มองถนนคดเคี้ยวเลี้ยวเป็นสาย
ฉันเอนกายหมายพิงเบาะอิงหนุน
เช้ากับงานการมากลำบากวุ่น
แสงละมุนอุ่นเหมือน เยือนปลอบใจ
ฉันนั่งยิ้มพริ้มกับการรับรุ่ง
แดดทอรุ้งมุ่งหวังตั้งวันใหม่
ทัศนียภาพซึ้งแสนตรึงใจ
กับข้างทางใบไม้ไหวเอนโอน
เลี้ยวเข้าเมืองเบื้องหน้า ว้าวุ่นนัก
หมดสิ้นการทายทัก หลักผาดโผน
เด็กวิ่งจับผีเสื้อ หมดเอื้อโอน
ดังเช่นโจรโดนจับซะอย่างนั้น!
ฉันก็รอต่อไปไฟเขียวเร่ง
รถข้างหลังก็เปล่งเสียงเซ็งลั่น
อึดอัดแท้แลซ้ายบ่ายหน้าพลัน
มันอัดอั้นตันใจอย่างไรไม่รู้
ขณะรถเร่งแตรเซ็งแซ่สบถ
สายตาฉันพลันลด เหมือนหดหู่
จ้องกลับไปใจหายวายเมื่อครู่
ขนาดว่าเช้าตรู่อยู่อย่างนี้
ภาพเบื้องหน้าชายชราดวงตาฝ้า
เร่ขายพวงมาลากลางแยกนี่
เบื้องรถติดคิดเห็นเป็นเหมาะดี
บานกระจกไม่มีลดลงเลย
ฉันเห็นภาพเบื้องหน้านานหนักหนา
คิดสงสารคุณตาใจว่า เสย-
ลดกระจกกวักมือหมายซื้อเปรย
แกยิ้มเผยใบหน้านัยน์ตางาม
ฉันมองภาพฉาบซึ้งตรึงหน้าแล้ว
ชายชรายิ้มผ่องแผ้ว แล้วคิดถาม
“คุณตาคะขายเช้าตรู่ทุกครู่ยาม
เดินมาตามถนนทุกวันหรือ?”
ชายชรานัยน์ตายิ้ม พริ้มใสสด
กับพวงมาลัยงามงดลดไหล่ถือ
ผงกหัวเป็นการตอบมอบฝ่ามือ
ยิ้มขอบคุณอออือ ฉันรับมา
ฉันวางพวงมาลัยไว้หน้ารถ
ถนนแสนเคียวคด หดเบื้องหน้า
มองพวงมาลัยให้นึกถึงชายชรา
กับนัยน์ตาคู่สวยด้วยใจแย้ม
เช้าวันใหม่เหมือนเดิมไม่เพิ่มแต่ง
รีบจัดแจงเร่งรีบหน้าแต่งแต้ม
ขับรถคู่ใจออกไปเมื่อใดแกม-
เห็นหน้าดีใจแถมแย้มนัยน์เมื่อวาน
รถจอดรอไฟแดงหน้าแย้งยู่
ฉันมองดูชายชราว่าเดินผ่าน-
มาไหมหนอรอซื้ออยู่ตั้งนาน
จู่จู่ใจสั่นสะท้าน ราวเกิดเรื่อง!
ขับรถจอดที่ทำงานให้พานหมอง
พวงมาลัยเหี่ยวปอง อยู่เนืองเนือง
เด็กขายหนังสือพิมพ์ยิ้มกริ่มไม่ขุ่นเคือง
เสนอเรื่องขายให้ฉันเป็นประจำ
ฉันซื้อหนังสือพิมพ์เด็กยิ้มกริ่ม
เดินไปด้วยรอยยิ้ม พริ้มพรายล้ำ
ฉันเปิดดูหัวข้อ ตาจอนำ
ใจหายคว่ำทำสั่นหวั่นทั้งตัว
หัวข้อใหญ่
ชายชราขายมาลัยดังไปทั่ว
รถสิบล้อนั้นเมาสุรามัว
ขับเหยียบชายชราหัว ตัวนั่นเละ
ฉันคิดว่าชีวิตไม่คิดเที่ยง
มีเอนเอียงเพียงจะระกะระเกะ
เรียบร้อยดีมีครั้งบ้างเละเทะ
มั่วปะเปะปนเปทุกเวลา
ตอนเช้า
หมอกสีเทาและเงาไม้แผ่ใบหนา
ฉันตักบาตรทำบุญให้ชายชรา
หมายให้มีชีวา สุขกว่าเดิม...