หนึ่งฤดูสู่ชื่นตื่นตามฝัน
เมื่อเหมันต์นั้นใกล้ดวงใจเผย
สิ่งกังวลในอกตระหนกเคย
นำเอื้อนเอ่ยเปรยความตามกังวล
คนอยู่เดียวเปลี่ยวปรางแก้มนางผ่าว
สะบัดร้อนสะบัดหนาวสาวหมองหม่น
ให้เย็นวาบอาบเสียวเกี่ยวกมล
ส่ายสายตาหาคนร่วมปรนเปรอ
หนุ่มชะเง้อเผลอปองจองน้องหญิง
ผู้งามพริ้งจริงเจียวเทียวเสนอ
แต่ต้องถอยหงอยตรมขมละเมอ
สินสอดเธอหลายเงินต้องเดินซึม
บรรยากาศหาคู่เร่งรู้ผล
เพียงหนึ่งคนคู่ครองต้องนั่งขรึม
อยากโห่ร้องคล้องเคียงเสียงโจ๊ะพรึม
แต่มืดครึ้มแสงสวาทไม่สาดทรวง
หรือจะต้องอ้างว้างอย่างปีก่อน
หรือจะวอนงอนง้อขอแดนสรวง
หรือต้องยอมจำนนบนแดดวง
หรือทั้งปวงต้องการ..ทรมานคน
เมื่อหนาวมาผวาใจ..ใช่แต่สาว
อกปวดร้าวในชายมากสายสน
ยิ่งร้าวหนักหักสวาทพิฆาตตน
หนุ่มยากจน สาวไหน ใครเขาแล..
"บ้านริมโขง"
๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
หนึ่งฤดู เหมันต์ ผันมาหา
ยามนิทรา อาวรณ์ สะท้อนแข
ให้หนาวเหน็บ เจ็บปวด รวดร้าวแด
กมลแย่ แพ้ทาง อย่างสิ้นเชิง
หนึ่งฤดู รู้ข่าว ไม่พราวใส
ยอกรอยใจ ไห้หวน ครวญเถลิง
แสนหวั่นเอ๋ย หวั่นจิต ดั่งพิษเพลิง
หลงระเริง ยามหนาว สาวเปลี่ยวใจ
อยากจะหา ชายคู่ ดูเหมาะสม
เชยภิรมย์ สมสอง ปองรักใคร่
ทั้งสี่ห้อง ครองสุข ไม่ทุกข์ใด
ยลฤทัย ยามรัก ปักชีวัน
เหมือนงมเข็ม ในน้ำ ช้ำยิ่งนัก
เหมือนจมปรัก หักกลาง ร้างเสกสรรค์
เหมือนสุรีย์ มืดมน ทนจาบัลย์
เหมือนเทวา ห่ำหั่น กลั่นแกล้งเอา
จึงไร้คู่ ชูชื่น กลืนกล้ำหมอง
จึงไร้คู่ จดจ้อง ร้องอับเฉา
จึงไร้คู่ ทุกครั้ง นั่งซึมเซา
จึงไร้คู่ อย่างเก่า เขาลืมเลือน
พันทอง