*****“จะได้ไหม”?*****
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
26 พฤศจิกายน 2024, 03:03:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: *****“จะได้ไหม”?*****  (อ่าน 8528 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
09 ตุลาคม 2012, 08:40:AM
สุนันยา
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 799
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,805


ความรักของฉัน อยู่ในบทวี จบบทกวี ก็ไม่มีความรัก


« เมื่อ: 09 ตุลาคม 2012, 08:40:AM »
ชุมชนชุมชน




**สายฝนพรม ลมผ่าน จากม่านฟ้า
โปรยปรายมา พาใจ ให้คิดหวน
คำนึงถ้อย ร้อยความ ส่งสำนวน
ที่อบอวล ไออุ่น คนคุ้นเคย

**เย็นพระพาย โบกโบย ระโรยรื่น
คราค่ำคืน ชื่นคำลำนำเผย
สื่อสารคลอ ลมเคล้า หยอกเย้าเปรย
ที่เอื้อนเอ่ย เฉลยค่า ปักตราตรึง

**สายสัมพันธ์ ผันไป เพราะไหวอ่อน
หากคืนย้อน วอนพร่ำ คำคิดถึง
“จะได้ไหม”? ดังก่อน อ้อนรำพึง
ด้วยครั้งหนึ่ง เคยนิยม คมกลอนกานท์

**สายฝนริน หลั่งซ้ำ จนย่ำรุ่ง
ละอองคลุ้ง คละเคล้า เข้าผสาน
ไอหมอกขาว พราวผ่อง ดั่งท้องธาร
โอ้..ดวงมาน เหน็บหนาว ร้าวเหลือเกิน

**เพราะไม่รู้ คำตอบ ที่มอบกลับ
จะยิ้มรับ หรือกลาย คล้ายห่างเหิน
หวั่นกมล หม่นเศร้า หากเขาเมิน
ให้ต้องเดิน ดายเดียวไม่เหลียวมอง

**นั่งดูฝน หล่นหลั่ง เพียงหวังว่า
เมื่อฝนซา พารื่น คืนสนอง
ได้เห็นแสง งามเรื่อ เจือสีทอง
สมใจปอง ครองชื่น ฟื้นสัมพันธ์....


“สุนันยา”

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ดุลย์ ละมุน, ไพร พนาวัลย์, มนัสศิยา, บ้านริมโขง, panthong.kh, พี.พูนสุข, รัตนาวดี, saknun, พ่อค้าพเนจร, อริญชย์, เนิน จำราย, เศษเหล็ก//, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, บ้านกลอนไทย, บูรพาท่าพระจันทร์

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ชะตาชีวิต ลิขิตผกผัน....ดิ้นรนฝ่าฟัน..เพื่อฝันที่มี
09 ตุลาคม 2012, 12:49:PM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #1 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2012, 12:49:PM »
ชุมชนชุมชน


สายฝนยัง พรำอยู่ ไม่รู้หาย
เย็นพระพาย ยังพัด สบัดนั่น
ท้องฟ้ายัง ดำมืด ไม่จืดกัน
ดวงตะวัน ไม่เห็น เด่นบนฟ้า

มองลอดช่อง หน้าต่าง บางครั้งเหม่อ
หวังเพียงเธอ มองกลับ จับดวงหน้า
สุดสายใย ใจเฝ้า เนาแนบมา
จนอุรา ป่วนปั่น หวั่นดวงแด

มองลอดช่อง หน้าต่าง พลางใจสั่น
ฝนตกพลัน อย่างหนัก ชักจะแย่
ถ้ามีเขา อยู่ด้วย ช่วยดูแล
ถึงจะแย่ ยังสู้ไหว ใจสองเรา

มองลอดช่อง หน้าต่าง ระหว่างซี่
สายฝนรี่ เร่งเกิน เพลินตกเข้า
หากสายฝน ซาลง คงใจเบา
จะรอเขา คนนั้น หันกลับมา
พันทอง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สุนันยา, ดุลย์ ละมุน, รัตนาวดี, saknun, บ้านริมโขง, พ่อค้าพเนจร, อริญชย์, ไพร พนาวัลย์, เนิน จำราย, เศษเหล็ก//, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ชลนา ทิชากร, บ้านกลอนไทย, บูรพาท่าพระจันทร์

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
09 ตุลาคม 2012, 01:20:PM
ดุลย์ ละมุน
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 342
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 486


กลั่นอักษร หมายอ้อนเธอ


« ตอบ #2 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2012, 01:20:PM »
ชุมชนชุมชน




**สายฝนพรม ลมผ่าน จากม่านฟ้า
โปรยปรายมา พาใจ ให้คิดหวน
คำนึงถ้อย ร้อยความ ส่งสำนวน
ที่อบอวล ไออุ่น คนคุ้นเคย

**เย็นพระพาย โบกโบย ระโรยรื่น
คราค่ำคืน ชื่นคำลำนำเผย
สื่อสารคลอ ลมเคล้า หยอกเย้าเปรย
ที่เอื้อนเอ่ย เฉลยค่า ปักตราตรึง

**สายสัมพันธ์ ผันไป เพราะไหวอ่อน
หากคืนย้อน วอนพร่ำ คำคิดถึง
“จะได้ไหม”? ดังก่อน อ้อนรำพึง
ด้วยครั้งหนึ่ง เคยนิยม คมกลอนกานท์

**สายฝนริน หลั่งซ้ำ จนย่ำรุ่ง
ละอองคลุ้ง คละเคล้า เข้าผสาน
ไอหมอกขาว พราวผ่อง ดั่งท้องธาร
โอ้..ดวงมาน เหน็บหนาว ร้าวเหลือเกิน

**เพราะไม่รู้ คำตอบ ที่มอบกลับ
จะยิ้มรับ หรือกลาย คล้ายห่างเหิน
หวั่นกมล หม่นเศร้า หากเขาเมิน
ให้ต้องเดิน ดายเดียวไม่เหลียวมอง

**นั่งดูฝน หล่นหลั่ง เพียงหวังว่า
เมื่อฝนซา พารื่น คืนสนอง
ได้เห็นแสง งามเรื่อ เจือสีทอง
สมใจปอง ครองชื่น ฟื้นสัมพันธ์....


“สุนันยา”


ยังหมายคอย ร้อยฝัน คืนวันเก่า
วันมีเจ้า เราสอง ครองสวรรค์
จูบเย้ยดาว พราวทรวง ท้าดวงจันทร์
แม้นเทวา ราชันย์ ต้องหันอาย

แต่วันนี้ พี่ใกล้ ใจจะขาด
เหมือนสิ้นชาติ วาสนา อุราหาย
อันชาติเสือ เหลืออวด คือลวดลาย
แต่ชาติชาย ตายอนาถ ถ้าขาดนาง

พี่ยอมทิ้ง หญิงใด ในไตรภพ
ใจสยบ ซบเพียง เจ้าเคียงข้าง
ถึงเพชรนิล จินดา มามอบวาง
มิเทียบปราง พร่างเย้า ของเจ้าเลย

ยังคิดถึง ตรึงตรา ไม่ซาสร่าง
ยามเจ้าร้าง ลาไกล โอ้ใจเอ๋ย
ความระทม ตรมเหงา เข้ามาเกย
แต่มิเคย คิดคด หมดรักเธอ
 เอ้อ..จริงว่ะ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : saknun, บ้านริมโขง, รัตนาวดี, สุนันยา, พ่อค้าพเนจร, อริญชย์, panthong.kh, ไพร พนาวัลย์, เนิน จำราย, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ชลนา ทิชากร, บูรพาท่าพระจันทร์

ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
09 ตุลาคม 2012, 01:40:PM
saknun
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 245
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 940



« ตอบ #3 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2012, 01:40:PM »
ชุมชนชุมชน

ถ้าสวรรค์ รับฝาก ก็หากให้
เพราะว่าใจ มีเขา เฝ้าเสมอ
จึงไม่อาจ เปลี่ยนไป เพราัะมีเธอ
ใครว่าเพ้อ ครวญคำ ย้ำใจเดียว

ตั้งแต่นี้ ต่อไป ใจเรียกหา
วันเวลา พาให้ ใจสั่นเสียว
อาจจะเเป็น เพราะรัก ภักดิ์คนเดียว
ไม่มองเหลียว หญิงใด ให้ใจตรม

มีแต่เขา เท่านั้น ที่มั่นรัก
ยอมทุ่มเท มอบพักตร์ ประจักษ์สม
ยอมทุกเมื่อ ก็เพื่อ เชื่ออารมย์
ที่เคยตรม ไม่นาน ก็ผ่านไป

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สุนันยา, พ่อค้าพเนจร, อริญชย์, panthong.kh, ไพร พนาวัลย์, ดุลย์ ละมุน, เนิน จำราย, เศษเหล็ก//, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ชลนา ทิชากร, บูรพาท่าพระจันทร์

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
09 ตุลาคม 2012, 02:46:PM
สุนันยา
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 799
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,805


ความรักของฉัน อยู่ในบทวี จบบทกวี ก็ไม่มีความรัก


« ตอบ #4 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2012, 02:46:PM »
ชุมชนชุมชน


สายฝนยัง พรำอยู่ ไม่รู้หาย
เย็นพระพาย ยังพัด สบัดนั่น
ท้องฟ้ายัง ดำมืด ไม่จืดกัน
ดวงตะวัน ไม่เห็น เด่นบนฟ้า

มองลอดช่อง หน้าต่าง บางครั้งเหม่อ
หวังเพียงเธอ มองกลับ จับดวงหน้า
สุดสายใย ใจเฝ้า เนาแนบมา
จนอุรา ป่วนปั่น หวั่นดวงแด

มองลอดช่อง หน้าต่าง พลางใจสั่น
ฝนตกพลัน อย่างหนัก ชักจะแย่
ถ้ามีเขา อยู่ด้วย ช่วยดูแล
ถึงจะแย่ ยังสู้ไหว ใจสองเรา

มองลอดช่อง หน้าต่าง ระหว่างซี่
สายฝนรี่ เร่งเกิน เพลินตกเข้า
หากสายฝน ซาลง คงใจเบา
จะรอเขา คนนั้น หันกลับมา
พันทอง

สายฝนพรำซ้ำซากเหมือนฝากถ้อย
ให้คนคอย พลอยขื่น สะอื้นหา
ดังตอกย้ำ นำห็น เป็นน้ำตา
ที่หลั่งมา รินแต้ม สองแก้มนวล

ต้องโศกเศร้า กมล ทนหนาวเหน็บ
ยามกลืนเก็บ ร้าวรอน นอนไห้หวน
โอ้อกเอ๋ย เคยร้อย ส่งถ้อยครวญ
กลับเรรวน แรมร้าง เดินห่างไกล

มองลอดช่อง หน้าต่าง กี่ครั้งหน
ยังมีฝน หล่นลง คงหวั่นไหว
เขาไม่หวนคืนกลับ ลาลับไป
หมดสิ้นแล้ว เยื่อใย ทิ้งให้ตรม

เหม่อมองฟ้า คราหม่น ยามฝนสาด
ดังหยดหยาด น้ำตา คราขื่นขม
เมื่อไหร่หนอ สิ้นเหงา หมดเศร้าตรม
ขอวอนพรหม นำชัก มอบรักคืน...

“สุนันยา”
 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, saknun, ไพร พนาวัลย์, ดุลย์ ละมุน, รัตนาวดี, เนิน จำราย, เศษเหล็ก//, อริญชย์, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ชลนา ทิชากร, บูรพาท่าพระจันทร์

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ชะตาชีวิต ลิขิตผกผัน....ดิ้นรนฝ่าฟัน..เพื่อฝันที่มี
09 ตุลาคม 2012, 03:35:PM
สุนันยา
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 799
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,805


ความรักของฉัน อยู่ในบทวี จบบทกวี ก็ไม่มีความรัก


« ตอบ #5 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2012, 03:35:PM »
ชุมชนชุมชน




**สายฝนพรม ลมผ่าน จากม่านฟ้า
โปรยปรายมา พาใจ ให้คิดหวน
คำนึงถ้อย ร้อยความ ส่งสำนวน
ที่อบอวล ไออุ่น คนคุ้นเคย

**เย็นพระพาย โบกโบย ระโรยรื่น
คราค่ำคืน ชื่นคำลำนำเผย
สื่อสารคลอ ลมเคล้า หยอกเย้าเปรย
ที่เอื้อนเอ่ย เฉลยค่า ปักตราตรึง

**สายสัมพันธ์ ผันไป เพราะไหวอ่อน
หากคืนย้อน วอนพร่ำ คำคิดถึง
“จะได้ไหม”? ดังก่อน อ้อนรำพึง
ด้วยครั้งหนึ่ง เคยนิยม คมกลอนกานท์

**สายฝนริน หลั่งซ้ำ จนย่ำรุ่ง
ละอองคลุ้ง คละเคล้า เข้าผสาน
ไอหมอกขาว พราวผ่อง ดั่งท้องธาร
โอ้..ดวงมาน เหน็บหนาว ร้าวเหลือเกิน

**เพราะไม่รู้ คำตอบ ที่มอบกลับ
จะยิ้มรับ หรือกลาย คล้ายห่างเหิน
หวั่นกมล หม่นเศร้า หากเขาเมิน
ให้ต้องเดิน ดายเดียวไม่เหลียวมอง

**นั่งดูฝน หล่นหลั่ง เพียงหวังว่า
เมื่อฝนซา พารื่น คืนสนอง
ได้เห็นแสง งามเรื่อ เจือสีทอง
สมใจปอง ครองชื่น ฟื้นสัมพันธ์....


“สุนันยา”


ยังหมายคอย ร้อยฝัน คืนวันเก่า
วันมีเจ้า เราสอง ครองสวรรค์
จูบเย้ยดาว พราวทรวง ท้าดวงจันทร์
แม้นเทวา ราชันย์ ต้องหันอาย

แต่วันนี้ พี่ใกล้ ใจจะขาด
เหมือนสิ้นชาติ วาสนา อุราหาย
อันชาติเสือ เหลืออวด คือลวดลาย
แต่ชาติชาย ตายอนาถ ถ้าขาดนาง

พี่ยอมทิ้ง หญิงใด ในไตรภพ
ใจสยบ ซบเพียง เจ้าเคียงข้าง
ถึงเพชรนิล จินดา มามอบวาง
มิเทียบปราง พร่างเย้า ของเจ้าเลย

ยังคิดถึง ตรึงตรา ไม่ซาสร่าง
ยามเจ้าร้าง ลาไกล โอ้ใจเอ๋ย
ความระทม ตรมเหงา เข้ามาเกย
แต่มิเคย คิดคด หมดรักเธอ
 เอ้อ..จริงว่ะ



ยินคำร้อย ถ้อยรัก สลักสเลา
ว่ายังเฝ้า คอยวัน มั่นเสมอ
ไม่เคยลืมความหลัง เมื่อครั้งเจอ
หวานจริงเออ คำรัก ที่ทักทาย

แล้วกระไร ใจพี่นี้จะขาด
ดุจมิอาจ เคียงอยู่ เป็นคู่หมาย
หรือน้ำคำ พร่ำเผย ที่เปรยปราย
เป็นแค่เพียง น้ำลาย ระบายวาง

จริงหรือที่ พี่ทิ้ง หญิงในภพ
ยอมสยบ เพียงน้อง สิ้นหมองหมาง
หวั่นฤดี พี่ชาย เมื่อปลายทาง
ปล่อน้องนาง ครางครวญ ด้วยรวนเร

หากคิดถึง ตรึงตรา ไม่ซาสร่าง
หวังพี่สร้าง แรงใจ ไม่หักเห
ส่งลำนำ คำร้อย คอยทุ่มเท
อย่าใช้เล่ห์ คำลวง พาร่วงโรย....

“สุนันยา”
 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไพร พนาวัลย์, ดุลย์ ละมุน, รัตนาวดี, เนิน จำราย, อริญชย์, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ชลนา ทิชากร, บูรพาท่าพระจันทร์

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ชะตาชีวิต ลิขิตผกผัน....ดิ้นรนฝ่าฟัน..เพื่อฝันที่มี
09 ตุลาคม 2012, 03:53:PM
สุนันยา
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 799
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,805


ความรักของฉัน อยู่ในบทวี จบบทกวี ก็ไม่มีความรัก


« ตอบ #6 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2012, 03:53:PM »
ชุมชนชุมชน

ถ้าสวรรค์ รับฝาก ก็หากให้
เพราะว่าใจ มีเขา เฝ้าเสมอ
จึงไม่อาจ เปลี่ยนไป เพราัะมีเธอ
ใครว่าเพ้อ ครวญคำ ย้ำใจเดียว

ตั้งแต่นี้ ต่อไป ใจเรียกหา
วันเวลา พาให้ ใจสั่นเสียว
อาจจะเป็น เพราะรัก ภักดิ์คนเดียว
ไม่มองเหลียว หญิงใด ให้ใจตรม

มีแต่เขา เท่านั้น ที่มั่นรัก
ยอมทุ่มเท มอบพักตร์ ประจักษ์สม
ยอมทุกเมื่อ ก็เพื่อ เชื่ออารมย์
ที่เคยตรม ไม่นาน ก็ผ่านไป


หากสวรรค์ ปราณี อย่าหนีจาก
ช่วยรับฝากดวงแดเพื่อแก้ไข
ความระทม ตรมสลด ให้หมดไป
มีแต่ความ สดใส ละไมทรวง

โปรดถนอม กล่อมขวัญ ทุกวันชื่น
ซับสะอื้น ห่างคล้อย และคอยหวง
อย่าให้น้อง หมองไหม้ เมื่อไกลรวง
พี่อย่าควง ใครอื่น ให้ขื่นตรม

มีเพียงเรา เท่านั้น ที่พันผูก
ต้นรักปลูก หวังรอ ช่อสุขสม
ดอกรักบาน หวานรับ กับฝนพรม
ท้าสายลม คราหนาว สองเราครอง...

“สุนันยา”

 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไพร พนาวัลย์, ดุลย์ ละมุน, รัตนาวดี, เนิน จำราย, บ้านริมโขง, เศษเหล็ก//, อริญชย์, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ชลนา ทิชากร, บ้านกลอนไทย, บูรพาท่าพระจันทร์

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ชะตาชีวิต ลิขิตผกผัน....ดิ้นรนฝ่าฟัน..เพื่อฝันที่มี
09 ตุลาคม 2012, 04:05:PM
saknun
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 245
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 940



« ตอบ #7 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2012, 04:05:PM »
ชุมชนชุมชน

ฟังแล้วชื่น หัวใจ อย่างใหญ่หลวง
ไม่อาจควง แขนใคร ให้เศร้าหมอง
มีคนเดียว ในใจ ไร้คนปอง
เพราะเจ้าของ ตีตรา ราคาแพง

เพราะแกมี เราจน ทนต่อสู้
พายุหรู ชื่อนี้ ที่แสลง
แกมี มีแกเลย แพ้อ่อนแรง
ทำทีแกล้ง กระหนำ ฝนพร่ำซา

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไพร พนาวัลย์, ดุลย์ ละมุน, รัตนาวดี, เนิน จำราย, สุนันยา, อริญชย์, รพีกาญจน์, บ้านริมโขง, พี.พูนสุข, ชลนา ทิชากร, บ้านกลอนไทย, บูรพาท่าพระจันทร์

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
09 ตุลาคม 2012, 04:52:PM
เนิน จำราย
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 637
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,224



« ตอบ #8 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2012, 04:52:PM »
ชุมชนชุมชน


สายฝนยัง พรำอยู่ ไม่รู้หาย
เย็นพระพาย ยังพัด สบัดนั่น
ท้องฟ้ายัง ดำมืด ไม่จืดกัน
ดวงตะวัน ไม่เห็น เด่นบนฟ้า

มองลอดช่อง หน้าต่าง บางครั้งเหม่อ
หวังเพียงเธอ มองกลับ จับดวงหน้า
สุดสายใย ใจเฝ้า เนาแนบมา
จนอุรา ป่วนปั่น หวั่นดวงแด

มองลอดช่อง หน้าต่าง พลางใจสั่น
ฝนตกพลัน อย่างหนัก ชักจะแย่
ถ้ามีเขา อยู่ด้วย ช่วยดูแล
ถึงจะแย่ ยังสู้ไหว ใจสองเรา

มองลอดช่อง หน้าต่าง ระหว่างซี่
สายฝนรี่ เร่งเกิน เพลินตกเข้า
หากสายฝน ซาลง คงใจเบา
จะรอเขา คนนั้น หันกลับมา
พันทอง

สายฝนพรำซ้ำซากเหมือนฝากถ้อย
ให้คนคอย พลอยขื่น สะอื้นหา
ดังตอกย้ำ นำห็น เป็นน้ำตา
ที่หลั่งมา รินแต้ม สองแก้มนวล

ต้องโศกเศร้า กมล ทนหนาวเหน็บ
ยามกลืนเก็บ ร้าวรอน นอนไห้หวน
โอ้อกเอ๋ย เคยร้อย ส่งถ้อยครวญ
กลับเรรวน แรมร้าง เดินห่างไกล

มองลอดช่อง หน้าต่าง กี่ครั้งหน
ยังมีฝน หล่นลง คงหวั่นไหว
เขาไม่หวนคืนกลับ ลาลับไป
หมดสิ้นแล้ว เยื่อใย ทิ้งให้ตรม

เหม่อมองฟ้า คราหม่น ยามฝนสาด
ดังหยดหยาด น้ำตา คราขื่นขม
เมื่อไหร่หนอ สิ้นเหงา หมดเศร้าตรม
ขอวอนพรหม นำชัก มอบรักคืน...

“สุนันยา”
 เคารพรัก


พระพรหมสร้างทางฝันแจ่มบรรเจิด   
กอรักเกิดฉ่ำชุ่มชอุ่มชื่น
ผลิใบดอกเฉิดฉันเร่งวันคืน      
แย้มหยัดยืนชูช่อรอตะวัน

       พระอิศวรด่วนขัดตัดสวาท                       
หมายพิฆาตสิเน่หาให้อาสัญ
พรากเนื้อนวลแยกใจห่างไกลกัน      
โอ้สวรรค์ลำเอียงขาดเที่ยงธรรม

พระนารายณ์ได้เห็นเนื้อเย็นเศร้า      
ประโลมเจ้าว่าอย่าตรมเลยคมขำ
ปล่อยทุกอย่างวางเถิดเกิดแต่กรรม             
แล้วตรัสคำบอกโฉมตรูจะดูแล

               เนิน จำราย

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไพร พนาวัลย์, สุนันยา, อริญชย์, รพีกาญจน์, บ้านริมโขง, ดุลย์ ละมุน, พี.พูนสุข, บูรพาท่าพระจันทร์

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
09 ตุลาคม 2012, 07:37:PM
บ้านริมโขง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 869
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,026



« ตอบ #9 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2012, 07:37:PM »
ชุมชนชุมชน





ฯ ล ฯ

**นั่งดูฝน หล่นหลั่ง เพียงหวังว่า
เมื่อฝนซา พารื่น คืนสนอง
ได้เห็นแสง งามเรื่อ เจือสีทอง
สมใจปอง ครองชื่น ฟื้นสัมพันธ์....


“สุนันยา”



เหมือนรักนั้น มันจบ เคยลบจาก
เหมือนรักฝาก จากไป ให้เหหัน
เหมือนหัวใจ กลับฟื้น จากคืนวัน
เหมือนเธอ-ฉัน นั้นเหลือ เอื้ออาวรณ์

มี “อภัย” คำนี้ ที่สมาน
มี “คำหวาน” เพราะพริ้ง สิ่งรื้อถอน
มี “หัวใจ” ตรงกัน ไม่บั่นทอน
มี “ทุกข์” สอน ยามห่าง แรมร้างกัน

เมื่อต่างรู้ “ไร้สุข” มาซุกซบ
ขมขื่นขบ กลบทางหว่างสุขสันต์
ชีวิตเหมือน เบือนบิดติดรำพัน
มีแต่ “เรา” เท่านั้นที่ปั้นวาง

หากหัวใจ  เปิดให้ แสงไฟส่อง
เปิดปากปล่อง กล่องสวาท ไม่พาดขวาง
หากยอมรับ กับอภัย ไม่แคลงคราง
รักเคยร้าง ห่างหาย..ได้คืนครอง.

"บ้านริมโขง"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, อริญชย์, รพีกาญจน์, ไพร พนาวัลย์, เนิน จำราย, สุนันยา, ดุลย์ ละมุน, พี.พูนสุข, บ้านกลอนไทย, บูรพาท่าพระจันทร์, saknun

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

09 ตุลาคม 2012, 08:48:PM
สุนันยา
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 799
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,805


ความรักของฉัน อยู่ในบทวี จบบทกวี ก็ไม่มีความรัก


« ตอบ #10 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2012, 08:48:PM »
ชุมชนชุมชน

พระพรหมสร้างทางฝันแจ่มบรรเจิด   
กอรักเกิดฉ่ำชุ่มชอุ่มชื่น
ผลิใบดอกเฉิดฉันเร่งวันคืน      
แย้มหยัดยืนชูช่อรอตะวัน

       พระอิศวรด่วนขัดตัดสวาท                       
หมายพิฆาตสิเน่หาให้อาสัญ
พรากเนื้อนวลแยกใจห่างไกลกัน      
โอ้สวรรค์ลำเอียงขาดเที่ยงธรรม

พระนารายณ์ได้เห็นเนื้อเย็นเศร้า      
ประโลมเจ้าว่าอย่าตรมเลยคมขำ
ปล่อยทุกอย่างวางเถิดเกิดแต่กรรม             
แล้วตรัสคำบอกโฉมตรูจะดูแล

               เนิน จำราย

พระพรหมท่าน ลืมมอง คนหมองหม่น 
ปล่อยให้ทน หวั่นไหว ไม่แยแส 
เหมือนบิดเบือน เลื่อนล้ำ ให้ช้ำแด   
สร้างรอยแผล กลางทรวง เป็นบ่วงตรม

       พระอิศวรรวนเรจึงเหหัก                       
อนาถนัก รักเอย เลยขื่นขม
ไม่มีสิ่งที่หมาย มาคลายปม     
สวรรค์ล่ม กลางสรวง จนล่วงเลย

พระนารายณ์ไกลหางเส้นทางฝัน     
มิใช่จันทร์ แสงทอง งามผ่องเผย
ไม่มีทาง ประสงค์ ร่วมลงเอย             
ท่านชื่นเชย นางฟ้า สง่าองค์         

“สุนันยา”
 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไพร พนาวัลย์, อริญชย์, ไร้นวล^^, ชลนา ทิชากร, รพีกาญจน์, เนิน จำราย, บ้านกลอนไทย, บูรพาท่าพระจันทร์

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ชะตาชีวิต ลิขิตผกผัน....ดิ้นรนฝ่าฟัน..เพื่อฝันที่มี
09 ตุลาคม 2012, 10:05:PM
สุนันยา
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 799
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,805


ความรักของฉัน อยู่ในบทวี จบบทกวี ก็ไม่มีความรัก


« ตอบ #11 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2012, 10:05:PM »
ชุมชนชุมชน





ฯ ล ฯ

**นั่งดูฝน หล่นหลั่ง เพียงหวังว่า
เมื่อฝนซา พารื่น คืนสนอง
ได้เห็นแสง งามเรื่อ เจือสีทอง
สมใจปอง ครองชื่น ฟื้นสัมพันธ์....


“สุนันยา”



เหมือนรักนั้น มันจบ เคยลบจาก
เหมือนรักฝาก จากไป ให้เหหัน
เหมือนหัวใจ กลับฟื้น จากคืนวัน
เหมือนเธอ-ฉัน นั้นเหลือ เอื้ออาวรณ์

มี “อภัย” คำนี้ ที่สมาน
มี “คำหวาน” เพราะพริ้ง สิ่งรื้อถอน
มี “หัวใจ” ตรงกัน ไม่บั่นทอน
มี “ทุกข์” สอน ยามห่าง แรมร้างกัน

เมื่อต่างรู้ “ไร้สุข” มาซุกซบ
ขมขื่นขบ กลบทางหว่างสุขสันต์
ชีวิตเหมือน เบือนบิดติดรำพัน
มีแต่ “เรา” เท่านั้นที่ปั้นวาง

หากหัวใจ  เปิดให้ แสงไฟส่อง
เปิดปากปล่อง กล่องสวาท ไม่พาดขวาง
หากยอมรับ กับอภัย ไม่แคลงคราง
รักเคยร้าง ห่างหาย..ได้คืนครอง.

"บ้านริมโขง"

เพียง แค่รู้ ยาใจ มิไสผลัก
เพียง แค่รัก ปักทรวง ห่วงสนอง
เพียง แค่เธอ หยิบยื่น หวังชื่นปอง
เพียง แค่คอย ประคอง ปกป้องกัน

มี “คำคม” พรมหว่าน หวานอ้อนออด
มี “รักพลอด” คอยพร่ำ ลำนำฝัน
มี “ อุปสรรค” ใดมา ร่วมฝ่าฟัน
มี”สองใจ”ผูกพัน อย่างมั่นคง

เรา ต่างรู้ ค่ากัน เมื่อวันจาก
เรา อย่าพราก หลีกไกล พาไหลหลง
เรา ต้องหมั่น ยึดถือ ความซื่อตรง
เรา มีรักยืนยง ร่วมลงเอย

สองหัวใจ  เปิดรับ ไม่สับสน
ฟังเหตุผล ยลจิต มืปิดเฉย
ต่างอภัย ให้กัน วันเกินเลย
รักสองเรา เปิดเผย เชยชื่นทรวง

“สุนันยา”
 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, เนิน จำราย, บ้านกลอนไทย, บ้านริมโขง, อริญชย์, บูรพาท่าพระจันทร์

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ชะตาชีวิต ลิขิตผกผัน....ดิ้นรนฝ่าฟัน..เพื่อฝันที่มี
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s