อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
23 พฤศจิกายน 2024, 07:32:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา  (อ่าน 4364 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
05 กุมภาพันธ์ 2013, 10:57:AM
choy
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 314



« เมื่อ: 05 กุมภาพันธ์ 2013, 10:57:AM »
ชุมชนชุมชน

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

สรรพสิ่งในใดล้วน 'อนิจจัง'
เวียนวงกงล้อธาร 'ทุกขัง'
'อนัตตา' จึงแท้สัจจ์แน่จีรัง
มายาโลกย์ล้วน, ปั้นเสกสาไถย

สรรพสิ่งวนว่ายกงสังสารวัฏ
สรรพสัตว์ล้วนมี 'เกิด' รูปขัย
แน่แท้ยิ่งมี 'แก่' แปรรูปกาย
แน่แท้ใน 'เจ็บ' และ 'ตาย' ธรรมดา

สภาวะ 'ศีล' คือปกติในอยู่เป็น
เพียร 'สมาธิ' จึงผ่อนเห็นทุกขา
มโนตื่นรู้แจ้งด้วย 'ปัญญา'
ห่มอัตตาจึงห่มทุกข์เข็ญ

อายตนะสัมผัสโลกหกทวาร
'โสตะ' สัททะรู้ 'ตา' ดูรู้เช่น
ผัสสะ 'นาสิก' และ 'ชิวหา' ลิ้มรสรู้เป็น
'กาย' ตื่น 'มโน' เห็น ความจริง

รูปรสเสียงกลิ่นนั้น, จิตปรุง
หมายรู้นัยยะแห่งสรรพสิ่ง
สรรพสภาวะดังอยู่เห็นใช่แท้จริง
สมมติสัจจ์ ใช่ปรมัตถ์

สรรพสิ่งในโลกล้วน 'อนิจจัง'
อย่างมแบก 'ทุกขัง' ร้อยรัด
'อนัตตา' จึงจริงแท้ยั้งสัจจ์
ว่ายกงสังสารวัฏ ฤาพ้นทุกข์ไฉนฯ


Choy
5 ก.พ. 56
สุรินทร์

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Shumbala, รัตนาวดี, saknun, Thammada, ชลนา ทิชากร, รพีกาญจน์, จารุทัส

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
05 กุมภาพันธ์ 2013, 11:53:AM
ดาว อาชาไนย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 394
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,472



poem.archanai?fref=ts
« ตอบ #1 เมื่อ: 05 กุมภาพันธ์ 2013, 11:53:AM »
ชุมชนชุมชน



ทุกสิ่งเป็น"อนิจจัง"ดังพระสอน
มิแน่นอนเที่ยงแท้แปรเปลี่ยนได้
อันความรักจักห้ามปรามอย่างไร
สายเยื่อใยก็มักยากจักปราม

แรกพบ"สัมผัสตา"พาหวั่นไหว
"สัมผัสใจ"ใจรักสุดหักห้าม
ปล่อยอารมณ์เลื่อนลอยคล้อยไปตาม
สุขเมื่อยามกอดรัด"สัมผัสกาย"

เข้าสูหลัก"ปฎิจจสมุปบาท"
ด้วยอำนาย"ผัสสะ"พากระหาย
ก่อให้เกิด"เวทะนา"มาวุ่นวาย
แล้วกลับกลายเป็น"ตัณหา อุปาทาน"

ปองยึดมั่นเปรียบราวดาวรักฟ้า
เสน่หารุมร้อนอ้อนคำหวาน
พิศวาสรุมเร้าเผาดวงมาน
ยากต่อต้านลืมเลือนเหมือนเฉยเมย

เพราะพ่ายตัว"อนัตตา"มาเป็นเหตุ
เกินขอบเขตห้ามได้โอ้ใจเอ๋ย
ไม่ใช่"ตัวตน"ใครอย่างใดเลย
จึงเช่นเคยหลงรักหักไม่ลง

ดาว อาชาไนย

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Shumbala, saknun, choy, Thammada, ชลนา ทิชากร, รพีกาญจน์, จารุทัส, รัตนาวดี

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เสี้ยวอารมณ์จากใจใครคนหนึ่ง
คงไม่ซึ้งจับใจใครทั้งหลาย
แค่มีใครคนหนึ่งซึ้งไม่คลาย
ก็สมหมายใครคนหนึ่งซึ่งรักกลอน
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s