๐ เวลาที่คิดว่าพอ...กลับไม่พอให้พูดคำ "ลา" ๐
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
22 พฤศจิกายน 2024, 10:53:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ๐ เวลาที่คิดว่าพอ...กลับไม่พอให้พูดคำ "ลา" ๐  (อ่าน 3180 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
09 ตุลาคม 2012, 03:39:PM
ตะวันฉาย
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 427
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,159



« เมื่อ: 09 ตุลาคม 2012, 03:39:PM »
ชุมชนชุมชน





๐ เวลาที่คิดว่าพอ...กลับไม่พอให้พูดคำ "ลา"  ๐


    ๐  เวลาเริ่มคำว่า "เรา" ก็เข้านับ
แย้มประดับดวงใจใส่ทุกที่
อุ่นไอรักประทับนับเป็นปี
รักล้นปรี่ซาบทรวงดวงกมล

   ๐  ก่อประกายสายรู้งเป็นคุ้งโค้ง
เชื่อมผูกโยงสองเราเข้าอีกหน
คำว่าเราถักเถาเป็นเงาปน
ก่อนสับสน,คำเปลี่ยน,มาเฆี่ยนตี

   ๐  ค่าติดลบตัดฉากฝากรอยร้าว
ก่อนจะก้าวลาห่างต่างวิถี
ร้างเยื่อใยสวาทขาดไมตรี
สิ้นราตรีก็ขาดเราเป็นเงาพลัน

   ๐  ภายในใจลึก-ลึกจารึกอยู่
แง้มประตูดวงใจไม่เคยผัน
เพราะรักมากจากทรวงดวงชีวัน
แม้สิ้นกัน...แต่ฉันยัง...คงรักเธอ...

   ๐  เวลาที่คิดว่ามากมาย
แต่ก็พ่ายความห่างวางเสนอ
แม้คำ "ลา" ไม่มีสิทธิ์ได้พบเจอ
ยังพร่ำเพ้อเพียงพกวกวนวนเลือน

   ๐  ขอเอ่ยคำว่า "ลาก่อน" ทอนกลอนแนบ
ขออิงแอบตัวหนังสือเป็นสื่อเคลื่อน-
ทุกสิ่งฝันจากนี้,ลี้ลางเลือน
ก่อนเฉือดเฉือนด้วยเวลานำมากรอ

   ๐  ทุกตัวตน,กลกานท์บนลานนี้
ขอจบที่ "หัวใจฉัน" เมื่อมันท้อ
เจ็บเพียงไรขอรับไปให้เพียงพอ
ใช่ตัดพ้อก่อนจากเป็นฉากกลอน...

ปล...สิ้นอักษร  ณ  ที่นี่ เวลานี้
ทุกข์เต็มที่แล้วหนาดั่งถูกศร
สิ้นกวีฯที่รักขอพักจรฯ
ณ โคราชา อาวรณ์ สะท้อนคำฯ

ปล...อุทิศแด่ความรู้สึกที่จากไป แม้แต่คำลาใด-ใด
ฉัน,เธอ ก็ไม่เคยได้เอ่ยมันเลยแม้แต่น้อย

ตะวันฉาย  ฉัตรบงกช


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : navee, ไพร พนาวัลย์, ดุลย์ ละมุน, บ้านริมโขง, เนิน จำราย, ชลนา ทิชากร, อริญชย์, panthong.kh, รพีกาญจน์, ไร้นวล^^, พี.พูนสุข, จะไม่เด็ด, เศษเหล็ก//, มนัสศิยา, บ้านกลอนไทย

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ว่างเปล่า
09 ตุลาคม 2012, 05:18:PM
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,422


นักร้อง


paobunjin
« ตอบ #1 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2012, 05:18:PM »
ชุมชนชุมชน


ซึ้งจัง     ลาตายดีกว่าตู     ซึ้งจัง

ครั้งที่เรา จากกัน ในวันก่อน
แสนอาวรณ์ ขมขื่น สุดกลืนกล้ำ
แต่ก็ยัง มั่นคง ความทรงจำ
ที่ตอกย้ำ แผลใจ ให้ทุกข์ตรม

ในวันนั้น ฉันใกล้ คนไร้ค่า
ถูกเฉยชา ชิงชัง ดั่งเรือล่ม
จึงต้องจำ จากไกล ก่อนใจจม
สุดฝืนข่ม ก้มหน้า แทบบ้าบอ

มาวันนี้ เธอออก มาตอกย้ำ
ด้วยถ้อยคำ ช้ำใน พาใจฝ่อ
เอ่ยคำลา ช้าไปยัง ไม่พอ
ยังรีรอ ก่อไฟ จนไหม้ดำ

เราจากกัน มาแล้ว ยังแว่วเสียง
จึ่งขอเลี่ยง หลบไกล ไม่ร้องร่ำ
ขอให้เธอ ฟังหน่อย แม้น้อยคำ
คนใจช้ำ “ขอลา” ด้วยอาทร  ขอจุ๊บ..หน่อย

“ไพร พนาวัลย์”

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ชลนา ทิชากร, อริญชย์, panthong.kh, รพีกาญจน์, ไร้นวล^^, เนิน จำราย, ดุลย์ ละมุน, พี.พูนสุข, จะไม่เด็ด, มนัสศิยา, บ้านกลอนไทย, ตะวันฉาย

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

09 ตุลาคม 2012, 07:08:PM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #2 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2012, 07:08:PM »
ชุมชนชุมชน

ซึ้งจัง ซึ้งจัง ลาตายดีกว่าตู ลาตายดีกว่าตู
จะลาไป เชิญเลย ไม่เคยท้วง
จะไม่หวง ห่วงหา อย่ามาอ้อน
จะไม่รั้ง เธอไว้ แม้ไกลจร
จะไม่วอน งอนง้อ ชอเชิญไป

ไม่ต้องลี ลามาก ให้หลากเรื่อง
ไม่ต้องเปลือง น้ำตา พาหมั่นไส้
ไม่ต้องขอ ชาตินี้ ไม่มีใจ
ไม่อยากไล่ ไสส่ง จงไปดี

อย่าได้หวน ครวญคร่ำ ถ้าลำบาก
อย่ามาฝาก คำกลอน อ้อนที่นี่
อย่ามาทำ ให้สงสาร ซ่านชีวี
อย่าพิรี้ พิไร ให้ใจตรม

พอกันที ที่รัก เธอผลักไส
พอกันที เยื่อใย ให้ขื่นขม
พอกันที สี่ห้อง ร้องซานซม
พอกันที ฤดีล่ม จมแดเดียว
พันทอง
 ลาตายดีกว่าตู ชอบใจๆ แบร่ๆ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไพร พนาวัลย์, ไร้นวล^^, เนิน จำราย, ชลนา ทิชากร, รพีกาญจน์, ดุลย์ ละมุน, พี.พูนสุข, บ้านกลอนไทย, ตะวันฉาย

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
09 ตุลาคม 2012, 10:00:PM
จะไม่เด็ด
Special Class LV4
นักกลอนรอบรู้กวี

****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 109
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 440



« ตอบ #3 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2012, 10:00:PM »
ชุมชนชุมชน



ค่ำคืนหนาวร้าวรานถึงลานฝัน
ใจหนาวสั่นไร้แท้คนแลเหลียว
สาวตีจากด้วยซ้ำย้ำจริงเชียว
เหลือผู้เดียวห่อเหี่ยวเปลี่ยวเอกา

หากโลกไร้ซึ่งรักจักหมองหม่น
จะยินยลฝั่งใหนให้ผวา
แม้นไร้ซึ่งความรักปักมนตรา
จะควานหาสิ่งใดก็ไร้แวว

ขอความรักจงอยู่ผู้ทั้งผอง
รักพี่น้องเพื่อนใจไม่คลาดแคล้ว
โลกน่าอยู่ด้วยรักเป็นหลักแนว
ไม่มีแล้วที่งดงามกว่าความรัก

จึงได้เขียนถ้อยกลอนอ้อนผู้อ่าน
ถึงร้าวรานตกบ่วงอย่างหน่วงหนัก
อย่าได้ทิ้งทอดอาลัยในเรื่องรัก
เพราะแน่นัก..คืออกหัก..ดีกว่ารักไม่เป็น...อิอิ..แบบว่า..ไม่รู้สิ




...อ่านกลอนแล้วเข้าถึงอารมณ์และร่วมแจมครับ..สบายดีกันนะครับ
เอ้อ..จริงว่ะ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, Prapacarn ❀, เนิน จำราย, มนัสศิยา, บ้านกลอนไทย, ตะวันฉาย, ดุลย์ ละมุน, ไพร พนาวัลย์, อริญชย์

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
10 ตุลาคม 2012, 01:27:AM
มนัสศิยา
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 64
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 122


ผู้ที่ต้องการถ่ายทอดความรู้สึกออกมาเป็นตัวอักษร


Siraprapa Suchat
« ตอบ #4 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2012, 01:27:AM »
ชุมชนชุมชน

    ในวันนั้นฉันและเธอเผลอลืมคิด
ว่าชีวิตมิเที่ยงแท้ต้องแปลผัน
ปล่อยเวลาล่วงเลยไปไม่สำคัญ
ไม่เคยหันมาเอื้อนเอ่ยเฉลยใจ

    ด้วยประมาทขลาดเขลาเราจึงพลาด
ทำให้หมดโอกาสจะแก้ไข
เพราะกาลมิอาจหวนทวนย้อนไป
จึ่งทำให้เราสองต้องห่างกัน

    แม้นเพียงคำล่ำลาสักคราหนึ่ง
ก็มิเคยได้ซึ้งตรึงใจฝัน
ฟ้าบันดาลให้เราพรากจากโดยพลัน
ยังมิทันได้เตรียมใจให้แกร่งพอ

    ในวันนี้ความเสียใจมีให้เห็น
เหตุใดกันจึงเป็นเช่นนี้หนอ
หากรู้ว่าเวลามีไม่มากพอ
คงจักมิรั้งรออีกต่อไป

มนัสศิยา

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, ตะวันฉาย, ดุลย์ ละมุน, ไพร พนาวัลย์, อริญชย์, เนิน จำราย, จะไม่เด็ด

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

นักเขียนฝึกหัด มนัสยา
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s