06 ธันวาคม 2012, 02:47:PM |
บ้านกลอนไทย
ผู้ดูแลทุกบอร์ด
คะแนนกลอนของผู้นี้ 533
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 962
จิ๊กโก๋...กำลังจะโตเป็นหนุ่ม ฮ่าๆ
|
|
« เมื่อ: 06 ธันวาคม 2012, 02:47:PM » |
ชุมชน
|
วันนี้ (6 ธ.ค.) สืบเนื่องจากมีผู้ตั้งคำถามต่อบทอาเศียรวาท ที่ตีพิมพ์ในมติชน ฉบับวันที่ 5 ธันวาคม 2555 มีความกำกวมไม่เหมาะสมหรือไม่ มีเนื้อความดังนี้ “วันหนึ่งฟ้าสว่างกระจ่างแจ้ง ลมแล้งในใจไห้โหยหาย ข้าวกล้านาไร่ได้กลิ่นอาย ยามฝนขวนขวายมุ่งหมายมา วันหนึ่งเมฆคลุ้มเป็นกลุ่มก้อน ลมร้อนลมเย็นเป็นปัญหา พฤกษ์พุ่มชอุ่มช้ำท่วมน้ำตา ฝันว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร”...แบบว่า....ใครแสดงความเห็น หักคะแนนด้วยกันคนล่ะสิบแต้มดีไหมครับ ... ปล..เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเมืองนะครับ แต่เกี่ยวกับบทกวี จึงเรียนมาขอความเป็นกลางในการตีความ (หากกระทู้นี้ สร้างความไม่สบายใจในอนาคต ขออนุญาตลบนะครับ) สาเหตุ... มีคำแปลแพร่กระจายในโลกออนไลน์ ในขณะนี้ ดังนี้... (มีคนแปลมา ถูกผิดไม่รู้ แต่ถ้าถูก นสพ.ฉบับนี้ ....แย่มาก ถ้าเขียนถวายพระพรแบบนี้....
วันหนึ่งฟ้าสว่างกระจ่างแจ้ง = เมื่อถึงคราวที่เรื่องราวทั้งหลายได้ยุติสงบลง ลมแล้งในใจให้โหยหาย = ความคับแค้นขุ่นข้องหมองใจทั้งหลายได้หมดสิ้นไป ข้าวกล้านาไร่ได้กลิ่นอาย = พวกรากหญ้าทั้งหลายต่างรับรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นแล้ว ยามฝนขวนขวายมุ่งหมายมา = เมื่อคนแดนไกลกำลังจะเดินทางเข้ามาอย่างผู้ชนะ วันหนึ่งเมฆคลุ้มเป็นกลุ่มก้อน = เมื่อเบื้องบนเกิดมีปัญหาและมีแต่เรื่องราวไปในทางที่ไม่ดี(ตามความคิดของคนแต่ง) ลมร้อนเย็นเป็นปัญหา = สิ่งที่มีผลกระทบต่อสิ่งที่คนไทยรักล้วนมีแต่ความยุ่งยากทั้งจากภายนอกและภายใน พฤกษ์พุ่มชอุ่มช้ำทั้งน้ำตา = คนทั่วไปต่างก็เดือดร้อนที่มาจากสิ่งที่คนไทยรัก ฝันว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร = ถ้าอย่างนั้นไม่มีสิ่งที่คนไทยรักเลยคงจะดีกว่านี้มั๊งดูเพิ่มเติม)
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : my smile, รัตนาวดี, panthong.kh, สมนึก นพ, อริญชย์, พยัญเสมอ, แป้งน้ำ, รพีกาญจน์, เนิน จำราย, ไร้นวล^^, blues, ไพร พนาวัลย์, ..กุสุมา.., สายใย, คอนพูธน
ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
06 ธันวาคม 2012, 03:07:PM |
สมนึก นพ
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2012, 03:07:PM » |
ชุมชน
|
(คัดลอกมาบางส่วนจากเวป ผู้จัดการ เพื่อประกอบการพิจารณา หากไม่เหมาะสม กรุณาลบให้ด้วย) ......................................................ฯลฯ............................................. วันนี้ (6 ธ.ค.) เว็บไซต์มติชนออนไลน์ได้ออกคำชี้แจงกรณีอาเศียรวาท สืบเนื่องจากมีผู้ตั้งคำถาม ต่อบทอาเศียรวาท ที่ตีพิมพ์ในมติชน ฉบับวันที่ 5 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมาว่ามีความหมายอย่างไร มีความกำกวมไม่เหมาะสมหรือไม่ มีเนื้อความดังนี้ “วันหนึ่งฟ้าสว่างกระจ่างแจ้งลมแล้งในใจไห้โหยหาย ข้าวกล้านาไร่ได้กลิ่นอาย ยามฝนขวนขวายมุ่งหมายมา วันหนึ่งเมฆคลุ้มเป็นกลุ่มก้อน ลมร้อนลมเย็นเป็นปัญหา พฤกษ์พุ่มชอุ่มช้ำท่วมน้ำตา ฝันว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร” ต่อไปนี้ คือคำอธิบายจากผู้ประพันธ์บทอาเศียรวาทดังกล่าว “....อาเศียรวาทสองบทนี้ มีความหมายตรงตามตัวอักษรทุกประการ ด้วยวิธีการเขียนบทกวีที่มีการเปรียบเทียบให้เห็นภาพ จึงใช้วันฟ้าสว่างกับวันฟ้ามืดครึ้ม วันฟ้าสว่างนั้นแม้แต่ลมแล้งในใจผู้คนที่โหยไห้ก็ยังหาย ข้าวกล้านาไร่ยังได้กลิ่นอายฝน ที่มุ่งหมายมาตกต้องตามฤดูกาลย่อมหมายถึงความสว่างในพระบรมเดชาเมตตาบารมี ที่ปกเกล้าพสกนิกรและทุกสรรพสิ่ง อันเนื่องมาจากพระวิริยะอุตสาหะเช่นฟ้าฝน ชลประทาน หรืออ่างเก็บน้ำอันยังประโยชน์สม่ำเสมอแก่ไร่นา ดังนั้น เมื่อมีวันมืดครึ้ม ซึ่งแม้แต่ธรรมชาติปัจจุบันเช่นที่เห็นกันก็ผันผวน เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็นเป็นปัญหา จึงมีหรือที่จะไม่นึกฝันถึงวันฟ้าสว่าง วันที่กระจ่างแจ้งร่มเย็นอยู่ในพระบรมโพธิสมภาร ว่าดีอย่างไร ดีขนาดไหน คือความหมายซึ่งอธิบายได้ตามตัวอักษรทุกวรรคตอน” กองบรรณาธิการหวังว่า คำอธิบายความหมาย สัญลักษณ์ และเจตนาของผู้ประพันธ์ น่าจะสร้างความกระจ่างและทำให้เกิดการตีความที่สอดคล้องกับความมุ่งหมายของผู้ประพันธ์
ลงชื่อ กองบรรณาธิการมติชน 6 ธันวาคม 2555 ........................................................ฯลฯ.......................................
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บ้านกลอนไทย, อริญชย์, พยัญเสมอ, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, เนิน จำราย, ไร้นวล^^, blues, ..กุสุมา.., ไพร พนาวัลย์, พี.พูนสุข, แป้งน้ำ, คอนพูธน, khuadkao
ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
06 ธันวาคม 2012, 03:13:PM |
รัตนาวดี
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2012, 03:13:PM » |
ชุมชน
|
อรุณสวัสดิ์ประเทศไทยจ้า...
ตื่นมาอ่านเจอเป็นบทแรกของวันนี้ อารมณ์บอกว่า เป็นกลอนถวายพระพรที่บ่งบอกจิต ของท่านผู้เขียน สื่อความหมายออกมา ทำให้ผู้อ่าน(คือรัตน์ค่ะ) นึกขึ้นมา ผู้เขียนไม่ค่อยจะเต็ม แต่ที่ยิ่งไม่เต็มกว่าคือ มติชน ค่ะ เอามาลงได้อย่างไร แล้วรัตน์จะสืบดูว่า ใครอนุมัติค่ะ ในฐานะ เป็นผู้อ่าน
ขอบอกเลยว่า..ไม่สมควรเป็นกลอนถวายพระพรเลยค่ะ หากเขียนกลอนแบบถวายพระพรไม่เป็น เขียนไม่ออก ก็ไม่ต้องเขียนใช่มั้ยคะ?
เจ็บที่ใจนี้ค่ะ
รัตนาวดี ปล.ขอขอบคุณ คุณนะโมที่เอามาแบ่งปัน มากๆค่ะ
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, พยัญเสมอ, รพีกาญจน์, เนิน จำราย, ไร้นวล^^, blues, ..กุสุมา.., บ้านกลอนไทย, สมนึก นพ, แป้งน้ำ, คอนพูธน, พี.พูนสุข
ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
06 ธันวาคม 2012, 03:38:PM |
พยัญเสมอ
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2012, 03:38:PM » |
ชุมชน
|
ความหมายมันคลุมเคลือครับ อ่านแล้วตีความไม่ออกว่าหมายความว่าอย่างไร มันคล้ายๆคนบ่นๆไป จะว่าแต่งเพื่อสรรเสริญหรือชื่นชมพระบารมีก็ไม่ใช่ จะว่าแต่งเพื่อถวายพระพร ก็ไม่ใช่อีก ดูๆไปแล้วก็คงมีนัยยะแอบแฝงตามที่มีผู้แปลมานั่นแหละครับ เป็นการพูดที่เหมือนไม่พูด คือพูดแบบยั้งๆ ให้ฟังดูคลุมเคลือตีความหมายไม่ออก
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, รพีกาญจน์, เนิน จำราย, ไร้นวล^^, blues, ..กุสุมา.., บ้านกลอนไทย, สมนึก นพ, แป้งน้ำ, อริญชย์, คอนพูธน
ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
๐นามแฝงผู้เขียน Orion264(มือขวา),มือขวา,บูรพาทรนง-ตงฟางข้วงแขะ,สิงสู่,ต๊กโกม้อเกี่ยม-มารกระบี่เดียวดาย, เทพเจ้าไก่
|
|
|
06 ธันวาคม 2012, 04:57:PM |
แป้งน้ำ
ผู้ดูแลทุกบอร์ด
คะแนนกลอนของผู้นี้ 647
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1,303
เธอไม่เคยคิดผูกพัน ~ฉันเข้าใจ
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2012, 04:57:PM » |
ชุมชน
|
ขอวิจารณ์ในฐานะคนอ่านนะคะ . .. มันเหมือนเป็นการตัดพ้ออ่ะค่ะ . . อ่านแล้วแปลไม่ออกว่าอาเศียรวาทตรงไหน . .. คงต้องขอความอนุเคราะห์จากท่านนักกลอนมือพระกาฬช่วยแปลความให้อ่านอีกรอบนึง . .. เอาแบบ แปลในฐานะคนเขียนกลอนไม่ใช่ในฐานะคนอ่านแบบแป้งอ่ะค่ะ . .ขอบพระคุณมา ณ ที่นี้
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : blues, ไร้นวล^^, รัตนาวดี, ..กุสุมา.., รพีกาญจน์, บ้านกลอนไทย, สมนึก นพ, อริญชย์, คอนพูธน, พยัญเสมอ, เนิน จำราย
ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
06 ธันวาคม 2012, 06:03:PM |
ไร้นวล^^
ผู้ดูแลบอร์ด
คะแนนกลอนของผู้นี้ 825
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1,430
โปรดแนะนำเพื่อค้ำชูภาษาไทย
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2012, 06:03:PM » |
ชุมชน
|
ท่านมือขวาครับ ผมไปค้นความหมายมา คำนี้เป็นคำนามครับ หมายถึงคำอวยพร (เหมือน อาศิรพจน์, อาศิรพาท, อาศิรวจนะ).
แต่เรื่องบทกลอนผมขอสงวนความเห็นครับ(พูดเหมือนนักการเมืองมากกกก)
|
แดนดินใดให้เราเกิด เราจะเทิดทูนไว้เหนือเศียร
|
|
|
06 ธันวาคม 2012, 06:06:PM |
พยัญเสมอ
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2012, 06:06:PM » |
ชุมชน
|
ผมขอถอนคำพูดครับ
|
๐นามแฝงผู้เขียน Orion264(มือขวา),มือขวา,บูรพาทรนง-ตงฟางข้วงแขะ,สิงสู่,ต๊กโกม้อเกี่ยม-มารกระบี่เดียวดาย, เทพเจ้าไก่
|
|
|
06 ธันวาคม 2012, 07:35:PM |
บ้านริมโขง
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2012, 07:35:PM » |
ชุมชน
|
แปลออกมาได้ยังไงตามกระทู้ที่ตั้ง วันหนึ่งฟ้าสว่างกระจ่างแจ้ง ลมแล้งในใจให้โหยหาย เมื่อทุกอย่างสงบสุขไร้ปัญหา ความขุ่นข้องหมองใจใด ๆ หายสิ้น
ข้าวกล้านาไร่ได้กลิ่นอาย ยามฝนขวนขวายมุ่งหมายมา การประกอบสัมมาชีพอาชีพใด ๆ ก็รุ่งเรืองก้าวหน้าได้ผลสมประสงค์ (ยามฝนขวนขวายมุ่งหมายมา)
วันหนึ่งเมฆคลุ้มเป็นกลุ่มก้อน ลมร้อนเย็นเป็นปัญหา แต่หากวันใดยังมีอุปสรรคปัญหาจากหมู่ชนกลุ่มเล็กกลุ่มน้อย (เมฆคลุมเป็นกลุ่มก้อน)
พฤกษ์พุ่มชอุ่มช้ำทั้งน้ำตา ฝันว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร จะได้รู้เลยว่า ขาดความสงบสันติสุขทันที เดือดร้อนกันไปทั่ว (พฤกษ์พุ่มชอุ่มช้ำทั้งน้ำตา )
สรุป..ประชาชนได้รับรู้ถึงเหตุและผลของการขาดความสงบสุขร่มเย็น
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไร้นวล^^, panthong.kh, ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, รัตนาวดี, บ้านกลอนไทย, สมนึก นพ, ..กุสุมา.., แป้งน้ำ, อริญชย์, คอนพูธน, พี.พูนสุข, เนิน จำราย
ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
06 ธันวาคม 2012, 08:28:PM |
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,422
นักร้อง
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2012, 08:28:PM » |
ชุมชน
|
ขอมองค้อนน้องนะโมสักสามวงเถิดนะ แถมหยิกอีกสองหนับ emo_45ที่ไปเอากระทู้ที่มีคนโพสท์อย่างนี้มาวาง ทำให้ชาวเราตื่นตระหนกตกใจไปตามๆกัน น่าจะเอาความเห็นกลางๆมาวางหน่อยก็ไม่ได้
แต่ผมเมื่อได้รับข่าวสารใดๆอันเนื่องมาจากการเมืองด้วยแล้ว ผมจะหายใจยาวๆลึกๆแล้วใช้วิจารณญาณในการเสพข่าว พยายามหาแหล่ง ที่ไปที่มา ก็ลยได้คำตอบมาดังนี้ นะครับวันนี้ (6 ธ.ค. 2555) นายฐากูร บุนปาน คอลัมนิสต์ ได้ให้สัมภาษณ์ ในรายการ" มติชนวิเคราะห์" ในประเด็นเรื่องบทอาเศียรวาทของหนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 5 ธ.ค. 2555 ที่ถูกแปลความไปต่างนานา ไกลเกินเจตนารมณ์ของผู้แต่งบทอาเศียรวาท
นายฐากูร กล่าวตอนหนึ่งว่า ที่ผ่านมาว่าผู้ประพันธ์ได้ให้ความหมายในแง่ประชาชนร้องทุกข์ต่อพระมหากษัตริย์ ซึ่งสื่อให้เห็นความรักระหว่างประชาชนต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งสำนวนโวหารในลักษณะนี้เป็นเอกลักษณ์ของผู้ประพันธ์ซึ่งได้แต่งบทอาเศียรวาท ให้แก่ นสพ.มติชนมา กว่า 30 ปี ด้วยเจตนาที่ดี
นอกจากนี้ยังบอกด้วยว่าการที่ไม่เปิดเผยนามของผู้ประพันธ์เป็นเรื่องปกติ เพราะผู้ประพันธ์อยู่เลยจุดที่ต้องการชื่อเสียงเงินทองแล้ว และทุกปีก็ไม่มีการเอ่ยนามของผู้ประพันธ์แต่อย่างใด แต่ยืนยันได้ว่าหากรู้จักผู้ประพันธ์จะรู้ว่า ผู้ประพันธ์ไม่เคยมีพฤติกรรมหรือเจตนาที่จะแต่งบทอาเศียรวาทในทางที่ไม่ดี และฝากให้คุณผู้ชมให้รับข้อมูลข่าวสารด้วยใจที่ไม่อคติ ขอให้มองบทอาเศียรวาทนี้และแปลความหมายตามความเป็นจริงด้วย
วันเดียวกัน"มติชน" ได้ออกคำชี้แจง กรณีบทอาเศียรวาท ในช่วงเช้าว่า
สืบเนื่องจากมีผู้ตั้งคำถามต่อบทอาเศียรวาท ที่ตีพิมพ์ในมติชน ฉบับวันที่ 5 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมาว่ามีความหมายอย่างไร มีความกำกวมไม่เหมาะสมหรือไม่
บทอาเศียรวาท มีเนื้อความดังนี้
วันหนึ่งฟ้าสว่างกระจ่างแจ้ง ลมแล้งในใจไห้โหยหาย ข้าวกล้านาไร่ได้กลิ่นอาย ยามฝนขวนขวายมุ่งหมายมา วันหนึ่งเมฆคลุ้มเป็นกลุ่มก้อน ลมร้อนลมเย็นเป็นปัญหา พฤกษ์พุ่มชอุ่มช้ำท่วมน้ำตา ฝันว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร
ต่อไปนี้ คือคำอธิบายจากผู้ประพันธ์บทอาเศียรวาทดังกล่าว
"....อาเศียรวาทสองบทนี้ มีความหมายตรงตามตัวอักษรทุกประการ ด้วยวิธีการเขียนบทกวีที่มีการเปรียบเทียบให้เห็นภาพ จึงใช้วันฟ้าสว่างกับวันฟ้ามืดครึ้ม วันฟ้าสว่างนั้นแม้แต่ลมแล้งในใจผู้คนที่โหยไห้ก็ยังหาย ข้าวกล้านาไร่ยังได้กลิ่นอายฝนที่มุ่งหมายมาตกต้องตามฤดูกาลย่อมหมายถึงความสว่างในพระบรมเดชาเมตตาบารมี ที่ปกเกล้าพสกนิกรและทุกสรรพสิ่ง อันเนื่องมาจากพระวิริยะอุตสาหะเช่นฟ้าฝน ชลประทาน หรืออ่างเก็บน้ำอันยังประโยชน์สม่ำเสมอแก่ไร่นา
ดังนั้น เมื่อมีวันมืดครึ้ม ซึ่งแม้แต่ธรรมชาติปัจจุบันเช่นที่เห็นกันก็ผันผวน เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็นเป็นปัญหา จึงมีหรือที่จะไม่นึกฝันถึงวันฟ้าสว่าง วันที่กระจ่างแจ้งร่มเย็นอยู่ในพระบรมโพธิสมภาร ว่าดีอย่างไร ดีขนาดไหน คือความหมายซึ่งอธิบายได้ตามตัวอักษรทุกวรรคตอน
อนึ่ง ที่ยังมีข้อสงสัยต่อความหมายในบาทสุดท้าย ที่ว่า "ฝันว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร" นั้น หากติดตามข่าวสารบ้านเมืองอยู่ตลอดเวลา ย่อมเห็นแล้วว่า ปัจจุบันมีปัญหามากมาย ที่ทำให้คนส่วนมากเดือดเนื้อร้อนใจ มีแต่คนส่วนมากเรียกร้องความสงบสุขในสังคม เพื่อจะได้ตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากิน
เช่นนี้แล้ว ทำไมจึงจะไม่คิดถึงล่ะว่าวันที่ฟ้าสว่างกระจ่างแจ้งนั้นดีอย่างไร วันที่ธรรมชาติดำเนินไปอย่างถูกต้องเหมาะสมตามฤดูกาล ไร่นาประชาชนสมบูรณ์ วันที่พระบรมเดชานุภาพแผ่ไพศาล ปราศจากฝุ่นละอองใดๆ มาแผ้วพาน"
กองบรรณาธิการหวังว่า คำอธิบายความหมาย สัญลักษณ์ และเจตนาของผู้ประพันธ์ น่าจะสร้างความกระจ่างและทำให้เกิดการตีความที่สอดคล้องกับความมุ่งหมายของผู้ประพันธ์
กองบรรณาธิการมติชน 6 ธันวาคม 2555
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บ้านกลอนไทย, สมนึก นพ, รพีกาญจน์, รัตนาวดี, ..กุสุมา.., แป้งน้ำ, อริญชย์, คอนพูธน, พี.พูนสุข, พยัญเสมอ, เนิน จำราย
ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
06 ธันวาคม 2012, 09:06:PM |
บ้านกลอนไทย
ผู้ดูแลทุกบอร์ด
คะแนนกลอนของผู้นี้ 533
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 962
จิ๊กโก๋...กำลังจะโตเป็นหนุ่ม ฮ่าๆ
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2012, 09:06:PM » |
ชุมชน
|
ขอมองค้อนน้องนะโมสักสามวงเถิดนะ แถมหยิกอีกสองหนับ emo_45ที่ไปเอากระทู้ที่มีคนโพสท์อย่างนี้มาวาง ทำให้ชาวเราตื่นตระหนกตกใจไปตามๆกัน น่าจะเอาความเห็นกลางๆมาวางหน่อยก็ไม่ได้
อย่าค้อน, อย่างอนเลยนะลุงครับมันมีที่ไปที่มา พอดีมีนักกฎหมายกลุ่มหนึ่งเขาจะฟ้องหนังสื่อพิมพ์ฉบับนี้ อาจารย์ที่ มอ เลยเอาความมาถามนักศึกษากลุ่มวรรณศิลป์ว่าคิดเห็นอย่างไร กับสำนวนกลอน(แบบมาให้ช่วยตีความ) ข้าน้อยอ่านเขียนเป็นบ้างก็งูๆปลาๆ ไม่กล้าให้คำตอบ ก็เลยนำความมาถามท่านนักกลอนในเว๊บในฐานะเป็นผู้อ่านหรือเขียน ว่าเห็นบทกลอนนี้เป็นอย่างไร แน่นอน เชื่อได้ว่า มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเป็นเรื่องธรรมดา ความเห็นทั้งหมดก็จะทำเป็นรายงานเสนออาจารย์ต่อไป แบบว่า...ก็ประมาณนี้อ่ะครับ
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, รพีกาญจน์, พ่อค้าพเนจร, ไพร พนาวัลย์, ไร้นวล^^, รัตนาวดี, ..กุสุมา.., แป้งน้ำ, อริญชย์, สมนึก นพ, คอนพูธน, พยัญเสมอ, เนิน จำราย
ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
06 ธันวาคม 2012, 09:54:PM |
พยัญเสมอ
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2012, 09:54:PM » |
ชุมชน
|
ขอมองค้อนน้องนะโมสักสามวงเถิดนะ แถมหยิกอีกสองหนับ emo_45ที่ไปเอากระทู้ที่มีคนโพสท์อย่างนี้มาวาง ทำให้ชาวเราตื่นตระหนกตกใจไปตามๆกัน น่าจะเอาความเห็นกลางๆมาวางหน่อยก็ไม่ได้
แต่ผมเมื่อได้รับข่าวสารใดๆอันเนื่องมาจากการเมืองด้วยแล้ว ผมจะหายใจยาวๆลึกๆแล้วใช้วิจารณญาณในการเสพข่าว พยายามหาแหล่ง ที่ไปที่มา ก็ลยได้คำตอบมาดังนี้ นะครับวันนี้ (6 ธ.ค. 2555) นายฐากูร บุนปาน คอลัมนิสต์ ได้ให้สัมภาษณ์ ในรายการ" มติชนวิเคราะห์" ในประเด็นเรื่องบทอาเศียรวาทของหนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 5 ธ.ค. 2555 ที่ถูกแปลความไปต่างนานา ไกลเกินเจตนารมณ์ของผู้แต่งบทอาเศียรวาท
นายฐากูร กล่าวตอนหนึ่งว่า ที่ผ่านมาว่าผู้ประพันธ์ได้ให้ความหมายในแง่ประชาชนร้องทุกข์ต่อพระมหากษัตริย์ ซึ่งสื่อให้เห็นความรักระหว่างประชาชนต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งสำนวนโวหารในลักษณะนี้เป็นเอกลักษณ์ของผู้ประพันธ์ซึ่งได้แต่งบทอาเศียรวาท ให้แก่ นสพ.มติชนมา กว่า 30 ปี ด้วยเจตนาที่ดี
นอกจากนี้ยังบอกด้วยว่าการที่ไม่เปิดเผยนามของผู้ประพันธ์เป็นเรื่องปกติ เพราะผู้ประพันธ์อยู่เลยจุดที่ต้องการชื่อเสียงเงินทองแล้ว และทุกปีก็ไม่มีการเอ่ยนามของผู้ประพันธ์แต่อย่างใด แต่ยืนยันได้ว่าหากรู้จักผู้ประพันธ์จะรู้ว่า ผู้ประพันธ์ไม่เคยมีพฤติกรรมหรือเจตนาที่จะแต่งบทอาเศียรวาทในทางที่ไม่ดี และฝากให้คุณผู้ชมให้รับข้อมูลข่าวสารด้วยใจที่ไม่อคติ ขอให้มองบทอาเศียรวาทนี้และแปลความหมายตามความเป็นจริงด้วย
วันเดียวกัน"มติชน" ได้ออกคำชี้แจง กรณีบทอาเศียรวาท ในช่วงเช้าว่า
สืบเนื่องจากมีผู้ตั้งคำถามต่อบทอาเศียรวาท ที่ตีพิมพ์ในมติชน ฉบับวันที่ 5 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมาว่ามีความหมายอย่างไร มีความกำกวมไม่เหมาะสมหรือไม่
บทอาเศียรวาท มีเนื้อความดังนี้
วันหนึ่งฟ้าสว่างกระจ่างแจ้ง ลมแล้งในใจไห้โหยหาย ข้าวกล้านาไร่ได้กลิ่นอาย ยามฝนขวนขวายมุ่งหมายมา วันหนึ่งเมฆคลุ้มเป็นกลุ่มก้อน ลมร้อนลมเย็นเป็นปัญหา พฤกษ์พุ่มชอุ่มช้ำท่วมน้ำตา ฝันว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร
ต่อไปนี้ คือคำอธิบายจากผู้ประพันธ์บทอาเศียรวาทดังกล่าว
"....อาเศียรวาทสองบทนี้ มีความหมายตรงตามตัวอักษรทุกประการ ด้วยวิธีการเขียนบทกวีที่มีการเปรียบเทียบให้เห็นภาพ จึงใช้วันฟ้าสว่างกับวันฟ้ามืดครึ้ม วันฟ้าสว่างนั้นแม้แต่ลมแล้งในใจผู้คนที่โหยไห้ก็ยังหาย ข้าวกล้านาไร่ยังได้กลิ่นอายฝนที่มุ่งหมายมาตกต้องตามฤดูกาลย่อมหมายถึงความสว่างในพระบรมเดชาเมตตาบารมี ที่ปกเกล้าพสกนิกรและทุกสรรพสิ่ง อันเนื่องมาจากพระวิริยะอุตสาหะเช่นฟ้าฝน ชลประทาน หรืออ่างเก็บน้ำอันยังประโยชน์สม่ำเสมอแก่ไร่นา
ดังนั้น เมื่อมีวันมืดครึ้ม ซึ่งแม้แต่ธรรมชาติปัจจุบันเช่นที่เห็นกันก็ผันผวน เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็นเป็นปัญหา จึงมีหรือที่จะไม่นึกฝันถึงวันฟ้าสว่าง วันที่กระจ่างแจ้งร่มเย็นอยู่ในพระบรมโพธิสมภาร ว่าดีอย่างไร ดีขนาดไหน คือความหมายซึ่งอธิบายได้ตามตัวอักษรทุกวรรคตอน
อนึ่ง ที่ยังมีข้อสงสัยต่อความหมายในบาทสุดท้าย ที่ว่า "ฝันว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร" นั้น หากติดตามข่าวสารบ้านเมืองอยู่ตลอดเวลา ย่อมเห็นแล้วว่า ปัจจุบันมีปัญหามากมาย ที่ทำให้คนส่วนมากเดือดเนื้อร้อนใจ มีแต่คนส่วนมากเรียกร้องความสงบสุขในสังคม เพื่อจะได้ตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากิน
เช่นนี้แล้ว ทำไมจึงจะไม่คิดถึงล่ะว่าวันที่ฟ้าสว่างกระจ่างแจ้งนั้นดีอย่างไร วันที่ธรรมชาติดำเนินไปอย่างถูกต้องเหมาะสมตามฤดูกาล ไร่นาประชาชนสมบูรณ์ วันที่พระบรมเดชานุภาพแผ่ไพศาล ปราศจากฝุ่นละอองใดๆ มาแผ้วพาน"
กองบรรณาธิการหวังว่า คำอธิบายความหมาย สัญลักษณ์ และเจตนาของผู้ประพันธ์ น่าจะสร้างความกระจ่างและทำให้เกิดการตีความที่สอดคล้องกับความมุ่งหมายของผู้ประพันธ์
กองบรรณาธิการมติชน 6 ธันวาคม 2555 เป็นคำแก้ตัวของผู้เขียนที่ฟังไม่ขึ้นเอาเลยทีเดียว ถ้าบอกว่า "มีความหมายตรงตามตัวอักษรทุกประการ"แล้วมีอักษรตัวไหนในบทกลอน ที่เอ่ยถึง "พระบรมเดชาเมตตาบารมี"บ้าง ? ไม่มีเอ่ยถึงเลยแม้สักตัวเดียว แล้วแบบนี้จะบอกว่า "มีความหมายตรงตามตัวอักษรทุกประการ"ได้อย่างไร ฟังไม่ขึ้นครับ ความจริงแล้วกลอนบทนนี้จะไม่มีปัญหาให้ต้องคิดเลย ถ้าไม่มีสองวรรคนี้ "พฤกษ์พุ่มชอุ่มช้ำท่วมน้ำตา ฝันว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร"ถ้าจะให้ผมตีความตามความเข้าใจในคำที่เขาใช้ก็ต้องตีความว่า "เมื่อประชาชนยังมีแต่ความทุกข์ แล้วจะบอกว่าเป็นสุขได้อย่างไร"ผมว่า ความหมายมันน่าจะออกไปในทำนองนั้นนะ นี่ผมตีความตามความเข้าใจในภาษาที่เขาเขียนนะครับ มันเขียนพาให้เข้าใจไปในทำนองนั้น ปล.ถ้าจะมีการลบกระทู้และหักคะแนน ขอให้หักทุกคนนับตั้งแต่เจ้าของกระทู้ลงมาเลยนะครับ เพื่อความยุติธรรม อันนี้พูดไว้เผื่อว่าโดนหักนะ
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไพร พนาวัลย์, ไร้นวล^^, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, panthong.kh, --ณัชชา--, บ้านกลอนไทย, ..กุสุมา.., แป้งน้ำ, อริญชย์, สมนึก นพ, คอนพูธน, พี.พูนสุข, เนิน จำราย
ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
๐นามแฝงผู้เขียน Orion264(มือขวา),มือขวา,บูรพาทรนง-ตงฟางข้วงแขะ,สิงสู่,ต๊กโกม้อเกี่ยม-มารกระบี่เดียวดาย, เทพเจ้าไก่
|
|
|
07 ธันวาคม 2012, 01:27:AM |
ไร้นวล^^
ผู้ดูแลบอร์ด
คะแนนกลอนของผู้นี้ 825
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1,430
โปรดแนะนำเพื่อค้ำชูภาษาไทย
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2012, 01:27:AM » |
ชุมชน
|
ฮือฮืออย่าหักแต้ม เลยครับ อุตส่าห์งดเสียงศัพท์ โสตด้วย ท่านนโมก็นะจับ ประเด็นเด่น ดุแล หาใช่เรื่องกล้วยกล้วย วิเคราะห์เค้นเข็ญใจ
ใช่!ผมอยากบอกให้ ไทยเรา ทำสิ่งที่ทุเลา ชาติบ้าง คนละหัตถ์กล่อมเกลา กลอนกริ่ม ปล่อยเรื่องที่คั่งค้าง ผิว์ชี้เชาว์ชน สยามเฮยฯ
(กระทู้นี้นอกเหนือการเรียนภาษาไทยของผม ขอสงวนความเห็นเช่นเดิมครับ จะหักคะแนนก็อย่าให้เหลือศูนย์แต้มนะครับท่านWM ผมอายเด็กๆที่ไปอวดเก่งสอนเค้า อิอิอิ)
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สายใย, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, panthong.kh, บ้านกลอนไทย, ..กุสุมา.., แป้งน้ำ, อริญชย์, สมนึก นพ, คอนพูธน, ไพร พนาวัลย์, พี.พูนสุข, พยัญเสมอ, เนิน จำราย
ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
แดนดินใดให้เราเกิด เราจะเทิดทูนไว้เหนือเศียร
|
|
|
07 ธันวาคม 2012, 01:44:AM |
สายใย
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2,700
ช่างเขาเฮอะ
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2012, 01:44:AM » |
ชุมชน
|
...ไม่ชอบครับ แต่....
ไม่ชอบก็อย่าไปซื้อ มาอ่านครับ
ดูซิว่าจะเอาทุนมาจากไหน...
|
หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
|
|
|
07 ธันวาคม 2012, 05:34:AM |
รัตนาวดี
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2012, 05:34:AM » |
ชุมชน
|
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, panthong.kh, น.ปฎิพน, บ้านกลอนไทย, ..กุสุมา.., แป้งน้ำ, อริญชย์, สมนึก นพ, คอนพูธน, ไพร พนาวัลย์, พี.พูนสุข, เพรางาย, ไร้นวล^^, เนิน จำราย
ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
07 ธันวาคม 2012, 07:59:AM |
--ณัชชา--
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2012, 07:59:AM » |
ชุมชน
|
เป็นคำแก้ตัวของผู้เขียนที่ฟังไม่ขึ้นเอาเลยทีเดียว ถ้าบอกว่า "มีความหมายตรงตามตัวอักษรทุกประการ"แล้วมีอักษรตัวไหนในบทกลอน ที่เอ่ยถึง "พระบรมเดชาเมตตาบารมี"บ้าง ? ไม่มีเอ่ยถึงเลยแม้สักตัวเดียว แล้วแบบนี้จะบอกว่า "มีความหมายตรงตามตัวอักษรทุกประการ"ได้อย่างไร ฟังไม่ขึ้นครับ ความจริงแล้วกลอนบทนนี้จะไม่มีปัญหาให้ต้องคิดเลย ถ้าไม่มีสองวรรคนี้ "พฤกษ์พุ่มชอุ่มช้ำท่วมน้ำตา ฝันว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร"ถ้าจะให้ผมตีความตามความเข้าใจในคำที่เขาใช้ก็ต้องตีความว่า "เมื่อประชาชนยังมีแต่ความทุกข์ แล้วจะบอกว่าเป็นสุขได้อย่างไร"ผมว่า ความหมายมันน่าจะออกไปในทำนองนั้นนะ นี่ผมตีความตามความเข้าใจในภาษาที่เขาเขียนนะครับ มันเขียนพาให้เข้าใจไปในทำนองนั้น ปล.ถ้าจะมีการลบกระทู้และหักคะแนน ขอให้หักทุกคนนับตั้งแต่เจ้าของกระทู้ลงมาเลยนะครับ เพื่อความยุติธรรม อันนี้พูดไว้เผื่อว่าโดนหักนะ
ฮามาก...
--ณัชชา--
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บ้านกลอนไทย, ..กุสุมา.., แป้งน้ำ, อริญชย์, สมนึก นพ, คอนพูธน, ไพร พนาวัลย์, พี.พูนสุข, ไร้นวล^^, พยัญเสมอ, รพีกาญจน์, รัตนาวดี, เนิน จำราย
ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
07 ธันวาคม 2012, 09:41:AM |
..กุสุมา..
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2012, 09:41:AM » |
ชุมชน
|
ปล.ถ้าจะมีการลบกระทู้และหักคะแนน ขอให้หักทุกคนนับตั้งแต่เจ้าของกระทู้ลงมาเลยนะครับ เพื่อความยุติธรรม อันนี้พูดไว้เผื่อว่าโดนหักนะ
ในฐานะคนอ่านกลอน.. ออกมาแสดงตัวยอมรับผิดชอบให้หักคะแนนเจ้าค่ะ ไม่ขอแก้ตัวใดๆ เพราะตัวเองรับรู้อยู่แก่ใจ คือความจริง.. ได้เข้ามาอ่านกลอน ในกระทู้นี้จริง ยินยอมให้หักคะแนนด้วยเจ้าค่ะ ..กุสุมา..
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : แป้งน้ำ, อริญชย์, สมนึก นพ, คอนพูธน, ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ไร้นวล^^, พยัญเสมอ, เพรางาย, เนิน จำราย
ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
07 ธันวาคม 2012, 09:59:AM |
hort39
ผู้ดูแลทุกบอร์ด
คะแนนกลอนของผู้นี้ 389
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1,223
คำพูดที่ให้ร้าย ไม่อาจเปลียนแปลงความจริงทีผ่านมา
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2012, 09:59:AM » |
ชุมชน
|
กลอนบทนี้จะไม่มีปัญหาเลย ถ้าไม่ได้บอกว่าเป็นกลอน ถวายพระพร
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : แป้งน้ำ, อริญชย์, สมนึก นพ, คอนพูธน, ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ไร้นวล^^, พยัญเสมอ, เพรางาย, รัตนาวดี, เนิน จำราย, ratikal
ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
07 ธันวาคม 2012, 10:33:AM |
แป้งน้ำ
ผู้ดูแลทุกบอร์ด
คะแนนกลอนของผู้นี้ 647
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1,303
เธอไม่เคยคิดผูกพัน ~ฉันเข้าใจ
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2012, 10:33:AM » |
ชุมชน
|
...แบบว่า....ใครแสดงความเห็น หักคะแนนด้วยกันคนล่ะสิบแต้มดีไหมครับ ... « แก้ไขครั้งสุดท้าย: 1 ชั่วโมงที่แล้ว โดย บ้านกลอนไทย » . . เพิ่งมาบอกเนี่ยนะ !! . .
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, สมนึก นพ, yaguza, คอนพูธน, ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ไร้นวล^^, พยัญเสมอ, เพรางาย, รัตนาวดี, เนิน จำราย
ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
07 ธันวาคม 2012, 11:05:AM |
คอนพูธน
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2012, 11:05:AM » |
ชุมชน
|
คลุมเครือ ๏ พจีกระทบหวังเพื่อสะท้าน พิเศษไทย พิสูจน์เทอญ รักย่อมใจถึงใจ กล่าวแจ้ง ประพนธ์เสนอดั่งประสงค์ไฉน คลุมนั่น เครือเนอ ทลายศักดิ์กระแทกกระทำแสร้ง ลิขิตสร้างสะเทือนสรวง พิศุทธิ์นอ
๏ ลวงเสนอสลดสื่อฉะนี้ หลอกสนาน ตลอดนา เฉพาะกิจปราศอุดมการณ์ พวกเกื้อ อาศิรวาทขับเสมือนขาน ประจงขุ่น ควรฤๅ แสดงเช่นทุรลักษณ์เชื้อ เขย่าชั้นพิมานฉม ฉายแล คอนพูทน
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : hort39, อริญชย์, ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ไร้นวล^^, พยัญเสมอ, เพรางาย, สุวรรณ, รัตนาวดี, เนิน จำราย, พิมพ์วาส
ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
๏ ขอบคุณทุกภาพครั้น จากเนตหยิบมานั้น พร่างนี้พลอยสนาน เพียงนา๚ะ๛
|
|
|
07 ธันวาคม 2012, 12:04:PM |
พรายม่าน
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2012, 12:04:PM » |
ชุมชน
|
โชยสาบหยาบช้าสาไถย อุปมาอุปมัยแอบหมก จ้วงจาบปลาบปลื้มลืมนรก อาเศียรเสียดดกสีดำ ฯ
พรายม่าน สันทราย ๗ ธันวาคม ๒๕๕๕
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : hort39, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, อริญชย์, blues, พยัญเสมอ, รัตนาวดี, ไร้นวล^^, บ้านกลอนไทย, เนิน จำราย
ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|