ริมทาง : ใบไม้
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
23 พฤศจิกายน 2024, 10:05:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ริมทาง : ใบไม้  (อ่าน 3224 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
16 ธันวาคม 2012, 11:24:AM
พิมพ์วาส
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 422
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 806


Pretending is the beginning of changes.


profile.php?id=100002905344846
« เมื่อ: 16 ธันวาคม 2012, 11:24:AM »
ชุมชนชุมชน

“ ริ ม ท า ง : ใ บ ไ ม้ ”

(ขอบคุณภาพจากตัวเอง ลงไปนอนถ่ายหน้าอาคาร ๗ เลยเชียวค่ะ)

สองมือวางข้างของกระป๋องเก่า          ร่างสั่นเทาเผ้าผมขยมเหยิง
เสื้อขาดวิ่นเส้นผมเป็นกระเซิง          จิตกระเจิงเดินย่างในทางไป
เมฆหนาลอยคล้อยบ่ายน่าหน่ายเหนื่อย          เท้าเปล่าเปลือยเมื่อยล้าจะท้าไหว
แดดระอุคุกร่อนร้อนเป็นไฟ          อีกเมื่อไรฝนตกมาปรกดิน
เมฆหนาลอยอ้อยอิ่ง...ลงทิ้งร่าง          ระบายจางเป็นฝนรินหล่นผิน
กับร่างสั่นพลันวิ่งประวิงจินต์         น้ำก็รินกลิ่นเหงื่อเหลืออบอวล
ในศาลาริมทางห่างถนน          หลั่นผู้คนวิ่งวุ่นหุนหันสวน
ร่มหลายสีชี้กางอย่างเซซวน          ร่างสั่นหวนทวนมาศาลาพัก
วางกระป๋องของเก่าใกล้เท้าแล้ว          หายใจแผ่วทิ้งร่างอย่างหน่ายหนัก
อีกสักเมื่อเชื่อวันกันได้พัก?         เหนื่อยมากนักหลับตาสักนาที
ดินหลังฝนระคนปนกลิ่นเปลี่ยน         ศีรษะเวียนหมุนคว้างรางเลือนสี
ก่อนหน้าฟุบลงพื้นค้ำยืนนี้          มือระรี้ระริกสั่นสั่นรัว
ใบไม้เอย          เปียกน้ำเผยในค่ำย่ำสลัว
ปลวกคงยิ้มกริ่มมาอย่างน่ากลัว          แล้วมาหัวเราะล้ออย่างพอใจ
ก่อนร่างสั่นตะกายหมายลุกขึ้น          หน้ามัวมึนมีหยดน้ำรดใส่
กระป๋องหายหลายคนไปหนใด          ไม่มีใครไหนอยู่ตั้งครู่แล้ว
แค่กระป๋องของเก่าเร้นเงาหาย          ยังมิวายกายใจให้เบาแผ่ว
ซึมน้ำตาลาหลั่งประดังแพรว          ก่อนยั้งแนวเท้าเดินเผชิญเลย
เท้าเปล่าเปลือยเปียกน้ำเดินย่ำก่อน          ตะวันค่อนรอนลำลงต่ำเผย
ทิ้งตัวร่วงหน่วงฟ้าห่มหล้าเชย          หลับตาเปรยเคยสางสว่างรอง
ร่างสั่นเทาเดินคว้างลงทางเท้า          ลมแผ่วเบาเงาคุ้มซุ่มไม้ผอง     
เริ่มรัวไหวไหวสั่นในครรลอง          ก่อนใครสองป้องปากปิดยากเย็น
“อะไออัน”มือรุดอุดอยู่ปาก         ดวงตาถากปิดลงคงไม่เห็น
แสงอะคร้าจ้าสองเรือรองเพ็ญ          น้ำกระเซ็นบนถนนจนเปียกปอน
ทั้งกระป๋องของพังยังหายลับ          ว่าตอนนี้ตัวกลับโดนจับต้อน
ให้ขึ้นไปรถตู้ประตูวอน         ครืดปิดก่อนร้องโหนตะโกนดัง
ร่างสั่นเทาของเด็กตัวเล็กหนึ่ง          ร้องกระซิกรำพึงคะนึงหวัง
ทุกข์ยากใจให้จิตอนิจจัง         ว่าทั้งทั้งที่ไม่ง้อขอใครกิน
กระป๋อง            ที่มือสองต้องเก็บกลับทั้งสิ้น
มิได้ง้อขอใครให้เกลือกดิน         ให้แดดิ้นสิ้นลมสมใจกัน!
ทางถนนทอดยาวเยือกหนาวเนื้อ          ตาคลุมเครือเมื่อพาคิดว่าฝัน
อีกสักกี่หนทางที่ห่างกัน          ว่าตัวฉันจะได้เป็นอิสระนะ
ประตูรถสีมัวเปิดตัวออก          กลิ่นไม้ดอกกรุ่นฟุ้งทุกขณะ
ในโรงงานอุตสาหกรรม, หลังฝนชะ          กรุ่นอวลกะบังพลิ้วเริงลิ่วลม
ร่างสั่นเทาของเด็กเล็กคนหนึ่ง          อีกหลายคน, สั่งพึงต้อนขึ้งบ่น
มากหลายหน้าหวาดหวั่นกระหวั่นจน-          แอบร้องก่นในใจกระซิกวอน
“อ้ายพวกนี้เร็วซี่เดินเร็วซี่”         คำสบถบอกถี่ทีสั่งสอน
ก่อนมือไม้หวังตีทำรายจร          หมายเตือนก่อนคิดหนีหายลี้ลับ!
ดอกไม้เอ๋ย          กลิ่นฟุ้งเชยชื่นผ่านซึมซ่านหลับ
หอมเอยหอมรัญจวนชวนประทับ          ก่อนจะกลับกลิ่นโรย...แล้วโชยรา
     
ลังสีขุ่นไว้ซุกหัวนอนได้          กับดอกไม้นอกโรงงานกลิ่นผ่านหนา
หวังใครหนึ่งดมชื่นรื่นอุรา          ก่อนหลับตามาปิดสนิทกัน
“นายจ๋านายมาจากไหนหรอฮึ?”          เสียงดังจากลังเก่าครึ, เด็กชายหัน
  ยิ้มไมตรีมีพรายหมายสัมพันธ์           สองร่างนั้นพลันนอนกอดเกยอิง
รุ่งเช้าตรู่เสียงหวอดดังออดเอียด          ร่างเกยเบียดผละออกยิ้มหยอกนิ่ง
“มาแล้วนะ” เธอยิ้มก่อนจะทิ้ง-          กับคำพูดในสิ่งจริงในความ
ร่างร่างนั้นพลันหายสลายเร้น!          ก่อนชัดเจนเห็นหน้า, อยากจะถาม
เธอคือใครกันนะโปรดเอ่ยนาม          คงลอยตามลมไปหรือไรนอ?
ก่อนแนวทางชีวิตจะพลิกผัน         หนึ่งมือใครไหนกันลั่นคำขอ
เศษเสี้ยวความปราณีที่พะนอ         ประทับพ้อต่อเติมเสริมข้างใน
ต้นไม้เอ๋ย...          เติบโตเปรยเจริญงามแต่ตามไหน
ก็ยังมีสิ่งทอฝันกำลังใจ          ให้หลายใครได้ดูมี่รู้คลาย

ในสถานเลี้ยงเด็กสงเคราะห์หนึ่ง          หลายปีซึ่งพึงฝันวารวันหาย
เกียรติยศในกำมือถือไม่คลาย          กับยิ้มพรายของเด็กชายในวารวัน

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, ♥หทัยกาญจน์♥, สุวรรณ, ชลนา ทิชากร, เนิน จำราย, รพีกาญจน์, ปรางทิพย์, ไพร พนาวัลย์, plang, Thammada, เจ้าเรือน

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ความผกผันของเวลา  เฉือนเจตนาของอารมณ์
16 ธันวาคม 2012, 01:12:PM
♥หทัยกาญจน์♥
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 469
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 814


เพียงความเคลื่อนไหว ผ่านบทกวี


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 16 ธันวาคม 2012, 01:12:PM »
ชุมชนชุมชน


ใบไม้ ริมทาง

ใบไม้ ริมทาง ระหว่างพบ
ต่างฝัน บรรจบ ได้คบหา
ปลิดพริ้ว ปลิวโปรย หรือโรยรา
ลงพื้น พรมมา พาพบกัน

ตางสี ต่างสัน ฝันใบไม้
ก้านกิ่ง ทิ้งใบ ใครต่างฝัน
ทุกสิ่ง อิงแอบ แนบสัมพันธ์
ดังชีวิต ชีวัน ฉันและเธอ

หทัยกาญจน์
๑๖ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๕

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สุวรรณ, ชลนา ทิชากร, เนิน จำราย, รพีกาญจน์, พิมพ์วาส, ปรางทิพย์, ไพร พนาวัลย์, plang, Thammada

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อักษราจารึก รักผลึกตรึกตรองคำ
ร้อยเรียงเคียงคู่ธรรม ศาสตร์ศิลป์ร่ำลำ
16 ธันวาคม 2012, 01:15:PM
สุวรรณ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 565
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,487


หวังทุกชีวิต สถิตไว้แต่สิ่งดี


« ตอบ #2 เมื่อ: 16 ธันวาคม 2012, 01:15:PM »
ชุมชนชุมชน

ใบไม้
เสียงถามไถ่ในรอยของความฝัน
เจ้าใช่ไหมสร้างโลก คลายโศกพลัน
ตั้งแต่วันที่เจ้าเริ่มงอกเงย

ใบไม้
เจ้าซับพิษปลิดไว้ ไม่นิ่งเฉย
คุณค่าเจ้างดงามน่าชมเชย
ควรแก่การกล่าวเอ่ย อย่างชื่นชม


ขอบพระคุณรูปภาพจากอินเตอร์เนตค่ะ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ♥หทัยกาญจน์♥, ชลนา ทิชากร, เนิน จำราย, รพีกาญจน์, พิมพ์วาส, ปรางทิพย์, เพรางาย, ไพร พนาวัลย์, plang, Thammada

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s