23 ตุลาคม 2012, 11:07:AM |
อังศุมาลิน
|
|
« เมื่อ: 23 ตุลาคม 2012, 11:07:AM » |
ชุมชน
|
วิกฤติใจ ยามหนาว ปวดร้าวนัก
งานชะงัก จิตชำรุด สุดต้านไหว
คนคุ้นหน้า มาหักอก ฟกช้ำใน
นอนซมไข้ ระบมแผล แพ้พิษรัก
วิกฤติใจ จวนตัว แสนมัวพร่า
ติดบ่วงในเสน่หา คราประจักษ์
หลอกให้เราศรัทธา สามิภักดิ์
แล้วสมัครเปิดใจใครอีกคน
ให้มันเจ็บกว่านี้อีกกี่เท่า
ถึงจะลืมใครเขา ทำเราหม่น
เอามีดดาบ หอกใหญ่แทงใจตน
หรือจะพ้น ทาสรัก กันสักที[/i]
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ตะวันฉาย, เนิน จำราย, บ้านริมโขง, รพีกาญจน์, ไร้นวล^^, ไพร พนาวัลย์, รัตนาวดี, อริญชย์, saknun, ชลนา ทิชากร, Moo Dum, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ดุลย์ ละมุน, พิมพ์วาส, ปาระ, ดาว อาชาไนย, ปู่ริน
ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
23 ตุลาคม 2012, 11:39:AM |
ตะวันฉาย
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2012, 11:39:AM » |
ชุมชน
|
๐ ไร้รู้สึก สำนึกใด ๐
...เมื่อหัวอกตกยากลำบากแย่ นี่เพียงแค่ขั้นต้นสุดทนต้าน ต่อมน้ำตาพาพรั่งพรูช่างรู้งาน อีกกี่นาน..กี่เนิ่น..เชิญกระทำ
...กระทืบถีบบีบลงตรงยอดอก กระแทกตกชกต่อยที่รอยจ้ำ กระทุ้งลงตรงหัวใจที่ไม่จำ กระทั่งช้ำซ้ำให้หัวใจชา
...ไม่รับรู้..รับรส..ทุกบทเศร้า ไม่รับเข้า..เข่นประสาท..หวาดผวา ไม่รับแล้ว..รสเจ็บ..เหน็บอุรา เชิญประดังประดา..มาให้พอ
...ชินชาแล้วรสร้าว..ที่เข้าล้ำ ชินชาช้ำสิ้นเชื้อ..ไม่เหลือหลอ ไว้รับรองหมองหม่น..เพียงต้นตอ ที่แทบฝ่อ..ไร้รู้สึกสำนึกใด...
ตะวันฉาย
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เนิน จำราย, บ้านริมโขง, รพีกาญจน์, ไร้นวล^^, ไพร พนาวัลย์, รัตนาวดี, อังศุมาลิน, อริญชย์, saknun, ชลนา ทิชากร, Moo Dum, ยามพระอาทิตย์อัสดง, panthong.kh, ดุลย์ ละมุน, ปาระ, ดาว อาชาไนย, ปู่ริน
ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
ว่างเปล่า
|
|
|
23 ตุลาคม 2012, 07:58:PM |
ไร้นวล^^
ผู้ดูแลบอร์ด
คะแนนกลอนของผู้นี้ 825
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1,430
โปรดแนะนำเพื่อค้ำชูภาษาไทย
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2012, 07:58:PM » |
ชุมชน
|
อยากจะมอบ มธุพจน์ เป็นบทหวาน หวังนงคราญ คลายครวญ รักรวนไหล เผื่อจะผ่อน ร้อนระแหง มีแรงใจ พร้อมพบใคร สักคน เพื่อพ้นตรอม
แต่มิอาจ วาดหวัง เผลอพลั้งพัทธ์ ไม่สันทัด เรื่องอะไหล่ เก็บใจซ่อม กลัวต่อผิด พิษซ่าน จนผลาญจอม จึงขอยอม ห่วงห่างห่าง จากทางไกล
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ตะวันฉาย, รพีกาญจน์, อังศุมาลิน, อริญชย์, saknun, ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร, Moo Dum, ยามพระอาทิตย์อัสดง, panthong.kh, ดุลย์ ละมุน, ปาระ, บ้านริมโขง, พิมพ์วาส, ปู่ริน
ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
แดนดินใดให้เราเกิด เราจะเทิดทูนไว้เหนือเศียร
|
|
|
04 พฤศจิกายน 2012, 08:37:PM |
|
|
04 พฤศจิกายน 2012, 09:35:PM |
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 3482
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,752
ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2012, 09:35:PM » |
ชุมชน
|
มีอะไร ไม่รู้ อยู่ตรงนั้น ฟังซิมัน ทะเล้น เต้นถี่ห่าง ทั้งวาบหวิว สยิวกาย แทบวายวาง เมื่อเห็นร่าง หยุดปั๊บ ลงฉับพลัน
พอคิดถึง ทีไร ใจจะขาด ตกเป็นทาส รักเธอ ละเมอฝัน มิพบหน้า คราหนึ่ง เพียงครึ่งวัน เกิดเสียวสั่น เสียดแทง แยงข้างใน
หมอบาร์นาร์ด พากเพียร เวียนหลายครั้ง แต่คงยัง ส่ายหน้า ว่าผมไม่ เป็นรายแรก แสนโศก โรคหัวใจ แต่หายได้ ไม่ยาก นอกจากเธอ...?
รพีกาญจน์ 59
|
|
|
|
05 พฤศจิกายน 2012, 07:05:AM |
|
|
05 พฤศจิกายน 2012, 12:06:PM |
พิมพ์วาส
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2012, 12:06:PM » |
ชุมชน
|
เอยทาสรักหนักอกเหมือนหมกไหม้ เผาผลาญไฟใจม้วยด้วยแรงหลง เสียดแทงย่ำช้ำชอกค้อนตอกลง ขยี้ผงส่งโปรยโรยพื้นดิน
เอยกระอักรักหนอทาสขอย้ำ ข่มเหงทำช้ำเกินจะเมินผิน รักเอยรักหักรอน..อาทรริน สมดังจินต์วิญญาแสนอาดูร
|
ความผกผันของเวลา เฉือนเจตนาของอารมณ์
|
|
|
05 พฤศจิกายน 2012, 12:42:PM |
ปาระ
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2012, 12:42:PM » |
ชุมชน
|
รักระริน กลิ่นกรุ่น ละมุนอก ใจจึงเผลอ เพลินตก อกสิ้นสูญ รักรานร้าว หนาวเหน็บ เจ็บอากูล น้ำตาพูล พรูพรั่ง หลั่งไหลริน
เป็นทาสรัก หนักหน่วง ในดวงจิต ดังต้องพิษ ศรพรหม ภิรมย์ศิลป์ ให้เจ็บแปลบ แสบทรวง ในดวงจิน รักระริน ร้าวลึก ให้นึกตรม
|
|
|
|
05 พฤศจิกายน 2012, 12:49:PM |
พิมพ์วาส
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2012, 12:49:PM » |
ชุมชน
|
ให้นึกตรอมพร้อมขื่นสะอื้นช้ำ รักระกำย่ำยีบดบี้ขม เหลือแต่คราบน้ำตารินมาพรม ใจซานซมบ่มทุกข์ละสุขไกล
โอ้ว่ารักหนักอกวิตกจิต อ้างชีวิตปลิดทิ้งดิ่งลงไหม? เอยว่าคว้างกลางทรวงแดดวงใจ ของรักใครให้คิดสัดนิดน้อย
|
ความผกผันของเวลา เฉือนเจตนาของอารมณ์
|
|
|
05 พฤศจิกายน 2012, 01:47:PM |
บ้านริมโขง
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2012, 01:47:PM » |
ชุมชน
|
วิกฤติใจ ยามหนาว ปวดร้าวนัก
งานชะงัก จิตชำรุด สุดต้านไหว
คนคุ้นหน้า มาหักอก ฟกช้ำใน
นอนซมไข้ ระบมแผล แพ้พิษรัก
วิกฤติใจ จวนตัว แสนมัวพร่า
ติดบ่วงในเสน่หา คราประจักษ์
หลอกให้เราศรัทธา สามิภักดิ์
แล้วสมัครเปิดใจใครอีกคน
ให้มันเจ็บกว่านี้อีกกี่เท่า
ถึงจะลืมใครเขา ทำเราหม่น
เอามีดดาบ หอกใหญ่แทงใจตน
หรือจะพ้น ทาสรัก กันสักที นำอารมณ์ถมวางเป็นทางก้าว วางทอดยาวหรือสั้นอันใดนี่ แล้วแต่คนคู่ครองมองไมตรี จะเรียบดีหรือหลุมบ่อล้วนก่อกัน
เมื่อรักสุขทุกข์ใดไม่กรายใกล้ ต่างแจ่มใสได้ชื่นรื่นสุขสันต์ ต่างถนอมกล่อมใจใส่รำพัน เสพรักนั้นสุขแสนดั่งแดนอินทร์
แต่ยามใดใจขื่นไร้ชื่นสุข กลับร้าวรุกว่าใครไม่ถวิล ข่มเหงใจเป็นทาสบาดชีวิน กลับกลายสิ้นจากเดิม..เติมอารมณ์
อะไรหรือคือรักมักใฝ่หา อยากไขว่คว้าหาสู่เป็นคู่สม ยอมเป็นทาสปรารถนามาชื่นชม ยอมตรอมตรมขมขื่น..ฝืนทำไม
เหมือนมีรักกลับนำความช้ำสู่ ขาดรับรู้หมู่เหล่าเฝ้าหลงใหล ยังลำพองคะนองเผ่นเล่นกับไฟ ร้อนมือไหม้ไห้โหย..โอยโอดครวญ
ต้องยอมรับกับชะตาถ้าสมัคร ลงเล่นรัก ตักฝันอันหอมหวน ต้องยอมรับดีชั่วทั่วกระบวน อย่าทิ้งทวน โทษทั่ว..โทษตัวเรา..
"บ้านริมโขง" ๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
|
|
|
|
05 พฤศจิกายน 2012, 03:06:PM |
ปู่ริน
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2012, 03:06:PM » |
ชุมชน
|
ความรักเหมือนยาขมข่มตรมหม่นหมอง ใครใคร่ลองลงเล่นเป็นเหี่ยวเฉา มัวมั่วมืดสับสนจนซึมเซา ด้วยหัวใจที่ปวดเร้าจะปลิดปลง
ทาสความรักยิ่งรักจริงยิ่งน่าคิด ทำให้จิตฟุ้งซ่านไปไม่ประสงค์ อบายมุขทาสอารมณ์ข่มให้ลง เดี๋ยวงวยงงเพ้อพร่ำเพียงรำพัน
กินไม่ได้นอนไม่หลับกรัสับกระส่าย แสนวุ่นวายหน่ายจิตคิดไหวหวั่น จึงหนีร้างห่างไกลจากแจ่มจันทร์ อำเภอดีศรีประจัน..ถิ่นบ้านเดิม.
ริน ดอนบูรพา ๕ พ.ย. ๕๕
|
|
|
|
|