ในฐานะคนอ่านหรือเขียนกลอน..ขอความเห็นเกี่ยวกับบทกลอนสำนวนนี้ด้วยครับ..
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
22 พฤศจิกายน 2024, 10:27:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
โพลล์
คำถาม: บทกลอนมีความหมายว่าใครในทางเสียหายหรือไม่...(ขอความเห็นแบบเป็นกลาง)  (ปิดการโหวต: 10 ธันวาคม 2012, 12:29:PM)
ว่าในฯ... - 0 (0%)
ไม่ได้ว่าใครในทางเสียหายเลย - 3 (21.4%)
เป็นบทกลอนที่เหมาะสมกับการนำมาลงแล้ว - 1 (7.1%)
ไม่เหมาะสม(ซ่อนความหมายแปลกๆ) - 10 (71.4%)
จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 14

หน้า: [1] 2
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ในฐานะคนอ่านหรือเขียนกลอน..ขอความเห็นเกี่ยวกับบทกลอนสำนวนนี้ด้วยครับ..  (อ่าน 13936 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 7 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
06 ธันวาคม 2012, 02:47:PM
บ้านกลอนไทย
ผู้ดูแลทุกบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 533
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 962


จิ๊กโก๋...กำลังจะโตเป็นหนุ่ม ฮ่าๆ


« เมื่อ: 06 ธันวาคม 2012, 02:47:PM »
ชุมชนชุมชน

วันนี้ (6 ธ.ค.) สืบเนื่องจากมีผู้ตั้งคำถามต่อบทอาเศียรวาท
ที่ตีพิมพ์ในมติชน ฉบับวันที่ 5 ธันวาคม 2555 มีความกำกวมไม่เหมาะสมหรือไม่ มีเนื้อความดังนี้
       
       “วันหนึ่งฟ้าสว่างกระจ่างแจ้ง     ลมแล้งในใจไห้โหยหาย
       ข้าวกล้านาไร่ได้กลิ่นอาย ยามฝนขวนขวายมุ่งหมายมา
       วันหนึ่งเมฆคลุ้มเป็นกลุ่มก้อน ลมร้อนลมเย็นเป็นปัญหา
       พฤกษ์พุ่มชอุ่มช้ำท่วมน้ำตา ฝันว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร”


...แบบว่า....ใครแสดงความเห็น หักคะแนนด้วยกันคนล่ะสิบแต้มดีไหมครับ   ซุบซิบนินทา
...


ปล..เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเมืองนะครับ
แต่เกี่ยวกับบทกวี จึงเรียนมาขอความเป็นกลางในการตีความ
(หากกระทู้นี้ สร้างความไม่สบายใจในอนาคต ขออนุญาตลบนะครับ)

สาเหตุ...
มีคำแปลแพร่กระจายในโลกออนไลน์ ในขณะนี้
ดังนี้...

(มีคนแปลมา ถูกผิดไม่รู้ แต่ถ้าถูก นสพ.ฉบับนี้ ....แย่มาก
ถ้าเขียนถวายพระพรแบบนี้....

วันหนึ่งฟ้าสว่างกระจ่างแจ้ง = เมื่อถึงคราวที่เรื่องราวทั้งหลายได้ยุติสงบลง
ลมแล้งในใจให้โหยหาย = ความคับแค้นขุ่นข้องหมองใจทั้งหลายได้หมดสิ้นไป
ข้าวกล้านาไร่ได้กลิ่นอาย = พวกรากหญ้าทั้งหลายต่างรับรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นแล้ว
ยามฝนขวนขวายมุ่งหมายมา = เมื่อคนแดนไกลกำลังจะเดินทางเข้ามาอย่างผู้ชนะ
วันหนึ่งเมฆคลุ้มเป็นกลุ่มก้อน = เมื่อเบื้องบนเกิดมีปัญหาและมีแต่เรื่องราวไปในทางที่ไม่ดี(ตามความคิดของคนแต่ง)
ลมร้อนเย็นเป็นปัญหา = สิ่งที่มีผลกระทบต่อสิ่งที่คนไทยรักล้วนมีแต่ความยุ่งยากทั้งจากภายนอกและภายใน
พฤกษ์พุ่มชอุ่มช้ำทั้งน้ำตา = คนทั่วไปต่างก็เดือดร้อนที่มาจากสิ่งที่คนไทยรัก
ฝันว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร = ถ้าอย่างนั้นไม่มีสิ่งที่คนไทยรักเลยคงจะดีกว่านี้มั๊งดูเพิ่มเติม)

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : my smile, รัตนาวดี, panthong.kh, สมนึก นพ, อริญชย์, พยัญเสมอ, แป้งน้ำ, รพีกาญจน์, เนิน จำราย, ไร้นวล^^, blues, ไพร พนาวัลย์, ..กุสุมา.., สายใย, คอนพูธน

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

06 ธันวาคม 2012, 03:07:PM
สมนึก นพ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 728
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,994



taojeo@hotmail.com
« ตอบ #1 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2012, 03:07:PM »
ชุมชนชุมชน

(คัดลอกมาบางส่วนจากเวป ผู้จัดการ เพื่อประกอบการพิจารณา หากไม่เหมาะสม กรุณาลบให้ด้วย)
......................................................ฯลฯ.............................................       
       
วันนี้ (6 ธ.ค.) เว็บไซต์มติชนออนไลน์ได้ออกคำชี้แจงกรณีอาเศียรวาท สืบเนื่องจากมีผู้ตั้งคำถาม
ต่อบทอาเศียรวาท ที่ตีพิมพ์ในมติชน ฉบับวันที่ 5 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมาว่ามีความหมายอย่างไร
มีความกำกวมไม่เหมาะสมหรือไม่ มีเนื้อความดังนี้
       
       “วันหนึ่งฟ้าสว่างกระจ่างแจ้งลมแล้งในใจไห้โหยหาย
       ข้าวกล้านาไร่ได้กลิ่นอาย ยามฝนขวนขวายมุ่งหมายมา
       วันหนึ่งเมฆคลุ้มเป็นกลุ่มก้อน ลมร้อนลมเย็นเป็นปัญหา
       พฤกษ์พุ่มชอุ่มช้ำท่วมน้ำตา ฝันว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร”

       
       ต่อไปนี้ คือคำอธิบายจากผู้ประพันธ์บทอาเศียรวาทดังกล่าว
       
       “....อาเศียรวาทสองบทนี้ มีความหมายตรงตามตัวอักษรทุกประการ
       
       ด้วยวิธีการเขียนบทกวีที่มีการเปรียบเทียบให้เห็นภาพ จึงใช้วันฟ้าสว่างกับวันฟ้ามืดครึ้ม
       
       วันฟ้าสว่างนั้นแม้แต่ลมแล้งในใจผู้คนที่โหยไห้ก็ยังหาย ข้าวกล้านาไร่ยังได้กลิ่นอายฝน
ที่มุ่งหมายมาตกต้องตามฤดูกาลย่อมหมายถึงความสว่างในพระบรมเดชาเมตตาบารมี
ที่ปกเกล้าพสกนิกรและทุกสรรพสิ่ง อันเนื่องมาจากพระวิริยะอุตสาหะเช่นฟ้าฝน ชลประทาน
หรืออ่างเก็บน้ำอันยังประโยชน์สม่ำเสมอแก่ไร่นา
       
       ดังนั้น เมื่อมีวันมืดครึ้ม ซึ่งแม้แต่ธรรมชาติปัจจุบันเช่นที่เห็นกันก็ผันผวน
เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็นเป็นปัญหา
       
       จึงมีหรือที่จะไม่นึกฝันถึงวันฟ้าสว่าง วันที่กระจ่างแจ้งร่มเย็นอยู่ในพระบรมโพธิสมภาร
 ว่าดีอย่างไร ดีขนาดไหน คือความหมายซึ่งอธิบายได้ตามตัวอักษรทุกวรรคตอน”
       
       กองบรรณาธิการหวังว่า คำอธิบายความหมาย สัญลักษณ์ และเจตนาของผู้ประพันธ์
 น่าจะสร้างความกระจ่างและทำให้เกิดการตีความที่สอดคล้องกับความมุ่งหมายของผู้ประพันธ์

ลงชื่อ กองบรรณาธิการมติชน
6 ธันวาคม 2555

       
........................................................ฯลฯ.......................................   
 

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บ้านกลอนไทย, อริญชย์, พยัญเสมอ, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, เนิน จำราย, ไร้นวล^^, blues, ..กุสุมา.., ไพร พนาวัลย์, พี.พูนสุข, แป้งน้ำ, คอนพูธน, khuadkao

ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
06 ธันวาคม 2012, 03:13:PM
รัตนาวดี
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 977
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,130


❤ ลองล้มลงดูบ้าง แล้วจะรู้ว่าใครยังอยู่ข้างๆเรา*¨♥


bai.bun.1
« ตอบ #2 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2012, 03:13:PM »
ชุมชนชุมชน


 ยิ้มหน้าใส อรุณสวัสดิ์ประเทศไทยจ้า...

ตื่นมาอ่านเจอเป็นบทแรกของวันนี้ อารมณ์บอกว่า
เป็นกลอนถวายพระพรที่บ่งบอกจิต ของท่านผู้เขียน สื่อความหมายออกมา
ทำให้ผู้อ่าน(คือรัตน์ค่ะ) นึกขึ้นมา ผู้เขียนไม่ค่อยจะเต็ม แต่ที่ยิ่งไม่เต็มกว่าคือ มติชน ค่ะ
เอามาลงได้อย่างไร แล้วรัตน์จะสืบดูว่า ใครอนุมัติค่ะ ในฐานะ เป็นผู้อ่าน

ขอบอกเลยว่า..ไม่สมควรเป็นกลอนถวายพระพรเลยค่ะ  หากเขียนกลอนแบบถวายพระพรไม่เป็น เขียนไม่ออก ก็ไม่ต้องเขียนใช่มั้ยคะ? ไม่ชอบเลย

เจ็บที่ใจนี้ค่ะ น้อยใจแถมบ่น

รัตนาวดี

ปล.ขอขอบคุณ คุณนะโมที่เอามาแบ่งปัน มากๆค่ะ เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, พยัญเสมอ, รพีกาญจน์, เนิน จำราย, ไร้นวล^^, blues, ..กุสุมา.., บ้านกลอนไทย, สมนึก นพ, แป้งน้ำ, คอนพูธน, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..อสงไขย..ใน..ใจ..คุณ...❤... สาวน้อยเซย์ ฮาโหล.....
☆★*•.¸All You Need Is  ℒƠѵℯ ✫*¸.•*¨♥¸.•*★☆
06 ธันวาคม 2012, 03:38:PM
พยัญเสมอ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 674
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,044


ไม่มีเหตุจำเป็นห้ามรบกวน


« ตอบ #3 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2012, 03:38:PM »
ชุมชนชุมชน



ความหมายมันคลุมเคลือครับ  อ่านแล้วตีความไม่ออกว่าหมายความว่าอย่างไร
มันคล้ายๆคนบ่นๆไป  จะว่าแต่งเพื่อสรรเสริญหรือชื่นชมพระบารมีก็ไม่ใช่   จะว่าแต่งเพื่อถวายพระพร ก็ไม่ใช่อีก
ดูๆไปแล้วก็คงมีนัยยะแอบแฝงตามที่มีผู้แปลมานั่นแหละครับ  เป็นการพูดที่เหมือนไม่พูด คือพูดแบบยั้งๆ ให้ฟังดูคลุมเคลือตีความหมายไม่ออก


 งง....     น้อยใจแล้วด้วย




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, รพีกาญจน์, เนิน จำราย, ไร้นวล^^, blues, ..กุสุมา.., บ้านกลอนไทย, สมนึก นพ, แป้งน้ำ, อริญชย์, คอนพูธน

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

๐นามแฝงผู้เขียน Orion264(มือขวา),มือขวา,บูรพาทรนง-ตงฟางข้วงแขะ,สิงสู่,ต๊กโกม้อเกี่ยม-มารกระบี่เดียวดาย,
เทพเจ้าไก่
06 ธันวาคม 2012, 04:57:PM
แป้งน้ำ
ผู้ดูแลทุกบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 647
ออนไลน์ ออนไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,303


เธอไม่เคยคิดผูกพัน ~ฉันเข้าใจ


pages/กลอนเปล่า/497809993644244
เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2012, 04:57:PM »
ชุมชนชุมชน

ขอวิจารณ์ในฐานะคนอ่านนะคะ . ..  มันเหมือนเป็นการตัดพ้ออ่ะค่ะ . . อ่านแล้วแปลไม่ออกว่าอาเศียรวาทตรงไหน . ..  งง.... 
 คงต้องขอความอนุเคราะห์จากท่านนักกลอนมือพระกาฬช่วยแปลความให้อ่านอีกรอบนึง . ..
เอาแบบ แปลในฐาน
ะคนเขียนกลอนไม่ใช่ในฐานะคนอ่านแบบแป้งอ่ะค่ะ . .ขอบพระคุณมา ณ ที่นี้

เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : blues, ไร้นวล^^, รัตนาวดี, ..กุสุมา.., รพีกาญจน์, บ้านกลอนไทย, สมนึก นพ, อริญชย์, คอนพูธน, พยัญเสมอ, เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

06 ธันวาคม 2012, 06:03:PM
ไร้นวล^^
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 825
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,430

โปรดแนะนำเพื่อค้ำชูภาษาไทย


« ตอบ #5 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2012, 06:03:PM »
ชุมชนชุมชน


ท่านมือขวาครับ ผมไปค้นความหมายมา คำนี้เป็นคำนามครับ หมายถึงคำอวยพร (เหมือน อาศิรพจน์, อาศิรพาท, อาศิรวจนะ).

แต่เรื่องบทกลอนผมขอสงวนความเห็นครับ(พูดเหมือนนักการเมืองมากกกก) เอ้อ..จริงว่ะ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พยัญเสมอ, blues, รพีกาญจน์, ..กุสุมา.., รัตนาวดี, บ้านกลอนไทย, สมนึก นพ, แป้งน้ำ, อริญชย์, คอนพูธน

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แดนดินใดให้เราเกิด  เราจะเทิดทูนไว้เหนือเศียร
06 ธันวาคม 2012, 06:06:PM
พยัญเสมอ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 674
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,044


ไม่มีเหตุจำเป็นห้ามรบกวน


« ตอบ #6 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2012, 06:06:PM »
ชุมชนชุมชน



ผมขอถอนคำพูดครับ

 หัวเราะเยาะ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : blues, รพีกาญจน์, ..กุสุมา.., รัตนาวดี, สมนึก นพ, แป้งน้ำ, อริญชย์, คอนพูธน

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

๐นามแฝงผู้เขียน Orion264(มือขวา),มือขวา,บูรพาทรนง-ตงฟางข้วงแขะ,สิงสู่,ต๊กโกม้อเกี่ยม-มารกระบี่เดียวดาย,
เทพเจ้าไก่
06 ธันวาคม 2012, 07:35:PM
บ้านริมโขง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 869
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,026



« ตอบ #7 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2012, 07:35:PM »
ชุมชนชุมชน

แปลออกมาได้ยังไงตามกระทู้ที่ตั้ง

วันหนึ่งฟ้าสว่างกระจ่างแจ้ง  ลมแล้งในใจให้โหยหาย
เมื่อทุกอย่างสงบสุขไร้ปัญหา ความขุ่นข้องหมองใจใด ๆ หายสิ้น

ข้าวกล้านาไร่ได้กลิ่นอาย   ยามฝนขวนขวายมุ่งหมายมา
การประกอบสัมมาชีพอาชีพใด ๆ ก็รุ่งเรืองก้าวหน้าได้ผลสมประสงค์ (ยามฝนขวนขวายมุ่งหมายมา)

วันหนึ่งเมฆคลุ้มเป็นกลุ่มก้อน  ลมร้อนเย็นเป็นปัญหา
แต่หากวันใดยังมีอุปสรรคปัญหาจากหมู่ชนกลุ่มเล็กกลุ่มน้อย (เมฆคลุมเป็นกลุ่มก้อน)

พฤกษ์พุ่มชอุ่มช้ำทั้งน้ำตา  ฝันว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร
จะได้รู้เลยว่า ขาดความสงบสันติสุขทันที เดือดร้อนกันไปทั่ว (พฤกษ์พุ่มชอุ่มช้ำทั้งน้ำตา )

สรุป..ประชาชนได้รับรู้ถึงเหตุและผลของการขาดความสงบสุขร่มเย็น

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไร้นวล^^, panthong.kh, ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, รัตนาวดี, บ้านกลอนไทย, สมนึก นพ, ..กุสุมา.., แป้งน้ำ, อริญชย์, คอนพูธน, พี.พูนสุข, เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

06 ธันวาคม 2012, 08:28:PM
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,422


นักร้อง


paobunjin
« ตอบ #8 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2012, 08:28:PM »
ชุมชนชุมชน



ขอมองค้อนน้องนะโมสักสามวงเถิดนะ  ขำแบบกระแดะหน่อยๆ แถมหยิกอีกสองหนับ  emo_45ที่ไปเอากระทู้ที่มีคนโพสท์อย่างนี้มาวาง ทำให้ชาวเราตื่นตระหนกตกใจไปตามๆกัน น่าจะเอาความเห็นกลางๆมาวางหน่อยก็ไม่ได้ ขอจุ๊บ..หน่อย

แต่ผมเมื่อได้รับข่าวสารใดๆอันเนื่องมาจากการเมืองด้วยแล้ว ผมจะหายใจยาวๆลึกๆแล้วใช้วิจารณญาณในการเสพข่าว พยายามหาแหล่ง ที่ไปที่มา ก็ลยได้คำตอบมาดังนี้ นะครับ


วันนี้ (6 ธ.ค. 2555) นายฐากูร บุนปาน  คอลัมนิสต์  ได้ให้สัมภาษณ์ ในรายการ" มติชนวิเคราะห์" ในประเด็นเรื่องบทอาเศียรวาทของหนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 5 ธ.ค. 2555 ที่ถูกแปลความไปต่างนานา ไกลเกินเจตนารมณ์ของผู้แต่งบทอาเศียรวาท

 นายฐากูร กล่าวตอนหนึ่งว่า ที่ผ่านมาว่าผู้ประพันธ์ได้ให้ความหมายในแง่ประชาชนร้องทุกข์ต่อพระมหากษัตริย์ ซึ่งสื่อให้เห็นความรักระหว่างประชาชนต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งสำนวนโวหารในลักษณะนี้เป็นเอกลักษณ์ของผู้ประพันธ์ซึ่งได้แต่งบทอาเศียรวาท ให้แก่ นสพ.มติชนมา กว่า 30 ปี ด้วยเจตนาที่ดี

 นอกจากนี้ยังบอกด้วยว่าการที่ไม่เปิดเผยนามของผู้ประพันธ์เป็นเรื่องปกติ เพราะผู้ประพันธ์อยู่เลยจุดที่ต้องการชื่อเสียงเงินทองแล้ว และทุกปีก็ไม่มีการเอ่ยนามของผู้ประพันธ์แต่อย่างใด แต่ยืนยันได้ว่าหากรู้จักผู้ประพันธ์จะรู้ว่า ผู้ประพันธ์ไม่เคยมีพฤติกรรมหรือเจตนาที่จะแต่งบทอาเศียรวาทในทางที่ไม่ดี และฝากให้คุณผู้ชมให้รับข้อมูลข่าวสารด้วยใจที่ไม่อคติ ขอให้มองบทอาเศียรวาทนี้และแปลความหมายตามความเป็นจริงด้วย

 วันเดียวกัน"มติชน" ได้ออกคำชี้แจง กรณีบทอาเศียรวาท ในช่วงเช้าว่า

 สืบเนื่องจากมีผู้ตั้งคำถามต่อบทอาเศียรวาท ที่ตีพิมพ์ในมติชน ฉบับวันที่ 5 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมาว่ามีความหมายอย่างไร มีความกำกวมไม่เหมาะสมหรือไม่

บทอาเศียรวาท มีเนื้อความดังนี้


วันหนึ่งฟ้าสว่างกระจ่างแจ้ง     ลมแล้งในใจไห้โหยหาย
ข้าวกล้านาไร่ได้กลิ่นอาย       ยามฝนขวนขวายมุ่งหมายมา
วันหนึ่งเมฆคลุ้มเป็นกลุ่มก้อน   ลมร้อนลมเย็นเป็นปัญหา
พฤกษ์พุ่มชอุ่มช้ำท่วมน้ำตา     ฝันว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร

 ต่อไปนี้ คือคำอธิบายจากผู้ประพันธ์บทอาเศียรวาทดังกล่าว

"....อาเศียรวาทสองบทนี้ มีความหมายตรงตามตัวอักษรทุกประการ  ด้วยวิธีการเขียนบทกวีที่มีการเปรียบเทียบให้เห็นภาพ จึงใช้วันฟ้าสว่างกับวันฟ้ามืดครึ้ม วันฟ้าสว่างนั้นแม้แต่ลมแล้งในใจผู้คนที่โหยไห้ก็ยังหาย ข้าวกล้านาไร่ยังได้กลิ่นอายฝนที่มุ่งหมายมาตกต้องตามฤดูกาลย่อมหมายถึงความสว่างในพระบรมเดชาเมตตาบารมี ที่ปกเกล้าพสกนิกรและทุกสรรพสิ่ง อันเนื่องมาจากพระวิริยะอุตสาหะเช่นฟ้าฝน ชลประทาน หรืออ่างเก็บน้ำอันยังประโยชน์สม่ำเสมอแก่ไร่นา

ดังนั้น เมื่อมีวันมืดครึ้ม ซึ่งแม้แต่ธรรมชาติปัจจุบันเช่นที่เห็นกันก็ผันผวน เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็นเป็นปัญหา จึงมีหรือที่จะไม่นึกฝันถึงวันฟ้าสว่าง วันที่กระจ่างแจ้งร่มเย็นอยู่ในพระบรมโพธิสมภาร ว่าดีอย่างไร ดีขนาดไหน คือความหมายซึ่งอธิบายได้ตามตัวอักษรทุกวรรคตอน

 อนึ่ง ที่ยังมีข้อสงสัยต่อความหมายในบาทสุดท้าย ที่ว่า "ฝันว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร" นั้น หากติดตามข่าวสารบ้านเมืองอยู่ตลอดเวลา ย่อมเห็นแล้วว่า ปัจจุบันมีปัญหามากมาย ที่ทำให้คนส่วนมากเดือดเนื้อร้อนใจ มีแต่คนส่วนมากเรียกร้องความสงบสุขในสังคม เพื่อจะได้ตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากิน

เช่นนี้แล้ว ทำไมจึงจะไม่คิดถึงล่ะว่าวันที่ฟ้าสว่างกระจ่างแจ้งนั้นดีอย่างไร วันที่ธรรมชาติดำเนินไปอย่างถูกต้องเหมาะสมตามฤดูกาล ไร่นาประชาชนสมบูรณ์ วันที่พระบรมเดชานุภาพแผ่ไพศาล ปราศจากฝุ่นละอองใดๆ มาแผ้วพาน"

กองบรรณาธิการหวังว่า คำอธิบายความหมาย สัญลักษณ์ และเจตนาของผู้ประพันธ์ น่าจะสร้างความกระจ่างและทำให้เกิดการตีความที่สอดคล้องกับความมุ่งหมายของผู้ประพันธ์



 
กองบรรณาธิการมติชน
6 ธันวาคม 2555

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บ้านกลอนไทย, สมนึก นพ, รพีกาญจน์, รัตนาวดี, ..กุสุมา.., แป้งน้ำ, อริญชย์, คอนพูธน, พี.พูนสุข, พยัญเสมอ, เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

06 ธันวาคม 2012, 09:06:PM
บ้านกลอนไทย
ผู้ดูแลทุกบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 533
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 962


จิ๊กโก๋...กำลังจะโตเป็นหนุ่ม ฮ่าๆ


« ตอบ #9 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2012, 09:06:PM »
ชุมชนชุมชน



ขอมองค้อนน้องนะโมสักสามวงเถิดนะ  ขำแบบกระแดะหน่อยๆ แถมหยิกอีกสองหนับ  emo_45ที่ไปเอากระทู้ที่มีคนโพสท์อย่างนี้มาวาง ทำให้ชาวเราตื่นตระหนกตกใจไปตามๆกัน น่าจะเอาความเห็นกลางๆมาวางหน่อยก็ไม่ได้ ขอจุ๊บ..หน่อย



อย่าค้อน, อย่างอนเลยนะลุงครับ
มันมีที่ไปที่มา พอดีมีนักกฎหมายกลุ่มหนึ่งเขาจะฟ้องหนังสื่อพิมพ์ฉบับนี้
อาจารย์ที่ มอ เลยเอาความมาถามนักศึกษากลุ่มวรรณศิลป์ว่าคิดเห็นอย่างไร กับสำนวนกลอน(แบบมาให้ช่วยตีความ)

ข้าน้อยอ่านเขียนเป็นบ้างก็งูๆปลาๆ ไม่กล้าให้คำตอบ
ก็เลยนำความมาถามท่านนักกลอนในเว๊บในฐานะเป็นผู้อ่านหรือเขียน ว่าเห็นบทกลอนนี้เป็นอย่างไร

แน่นอน เชื่อได้ว่า มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเป็นเรื่องธรรมดา
ความเห็นทั้งหมดก็จะทำเป็นรายงานเสนออาจารย์ต่อไป

แบบว่า...ก็ประมาณนี้อ่ะครับ

  เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, รพีกาญจน์, พ่อค้าพเนจร, ไพร พนาวัลย์, ไร้นวล^^, รัตนาวดี, ..กุสุมา.., แป้งน้ำ, อริญชย์, สมนึก นพ, คอนพูธน, พยัญเสมอ, เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

06 ธันวาคม 2012, 09:54:PM
พยัญเสมอ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 674
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,044


ไม่มีเหตุจำเป็นห้ามรบกวน


« ตอบ #10 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2012, 09:54:PM »
ชุมชนชุมชน



ขอมองค้อนน้องนะโมสักสามวงเถิดนะ  ขำแบบกระแดะหน่อยๆ แถมหยิกอีกสองหนับ  emo_45ที่ไปเอากระทู้ที่มีคนโพสท์อย่างนี้มาวาง ทำให้ชาวเราตื่นตระหนกตกใจไปตามๆกัน น่าจะเอาความเห็นกลางๆมาวางหน่อยก็ไม่ได้ ขอจุ๊บ..หน่อย

แต่ผมเมื่อได้รับข่าวสารใดๆอันเนื่องมาจากการเมืองด้วยแล้ว ผมจะหายใจยาวๆลึกๆแล้วใช้วิจารณญาณในการเสพข่าว พยายามหาแหล่ง ที่ไปที่มา ก็ลยได้คำตอบมาดังนี้ นะครับ


วันนี้ (6 ธ.ค. 2555) นายฐากูร บุนปาน  คอลัมนิสต์  ได้ให้สัมภาษณ์ ในรายการ" มติชนวิเคราะห์" ในประเด็นเรื่องบทอาเศียรวาทของหนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 5 ธ.ค. 2555 ที่ถูกแปลความไปต่างนานา ไกลเกินเจตนารมณ์ของผู้แต่งบทอาเศียรวาท

 นายฐากูร กล่าวตอนหนึ่งว่า ที่ผ่านมาว่าผู้ประพันธ์ได้ให้ความหมายในแง่ประชาชนร้องทุกข์ต่อพระมหากษัตริย์ ซึ่งสื่อให้เห็นความรักระหว่างประชาชนต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งสำนวนโวหารในลักษณะนี้เป็นเอกลักษณ์ของผู้ประพันธ์ซึ่งได้แต่งบทอาเศียรวาท ให้แก่ นสพ.มติชนมา กว่า 30 ปี ด้วยเจตนาที่ดี

 นอกจากนี้ยังบอกด้วยว่าการที่ไม่เปิดเผยนามของผู้ประพันธ์เป็นเรื่องปกติ เพราะผู้ประพันธ์อยู่เลยจุดที่ต้องการชื่อเสียงเงินทองแล้ว และทุกปีก็ไม่มีการเอ่ยนามของผู้ประพันธ์แต่อย่างใด แต่ยืนยันได้ว่าหากรู้จักผู้ประพันธ์จะรู้ว่า ผู้ประพันธ์ไม่เคยมีพฤติกรรมหรือเจตนาที่จะแต่งบทอาเศียรวาทในทางที่ไม่ดี และฝากให้คุณผู้ชมให้รับข้อมูลข่าวสารด้วยใจที่ไม่อคติ ขอให้มองบทอาเศียรวาทนี้และแปลความหมายตามความเป็นจริงด้วย

 วันเดียวกัน"มติชน" ได้ออกคำชี้แจง กรณีบทอาเศียรวาท ในช่วงเช้าว่า

 สืบเนื่องจากมีผู้ตั้งคำถามต่อบทอาเศียรวาท ที่ตีพิมพ์ในมติชน ฉบับวันที่ 5 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมาว่ามีความหมายอย่างไร มีความกำกวมไม่เหมาะสมหรือไม่

บทอาเศียรวาท มีเนื้อความดังนี้


วันหนึ่งฟ้าสว่างกระจ่างแจ้ง     ลมแล้งในใจไห้โหยหาย
ข้าวกล้านาไร่ได้กลิ่นอาย       ยามฝนขวนขวายมุ่งหมายมา
วันหนึ่งเมฆคลุ้มเป็นกลุ่มก้อน   ลมร้อนลมเย็นเป็นปัญหา
พฤกษ์พุ่มชอุ่มช้ำท่วมน้ำตา     ฝันว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร

 ต่อไปนี้ คือคำอธิบายจากผู้ประพันธ์บทอาเศียรวาทดังกล่าว

"....อาเศียรวาทสองบทนี้ มีความหมายตรงตามตัวอักษรทุกประการ  ด้วยวิธีการเขียนบทกวีที่มีการเปรียบเทียบให้เห็นภาพ จึงใช้วันฟ้าสว่างกับวันฟ้ามืดครึ้ม วันฟ้าสว่างนั้นแม้แต่ลมแล้งในใจผู้คนที่โหยไห้ก็ยังหาย ข้าวกล้านาไร่ยังได้กลิ่นอายฝนที่มุ่งหมายมาตกต้องตามฤดูกาลย่อมหมายถึงความสว่างในพระบรมเดชาเมตตาบารมี ที่ปกเกล้าพสกนิกรและทุกสรรพสิ่ง อันเนื่องมาจากพระวิริยะอุตสาหะเช่นฟ้าฝน ชลประทาน หรืออ่างเก็บน้ำอันยังประโยชน์สม่ำเสมอแก่ไร่นา

ดังนั้น เมื่อมีวันมืดครึ้ม ซึ่งแม้แต่ธรรมชาติปัจจุบันเช่นที่เห็นกันก็ผันผวน เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็นเป็นปัญหา จึงมีหรือที่จะไม่นึกฝันถึงวันฟ้าสว่าง วันที่กระจ่างแจ้งร่มเย็นอยู่ในพระบรมโพธิสมภาร ว่าดีอย่างไร ดีขนาดไหน คือความหมายซึ่งอธิบายได้ตามตัวอักษรทุกวรรคตอน

 อนึ่ง ที่ยังมีข้อสงสัยต่อความหมายในบาทสุดท้าย ที่ว่า "ฝันว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร" นั้น หากติดตามข่าวสารบ้านเมืองอยู่ตลอดเวลา ย่อมเห็นแล้วว่า ปัจจุบันมีปัญหามากมาย ที่ทำให้คนส่วนมากเดือดเนื้อร้อนใจ มีแต่คนส่วนมากเรียกร้องความสงบสุขในสังคม เพื่อจะได้ตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากิน

เช่นนี้แล้ว ทำไมจึงจะไม่คิดถึงล่ะว่าวันที่ฟ้าสว่างกระจ่างแจ้งนั้นดีอย่างไร วันที่ธรรมชาติดำเนินไปอย่างถูกต้องเหมาะสมตามฤดูกาล ไร่นาประชาชนสมบูรณ์ วันที่พระบรมเดชานุภาพแผ่ไพศาล ปราศจากฝุ่นละอองใดๆ มาแผ้วพาน"

กองบรรณาธิการหวังว่า คำอธิบายความหมาย สัญลักษณ์ และเจตนาของผู้ประพันธ์ น่าจะสร้างความกระจ่างและทำให้เกิดการตีความที่สอดคล้องกับความมุ่งหมายของผู้ประพันธ์



 
กองบรรณาธิการมติชน
6 ธันวาคม 2555





เป็นคำแก้ตัวของผู้เขียนที่ฟังไม่ขึ้นเอาเลยทีเดียว  ถ้าบอกว่า"มีความหมายตรงตามตัวอักษรทุกประการ"แล้วมีอักษรตัวไหนในบทกลอน
ที่เอ่ยถึง"พระบรมเดชาเมตตาบารมี"บ้าง ?  ไม่มีเอ่ยถึงเลยแม้สักตัวเดียว  แล้วแบบนี้จะบอกว่า"มีความหมายตรงตามตัวอักษรทุกประการ"ได้อย่างไร  ฟังไม่ขึ้นครับ
                      ความจริงแล้วกลอนบทนนี้จะไม่มีปัญหาให้ต้องคิดเลย ถ้าไม่มีสองวรรคนี้

"พฤกษ์พุ่มชอุ่มช้ำท่วมน้ำตา     ฝันว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร"

ถ้าจะให้ผมตีความตามความเข้าใจในคำที่เขาใช้ก็ต้องตีความว่า"เมื่อประชาชนยังมีแต่ความทุกข์ แล้วจะบอกว่าเป็นสุขได้อย่างไร"
ผมว่า ความหมายมันน่าจะออกไปในทำนองนั้นนะ  นี่ผมตีความตามความเข้าใจในภาษาที่เขาเขียนนะครับ  มันเขียนพาให้เข้าใจไปในทำนองนั้น


ปล.ถ้าจะมีการลบกระทู้และหักคะแนน ขอให้หักทุกคนนับตั้งแต่เจ้าของกระทู้ลงมาเลยนะครับ เพื่อความยุติธรรม  อันนี้พูดไว้เผื่อว่าโดนหักนะ






ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไพร พนาวัลย์, ไร้นวล^^, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, panthong.kh, --ณัชชา--, บ้านกลอนไทย, ..กุสุมา.., แป้งน้ำ, อริญชย์, สมนึก นพ, คอนพูธน, พี.พูนสุข, เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

๐นามแฝงผู้เขียน Orion264(มือขวา),มือขวา,บูรพาทรนง-ตงฟางข้วงแขะ,สิงสู่,ต๊กโกม้อเกี่ยม-มารกระบี่เดียวดาย,
เทพเจ้าไก่
07 ธันวาคม 2012, 01:27:AM
ไร้นวล^^
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 825
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,430

โปรดแนะนำเพื่อค้ำชูภาษาไทย


« ตอบ #11 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2012, 01:27:AM »
ชุมชนชุมชน

ฮือฮืออย่าหักแต้ม          เลยครับ
อุตส่าห์งดเสียงศัพท์        โสตด้วย
ท่านนโมก็นะจับ            ประเด็นเด่น  ดุแล
หาใช่เรื่องกล้วยกล้วย      วิเคราะห์เค้นเข็ญใจ

ใช่!ผมอยากบอกให้        ไทยเรา
ทำสิ่งที่ทุเลา               ชาติบ้าง
คนละหัตถ์กล่อมเกลา      กลอนกริ่ม
ปล่อยเรื่องที่คั่งค้าง        ผิว์ชี้เชาว์ชน  สยามเฮยฯ

(กระทู้นี้นอกเหนือการเรียนภาษาไทยของผม ขอสงวนความเห็นเช่นเดิมครับ จะหักคะแนนก็อย่าให้เหลือศูนย์แต้มนะครับท่านWM ผมอายเด็กๆที่ไปอวดเก่งสอนเค้า อิอิอิ) เอ้อ..จริงว่ะ เอ้อ..จริงว่ะ หัวเราะยิ้มๆ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สายใย, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, panthong.kh, บ้านกลอนไทย, ..กุสุมา.., แป้งน้ำ, อริญชย์, สมนึก นพ, คอนพูธน, ไพร พนาวัลย์, พี.พูนสุข, พยัญเสมอ, เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แดนดินใดให้เราเกิด  เราจะเทิดทูนไว้เหนือเศียร
07 ธันวาคม 2012, 01:44:AM
สายใย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,700


ช่างเขาเฮอะ


เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2012, 01:44:AM »
ชุมชนชุมชน

  ...ไม่ชอบครับ แต่....

ไม่ชอบก็อย่าไปซื้อ มาอ่านครับ

 ดูซิว่าจะเอาทุนมาจากไหน...

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, รพีกาญจน์, บ้านกลอนไทย, ..กุสุมา.., แป้งน้ำ, อริญชย์, สมนึก นพ, คอนพูธน, ไร้นวล^^, เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
07 ธันวาคม 2012, 05:34:AM
รัตนาวดี
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 977
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,130


❤ ลองล้มลงดูบ้าง แล้วจะรู้ว่าใครยังอยู่ข้างๆเรา*¨♥


bai.bun.1
« ตอบ #13 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2012, 05:34:AM »
ชุมชนชุมชน


กองบรรณาธิการหวังว่า คำอธิบายความหมาย สัญลักษณ์ และเจตนาของผู้ประพันธ์ น่าจะสร้างความกระจ่างและทำให้เกิดการตีความที่สอดคล้องกับความมุ่งหมายของผู้ประพันธ์



 
กองบรรณาธิการมติชน
6 ธันวาคม 2555


............................................................................


ความเห็นควบกับความรู้สึก ของผู้ที่อยู่ในฐานะผู้อ่าน(คือรัตน์ค่ะ) ยิ้มหน้าใส


๑.  กลอนบทนี้ เขียนถวายพระพรเพื่อให้ประชาชนทุกท่านได้อ่าน จึงเป็นบทคิดประพันธ์ที่พิเศษและสำหรับผู้พิเศษคือท่านในหลวงผู้ซึ่งเป็นสุดที่รักของพวกเรา

ในการตั้งใจเขียนอาจจะคำนึงถึงภาษาสำหรับสามัญชนผู้อ่าน จึงไม่ใช้คำราชาศัพท์เลยที่คิดจะเขียนอวยพร

แต่หากผู้เขียนจะชี้แจงว่า ได้คำนึงหลักการสื่อความหมายที่ต้องยึดเป็นปัจจัยหลักสำคัญในการเขียน เมื่อผู้อ่านอ่านแล้วเข้าใจในความรู้สึก
     
ของท่านผู้เขียนและได้เคลิ้มตามไปด้วยนั้น  บอกตรงๆว่า...ครั้งแรกที่รัตน์กำลังอ่านเคลิ้มนึกภาพไปด้วยจริงในขณะอ่าน

แต่เพียงวรรคหักมุมจบมีความรู้สึกว่า...บาปมากค่ะ  ไม่เอาๆ

๒. แทนที่เป็นคำราชาศัพท์ ที่จะต้องช่ายกันแปลหาความหมายนั้น นี่คือหนังสือพิมพ์ที่บ่อยครั้งเขียนเป็นภาษาไทยตรงๆจริงๆ

ส่วนมากเน้นความหมาย แบบกำปั้นทุบดิน  จึงไม่ต้องแปลปรับความหมายของคำอีกหลายครั้งค่ะ ไม่ชอบเลย


สรุปนะคะ...คือ  ไม่สมควร, ไม่เหมาะสมที่ใช้เป็นกลอนถวายพระพรค่ะ  เพราะ ไม่มีคำอวยพร หรือคำสรรเสริญพระบารมีแม้แต่คำเดียว!

จากความรู้สึกรัตนาวดี ( ในฐานะผู้อ่านกลอนค่ะ)

 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, panthong.kh, น.ปฎิพน, บ้านกลอนไทย, ..กุสุมา.., แป้งน้ำ, อริญชย์, สมนึก นพ, คอนพูธน, ไพร พนาวัลย์, พี.พูนสุข, เพรางาย, ไร้นวล^^, เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..อสงไขย..ใน..ใจ..คุณ...❤... สาวน้อยเซย์ ฮาโหล.....
☆★*•.¸All You Need Is  ℒƠѵℯ ✫*¸.•*¨♥¸.•*★☆
07 ธันวาคม 2012, 07:59:AM
--ณัชชา--
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2081
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,304


เวลาเปลี่ยนไปใจไม่เคยเปลี่ยนแปลง


pim
« ตอบ #14 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2012, 07:59:AM »
ชุมชนชุมชน


เป็นคำแก้ตัวของผู้เขียนที่ฟังไม่ขึ้นเอาเลยทีเดียว  ถ้าบอกว่า"มีความหมายตรงตามตัวอักษรทุกประการ"แล้วมีอักษรตัวไหนในบทกลอน
ที่เอ่ยถึง"พระบรมเดชาเมตตาบารมี"บ้าง ?  ไม่มีเอ่ยถึงเลยแม้สักตัวเดียว  แล้วแบบนี้จะบอกว่า"มีความหมายตรงตามตัวอักษรทุกประการ"ได้อย่างไร  ฟังไม่ขึ้นครับ
                      ความจริงแล้วกลอนบทนนี้จะไม่มีปัญหาให้ต้องคิดเลย ถ้าไม่มีสองวรรคนี้

"พฤกษ์พุ่มชอุ่มช้ำท่วมน้ำตา     ฝันว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร"

ถ้าจะให้ผมตีความตามความเข้าใจในคำที่เขาใช้ก็ต้องตีความว่า"เมื่อประชาชนยังมีแต่ความทุกข์ แล้วจะบอกว่าเป็นสุขได้อย่างไร"
ผมว่า ความหมายมันน่าจะออกไปในทำนองนั้นนะ  นี่ผมตีความตามความเข้าใจในภาษาที่เขาเขียนนะครับ  มันเขียนพาให้เข้าใจไปในทำนองนั้น


ปล.ถ้าจะมีการลบกระทู้และหักคะแนน ขอให้หักทุกคนนับตั้งแต่เจ้าของกระทู้ลงมาเลยนะครับ เพื่อความยุติธรรม  อันนี้พูดไว้เผื่อว่าโดนหักนะ



ฮามาก...

--ณัชชา--

 ขำขี้แตกขี้แตน ขำขี้แตกขี้แตน



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บ้านกลอนไทย, ..กุสุมา.., แป้งน้ำ, อริญชย์, สมนึก นพ, คอนพูธน, ไพร พนาวัลย์, พี.พูนสุข, ไร้นวล^^, พยัญเสมอ, รพีกาญจน์, รัตนาวดี, เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

07 ธันวาคม 2012, 09:41:AM
..กุสุมา..
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 200
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 659

"ดอกคำหรือสีลาหรือกุสุมา"


kusuma_@windowslive.com
« ตอบ #15 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2012, 09:41:AM »
ชุมชนชุมชน


ปล.ถ้าจะมีการลบกระทู้และหักคะแนน ขอให้หักทุกคนนับตั้งแต่เจ้าของกระทู้ลงมาเลยนะครับ เพื่อความยุติธรรม  อันนี้พูดไว้เผื่อว่าโดนหักนะ  ขอจีบ...ได้ป่ะ

 ยิ้มแฉ่งฟันหลอ ในฐานะคนอ่านกลอน.. ออกมาแสดงตัวยอมรับผิดชอบให้หักคะแนนเจ้าค่ะ
ไม่ขอแก้ตัวใดๆ เพราะตัวเองรับรู้อยู่แก่ใจ
คือความจริง.. ได้เข้ามาอ่านกลอน
ในกระทู้นี้จริง ยินยอมให้หักคะแนนด้วยเจ้าค่ะ  ขำแบบกระแดะหน่อยๆ
..กุสุมา.. สาวน้อยหัวเราะ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : แป้งน้ำ, อริญชย์, สมนึก นพ, คอนพูธน, ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ไร้นวล^^, พยัญเสมอ, เพรางาย, เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
07 ธันวาคม 2012, 09:59:AM
hort39
ผู้ดูแลทุกบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 389
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,223


คำพูดที่ให้ร้าย ไม่อาจเปลียนแปลงความจริงทีผ่านมา


« ตอบ #16 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2012, 09:59:AM »
ชุมชนชุมชน

กลอนบทนี้จะไม่มีปัญหาเลย ถ้าไม่ได้บอกว่าเป็นกลอน ถวายพระพร  เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : แป้งน้ำ, อริญชย์, สมนึก นพ, คอนพูธน, ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ไร้นวล^^, พยัญเสมอ, เพรางาย, รัตนาวดี, เนิน จำราย, ratikal

ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

07 ธันวาคม 2012, 10:33:AM
แป้งน้ำ
ผู้ดูแลทุกบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 647
ออนไลน์ ออนไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,303


เธอไม่เคยคิดผูกพัน ~ฉันเข้าใจ


pages/กลอนเปล่า/497809993644244
เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2012, 10:33:AM »
ชุมชนชุมชน

...แบบว่า....ใครแสดงความเห็น หักคะแนนด้วยกันคนล่ะสิบแต้มดีไหมครับ   ซุบซิบนินทา
...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 1 ชั่วโมงที่แล้ว โดย บ้านกลอนไทย »


                   . . เพิ่งมาบอกเนี่ยนะ !! . . แลบลิ้น..กวนทีน


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, สมนึก นพ, yaguza, คอนพูธน, ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ไร้นวล^^, พยัญเสมอ, เพรางาย, รัตนาวดี, เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

07 ธันวาคม 2012, 11:05:AM
คอนพูธน
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 345
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 130


ร้อยคำพวงบรรเลงเพลง


« ตอบ #18 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2012, 11:05:AM »
ชุมชนชุมชน

คลุมเครือ
๏ พจีกระทบหวังเพื่อสะท้าน                   พิเศษไทย  พิสูจน์เทอญ
รักย่อมใจถึงใจ                                                            กล่าวแจ้ง
ประพนธ์เสนอดั่งประสงค์ไฉน                           คลุมนั่น  เครือเนอ
ทลายศักดิ์กระแทกกระทำแสร้ง   ลิขิตสร้างสะเทือนสรวง  พิศุทธิ์นอ

๏ ลวงเสนอสลดสื่อฉะนี้                             หลอกสนาน  ตลอดนา
เฉพาะกิจปราศอุดมการณ์                                              พวกเกื้อ
อาศิรวาทขับเสมือนขาน                                   ประจงขุ่น  ควรฤๅ
แสดงเช่นทุรลักษณ์เชื้อ                         เขย่าชั้นพิมานฉม  ฉายแล
                                                                คอนพูทน

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : hort39, อริญชย์, ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ไร้นวล^^, พยัญเสมอ, เพรางาย, สุวรรณ, รัตนาวดี, เนิน จำราย, พิมพ์วาส

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

๏ ขอบคุณทุกภาพครั้น  จากเนตหยิบมานั้น  พร่างนี้พลอยสนาน  เพียงนา๚ะ๛
07 ธันวาคม 2012, 12:04:PM
พรายม่าน
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 548
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 556


Praiman CharlesTep CharlesTep
เว็บไซต์
« ตอบ #19 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2012, 12:04:PM »
ชุมชนชุมชน


โชยสาบหยาบช้าสาไถย
อุปมาอุปมัยแอบหมก
จ้วงจาบปลาบปลื้มลืมนรก
อาเศียรเสียดดกสีดำ ฯ


พรายม่าน
สันทราย
๗ ธันวาคม ๒๕๕๕

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : hort39, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, อริญชย์, blues, พยัญเสมอ, รัตนาวดี, ไร้นวล^^, บ้านกลอนไทย, เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หน้า: [1] 2
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s