ภายในห้อง : (เรื่องเล่าของเขาสองคน) : และความมืดมนในหัวใจ
บนเส้นทางกว้างไกล โลกใบหนึ่ง
หน้าต่างขึงตรึงลวด – และขวดเหล้า
เสียงหายใจไล่ถี่ปรี่บางเบา
กับหนึ่งเงาเศร้าหมองในห้องดำ
หรี่ตะเกียงเพียงน้อยพลอยอ่อนแสง
เส้นทแยงแหว่งเว้า-เย้าเยาะขำ
ฝนเริ่มรินร่วงตก – ห้องรกจำ-
รีบเร่งทำทีเก็บเหน็บซอกมุม
กระจกหม่นฝนจู่ประตูเปิด
ไอเย็นเกิดการปะทะ ใจกลุ้ม
นอนห่มผ้าตาตื่นเร่งรีบคลุม
ก่อไฟสุมอุ้มเอาไออุ่นรอน
หยดฝนลัดกัดแทะและเซาะเหล็ก
ในเรื่องเล็กหลายลากใจอยากซ่อน
ทุกทุกสิ่งนิ่งหยุดรุดหลายตอน
ไม่อาจย้อนจรลับกลับแก้นั้น!
“ปาง คุณจะไปไหน” เสียงร้องถามจากหญิงสาวผู้เป็นภรรยา เธอตื่นขึ้นมาในค่ำคืนซึ่งฝนกำลังเทกระหน่ำ
“คุณไม่ต้องยุ่งกับเรื่องของผมสักเรื่องได้ไหม ผมจะไปไหนก็เรื่องของผม” ชายหนุ่มกระแทกเสียงตอบ
ความเงียบเข้าครอบคลุมภายในห้องชั่วขณะ สายฝนโจมจู่กระแทกเสียงกับหลังคาอย่างบ้าคลั่ง ประตูบ้านเปิดออกพร้อมร่างชายหนุ่มก้าวออกไป เขาท่าทางหงุดหงิดและอารมณ์เสียเขาเหมือนคนที่กำลังจะบ้าคลั่ง
ภายในห้องขวดเหล้ากระป๋องเบียร์วางเกลื่อนบนเฟอร์นิเจอร์โต๊ะไม้ราคาแพง สายฝนกระหน่ำภายนอกบ้าน เสียงหายใจของเธอถี่ ‘ปางคุณไปไหนนะ’ หญิงสาวรำพึงกับตัวเองในใจ หลอดไฟเจ้ากรรมเริ่มกะพริบแสงทำท่าจะดับ ภายในบ้านหลังใหญ่กับเธอเพียงคนเดียว ‘เขาไปไหน?’ เธอร้องถามอยู่ในใจ ไฟทำท่าจะดับ ในที่สุดห้องก็มืดมือเรียวเล็กเจ้าของนิ้วเรียวยาวปิดมันลง ภายในบ้านได้ยินเพียงเสียงหายใจเข้าออกและจังหวะเดินของนาฬิกาในแต่ละวินาที สายฝนเริ่มซา เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้นวมสีครีมรอ ‘เขา’ กลับมา
๓.๐๗ น.
เขากลับมาพร้อมร่างที่เปียกโชกเธอมองเขาอย่างห่วงใย
“ปางคุณ...”
“คุณอย่าเพิ่งพูดอะไรได้ไหมผมขอผ้าขนหนูที” เธอยังไม่ทันจะเอ่ยถาม เขาก็สั่งพร้อมทิ้งร่างที่เปียกปอนลงที่เก้าอี้นวมแทนเธอ เธอวิ่งไปหยิบผ้าขนหนูมาให้เขา
สายตาของเขามองเธอจากกระด้างค่อยกลับเป็นอ่อนโยน
“รินผม... ผมจะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้ว”เขาพูดพร้อมกับโถมร่างที่ค่อยชื้นเข้าโอบกอดเธออย่างคนที่ต้องการหาไออุ่น ‘ริน’ ไม่ได้พูดอะไรเธอเงียบรอให้เขาอธิบายเอง
“ผม ผม ผมขอโทษริน ผมขอโทษ”หน้าของเขาซบที่อกเธอ รินสัมผัสกับร่างเขาที่เย็นเฉียบ หน้าของเขาดูเซียวไร้เลือดเนื้อ
“ที่แล้วมาผมต้องขอโทษคุณนะริน ผมรู้ว่าคุณรักผมมาก ผมก็รักคุณนะริน” น้ำตาของเธอรินไหลลง เขาประคองดวงหน้าของเธอไว้ เขาและเธอมองสบตากันนิ่งนาน
“ไปอาบน้ำเถอะค่ะปางดึกมากแล้วเดี๋ยวไปทำงานไม่ได้นะคะ” เธอพูดพร้อมดันร่างเขาออก
กลิ่นแชมพูอ่อนๆจากตัวเขาส่งกลิ่นโชยมา
ปางเบียดร่างตัวเองแนบชิดกับริน เขานอนกอดเธอเงียบๆอย่าง ๔ ปีก่อน เขาซบหน้าลงกับแผ่นหลังนุ่มของเธอ
“ถ้าผมไม่อยู่แล้วรินดูแลลูกให้ดีนะ ผมจะคอยดูแลรินและลูกอยู่ห่างๆรินไม่ต้องเป็นห่วงผมนะ”เขากระซิบบอกเธอ
“ปางจะไปไหนคะ”เธอถามเขาเบาๆน้ำเสียงห่วงหา
“ผมไม่ได้ไปไหนผมก็อยู่กับคุณที่นี่แหละ” เขากระชับอ้อมกอดแน่นอีก
อรุณรุ่งแสงแดดสีทองละมุนฉาบเตียงนอนสีครีมปักลายกุหลาบหวาน ม่านหน้าต่างพลิ้วไหว
รินลืมตาตื่น เธอพลิกตัวกลับไปหาปาง
“ปางคะ”เธอเรียกเขาเสียงเบา
“ปาง! ปาง! คุณอยู่ไหน” เธอลุกขึ้นมองเตียงที่ไร้ร่องรอยของคนที่นอนคู่เคียง
“ปาง ปาง ปางคะ” เธอร้องเรียกเขาไปทั่วบ้าน แต่เงียบ สิ่งเดียวที่ได้ยินคือ เสียงของตัวเธอเอง
‘ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ’ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เธอกดรับพร้อมกับกรอกเสียงลงไป
“สวัสดีค่ะ” เธอพยายามคุมเสียง
“รินเธอรีบมาโรง’บาลเดี๋ยวนี้เลยนะ”คนปลายสายพูด
“เปรี้ยวมีใครเป็นอะไร”เธอพูดด้วยความตกใจ ในใจนึกถึงปางแต่เขาก็มานอนกับเธอเมื่อคืนนี่ เธอพยายามปลอบใจตัวเองไม่ให้คิดมาก
“คุณปางเขา เธอรีบมาเถอะ” ‘เปรี้ยว’เพื่อนของเธอกดตัดสาย
เธอมาถึงโรงพยาบาลเปรี้ยวแฝดคนละฝากับปางเธอนั่งรออยู่ที่หน้าห้องไอซียู
“เปรี้ยวปางเป็นอย่างไรบ้าง” ดวงตาคู่สวยของเธอแดงกำ
“ยังไม่รู้เลยริน...”เธอตอบเสียงอ่อน
หลังจากที่รินมาถึงโรงพยาบาลได้สักครู่หมอที่ทำการช่วงชีวิตผู้ป่วยก็เดินออกมา รินลดารีบรุดวิ่งไปหาผู้เป็นหมอ “คุณหมอคะปาง ปางเขาเป็นอย่างไรบ้างคะ” น้ำตาของเธอรินไหลลงมาเป็นสาย
หน้าของหมอขรึม ทำเอารินใจไม่ค่อยดี
“หมอคะ...”เปรี้ยวพูดขึ้นมาด้วยเสียงอ่อน
“คนไข้ปลอดภัยดีครับคงต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสักเดือยสองเดือนเนื่องจากสมองได้รีบการกระทบกระเทือนอย่างหนัก” หมอพูดพร้อมยิ้มออกมา ทั้งรินและเปรียวก็ใจชื้นขึ้นที่ปางไม่เป็นอะไรมากเพียงแต่ต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
๒ เดือนกับอีกวันเศษต่อมา
“ปางคะ” รินส่งยิ้มไปให้เขาที่นอนอยู่บนเตียง “อีกสองวันก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วนะคะ”
ดวงหน้าของรินแดงเมื่อเธอจะพูดประโยคต่อไป “ปางรินท้องได้สามเดือนแล้วค่ะ” ดวงหน้าของเธอขึ้นสีชมพูฝาด
“จริงหรอริน ผมจะได้เป็นพ่อคนแล้ว”เขาพูดอย่างดีใจโดยลืมอาการของคนป่วยไปชั่วขณะ
“อย่าหักโหมสิคะ” รินเดินไปหาเขาที่เตียงพร้อมกับดันให้เขานอนลง “แผลที่หักรถหลบแล้วไปชนกับต้นไม้ยังไม่หายดีเลย”เธอทำเสียงดุ
คนเจ็บหันมายิ้มให้คนทำเสียงดุ “รินในคืนนั้น ผมฝัน ผมฝันว่าผมไปหาริน” ริมฝีปากบางเฉียบของรินยิ้มขึ้นน้อยๆ
“ค่ะ รินก็ฝันเหมือนกันค่ะ”
ทั้งสองคนประสานสายตากัน โลกยังหมุนเวลาก็เดิน เสียงหัวใจก็ย่อมมีหักเห....
เขาคนที่รักเธอสุดหัวใจกับเธอคนที่รักเขานิรันดร์ เรื่องของเขาที่เขายังไม่บอกเธอ กับเธอคนที่ไม่ต้องการเหตุผลของเขา ‘เรื่องเล่า’ ของเขาทั้งสองคนก็จบเพียงเท่านี้ค่ะ คนเขียนก็อาจจะเบอะๆบ๊ะๆก็นะคะ แต่จากหัวใจค่ะ เรื่องสั้นๆกับกลอนใช้เวลานั่งตั้ง ๒ ชั่วโมงเข้าใจคนที่เขาเขียนวนิยายเลยค่ะ คงจะเมื่อยหน้าดูเลยก็ถ้าผิดพลากประการใดก็ฝาก PM มาบอกด้วยนะคะ ขอบพระคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ ก่อนจะรู้ดูดายปลายชีวิต
ในลิขิตของใจในความฝัน
ซอกมุมของเรื่องเล่าที่เล่าอัน
เกินจะกลั่นเป็นร้อยกรอง ร้อยเรียงความ...