14 กันยายน 2012, 02:57:PM |
อริญชย์
|
|
« เมื่อ: 14 กันยายน 2012, 02:57:PM » |
ชุมชน
|
เสียงเพลงถิ่นพงไพร
สายธารใสไหลหล่อเลี้ยงพอเพียงค่า สายแห่งความเมตตาจากฟ้าฝน สายรุ้งพร่างธารางามน่ายล สายใยคนพื้นบ้านเนิ่นนานปี
เพรงกาลเก่าทุกเมื่อเกวียนเกื้อหนุน โคเคลื่อนหมุนเดินทางไปต่างถิ่น บรรทุกสิ่งของมาเป็นอาจิณ บัดนี้สิ้นมนต์เกวียนกาลเปลี่ยนไป
แสงทองทาบทุ่งข้าวหมอกขาวม่าน นกกากล่อมกังวานบินผ่านทุ่ง เสียงจิ้งหรีดแว่วมาร่วมผดุง เป็นสื่อมุ่งเรื่องราวของชาวนา
เรียงคำหวานวาบหวิวแผ่วพลิ้วไหว ลอยผ่านธารพงไพรด้วยใจหมาย สื่อสาส์นถึงคนไกลอยู่ไม่คลาย เพลงสุดท้ายก่อนลาน้ำตาคลอ
มนต์เสียงขลุ่ยสะดุดสิ้นสุดแล้ว ปานดั่งแก้วแตกอย่างไร้ทางหวน สายธารแห่งความฝันเคยรัญจวน เพลงคร่ำครวญเท่านั้นฤๅมั่นคง
แสงเรืองรองทาบทาทุ่งสวรรค์ เสียงไก่ขันก้องทุ่งยามรุ่งสาง เรไรร้องพรอดพร่ำซ่อนอำพราง เพลงกล่อมบางลูกทุ่งผดุงไทย ฯ
๑๕/๙/๒๕๕๕
ปล.เป็นการปรับแต่งจากโคลง “เสียงเพลงถิ่นพงไพร” มาเป็นกลอน แต่ไม่สัมผัสกันเลย ฮ่ะ ฮ่ะ ใครจะลองเชื่อมกลอนดูก็แต่งแทรกให้สัมผัสในแต่ละบทได้เลยนะ ทุกท่าน
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไร้นวล^^, รัตนาวดี, D, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ดุลย์ ละมุน, บัณฑิตเมืองสิงห์, ไม่รู้ใจ, สุนันยา, Music, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, Charlie, พยัญเสมอ, ไพร พนาวัลย์, บูรพาท่าพระจันทร์, ชลนา ทิชากร
ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
|
|
|
14 กันยายน 2012, 03:47:PM |
รัตนาวดี
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 14 กันยายน 2012, 03:47:PM » |
ชุมชน
|
เสียงเพลงถิ่นพงไพร
สายธารใสไหลหล่อเลี้ยงพอเพียงค่า สายแห่งความเมตตาจากฟ้าฝน สายรุ้งพร่างธารางามน่ายล สายใยคนพื้นบ้านเนิ่นนานปี
...เหล่าแม่บ้าน ผ่านมา บอกว่าสวย รีบหากล้วย ช่วยขน คนละหวี พร้อม น้ำตาล หวานจ๋อย อร่อยมี ช่วยกันเชื่อม เร็วรี่ พี่อริญชย์...
เพรงกาลเก่าทุกเมื่อเกวียนเกื้อหนุน โคเคลื่อนหมุนเดินทางไปต่างถิ่น บรรทุกสิ่งของมาเป็นอาจิณ บัดนี้สิ้นมนต์เกวียนกาลเปลี่ยนไป
...จึงย้ายหมู่ บางครั้ง ไปนั่งเชื่อม กะทะเก่า จนเสื่อม เชื่อมไม่ได้ พี่อริญชย์ ชินช่วย ด้วยเร็วไว เดี๋ยวกล้วยงอม เกินใฝ่ ไร้คนมุง...
แสงทองทาบทุ่งข้าวหมอกขาวม่าน นกกากล่อมกังวานบินผ่านทุ่ง เสียงจิ้งหรีดแว่วมาร่วมผดุง เป็นสื่อมุ่งเรื่องราวของชาวนา
......วันนี้ใคร่ กางเพิง เชิงหมาแหงน นั่งรอแฟน มาช่วย เชื่อมกล้วยหนา สี่โมงไย ไร้เงา ใครเข้ามา กล้วยงอมเฉา แล้วหนา จะบ้าตาย...
เรียงคำหวานวาบหวิวแผ่วพลิ้วไหว ลอยผ่านธารพงไพรด้วยใจหมาย สื่อสาส์นถึงคนไกลอยู่ไม่คลาย เพลงสุดท้ายก่อนลาน้ำตาคลอ
...จึงเก็บของ ข้องใจ มือไม้สั่น เอากล้วยหั่น กวนหมาย น้ำลายล่อ กลิ่นกวนหอม ย้อมจินต์ คนกินพอ หากพี่มา ต้องรอ ช่วยห่อกวน...
มนต์เสียงขลุ่ยสะดุดสิ้นสุดแล้ว ปานดั่งแก้วแตกอย่างไร้ทางหวน สายธารแห่งความฝันเคยรัญจวน เพลงคร่ำครวญเท่านั้นฤๅมั่นคง
...ยามเห็นอ้าย ช่วยใจ ยิ่งใฝ่นัก ยามกวนทัก ยิ้มไป ส่งใจหลง ยามเพลินกวน ชวนว่า อย่ายืนตรง รีบรีบส่ง ยิ้มหา สบตาพลาง...
แสงเรืองรองทาบทาทุ่งสวรรค์ เสียงไก่ขันก้องทุ่งยามรุ่งสาง เรไรร้องพรอดพร่ำซ่อนอำพราง เพลงกล่อมบางลูกทุ่งผดุงไทย ฯ
๑๕/๙/๒๕๕๕
ปล.เป็นการปรับแต่งจากโคลง “เสียงเพลงถิ่นพงไพร” มาเป็นกลอน แต่ไม่สัมผัสกันเลย ฮ่ะ ฮ่ะ ใครจะลองเชื่อมกลอนดูก็แต่งแทรกให้สัมผัสในแต่ละบทได้เลยนะ ทุกท่าน
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ดุลย์ ละมุน, บัณฑิตเมืองสิงห์, อริญชย์, ไม่รู้ใจ, สุนันยา, Music, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, Charlie, พยัญเสมอ, ไพร พนาวัลย์, บูรพาท่าพระจันทร์, ไร้นวล^^
ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
14 กันยายน 2012, 05:10:PM |
บัณฑิตเมืองสิงห์
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 14 กันยายน 2012, 05:10:PM » |
ชุมชน
|
เสียงเพลงถิ่นพงไพร
สายธารใสไหลหล่อเลี้ยงพอเพียงค่า สายแห่งความเมตตาจากฟ้าฝน สายรุ้งพร่างธารางามน่ายล สายใยคนพื้นบ้านเนิ่นนานปี
ครวญลำนำคำกลอนคนอ้อนหา ใช้เกี้ยวพานงคราญสำราญศรี เพลงเกี่ยวข้าวร้องเล่นบรรเลงตี สุนทรีคีตกานต์ซ่านชีวิน
เพรงกาลเก่าทุกเมื่อเกวียนเกื้อหนุน โคเคลื่อนหมุนเดินทางไปต่างถิ่น บรรทุกสิ่งของมาเป็นอาจิณ บัดนี้สิ้นมนต์เกวียนกาลเปลี่ยนไป
เป็นเครื่องจักรกลเหล็กเจ๊กมาขาย ทำงานง่ายกว่าโคโอ้สมัย พัฒนาก้าวหน้ากว่ายุคไพร นาสดใสสวยแผ่มิแพ้กรุง
แสงทองทาบทุ่งข้าวหมอกขาวม่าน นกกากล่อมกังวานบินผ่านทุ่ง เสียงจิ้งหรีดแว่วมาร่วมผดุง เป็นสื่อมุ่งเรื่องราวของชาวนา
ทั้งกบเขียดแว่วเสียงอยู่เคียงไถ แลน้ำใสเห็นชัดเป็นมัจฉา อภิรมย์ชมข้าวคล้ายกานดา สวยสง่าหน้านวลเย้ายวนชาย
เรียงคำหวานวาบหวิวแผ่วพลิ้วไหว ลอยผ่านธารพงไพรด้วยใจหมาย สื่อสาส์นถึงคนไกลอยู่ไม่คลาย เพลงสุดท้ายก่อนลาน้ำตาคลอ
จึงขอฝากสายลมให้สมนึก ให้รู้สึกมธุรสใจจดจ่อ กับลำนำคำรักที่ถักทอ มิให้ท้อผู้ฟังยังทบทวน
มนต์เสียงขลุ่ยสะดุดสิ้นสุดแล้ว ปานดั่งแก้วแตกอย่างไร้ทางหวน สายธารแห่งความฝันเคยรัญจวน เพลงคร่ำครวญเท่านั้นฤๅมั่นคง
จึงมิเหลือสิ่งใดให้หวนคิด ลำนำจิตใจเอยเคยประสงค์ ยังเหลือแต่บางอย่างวางดำรง กระทบตรงสองหูสู่สรรพางค์
แสงเรืองรองทาบทาทุ่งสวรรค์ เสียงไก่ขันก้องทุ่งยามรุ่งสาง เรไรร้องพรอดพร่ำซ่อนอำพราง เพลงกล่อมบางลูกทุ่งผดุงไทย ฯ บัณฑิตเมืองสิงห์
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไม่รู้ใจ, อริญชย์, สุนันยา, Music, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, Charlie, พยัญเสมอ, ไพร พนาวัลย์, บูรพาท่าพระจันทร์, ไร้นวล^^
ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
14 กันยายน 2012, 07:40:PM |
Music
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 14 กันยายน 2012, 07:40:PM » |
ชุมชน
|
|
...อย่าคิดว่ายาก.แต่ทำได้../..ควรทำให้ได้.แม้มันจะยาก...
|
|
|
14 กันยายน 2012, 10:00:PM |
ไร้นวล^^
ผู้ดูแลบอร์ด
คะแนนกลอนของผู้นี้ 825
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1,430
โปรดแนะนำเพื่อค้ำชูภาษาไทย
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 14 กันยายน 2012, 10:00:PM » |
ชุมชน
|
เสียงเพลงถิ่นพงไพร
สายธารใสไหลหล่อเลี้ยงพอเพียงค่า สายแห่งความเมตตาจากฟ้าฝน สายรุ้งพร่างธารางามน่ายล สายใยคนพื้นบ้านเนิ่นนานปี
แสงส่องซ้องทำนองเสียงร้องพริ้ว พร่ำพร่ำผิวเพลงทุ่งรับรุ้งสี แมลงปอคลอครวญม่วนฤดี ท้องถิ่นนี้วันวานสำราญจินต์
เพรงกาลเก่าทุกเมื่อเกวียนเกื้อหนุน โคเคลื่อนหมุนเดินทางไปต่างถิ่น บรรทุกสิ่งของมาเป็นอาจิณ บัดนี้สิ้นมนต์เกวียนกาลเปลี่ยนไป
หยาดน้ำค้างพร่างพรมพฤกษ์ชมชื่น ชุ่มทั้งผืนท้องนากล้าไสว ขอบคันนานุ่มเสน่ห์เสียงเรไร กบตัวใหญ่หมอบใต้ใบพยุง
แสงทองทาบทุ่งข้าวหมอกขาวม่าน นกกากล่อมกังวานบินผ่านทุ่ง เสียงจิ้งหรีดแว่วมาร่วมผดุง เป็นสื่อมุ่งเรื่องราวของชาวนา
เฝ้าครวญคิดสะกิดใจตามสายฝน ถึงวิมลผู้ผ่องพักตร์เมื่อปักกล้า สองหนุ่มสาวเคล้าเคียงข้างคันนา ป้อนข้าวปลาหนุนตักนิ่มอย่างพริ้มพราย
เรียงคำหวานวาบหวิวแผ่วพลิ้วไหว ลอยผ่านธารพงไพรด้วยใจหมาย สื่อสาส์นถึงคนไกลอยู่ไม่คลาย เพลงสุดท้ายก่อนลาน้ำตาคลอ
ท่วงทำนองซอซึงซ่อนซึ้งซ้อน แม่งามงอนเงียบหายง่ายจริงหนอ ลืมแล้วหรือรอยไถรอยไพรพ้อ รอยที่รอรักเร้าอย่างเย้ายวน
มนต์เสียงขลุ่ยสะดุดสิ้นสุดแล้ว ปานดั่งแก้วแตกอย่างไร้ทางหวน สายธารแห่งความฝันเคยรัญจวน เพลงคร่ำครวญเท่านั้นฤๅมั่นคง
เมื่อนวลน้องได้ยินอย่าสิ้นหวัง กลับมายังท้องนานะนวลหงส์ กลับมาปักกล้านั้นให้มั่นคง ช่วยชูชงโชยชื่นชีวาพลาง
แสงเรืองรองทาบทาทุ่งสวรรค์ เสียงไก่ขันก้องทุ่งยามรุ่งสาง เรไรร้องพรอดพร่ำซ่อนอำพราง เพลงกล่อมบางลูกทุ่งผดุงไทย ฯ
๑๕/๙/๒๕๕๕
ปล.เป็นการปรับแต่งจากโคลง “เสียงเพลงถิ่นพงไพร” มาเป็นกลอน แต่ไม่สัมผัสกันเลย ฮ่ะ ฮ่ะ ใครจะลองเชื่อมกลอนดูก็แต่งแทรกให้สัมผัสในแต่ละบทได้เลยนะ ทุกท่าน
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, Charlie, yaguza, พี.พูนสุข, พยัญเสมอ, อริญชย์, บัณฑิตเมืองสิงห์, ไพร พนาวัลย์, ไม่รู้ใจ, Music, บูรพาท่าพระจันทร์
ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
แดนดินใดให้เราเกิด เราจะเทิดทูนไว้เหนือเศียร
|
|
|
15 กันยายน 2012, 01:43:AM |
พรายม่าน
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 15 กันยายน 2012, 01:43:AM » |
ชุมชน
|
เสียงเพลงถิ่นพงไพร
สายธารใสไหลหล่อเลี้ยงพอเพียงค่า สายแห่งความเมตตาจากฟ้าฝน สายรุ้งพร่างธารางามน่ายล สายใยคนพื้นบ้านเนิ่นนานปี
แต่สายสนกลทุนนั้นขุ่นนัก เปลี่ยนสายซื่อถือภักดิ์ เป็นพรายผี เลือนรุ้งสายกลายจริงสบสิงคลี สะบั้นใยย่ำยี มิอยากยิน
เพรงกาลเก่าทุกเมื่อเกวียนเกื้อหนุน โคเคลื่อนหมุนเดินทางไปต่างถิ่น บรรทุกสิ่งของมาเป็นอาจิณ บัดนี้สิ้นมนต์เกวียนกาลเปลี่ยนไป
เหลือแต่ร้อนรุมเร้าที่เร่ารุด กับโคขุนเคียงหยุด บนจานใหญ่ จากเกวียนกงปลงโฉมเป็นโคมไฟ มนต์ที่ไหม้เหมือดลับอับจรุง
แสงทองทาบทุ่งข้าวหมอกขาวม่าน นกกากล่อมกังวานบินผ่านทุ่ง เสียงจิ้งหรีดแว่วมาร่วมผดุง เป็นสื่อมุ่งเรื่องราวของชาวนา
นับเนาเนิ่นตำนานเหลือกาลนั้น คงแต่คราบหมอกควันให้ฟันฝ่า นกเรียงก่ายสายไฟใต้ชายคา เนื่องทุ่งท่าถมถิ่นเป็นหินทราย
เรียงคำหวานวาบหวิวแผ่วพลิ้วไหว ลอยผ่านธารพงไพรด้วยใจหมาย สื่อสาส์นถึงคนไกลอยู่ไม่คลาย เพลงสุดท้ายก่อนลาน้ำตาคลอ
หากเหลือหลงสงสารรอยธารเก่า เสียงแหบเจือจะถึงเจ้าหรือเปล่าหนอ ห่วงแต่หวังวาดไว้ยังไม่พอ เจ้าหรือรอแลกพร้อมจนยอมทวน
มนต์เสียงขลุ่ยสะดุดสิ้นสุดแล้ว ปานดั่งแก้วแตกอย่างไร้ทางหวน สายธารแห่งความฝันเคยรัญจวน เพลงคร่ำครวญเท่านั้นฤๅมั่นคง
ชอบอยู่ชั้นอันประสิทธ์อามิสเถิด อย่างกาเกิดแกล้งเล่นอยากเป็นหงส์ แม้นไกลนี้หวังน้อยจะคอยปลง กับภาพพงไพรเก่าเงารางราง
แสงเรืองรองทาบทาทุ่งสวรรค์ เสียงไก่ขันก้องทุ่งยามรุ่งสาง เรไรร้องพรอดพร่ำซ่อนอำพราง เพลงกล่อมบางลูกทุ่งผดุงไทย ฯ
|
|
|
|
15 กันยายน 2012, 08:43:PM |
|
|
|