ต่อไป »

[บุคคลทั่วไป]

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)

[Shumbala]

ในหุบเหวล้ำลึกของ ป ร า ร ถ น า
สายลมแห่งหวังก็ได้พัดพา เมล็ดพันธุ์ ค ว า ม รั ก ไปจนแสนไกล
และเมื่อแสงแห่งทิวากาลหลับไหล
อ้อมรัตติกาลก็ได้ โอบกอดเราไว้ในความ มื ด ม น

คราวเมื่อลมเหมันต์พัดผ่านไป
ไออุ่นของคิมหันต์ ก็ย้อนกลับเยือนอีกหน
ถึงแม้หยดน้ำตาของเธอจะร่วงหล่น
ก็เพียงปะปน ในความ เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง อันไม่เคยรู้จบ

หากแม้ฉันต้อง จ า ก ไ ป อีกครั้ง
ประดุจดัง สนธยาอันลับหาย จากผืนภพ
ครั้นเมื่อกลิ่นกรุ่นยาม รุ่ ง อ รุ ณ อวลตลบ
นั่นจะเป็นอีกคำรบของการพบกัน

อย่าได้เอ่ย คำ ล า เลย
เพราะฉันไม่เคยห่างไกลแม้ในความฝัน
เราต่างดำรงอยู่ใน ทุ ก มิ ติ ของคืนวัน
ใน ท้องฟ้า สายธาร และแสงจันทร์ ฯลฯ
และในทุกแห่งหนนั้น เรา..ยั ง ค ง มี กั น เ ส ม อ..


                   ****

[pat-q]

ถ้าอยู๋โลกยังมองเห็นพระจันทร์
แน่นอน..ว่า เ ร า ยังมีกัน อยู่ เ ส ม อ
แม้ทางแสนไกล ไม่ อ า จ พบ เจอ
แต่ เ ธ อ จะอยู่ใน ความทรงจำ



 

[แป้งน้ำ]

เธอยังคงมีฉัน - - และฉันยังคงมีเธอ
เราจึงมีกันเสมอ . .. ไม่ว่าวันไหน
แม้ไร้มืออุ่นให้สัมผัส ~ ไร้อ้อมแขนกอดรัด . . เพราะความไกล
แต่ช่วงเวลาที่สองเราเคยร่วมใช้ . .
จะมีอยู่จริงเสมอไป . .. อย่างน้อยก็ "ในความทรงจำ" ~*

[Shumbala]

  ผ่านสัมผัสของ.. ใ จ
ฉัน เ ห็ น เธอใน ท้องฟ้า ดาวราย และสายน้ำฯลฯ
ได้ ยิ น เธอในเสียงเพลง บทกลอน ทุกถ้อยคำ
และในคืนค่ำของความฝัน ฉันและเธอ ก็ยังคงพบกัน

เราจะพบกัน เช่นนี้ เ ส ม อ ไ ป
ตราบใดที่ลมหายใจยังไม่ขาดสะบั้น
และตราบใดที่สายธารดาว ยังไหลผ่านม่านแสงจันทร์
ตราบนั้น เ ร า ยั ง มี กั น ไม่เปลี่ยนแปลง

                          ****

[D]

ยัง คง มี กัน เสมอ
พูด...จริงหรือเผลอ...กันนั่น แต่ ก็ ทำให้ฉันใจแกว่ง
มันเคลือบหัวใจบางเบา....ที่เคยเฉาเคยแห้ง
โปรดเถิดนะ อย่าแสร้ง...แกล้งล้อหลอก...หยอกแล้วลา

จาก คน ที่ เคย เสีย หลัก
ก็อยากหยุดพัก..และ...ปรา รถ นา
หวังเพียงใครสักคน เมต ตา
มิต้องมากไปกว่า..จันทรา+อาทิตย์..เป็นมิตรที่ดีต่อกัน

"ดิน"

[Shumbala]

ฤดูกาลยังคงหมุนเวียน
เปลวเทียนยังคงเผาไหม้ตนเอง..บนความแปรผัน
อาจบางคราวราวฟ้าก็ไร้จันทร์
ขอจงมองผ่านภาพฝัน..อันมายา

เราต่างเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน
ในทุกอณูของคืนวัน..เหนืออัตตาของโลกหล้า
เพียงเราคิดถึงกันแม้เสี้ยวหนึ่งในยามหลับตา
การจากลา..จะเป็นเพียงจุดเริ่มของการพบพาน..เสมอไป

 

[D]

หาก...เรา ต้อง จาก กัน
ความแปรผัน...ย่อมเจอ เ ส ม อ...ใช่ไหม
อาทิตย์ จันทรา ยังรู้ว่า ขึ้นตก เพลาใด
แต่น้ำใจ...ยากหยั่ง นั่น ฉันรู้ดี

เราคิดตกลงกันนะ...จะชัวร์กว่า
ร่วมกติกา เซ็นต์สัญญา...หาสร้างหนี้
ถือว่าร่วมหุ่นกัน...ฉันว่ามันน่าจะเข้าที
เอ!แต่อยากได้อะไรนี่...ช่วยคิดหน่อยซี เราจะได้มีกันตลอดไป

"ดิน"

[Shumbala]

เมื่อเธอทอดสายตาไปสุดปลายฟ้า
ฉันอยากถามว่า"เธอเห็นเช่นเดียวกับฉันไหม?"
ความงดงามของแผ่นฟ้าอันกว้างไกล
สัมผัสดวงใจเธอบ้างหรือเปล่า??

ถ้าเธอเห็นเช่นเดียวกันกับที่ฉันเห็น
เราจะเป็นหนึ่งเดียวกัน..แม้ในความเหงา
ถึงวันที่ฟ้ามืดมิดด้วยม่านเมฆหม่นเทา
ใจดวงเศร้าของเราก็ยังมีกัน..ทุกวันเวลา

 

[ยามพระอาทิตย์อัสดง]

[แป้งน้ำ]

ฉันทอดสายตา . . . มองไปสุดฟ้าตามที่เธอบอก
แต่ฉันไม่เห็นอะไรหรอก . .. นอกจากค่ำคืนเงียบเหงา
ฉันคงไร้ความโรแมนติก ~ จึงเห็นแค่แผ่นฟ้าสีเทา
เห็นดวงดาวที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า . . และเห็นเงาคนเหงา . .. ที่เฝ้ามอง

ก็อยู่คนเดียวตรงนี้มันเหงานี่นา
ต่อให้มองดาวดวงไหนบนฟากฟ้า . .. จิตใจก็ยังหม่นหมอง
ฉันไม่ต้องการสัญญารักผ่านพระจันทร์สีทอง
แต่อยากให้เธอกลับมารอมอง . .. พระอาทิตย์ขึ้นด้วยกัน~*

. . . . . .

add complete
by Klonthaiclub fb

[รการตติ]

[รัตนาวดี]

...ส่งใจมาเคียงคู่ อยู่มอง พระอาทิตย์ขึ้นด้วยกัน...
...แม้เวลา.. พาวันให้ต่าง คล้ายห่างคั่น..



เราได้แค่..รั้งฟ้า..ฝันหากัน...
..โรแมนติก..จินตนาการ..เสกสรร..สวรรค์ก็พลันเป็นใจ...

รัตนาวดี
 

[ดาว อาชาไนย]

ขณะนี้สวรรค์เบี่ยงกลับเลี่ยงหลบ
ไม่ให้พบหน้าแสร้งแกล้งไฉน
จำแต่ภาพอาบทรวงอย่างห่วงใย
รอเมื่อไรสวรรค์เปิดเถิดเจอกัน

ดาวอาชาไนย

[Shumbala]

คือความงดงามอันเรียบง่าย..ของโลกหล้า
ยามฟ้าประดับเมฆขาวร้อยรับกับจินตนาการ
เสียงลำธารเซาะแก่งหินแล้วเลยผ่าน
อีกแสงสายัณห์กาลที่แย้มรับราตรีจรัสดาว..ก่อนจากไป

ไม่มีหนแห่งไหนเดียวดาย..บนโลกนี้
ทุกๆที่ต่างมีเราในฝันอันชิดใกล้
โปรดมองดูฟ้าอีกครั้ง..ด้วยหัวใจ
เธอจะเห็นสายใยเชื่อมโยงเราไว้ด้วยกัน

 

[Shumbala]

ฉันทอดสายตา . . . มองไปสุดฟ้าตามที่เธอบอก
แต่ฉันไม่เห็นอะไรหรอก . .. นอกจากค่ำคืนเงียบเหงา
ฉันคงไร้ความโรแมนติก ~ จึงเห็นแค่แผ่นฟ้าสีเทา
เห็นดวงดาวที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า . . และเห็นเงาคนเหงา . .. ที่เฝ้ามอง

ก็อยู่คนเดียวตรงนี้มันเหงานี่นา
ต่อให้มองดาวดวงไหนบนฟากฟ้า . .. จิตใจก็ยังหม่นหมอง
ฉันไม่ต้องการสัญญารักผ่านพระจันทร์สีทอง
แต่อยากให้เธอกลับมารอมอง . .. พระอาทิตย์ขึ้นด้วยกัน~*

. . . . . .

ฉันยังคงอยู่ตรงนั้นเสมอ
ยามที่เธอมองดูหมู่ดาวพราวแสงแห่งสวรรค์
มิใช่ด้วยตา...แต่ด้วยใจอันเงียบงัน
ฉันจะพาเธอผ่านรัตติกาล..แม้ยาวไกล

สัมผัสฉันด้วยหัวใจ..อีกสักหน
ฟ้าเบื้องบนจะสาดแสงแห่งอรุณรุ่งไสว
โปรดเถอะนะ..อย่าเอ่ยว่าเธอไม่เห็นสิ่งใด
เพียงกุมมือฉันไว้..โลกจะหมุนเราไปพร้อมกัน

 

[Shumbala]

ให้ดวงดาวความฝันนั้นฉายแสง
กางปีกแห่งรักนี้ที่เสนอ
โบกบินไปพร้อมกันฉันและเธอ
เพื่อพบเจอความงามท่ามนภา

ประสานใจหลอมรวมร่วมเป็นหนึ่ง
โอบคนึงแนบทรวงคราวห่วงหา
แล้วเกาะกุมสองใจไว้อีกครา
ตราบสายธารกาลเวลา..จะหยุดลง

 

[Shumbala]

...ส่งใจมาเคียงคู่ อยู่มอง พระอาทิตย์ขึ้นด้วยกัน...
...แม้เวลา.. พาวันให้ต่าง คล้ายห่างคั่น..



เราได้แค่..รั้งฟ้า..ฝันหากัน...
..โรแมนติก..จินตนาการ..เสกสรร..สวรรค์ก็พลันเป็นใจ...

รัตนาวดี
 

แสงตะวันทอทาบ...อาบท้องทุ่ง
คือสัญญาณอรุณรุ่ง..แห่งฝันอันสดใส
ในยามนี้เสมือนว่า..ไม่มีใคร
นอกจากใจสองดวง..ที่ผูกพัน

 

[Shumbala]

ขณะนี้สวรรค์เบี่ยงกลับเลี่ยงหลบ
ไม่ให้พบหน้าแสร้งแกล้งไฉน
จำแต่ภาพอาบทรวงอย่างห่วงใย
รอเมื่อไรสวรรค์เปิดเถิดเจอกัน

ดาวอาชาไนย

ฟ้ายังคงฉายแสงแห่งความหวัง
ประดุจดังแสงทองของสวรรค์
เสียงกระซิบผ่านวันคืนคอยยืนยัน
สองใจนั้นจะมีกัน..ตลอดไป

 

[...สียะตรา..]

ฟ้ายังคงฉายแสงแห่งความหวัง

ประดุจดังแสงทองของสวรรค์

เสียงกระซิบผ่านคืนวันคอยยืนยัน

สองใจนั้นจะมีกัน..ตลอดไป



..........Shumbala...............



.............................................................



......อยากยินเสียงกระซิบบ้าง...เช่นอย่างนี้

...ดวงฤดีคงอาบยิ้มพริ้มสดใส

...ลดร่องรอยรัดกิ่วบนผิวใจ

...จะมีไหม....ตอบเองพลัน.....มันไม่มี

[Shumbala]

เราล้วนคนบนโลกผู้โศกสุข
แบ่งความทุกข์ปันความรัก..คือศักดิ์ศรี
สร้างโลกงามโดยน้ำมิตรจิตไมตรี
ฉันจะมีให้เธอ..เสมอกัน