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เสียงดุเหว่าแว่ว  (อ่าน 13300 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 5 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
07 กุมภาพันธ์ 2013, 05:16:PM
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,422


นักร้อง


paobunjin
« เมื่อ: 07 กุมภาพันธ์ 2013, 05:16:PM »
ชุมชนชุมชน




ขอบคุณภาพนกดุเหว่าจากกูเกิ้ล

เสียงดุเหว่าแว่วร้องดังก้องหู
ร้องหาคู่หรือไรนกไพรเอ๋ย?
ส่งเสียงร้องทั้งวันหมั่นจังเลย
จนคุ้นเคยเสียงเจ้าทั้งเช้าเย็น

หรือตัวเจ้าไร้คู่อยู่โดดเดี่ยว
จึงเปล่าเปลี่ยวดวงแดไม่แลเห็น
เสียงเจ้าร้องครวญคร่ำอย่างลำเค็ญ
ไยเจ้าเป็นเหมือนข้าฯที่จาบัลย์

คู่ของข้าฯห่างไกลพาใจเศร้า
ดั่งดุเหว่าร่ำร้องก้องไพรนั่น
คิดถึงน้องเหลือเกินเดินงงงัน
ดั่งประชันความเหงาที่เข้าครอง

เสียงดุเหว่าแว่วร้องก้องไพรพฤกษ์
ข้าฯยิ่งนึกถึงนางที่ห่างห้อง
ฟังเสียงนกอกช้ำน้ำตานอง
ได้แต่มองตัวเจ้ายิ่งเหงาใจ

ดุเหว่าเอ๋ย..เจ้าร้องดังก้องฟ้า
อยากเห็นหน้าคู่ครองจึ่งร้องไห้
เสียงครวญคร่ำร่ำร้องก้องพงไพร
อยู่แห่งไหนเล่าหนาไม่มาเชย

ฟังเสียงนกดุเหว่าที่เศร้าสร้อย
คนเหงาหงอยได้ยินชาวดินเอ๋ย
ในหัวอกปวดร้าวไม่ห้าวเลย
จึ่งเปรียบเปรยนกไพรร้องไห้ฟัง

“ไพร พนาวัลย์”

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พยัญเสมอ, ชลนา ทิชากร, D, รพีกาญจน์, panthong.kh, Thammada, yaguza, สมนึก นพ, นพตุลาทิตย์, นานะ, ไร้นวล^^, พี.พูนสุข, Shumbala, choy, saknun, อริญชย์, เนิน จำราย, รัตนาวดี, ปู่ริน

ข้อความนี้ มี 19 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

07 กุมภาพันธ์ 2013, 08:08:PM
D
นักรบทุกบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 3313
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,894


ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & Youtube ค่ะ


sasa.yai
เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 07 กุมภาพันธ์ 2013, 08:08:PM »
ชุมชนชุมชน


สนธยา ฟ้าคล้ำ ใกล้ค่ำแล้ว
สายลมแผ่ว แว่ววน ปนความหลัง
ลำไผ่ลู่ สูสี อี๋อ๋อดัง
วิหคสั่ง ฟังเสียง สำเนียงครวญ

หวีดหวิวแหวก แมกไม้ ไพรสนั่น
รู้ไหมขวัญ หวั่นผวา อุราหวน
รำพึงถึง ซึ้งแนบ แอบทบทวน
ใจรัญจวน ป่วนปั่น นับวันรอ

ดุเหว่าจ๋า ข้าฯวอน ฝากย้อนกลับ
ไปสัมทับ คนไกล อย่าใจฝ่อ
วาเลนไทน์ ใกล้ถึง ไปคลึงคลอ
ได้ไหมหนอ หากมิรับ จะจับแกง

"ดิน"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, Thammada, yaguza, สมนึก นพ, ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ไร้นวล^^, Shumbala, choy, saknun, อริญชย์, เนิน จำราย, รัตนาวดี, ปู่ริน

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

07 กุมภาพันธ์ 2013, 08:10:PM
Thammada
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 342
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 229


ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ


« ตอบ #2 เมื่อ: 07 กุมภาพันธ์ 2013, 08:10:PM »
ชุมชนชุมชน



เสียงสวรรค์ บรรเลง บทเพลงเศร้า
อาจฟ้าเทา ธารหม่น คนวาดหวัง
ในห้วงลึก หลบเร้น เช่นใบบัง
กับอีกฝั่ง ฟ้าแล้ง จากแสงดาว

คีตกาล ผ่านพลิ้ว ละลิ่วเลื่อน
แว่วมาเตือน ใจตื่น ฟื้นห้วงหาว
แห่งฟ้าค่ำ คืนฝัน อันยืดยาว
จะไม่หนาว เดียวดาย ในสายลม

อยู่ตรงนี้ ที่ขับขาน นิทานป่า
กล่อมโลกหล้า ลำเค็ญ เป็นห้วงห่ม
อาจรอนร้าว คราวใคร ในระทม
ยามขื่นขม เคียงข้าง ไม่ห่างกัน

จะคอยคน คุ้นเคย เอ่ยคำหวาน
เล่านิทาน ท้องฟ้า เมื่อคราฝัน
จะมีไหม ในซีกส่วน ครวญรำพัน
คิดถึงฉัน สักน้อย ที่คอยเธอ


" งานเขียนของคุณลุงปรางค์
เป็นแรงบันดาลใจได้มากจริงๆครับ "


ธรรมดา

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, yaguza, D, สมนึก นพ, ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ไร้นวล^^, Shumbala, choy, saknun, อริญชย์, เนิน จำราย, ปู่ริน

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
07 กุมภาพันธ์ 2013, 08:13:PM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #3 เมื่อ: 07 กุมภาพันธ์ 2013, 08:13:PM »
ชุมชนชุมชน


แสนสงสาร นกเจ้า เหงาเปล่าเปลี่ยว
อยู่โดดเดี่ยว เอกา ครามองเหม่อ
กลางป่าดง พงไพร ใจละเมอ
ทุกคืนเพ้อ จับคอน นอนเดียวดาย

แสนสงสาร ขาดคู่ ดูว้าเหว่
ชีวิตเซ เหหัก รักแพ้พ่าย
จึงกู่ก้อง ร้องร่ำ พร่ำมิวาย
ทั้งเช้าสาย บ่ายเย็น ไม่เว้นวัน

คู่เจ้าคง พลัดพราก จากไกลแล้ว
ไร้สิ้นแวว แว่วว่า น่าหวาดหวั่น
ลืมไปหมด คอนเก่า เคล้าคลอกัน
คล้ายตัวฉัน คนรัก หักใจลา

ต้องอยู่เดียว ดายแด ท้อแท้สุด
ดั่งสะดุด มานขม เดินก้มหน้า
จะแหงนมอง หมองไหม้ ไร้เยียวยา
ปวดนักหนา ครานี้ สี่ห้องใจ

ได้แต่ รอคอยวัน แสนรันทด
โศกสลด ถดถอย คอยไม่ไหว
กว่าหนึ่งวัน ผันผ่าน นานเกินไป
จะเดือนใหม่ เดือนเก่า เศร้าเหมือนเดิม

ฟังเสียงนก อกช้ำ ระกำหนัก
คล้ายดั่งเสียง คนรัก มาทักเพิ่ม
โอ้นกจ๋า ขาดเขา เนาแนบเติม
ฤทัยเริ่ม หมดหวัง นั่งเหม่อลอย
พันทอง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Thammada, yaguza, D, สมนึก นพ, ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ไร้นวล^^, Shumbala, choy, saknun, อริญชย์, เนิน จำราย, ปู่ริน

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
07 กุมภาพันธ์ 2013, 08:45:PM
yaguza
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1567
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,308


**ยากูซ่า บ้าไม่เลือกที่**


« ตอบ #4 เมื่อ: 07 กุมภาพันธ์ 2013, 08:45:PM »
ชุมชนชุมชน




เจ้าโผผิน สิ้นหวัง ดั่งนกเจ็บ
ทนหนาวเหน็บ เดินทาง อย่างเหงาหงอย
ขาดคู่เรียง เคียงข้าง กลางป่าดอย
เฝ้าแต่คอย เนื้อคู่ อยู่แดนใกล

เสียงดุเหว่า แว่วหวาน ผสานเสียง
เป็นแค่เพียง ในกรง ส่งเสียงใส
เจ้าพรัดพราก จากคอน เคยนอนไพร
ยังหมายใจ อิสระภาพ ตราบชืพยัง



......ยากูซ่า......

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Thammada, ไพร พนาวัลย์, panthong.kh, ดอกกระเจียว, ชลนา ทิชากร, D, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, สมนึก นพ, ไร้นวล^^, Shumbala, saknun, อริญชย์, เนิน จำราย, รัตนาวดี, ปู่ริน

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

07 กุมภาพันธ์ 2013, 09:40:PM
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,422


นักร้อง


paobunjin
« ตอบ #5 เมื่อ: 07 กุมภาพันธ์ 2013, 09:40:PM »
ชุมชนชุมชน



สนธยา ฟ้าคล้ำ ใกล้ค่ำแล้ว
สายลมแผ่ว แว่ววน ปนความหลัง
ลำไผ่ลู่ สูสี อี๋อ๋อดัง
วิหคสั่ง ฟังเสียง สำเนียงครวญ

หวีดหวิวแหวก แมกไม้ ไพรสนั่น
รู้ไหมขวัญ หวั่นผวา อุราหวน
รำพึงถึง ซึ้งแนบ แอบทบทวน
ใจรัญจวน ป่วนปั่น นับวันรอ

ดุเหว่าจ๋า ข้าฯวอน ฝากย้อนกลับ
ไปสัมทับ คนไกล อย่าใจฝ่อ
วาเลนไทน์ ใกล้ถึง ไปคลึงคลอ
ได้ไหมหนอ หากมิรับ จะจับแกง

"ดิน"



ลาตายดีกว่าตู    ลาตายดีกว่าตู     ลาตายดีกว่าตู

ฟังสำเนียงเสียงร้องของน้องเจ้า
ครวญโศกเศร้าเหงาใจเหมือนใครแกล้ง
ทำไมหนอจากไกลไม่ดูแดง
ฤาเปลี่ยนแปลงดวงใจไม่กลับมา

เสียงกอไผ่สีซอพะนอคู่
แต่ยอดชู้คู่ขวัญไม่หันหน้า
คงหมดสิ้นเวรกรรมจึ่งอำลา
เพราะรู้ว่าทรามวัยนั้นใจดำ

พูดสำเนียงจ๊ะจ๋าฟังน่ารัก
แต่หัวใจเธอควักปฏักจ้ำ
จะกินนกดุเหว่าเอาเต็มคำ
โถ เวรกรรม,กลัวแล้วนะแก้วตา

วาเลนไทน์ปีนี้ต้องหนีซ่อน
กลัวบังอรเนื้อเย็นเจ้าเห็นหน้า
ขอปลอดภัยไว้ก่อนนะกานดา
คนชรากลัวตายก่อนได้เจอ งอนแล้วด้วย

“ไพร พนาวัลย์”

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, D, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, สมนึก นพ, ไร้นวล^^, ชลนา ทิชากร, Thammada, Shumbala, choy, saknun, อริญชย์, ปู่ริน

ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

07 กุมภาพันธ์ 2013, 10:24:PM
สมนึก นพ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 728
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,994



taojeo@hotmail.com
« ตอบ #6 เมื่อ: 07 กุมภาพันธ์ 2013, 10:24:PM »
ชุมชนชุมชน

ฯลฯ
ฟังเสียงนก อกช้ำ ระกำหนัก
คล้ายดั่งเสียง คนรัก มาทักเพิ่ม
โอ้นกจ๋า ขาดเขา เนาแนบเติม
ฤทัยเริ่ม หมดหวัง นั่งเหม่อลอย
พันทอง



พักผ่อนที่ ขนำ ใกล้ค่ำแล้ว
ยินเสียงแผ่ว นกไพร คล้ายเหงาหงอย
ขาดคู่หรือ อย่างไร หมายรอคอย
ดุเหว่าน้อย นี่นา น่ารักจัง

ราตรีนี้ เกาะคอน นอนที่ไหน
ผืนป่าใหญ่ สับสน มีมนต์ขลัง
เสียงหรีดหริ่ง บรรเลง วังเวงดัง
เคยเฝ้าฟัง กลับเงียบ เย็นเยียบทรวง

ยินเสียงก้อง ร้องขู่ อยู่บ่อยครั้ง
จากแนวหลัง เขาใหญ่ ให้เป็นห่วง
เสือวัยหนุ่ม ตามดู หาคู่ควง
กลัวจะล่วง ล้ำใกล้ หมายฆ่าเรา

ด้วยขนำ หลังนี้ มีที่ว่าง
แม้ผุบ้าง ดังเห็น เป็นไม้เก่า
พออาศัย หลับนอน ตอนรุ่งเช้า
เวลาเจ้า หากิน ออกบินไป

นกดุเหว่า เข้ามา ชายคาร่วม
กายสำรวม ทว่า น้ำตาไหล
จึงสัญญา คำฝาก จากจริงใจ
อย่าห่วงใย ว่าข้า จะรังแก

ดุเหว่าน้อย ก้มหน้า น้ำตาหลั่ง
เล่าข้าฟัง ใจนี้ มันมีแผล
โดนที่รัก หนีไกล ไม่เหลียวแล
ชีวิตสุด ย่ำแย่ แพ้ภัยพาล

ฟังดุเหว่า เล่ามา ข้าสะอึก
มาผนึก เรื่องเก่า เราพ้นผ่าน
อยู่เมืองใหญ่ ใจเจ็บ ทรมาน
จึงซมซาน อยู่ขนำ ทำเพิงนอน

ผลัดกันเล่า เรื่องเศร้า เราทั้งสอง
จนแสงทอง ส่องฟ้า นกกาว่อน
เจ้ากาเหว่า อำลา ตาเปียกปอน
กลบเสียงซ่อน สะอื้น กลืนลงคอ

จึงอวยพร ดุเหว่า เข้าปีนี้
ขอโชคดี มีรัก สมัครหนอ
อวยพรเขา แต่เรา น้ำตาคลอ
ยังคงรอ ความหวัง แม้ห่างไกล.

นพ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไพร พนาวัลย์, พี.พูนสุข, ไร้นวล^^, ชลนา ทิชากร, panthong.kh, D, Thammada, Shumbala, รพีกาญจน์, choy, saknun, อริญชย์, เนิน จำราย, ปู่ริน

ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
07 กุมภาพันธ์ 2013, 11:20:PM
ไร้นวล^^
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 825
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,430

โปรดแนะนำเพื่อค้ำชูภาษาไทย


« ตอบ #7 เมื่อ: 07 กุมภาพันธ์ 2013, 11:20:PM »
ชุมชนชุมชน

๐ดุเหว่าว้างร้างรักยังจักร้อง
พี่ห่างน้องเพรียกพร่ำยินคำไหม
ดุเหว่ายังหวังสะท้อนเสียงอ้อนใจ
แต่ไฉนพี่หมดหวังเสียงบังอร

๐ดุเหว่าเอ๋ยเอ่ยเถิดเสียงเฉิดฉาย
รักที่หายหวนหาเหมือนคราก่อน
ฉันบ่แข่งควบเคียงกลบเสียงวอน
เพราะใจคลอนเคว้งคว้างรักร้างโรย

๐ดุเหว่าแว่วเวียนวนอึงอลชัฏ
ส่งรหัสแห่งฤทัยไร้ระโหย
ส่วนทรวงฉันจรรโจษร่ำโอดโอย
รักมาโบยบาดบั่นโศกศัลย์ซึม
 น้อยใจแล้วด้วย

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร, D, Thammada, Shumbala, รพีกาญจน์, choy, saknun, อริญชย์, เนิน จำราย, panthong.kh, สมนึก นพ, ปู่ริน

ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แดนดินใดให้เราเกิด  เราจะเทิดทูนไว้เหนือเศียร
09 กุมภาพันธ์ 2013, 01:25:PM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #8 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2013, 01:25:PM »
ชุมชนชุมชน


เจ้าโผผิน สิ้นหวัง ดั่งนกเจ็บ
ทนหนาวเหน็บ เดินทาง อย่างเหงาหงอย
ขาดคู่เรียง เคียงข้าง กลางป่าดอย
เฝ้าแต่คอย เนื้อคู่ อยู่แดนใกล

เสียงดุเหว่า แว่วหวาน ผสานเสียง
เป็นแค่เพียง ในกรง ส่งเสียงใส
เจ้าพรัดพราก จากคอน เคยนอนไพร
ยังหมายใจ อิสระภาพ ตราบชืพยัง
......ยากูซ่า......



คล้ายนกเจ็บ เหน็บหนาว ร้าวในอก
ยินร้องดัง โป้ปก ถกเสียงสั่ง
ฝากสำเนียง เรียงร้อย ถ้อยพจน์ฟัง
ถึงคนยัง ฝั่งฟ้า คราโบยบิน

ขาดคู่เรียง เคียงข้าง บางโอกาส
เหมือนดั่งขาด สายใย ใจสูญสิ้น
ลำลึกถึง คืนเปลี่ยว ทุกเสี้ยวจินต์
เปรียบน้ำริน เดือนห้า อ่อนล้าใจ

คำว่าทน คุ้นกัน เช่นฉันเพื่อน
ไม่เคยเลือน เลื่อนหาย กายอ่อนไหว
จนชินชา มานาน กาลล่วงไป
คำว่าทน ยังอยู่ใกล้ ในวันนี้

รอคอยใคร ไร้จุด สุดแสนเศร้า
ความว่างเปล่า เข้าซุก ทุกพื้นที่
ขาดเหลียวแล แย่หนัก ปักฤดี
มิเคยมี สุขสม ดั่งลมลวง

เสียงดุเหว่า แว่วหวาน ผสานอีก
ฤทัยฉีก ซีกช้าย มะลายบ่วง
รวมซีกขวา คว้าไขว่ ให้หนักทรวง
กี่ปีล่วง เหมือนเก่า เศร้าเดียวดาย
พันทอง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : choy, Shumbala, รพีกาญจน์, D, saknun, ชลนา ทิชากร, อริญชย์, ไพร พนาวัลย์, Thammada, ปู่ริน

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
09 กุมภาพันธ์ 2013, 02:29:PM
choy
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 314



« ตอบ #9 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2013, 02:29:PM »
ชุมชนชุมชน

คู่นกขับคู่อ้อนรัก

คู่นกพะนอคู่เพรียงขับขาน
แว่วหวานรัญจวนพร่ำคำหอมซึ้ง
ชื่นชี้ชวนเอินเย้ารำพันรำพึง
(ใจไห้หวนโศกคำนึงถึงคนไกล)

ฟังน้ำคำคู่นกระเริงชื่น
ระริกรื่นพรอดพร่ำคำขานไข
ขับถ้อยหวานออดอ้อนป้อนพิไร
(คิดถึงนวลไยยามร้างเชย)

คู่นกขับคู่เน้นคำแน่นเสียง
ถ้อยสำเนียงขานรักต่างเอื้อนเอ่ย
รักเพียงเธอเพียงฉันเช่นเหมือนเคย
(อนาถเอ๋ยโอ้อกเราเศร้าลึกภวังค์)

น้ำคำคู่นกพราวพรูหวาน
พร้องคู่พร้องขานสำเนียงสั่ง
มั่นแท้เทียวมั่นรักเดียวมั่นจีรัง
(น้ำตาคลอซึมหลั่งเหงาวังเวง)

เสียงคู่นกขับคู่ป้อนหวานรัก
ถี่กระชั้นแน่นหนักรัวเร้าเร่ง
บอกรักมั่นเธอฉันผ่านครื้นเพลง
(ยิ่งเหงาช้ำคว้างเคว้งระกำทรวง)

ฟังคำนกเคล้าคู่ชื่นสนาน
รื่นฉ่ำหวานขันรักเต็มแน่นหน่วง
บอกเธอฉันรักมั่นใช่ปลิ้นลวง
(ใจห่วงหวงคนไกลโศกฤดี)

คู่นกหวานบินจรไกลลับแล้ว
ยังยินแผ่วแว่วหวานนกชวนชี้
คำนกย้ำรักยิ่งฟ้าทบวารี
(อยากแทนคำสกุณีฝากให้เธอ)

ยามเหงาร้ายร้างชื่นเคยอุ่นอก
ขมเสียงนกขับคู่อ้อนเสนอ
ใจห่วงหาคนไกลร้างบำเรอ
(วอนเธอมั่นภักดีเช่นคู่สกุณาฯ)


สนอง เสาทอง
21 มกราคม 2554
บ้านขุนช่างเคี่ยน
เชียงใหม่

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, panthong.kh, D, ไร้นวล^^, saknun, Shumbala, ชลนา ทิชากร, อริญชย์, ไพร พนาวัลย์, Thammada, สมนึก นพ, ปู่ริน

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
09 กุมภาพันธ์ 2013, 05:08:PM
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 3482
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,752


ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก


« ตอบ #10 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2013, 05:08:PM »
ชุมชนชุมชน


สนธยา ฟ้าคล้ำ ใกล้ค่ำแล้ว
สายลมแผ่ว แว่ววน ปนความหลัง
ลำไผ่ลู่ สูสี อี๋อ๋อดัง
วิหคสั่ง ฟังเสียง สำเนียงครวญ

หวีดหวิวแหวก แมกไม้ ไพรสนั่น
รู้ไหมขวัญ หวั่นผวา อุราหวน
รำพึงถึง ซึ้งแนบ แอบทบทวน
ใจรัญจวน ป่วนปั่น นับวันรอ

ดุเหว่าจ๋า ข้าฯวอน ฝากย้อนกลับ
ไปสัมทับ คนไกล อย่าใจฝ่อ
วาเลนไทน์ ใกล้ถึง ไปคลึงคลอ
ได้ไหมหนอ หากมิรับ จะจับแกง

"ดิน"



เช้าเปิดน้ำ ลำไย ใจสะดุ้ง
ดุเหว่ามุ่ง บินมา แต่ฟ้าสาง
เจ้าเคยจิบ เจรจา นัยน์ตาแดง
ถูกกลั่นแกล้ง หนอใคร ให้ช้ำทรวง

มิน่าเชื่อ เมื่อคืน ยังชื่นอยู่
ดูซิดู อาบหน้า น้ำตาร่วง
หรือถูกของ ต้องขัน ทัณฑ์พุ่มพวง
จากเมืองหลวง ซมซาน ถึงบ้านดอน

มีสาส์นรัก ปักใจ ใส่มาด้วย
เขียนตัวย้วย ส่งจูบ แนบรูปศร
วาเลนไทน์ ไม่ว่าง ทางสัญจร
เป็นช่วงตอน เพียรตบะ รุกขกรรม

รพีกาญจน์

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Shumbala, ชลนา ทิชากร, อริญชย์, D, ไพร พนาวัลย์, Thammada, เนิน จำราย, choy, สมนึก นพ, ปู่ริน

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
09 กุมภาพันธ์ 2013, 05:33:PM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« ตอบ #11 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2013, 05:33:PM »
ชุมชนชุมชน


นกกาเหว่าส่งเสียงสำเนียงหวาน
โบยบินผ่านทุ่งนาและป่าเขา
เกาะกิ่งไม้ประจำกลางลำเนา
เป็นห่วงเจ้าจะลอยเคว้งเพราะเพลงปืน!ฯ

                    อริญชย์
                ๑๕/๓/๒๕๔๘



 อายจัง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ชลนา ทิชากร, ไร้นวล^^, D, ไพร พนาวัลย์, Thammada, เนิน จำราย, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, Shumbala, panthong.kh, choy, สมนึก นพ, ปู่ริน

ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
09 กุมภาพันธ์ 2013, 09:12:PM
D
นักรบทุกบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 3313
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,894


ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & Youtube ค่ะ


sasa.yai
เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2013, 09:12:PM »
ชุมชนชุมชน



เช้าเปิดน้ำ ลำไย ใจสะดุ้ง
ดุเหว่ามุ่ง บินมา แต่ฟ้าสาง
เจ้าเคยจิบ เจรจา นัยน์ตาแดง
ถูกกลั่นแกล้ง หนอใคร ให้ช้ำทรวง

มิน่าเชื่อ เมื่อคืน ยังชื่นอยู่
ดูซิดู อาบหน้า น้ำตาร่วง
หรือถูกของ ต้องขัน ทัณฑ์พุ่มพวง
จากเมืองหลวง ซมซาน ถึงบ้านดอน

มีสาส์นรัก ปักใจ ใส่มาด้วย
เขียนตัวย้วย ส่งจูบ แนบรูปศร
วาเลนไทน์ ไม่ว่าง ทางสัญจร
เป็นช่วงตอน เพียรตบะ รุกขกรรม

รพีกาญจน์



เคยสำเนียง เสียงเจ้า ดุเหว่าแว่ว
ท่ามแถบแถว แนวไพร คราใกล้ค่ำ
ยินร้องวู้ กู่ก้อง ท่องเตือนย้ำ
ฟ้ามืดคล้ำ ดำเทา เจ้าหายไป

ยืนกอดกาย สายตา ยลฟ้าปิด
นึกสะกิด จิตหวั่น พรั่นไฉน
ป่านฉะนี้ "รพีฯ"อ้าย ส่งสายใจ
จะห่วงใย ไหมนั่น หวั่นลมลวง

ดุเหว่าหาย กลายกา ถลาร่อน
บอกฟังก่อน เรื่องจริง ถูกยิงร่วง
อกทะลุ ดุเหว่า เข้ากลางทรวง
อาก้าควง ชีพปลง ลงสู่ดิน ยิ้มแก้มแดง
(มิทราบมิบาปเน้อ) เคารพรัก
"ดิน"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Thammada, ไพร พนาวัลย์, เนิน จำราย, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, Shumbala, panthong.kh, ชลนา ทิชากร, อริญชย์, choy, สมนึก นพ, ปู่ริน

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

09 กุมภาพันธ์ 2013, 09:37:PM
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,422


นักร้อง


paobunjin
« ตอบ #13 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2013, 09:37:PM »
ชุมชนชุมชน



นกกาเหว่าส่งเสียงสำเนียงหวาน
โบยบินผ่านทุ่งนาและป่าเขา
เกาะกิ่งไม้ประจำกลางลำเนา
เป็นห่วงเจ้าจะลอยเคว้งเพราะเพลงปืน!ฯ

                    อริญชย์
                ๑๕/๓/๒๕๔๘



 อายจัง


ซึ้งจัง    ซึ้งจัง    ซึ้งจัง

ดุเหว่าน้อยเสียงหวานเบิกบานนัก
ด้วยคนรักพงไพรให้สดชื่น
ธรรมชาติน่าชมอย่างกลมกลืน
จึ่งเริงรื่นชื่นชมนิยมไพร

ดั่งรู้ว่าตัวเจ้าเข้าท่องเวบ
มิหนาวเหน็บอีกแล้วดั่งแก้วใกล้
เหล่านักกลอนแสนห่วงเจ้าดวงใจ
แม้อยู่ในป่าดงมิเดียวดาย

ส่งเสียงร้องก้องฟ้าอย่างน่ารัก
ดั่งร้องทักขอบคุณอบอุ่นหลาย
ตั้งแต่เช้ายันค่ำเฝ้ากล้ำกลาย
ข้าฯแสนอายตัวเจ้ายังเหงาทรวง

วันก่อนนั้นเด็กน้อยเฝ้าคอยย่อง
ตาจับจ้องตัวเจ้า..กะเป่าร่วง
เล็งด้วยปืนอัดลมหวังคมกลวง
ข้าฯทักท้วงหยุดนะ...อย่ายิงมัน!!

สงสารนกตัวน้อยจะพลอยพราก
ต้องตายจากแม่พ่อที่รอนั่น
ถ้าเขายิงเธอบ้างอย่างเดียวกัน
คงร้องลั่นกลัวตาย..ใช่ไหมเออ?

เจ้าเด็กน้อยนึกได้จึงไม่กล้า
รีบอำลาจากไปไม่เยิ่นเย่อ
จึงยังมีดุเหว่าเฝ้าปรนเปรอ
ร้องละเมอให้เห็นไม่เว้นวัน

ยิ่งวันนี้..ยิ่งร้อง..อย่างผ่องใส
ร้องร่ำไร..หนวกหู..ร้องอยู่นั่น
อ๋อ..ที่ร้อง ร้องกู่..หาคู่มัน
อยากอวดกัน ว่า “ฉันดัง..ในบ้านกลอน!!” ยิ้มกวนตีน

“ไพร พนาวัลย์”

เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Thammada, เนิน จำราย, choy, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, Shumbala, panthong.kh, D, อริญชย์, สมนึก นพ, ปู่ริน, ชลนา ทิชากร

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

10 กุมภาพันธ์ 2013, 11:59:AM
choy
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 314



« ตอบ #14 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2013, 11:59:AM »
ชุมชนชุมชน



เช้าเปิดน้ำ ลำไย ใจสะดุ้ง
ดุเหว่ามุ่ง บินมา แต่ฟ้าสาง
เจ้าเคยจิบ เจรจา นัยน์ตาแดง
ถูกกลั่นแกล้ง หนอใคร ให้ช้ำทรวง


มิน่าเชื่อ เมื่อคืน ยังชื่นอยู่
ดูซิดู อาบหน้า น้ำตาร่วง
หรือถูกของ ต้องขัน ทัณฑ์พุ่มพวง
จากเมืองหลวง ซมซาน ถึงบ้านดอน

มีสาส์นรัก ปักใจ ใส่มาด้วย
เขียนตัวย้วย ส่งจูบ แนบรูปศร
วาเลนไทน์ ไม่ว่าง ทางสัญจร
เป็นช่วงตอน เพียรตบะ รุกขกรรม

รพีกาญจน์



เคยสำเนียง เสียงเจ้า ดุเหว่าแว่ว
ท่ามแถบแถว แนวไพร คราใกล้ค่ำ
ยินร้องวู้ กู่ก้อง ท่องเตือนย้ำ
ฟ้ามืดคล้ำ ดำเทา เจ้าหายไป

ยืนกอดกาย สายตา ยลฟ้าปิด
นึกสะกิด จิตหวั่น พรั่นไฉน
ป่านฉะนี้ "รพีฯ"อ้าย ส่งสายใจ
จะห่วงใย ไหมนั่น หวั่นลมลวง

ดุเหว่าหาย กลายกา ถลาร่อน
บอกฟังก่อน เรื่องจริง ถูกยิงร่วง
อกทะลุ ดุเหว่า เข้ากลางทรวง
อาก้าควง ชีพปลง ลงสู่ดิน
ยิ้มแก้มแดง
(มิทราบมิบาปเน้อ) เคารพรัก
"ดิน"



ยิงดุเหว่าไฉนไพล่ไปยิงกา

ดุเหว่าเสียงขานแว่ว ณ แย้มรุ่ง
เห่กล่อมทุ่งเถื่อนถิ่นให้ยินเสียง
อีกเขาชวาขานขับรับสำเนียง
กะปูดคลอพร้องเคียงคอรัสประเลง

ดุเหว่าแจ้งอีกาหายไปไหน
เคยชิดใกล้ฝากไข่ไม่ข่มเหง
ลูกดุเหว่าลูกกาสรวลครื้นเพลง
เหงาวังเวงวันนี้ไร้เงากา

เขาชวาขานบอกฉันก็ไม่เห็น
กาหลีกเร้นหนไหนไม่เห็นหน้า
เมื่อเย็นวานเห็นใครมากมายมา
เที่ยวไล่ล่าสกุณาไม่ปรานี

กะปูดเอื้อนงึมงำเสียงช้ำเศร้า
คนหยาบเขลาฉันเห็นเมื่อวานนี้
ทั้งเฒ่าหงอกหนุ่มห้าวเด็กก็มี
ต่างชวนชี้หมายคร่าดุเหว่าเธอ

เด็กหนุ่มห้าวนำหน้าอาก้าถือ
ดุ่มดุ่มเดินทื่อทื่ออย่างซื่อเซ่อ
เห็นอีกาเป็นดุเหว่าด้วยเมาเบลอ
ไพล่พลั้งเผลอยิงกาจนสิ้นใจ

choy

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, สมนึก นพ, D, Thammada, ปู่ริน, Shumbala, ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
10 กุมภาพันธ์ 2013, 01:58:PM
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 3482
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,752


ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก


« ตอบ #15 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2013, 01:58:PM »
ชุมชนชุมชน


สนธยา ฟ้าดำ ใกล้ค่ำแล้ว

ในทันที ชีปะขาว เดินราวป่า
ภาพนกกา ถลาบิน ดิ้นกระแด่ว
ต้องอาก้า หน้าไม้ ใช่เด็กแนว
ขยับแล้ว ร่างถลัน เท้าครรไล

ยกนกดม ดีเดา มิเน่าเหม็น
มิเยือกเย็น ยังอุ่น พอลุ้นได้
ร่ายพระเวท เดชอนงค์ เป่าลงไป
สมุนไพร ชักออก พอกกายา

แผลมีรู ดูกระดิก ระริกปิด
แห้งสนิท ทันใจ ไม่้เปิดอ้า
นกปะหงับ พับตื่น ฟื้นลืมตา
ยิ้มเต็มหน้า ทะเล้น เต้นมาซีลอน

กระปูดสาว ก้าวขา ออกมาเต้น
ชวาเห็น ส่ายตน ก้นหย่อนหย่อน
ปีกสวิง กิ้งโครง โก่งงามงอน
กางเขนฟ้อน ฮอพฮอพ หมุนรอบลาน

นกม่วนชื่น รื่นสุด ตรุษจีนนี้
พนาลี แสนสุข สนุกสนาน
ละความเหงา เศร้าไกล ใจเบิกบาน
แว่วกังวาน ดุเหว่า เจ้าร้องเพลง

ลุงปรางค์เจ้าขา อภัยให้ลูกช้างสักครั้งเถิด

 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ปู่ริน, Shumbala, ไพร พนาวัลย์, choy, D, ชลนา ทิชากร, Thammada, panthong.kh

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
02 มีนาคม 2013, 11:35:AM
choy
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 314



« ตอบ #16 เมื่อ: 02 มีนาคม 2013, 11:35:AM »
ชุมชนชุมชน

ชะตากรรมดุเหว่าเมือง
(และก้ามปูต้นสุดท้าย)

ดุเหว่าเมืองขานเครือรับแสงเช้า
คอนจมเจ่าสายไฟคล้ายสิ้นหวัง
ก้ามปูใหญ่ต้นสุดท้ายใช้เรือนรัง
ล้มแผ่พังรานดินบวงเซ่นทุน

เคยอุ่นคบก้านกิ่งก้ามปูใหญ่
เพื่อนอีกากระรอกไต่เทียววายวุ่น
เอี้ยงแกลบพิราบหลากพงศ์สกุณ
ล้วนใบบุญก้ามปูอยู่อาศัย

มาวานนี้เลื่อยยนต์ก่นแผดเสียง
ไม่เลยเที่ยงก้ามปูแผ่โค่นหงาย
ก้านกิ่งต้นลิดทอนมาวางราย
กองท่วมท้ายรถบรรทุกไม่ไหวติง

ก้ามปูต้นสุดท้ายถิ่นย่านนี้
คนใจยักษ์มารผีเข้าสู่สิง
ช่างหยาบคิดถ่อยชาติอุบาทว์จริง
มาแย่งชิงเรือนรังโกกิลา

อนาถหนอโกกิลและเพื่อนนก
หวาดตระหนกแตกว่อนทั่วทิศา
เจ่าสายไฟกันสาดบ้างหลังคา
เสียงโกกาครึกขรมอยู่อึงอล

อนิจจาชะตาดุเหว่าเมือง
ในเช้านี้เซาเซื่องคล้ายสับสน
เพื่อนกาดำลับหายไปมืดมน
สิ้นทางหนหม่นเจ่าอยู่ลำพังฯ

สนอง เสาทอง
อินทามระ 10
18 กุมภาพันธ์ 2556
*อุทิศแด่ต้นไม้ทุกต้น กาเหว่า กา พิราบ กระจิบ เอี้ยง กระรอก และอีกมากมายในเมืองใหญ่ ที่จำยอมถูกไล่ที่เพื่อสร้างตึกแถวให้มนุษย์อยู่

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ชลนา ทิชากร, ไพร พนาวัลย์, D, panthong.kh, รพีกาญจน์, Shumbala, Thammada

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
02 มีนาคม 2013, 02:57:PM
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,422


นักร้อง


paobunjin
« ตอบ #17 เมื่อ: 02 มีนาคม 2013, 02:57:PM »
ชุมชนชุมชน


ซึ้งจัง     ลาตายดีกว่าตู    ซึ้งจัง

ไร้รัง

เสียงดุเหว่าแว่วร้องดังก้องหู
ร้องหาคู่อยู่ได้ไร้มนต์ขลัง
มาบัดนี้สงสารเจ้าเสียจัง
เพราะไร้รังเคยนอนต้องจรไกล  ร้องไห้งอแง

โอ้ มะขามต้นใหญ่เคยได้อยู่
ถูกเขาจู่โจมตัดมิขัดได้
เสียงเลื่อยยนต์โค่นล้มระงมไป
ต้องจำใจจากรังที่พังภินท์

เคยได้ยินเสียงเจ้าทุกเช้าค่ำ
ดั่งเวรกรรมตามทันถึงวันสิ้น
อยู่ไหนหนอขอเพียงได้ยลยิน
จงโบยบินมาบ้างอย่าร้างเลือน

เสียงดุเหว่าหายไปพาใจเศร้า
แสนหงอยเหงาทรวงในยามไร้เพื่อน
อยู่ไหนหนอนกน้อยเฝ้าคอยเตือน
อยู่รังเรือนสูงใหญ่ปลอดภัยเทอญฯ ขอจุ๊บ..หน่อย

"ไพร พนาวัลย์"


ขณะที่เขียนกลอนอยู่นี่ ได้ยินเสียงเจ้านกดุเหว่ามาร้องอยู่บนต้นไม้ใกล้ๆบ้าน คงจะมาร้องสั่งลาแน่เลย เพราะต้นมะขามที่เขามาเกาะร้องสั่งอยู่นั้น ต้นเล็กและต่ำเกินไป คงไม่ปลอดภัยแน่ๆ ร้องไห้งอแง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, รพีกาญจน์, choy, ชลนา ทิชากร, D, Shumbala, Thammada

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

02 มีนาคม 2013, 03:21:PM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #18 เมื่อ: 02 มีนาคม 2013, 03:21:PM »
ชุมชนชุมชน


ไร้รังนอน ตอนนี้ ฤดีแย่
บินมาแล ไม่เห็น เช่นเคยเหิร
ต้องเร่ร่อน ในดง พงไพรเกิน
ถึงเรียกเอิ้น อย่างไร ไร้ยลยิน

ต้นมะขาม ยามนี้ เป็นขี้เถ้า
ถูกใครเขา เข้าตัด ขัดใจสิ้น
คงเผาถ่าน ใส่ถุง ยุ่งชีวิน
กาเหว่าสิ้น ถิ่นที่อยู่ สูตัดไป

กาเหว่าเอ๋ย เคยนอน คอนไม่เหลือ
ไม่ยากเชื่อ เลยเจ้า เขาผลักไส
คงระหก ระเหิน เกินทำใจ
ร้าวรวดไป ในป่า อย่าหมองตรม

หารังใหม่ พักพิง อิงแอบอุ่น
หลบกระสุน นายพราน ผ่านความขม
รักษาตัว ด้วยนะ อย่าระทม
มีสุขสม เถิดดุเหว่า เรายินดี
พันทอง
๒/๐๓/๕๖

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, เนิน จำราย, choy, ชลนา ทิชากร, D, Shumbala, Thammada

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
04 มีนาคม 2013, 11:06:AM
choy
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 314



« ตอบ #19 เมื่อ: 04 มีนาคม 2013, 11:06:AM »
ชุมชนชุมชน

ชะตากรรมดุเหว่าเมือง
(2)

เช้าวันนี้เหงาเงียบอย่างเศร้าเศร้า
ไร้ดุเหว่าขานปลุกนาฬิกาเสียง
ฝืนงัวเงียขืนกายลุกจากเตียง
เฝ้ามองเมียงชะแง้หาโกกิลา

เสาไฟฟ้าสายไฟที่ตรงนั้น
เมื่อเช้าวานโกกิลยังเห็นหน้า
ขับสำเนียงวอนเว้าเจ้าโศกา
บัดนี้จรจากลาไร้แม้เงา

คนเมืองเบื่อไม้จริงเขาเปลืองปลูก
ป่าปูนตึกรุกคึกกำหนัดห้าว
ขึ้นทิวทึบเหลี่ยมแท่งเป็นตึกราว
แย่งแซมสอดใหม่เก่าคละเคล้ากัน

ดุเหว่าเมืองไร้เรือนป่าสิ้นร้าง
เจ้าโบกบินหลงคว้างอยู่ไหนนั่น
คอนกรีตพนาเสียดฟ้าเรื้อรกชัน
ข้าวูบหวั่นพรั่นอกอยู่ลึกลึก

ดงคอนกรีตทึบทึมดูขึงแข็ง
ข้าระแวงหวาดจริตในรู้สึก
คนคอนกรีตโฉดร้ายในสำนึก
ให้หวั่นลึกดุเหว่าเข้าร้ายเคราะห์

ข้าดุ่มเดินด้อมด้อมปองดุเหว่า
แต่ยามเช้าคล้อยบ่ายตามสืบเสาะ
ทั้งตึกสูงเตี้ยต่ำเทียวลัดเลาะ
ทั่วตรอกซอยย่างเหยาะจวบค่ำพลบ

ทิวากรรอนแสงลับเหลี่ยมตึก
ข้าตรอมเศร้าหวั่นลึกคงไม่พบ
ทั้งวอนไหว้อธิษฐานนบนิ้วจบ
ไม่ประสบพบเธอดุเหว่าเมือง

จึงซึมซมซานกลับย้อนห้องเช่า
ข้าปวดร้าวป่วยใจจ่อมเหงาเซื่อง
น้ำตาคลอคับข้องและขึ้งเคือง
ในเปล่าเปลืองค้นหาดุเหว่าเธอฯ

สนอง เสาทอง
อินทามระ 10
20 กุมภาพันธ์ 56

***แด่ชายหนุ่มผมยาวและชอบสวมหมวกคนนั้น ผู้ออกดุ่มเดินลัดเลาะซอกซอยตั้งแต่เช้าจรดค่ำของวันหนึ่ง เพื่อค้นหานกกาเหว่าที่เขาเคยนอนฟังเสียงร้องตอนเช้าทุกวันเสมือนนาฬิกาปลุกประจำตัว

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : D, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, ไพร พนาวัลย์, panthong.kh, Shumbala, Thammada

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s