ต่อไป »

[บุคคลทั่วไป]

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)

[toshare]

* เย็นไย ฝนตกซู่            ลมอู้อู้ กระหน่ำเมือง
เคืองใคร ในชนบท          ฝนหมด ให้แห้งแล้ง
แกล้งซ้ำ ช้ำทุกข์ท่วม       ครานี้อ่วม อนาถแท้
มุ่งมั่น ปัญญาแก้             ไป่แพ้ ชะตากรรม (๖๐)


* คนทำ  ใช่เทพแกล้ง      อย่าเคลือบแคลง สงสัย
เผาไหม้ ให้ฝุ่นคลุ้ง          ลิบลิ่วมุ่ง นภาลัย
ละอองไอ พักพิง             ไป่ประวิง เพิ่มน้ำหนัก
อากาศชัก สุดต้าน           จึ่งไม่นาน ฟ้าทะมึน
เมฆใหญ่ขึ้น ลอยลง         ยากจักคง คู่ฟ้า
ฝนจึ่ง มิชักช้า                ถล่มสิ้น จมเมือง (๖๑)

[toshare]

* รับ-เจือจาน เหมาะสม ....... คือคม ปัญญาใช้
ใยกิเลส เหนียวนุงนัง ........... ตัดได้ดัง จำนง
จงเจ้า กอปรกิจมั่น .............. ปันแบ่ง แก่ทุกผู้
เฉกเช่นเทียน ไสวสู้ ............ นิดน้อย สว่างเสมอ (๖๒)

[toshare]

* เราเป็น  ประภาคาร    ต้านทาน คลื่นลมมั่น
ไม่พรั่น คำติเตือน         มิแชเชือน เลือกคัด
ปฏิบัติ แต่สิ่งดี            จวบชีวี ชีพม้วย
จักสาดแสง ไสวด้วย      พละแล้ พลังธรรม (๖๓)

ขออนุญาต น้องแซม (บ้านกลอนไทย) หน่อย แต่ชอบคำ "ประภาคาร" จริงๆ (ยิ่งในหนังบางเรื่อง สภาพดูเก่าๆ สมวัยเราดี 555)
ให้ความรู้สึกสมกับถ้อยคำที่ว่า

"ไม่มีใครจุดตะเกียงไว้ในถัง เขาจะตั้งสูงไว้ เพื่อส่องสว่างให้ผู้คน" มัทธิว 5:15
15 Nor do they light a lamp and then put it under a bushel basket; it is set on a lampstand, where it gives light to all in the house. (Saint Matthew 5:15)

If you cease to prevent justice, if you feed the hungry
and satisfy the needs of the wretched, then your light will
rise like dawn out of darkness. (Isaiah 58:8)

[toshare]

* อุเบกขา ดั่งอาวุธ..........ยามท่องยุทธ์ websites
กันใจ ไม่หลงละเลิง..........หลีกหลบเพลิง ราคะ
ตระหนักรู้ โต้ตอบ............ทั้งชอบฤๅ ฉุนไฉน
ไป่ปล่อย กิเลสร้าย...........ฝังราก สุดโยกย้าย
ขจัดด้วย อุเบกขา...เถิดนา (๖๔)

[toshare]

* อำเภอ จอมทองนาม.........ตามตำนาน เล่าขาน
พระวิหาร สร้างบนเนิน..........พงไพรเจริญ งดงาม
ทองกวาววาม ทั่วทาง...........ป่าทองหลาง เต็มเนิน
จึ่งอัญเชิญ บรมธาตุ.............เหล่าข้าบาท กราบกราน
สืบนามนาน จวบได้.............ตั้งชื่อ อำเภอไว้
ระลึกไหว้ ธ ทรงดล...สุขเทอญ

* อินทนนท์ สูงโดดเด่น........ร่มเย็นองค์ พระบรมธาตุ
น้ำตกสะอาด สดสวย...........รุ่มรวย พงไพรไศล
ลอดถ้ำไป ชมเพลิน............เจริญตา หินงอกย้อย
ขอร่าย เล่าเรียงร้อย...........จบนี้ ชี้เชิญ...เที่ยวนา(๖๖)

[..กุสุมา..]

..อยากแต่งร่ายเป็นจังเลยเจ้าค่ะ..รบกวนช่วยแต่งให้บ้างได้ไหมเจ้าค่ะ..
(ข้อมูลเจ้าค่ะ)ถ้าได้ไปถึงจอมทองก็ไปไหว้พระธาตุให้ครบ3ที่นะเจ้าค่ะ
คำบูชาพระธาตุเจ้าค่ะ ตั้งนะโม 3 จบเจ้าค่ะ 
นะโมตัสสะ ภควะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธสะ (3 จบ)
" อะหัง วันทามิ ทูระโต
อะหัง วันทามิ ธาตุโย
อะหัง วันทามิ สัพพะโส "
1. พระธาตุจอมทอง   2. พระธาตุดอยสะเก็ด    3. พระธาตุดอยสุเทพ
เมื่อมาถึงดอยสุเทพจะค่ำพอดี แอบไปตีซี้คุณ POLICE ที่เฝ้าเรือนรับรอง
ขอเข้าพักสัก2วันอากาศที่นั่นจะดีมากๆวิวก็สวยด้วยเจ้าค่ะ
..แม่หญิงกุสุมา..
 

[toshare]

ร่ายสุภาพ

* ข้าฯชื่อ ธีรพงศ์.........กราบลง แด่แม่พ่อ
ขอพรพระ อวยท่าน......ทุกวันวาร สวัสดี
สุขศรี เป็นขวัญมิ่ง........ยึดยิ่ง พระแห่งบ้าน
ตั้งจิต ไป่เกียจคร้าน......มุ่งสร้าง สิ่งดี...แน่นา

* มีนา ๓๘ เกิด...........เลิศแล้ แค่ ม.๕    (เวลาแนะนำตัว ให้ทำท่าเก่งแล้วหัวเราะ 555)
ศึกษา อยู่อีสาน...........ชื่อเล่นขาน คุณโจ๊
ใช่"จิ๊กโก๋" โชว์เขลา......อันตัวเรา แน่แท้
ปฏิบัติดี ไป่แพ้.............สิ่งเร้า โลภหลง...มั่นแล (๖๘)

ธีร, ธีระ [ทีระ] น. นักปราชญ์. ว. ฉลาด, ไหวพริบ, มีปัญญา, ชํานาญ. (ป.);
 มั่นคง, แข็งแรง. (ส.).
พงศ, พงศ์ [พงสะ, พง] น. เชื้อสาย, เทือกเถา, เหล่ากอ, สกุล. (ส.; ป. วํส).
สวัสดิ, สวัสดิ์ ๑, สวัสดี ๑ [สะหฺวัดดิ, สะหฺวัด, สะหฺวัดดี] น. ความดี, ความงาม, ความเจริญ
 รุ่งเรือง; ความปลอดภัย 

[toshare]

* เชิญชวนท่าน เที่ยวถิ่น.....เยือนแดนดิน เมืองเหนือ
ว่าง-วันเหลือ แวะเวียง........เชียงใหม่ ไหว้พระธาตุ
ไป่ได้ขาด สามพระองค์.......แรกมุ่งตรง จอมทอง
ปองไหว้ "ทักษิณโมลี"*......เป็นมิ่งศรี สวัสดิ์ข้า *(อ่านเป็นครุ ๓ พยางค์ ทัก-สิ-นะ-โม-ลี)
เอื้อนเอ่ย มนต์บ่ช้า............โปรดได้ อวยชัย

นะโมตัสสะ ภควะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธสะ (3 จบ)
"อะหัง วันทามิ ทูระโต อะหัง วันทามิ ธาตุโย อะหัง วันทามิ สัพพะโส"

* แล้วลิ่วไปดอยสะเก็ด.........เรื่องเบ็ดเตล็ด เล่าขาน
นาคกราบกราน พุทธองค์.......จึ่งทรงประทาน เกศา
ที่มา "ดอยเส้นเกศ".............ทราบแห่งเหตุ เหล่าข้าฯ
จึ่งไป่ รั้งรอช้า....................กราบไหว้ เอ่ยมนต์

นะโมตัสสะ ภควะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธสะ (3 จบ)
"อะหัง วันทามิ ทูระโต อะหัง วันทามิ ธาตุโย อะหัง วันทามิ สัพพะโส"

* บันดาลดล เหล่าข้าฯ...........สุริยา รั้งรอคอย
ถึงดอยสุเทพ ก่อนพลบ...........กราบเคารพ บรมธาตุ
จิตพิลาส สำนึกคุณ...............จักเกื้อหนุน พระศาสนา
ธรรมา ปฏิบัติให้....................ถ้วนครบ ทุกกาลไซร้
เหล่าข้าฯ นมัสการ...ยิ่งนา (๗๑)

นะโมตัสสะ ภควะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธสะ (3 จบ)
"อะหัง วันทามิ ทูระโต อะหัง วันทามิ ธาตุโย อะหัง วันทามิ สัพพะโส"
====
ระวังสับสนครับ (แรกๆ ผมงงเลย)

- วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร เดิมชื่อ วัดพระธาตุเจ้าศรีจอมทอง ตั้งอยู่ถนนเชียงใหม่-ฮอด หมู่ 2 ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 58 กิโลเมตรพระทักษิณโมลีธาตุ พระธาตุส่วนที่เป็น พระเศียรเบื้องขวา
- วัดพระธาตุดอยจอมทอง หรือวัดพระธาตุดอยทอง (หรือวัดพระธาตุดอยตอง ตามสำเนียงคนเชียงราย)เป็นหนึ่งในพระธาตุ 9 จอม ตั้งอยู่ใน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
- วัดพระธาตุจอมทอง วัดเก่าล้านนาเมืองพะเยา วัดตั้งอยู่บนดอยจอมทอง บริเวณริมกว๊านพะเยา อยู่ห่างจากตัวเมือง 3 กิโลเมตร 

ขอขอบคุณ..แม่หญิงกุสุมา..เป็นที่ยิ่งๆๆ
ที่ให้ผมได้ร่วมส่วนบุญครั้งนี้

[toshare]

* ขอเชิญ เพื่อนพี่น้อง..........ไปท่องเที่ยว ทั่วไทย
ภาคไหนไหน ก็ได้...............น่าสนใจ ทั้งนั้น
เริ่มกัน ที่ภาคเหนือ...............พระธาตุกูลเกื้อ คุ้มเมือง
เรืองนาม สามวงศ์กษัตริย์........พงไพรระบัด อุทยาน
น้ำตกตระการ ภูไศล..............เขื่อนใหญ่ พระราชดำริ
ผลิผล ประโยชน์อุดม.............ชมเพลิน สู่ภาคกลาง
ตำนานปาง แปงเมือง.............งามประเทือง กรุงศรีฯ
สี่ร้อยปี ยิ่งใหญ่...................สืบชาติไทย รุ่งเจริญ
แล้วอย่าเมิน อีสาน...............เล่าขาน แดนอดีตกาล
ถิ่นฐาน ไดโนเสาร์................ภูมิลำเนา บ้านเชียง
มุ่งมองเมียง เมืองใต้..............ทะเลใส น้ำสวย
รุ่มรวย ด้วยสวนยาง...............ขอวางเรื่อง ร่ายนี้
เพียงเพื่อ ชักชวนชี้................เที่ยวให้ ทั่วไทย...เถิดนา (๗๒)

[toshare]

* ยามใด ให้เหนื่อยล้า.......สุดจักท้า สู้ภัย
มองไป ดูเด็กน้อย.............เต็มร้อย เปี่ยมสีสัน
เธอเฝ้าฝัน บ่ระย่อ...........มิทดท้อ สะดุดล้ม
ลุกใหม่ ไป่ก่นก้ม..............เชิดหน้า ยิ้มใส

[toshare]

...ลองเขียน อยากศึกษา......เดินเข้ามา เรียงถ้อย......
ค่อยค่อยร้อย ร่ายขยับ.........รับต่อใน เนื้อหา.......
ร่ายนั่นหนา ทุกวรรค...........จักต้องมีห้าคำ........
พึงจำ "รับสัมผัส"..............จัดลง หนึ่ง สอง สาม.......
ในวรรคตาม แน่แท้.............จงแต่งโคลงสองแล้.......จักได้จบบท...นั่นนา

x   x   x   เอก โท             x เอก  x   x   โท       เอก โท x x   (x x)

ลงสี คือ โคลงสองสุภาพ (๗๔)

แนะนำผู้ที่อยากแต่งร่ายครับ เลยช่วยกันค่อยๆ ต่อเนื้อหา ทำให้ได้ดีในระดับนี้

ร่าย ต่างจากร้อยกรองประเภทอื่น คือ ยาวเท่าใดก็ได้

ร่ายยาว รู้ว่าจบบทที่มีคำ เช่น ฉะนี้แลฯ นั่นแล
ร่ายสุภาพ รู้ว่าจบบทที่มี โคลงสองสุภาพ 
ร่ายสุภาพ ต้องแต่งอย่างน้อย ๕ วรรค ก่อนจบด้วย โคลงสองสุภาพครับ

[toshare]

....วาดหวัง หวังวาดไว้.........มุรับใช้ ปวงประชา
รักเมตตา หมุดหมาย............ตราบวางวาย ไป่ถอย
ไม่คอย รวยพรักพร้อม..........แลัวจึ่งน้อม ช่วยเหลือ
เป็นเช่นเกลือ เปี่ยมรส..........ทุกเม็ดหมด ไป่เว้น
ตะเกียงส่อง บหลบเร้น.........จรัสจ้า หล้าไสว (๗๕)

[toshare]

ที่มา

....โบราณร่ำ น้ำใจดี เป็นที่หนึ่ง
ความคิดซึ้ง พึงปรับ อันดับสอง
สมรรถภาพสาม ความรู้สี่ เกียรติห้ารอง
ส่วนเงินทอง ควรนับ อันดับปลาย
                                       ..... จากความทรงจำ .....


....โบราณร่ำ น้ำใจ............กระจ่างใส เผื่อแผ่ดี
ต่อ"จน-มี" เสมอภาค..........ดุจ"รัก"จาก นภาลัย
สุริยะไสว แขสว่าง.............มิมีห่าง แจ่มฟ้า
แบบอย่าง รักแท้ท้า............พิสูจน์ได้ ทุกวาร...วันเฮย (๗๖)

[toshare]

....คิดซึ้ง ขานที่สอง............."เตือนตน"ตรอง พินิจ
จักนึกคิด สิ่งใด...................มองใกล้ไกล แทงตลอด
มิมืดบอด มัวเมา..................กิเลสเผา ชั่วช้า
กระบี่ ปัญญาท้า..................ตัดได้ ด้วยใจ...กระจ่างนา

[toshare]

....ไล่เรียง อันดับสาม........บุราณถาม ถึง"พร้อม"
ฝึกฝนซ้อม ปฏิบัติ............."สมรรถภาพ" บังเกิด
เลอเลิศผล การกระทำ........พึง"จด-จำ" อย่าเว้น
ขจัดสิ่งผิด หมกเร้น...........เร่งแก้ กันเสมอ (๗๘)

[toshare]

....ที่สี่เสนอ ความรู้...............อุตส่าห์สู้ ใฝ่หา
เพิ่มปัญญา ฉลาดเฉลี่ยว..........ยึดเหนี่ยว ในทางธรรม
ดำรง เลี้ยงชีพชอบ................อีกรอบคอบ ปรับใช้
ยังประโยชน์ ทุกผู้ได้..............รอดพ้นภัยพาล (๗๙)

[toshare]

....รักตั๊กแตนกว่าข้าว  รักกาวกว่าทินเนอร์  รักเธอเท่าฟ้า  รักเขากว่าทะเล
แล้วลังเลเปลี่ยนใจ ไม่รักใครดีกว่า เอาเป็นว่าดั่งนี้ ถูกไม่ถูกช่วยชี้ อีกครั้งนะเออ (๘๐)

....รักเธอเท่าท้องฟ้า  แก้ไขจ้าเพิ่มคำ ท่องไม่จำสักที ว่าต้องมีห้านะ เอาล่ะนั่งนับนิ้ว
จนเริ่มหิวข้าวแล้ว จึงขอแจวก่อนจ้า ลุกจากเตียงเชื่องช้า ขณะท้องเริ่มร้องเพลง (๘๑)

....ขณะท้องเริ่มร้องเพลง เลยวังเวงอีกครา นับได้ห้าคำเกิน อ่านแล้วเขินมากมาย ยากเหลือหลายร่ายที
แก้ทั้งปีทั้งชาติ มิสามารถแต่งได้ คล่องดั่งโบราณใช้ อ่านใช้สื่อความ แลนา (๘๒)

Tablet วันที่ตอบ 2012-11-07 07:31:05

[toshare]

....มุมานะ ดีแท้........ไม่เบื่อแก้ ซ้ำอีก........ลดละหลีก ผิดพลาด........

ประกาศศักดา คนกวี........เป็นศรี เป็นศักดิ์ยิ่ง........

เป็นสิ่ง ควรเหมาะไซร้........ยกย่อง เยี่ยงอย่างให้........ทุกผู้ สรรเสริญ....ยิ่งนา

ส่วนสีแดง คือ โคลงสองสุภาพ (๘๓)

[toshare]

.......................วันลอยกระทง

....วันเพ็ญ เดือนสิบสอง...........ไทยทั้งผอง ลอยกระทง
สิ่งเลวจง ลอยไป....................ให้ห่างไกล ด้วยเถิด
เกิดแต่สิ่ง ดีงาม.....................ทั่วเขตคาม สุขศรี
อย่ามี ผู้ชอบสบาย...................กายสะอาด ใจชั่วร้าย
ผู้อื่นผิด โทษป้าย....................ถูกนั้น แต่ตัว...กูนา

ส่วนที่ใส่สี คือโคลงสองสุภาพ (๘๔)

[toshare]

....พินัยกรรม ชีวิต..............คือสิทธิ์ อันชอบธรรม
ชี้นำ ความประสงค์.............เจาะจง ยามเจ็บหนัก
ผู้อื่นจัก รักษา...................ดูแลข้าฯ อย่างไร !
ใช่ปล่อย รอวันดับ..............หลับไร้ จิตวิญญาณ
พันธนาการ รุงรัง................ยังชีพ ด้วยเครื่องมือ
เพียงเพื่อยื้อ เวลา..............เช่นฆ่า ความเป็น"คน"
จึ่งเตรียมตน พรักพร้อม.......กายจิตสงบ นอบน้อม
ตระหนักแจ้ง "ธรรมดา" (๘๕)

แนวคิดในเรื่องพินัยกรรมชีวิต หรือหนังสือแสดงเจตนาปฏิเสธการรักษาของผู้ป่วยที่อยู่ในวาระสุดท้ายของชีวิต (Living Will) มีผลในทางกฎหมายเป็นครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกาเนื่องมาจากกฎหมายการตายตามธรรมชาติ (Natural Death Act) ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ปี ค.ศ. ๑๙๗๖ (พ.ศ. ๒๕๑๙) เพื่อรับรองสิทธิของผู้ป่วยในการยอมรับหรือปฏิเสธกระบวนการทางการแพทย์ที่เป็นไปเพื่อยืดชีวิต (หรืออีกความหมายหนึ่งคือยืดความตายออกไป) ก่อนจะแพร่หลายไปยังรัฐและประเทศอื่นๆ

สำหรับสังคมไทย หลังจากการสัมนาเพื่อพิจารณากฎหมายดูแลผู้สูงอายุดังได้กล่าวไว้แล้ว แม้พินัยกรรมชีวิตจะยังไม่มีผลในทางปฏิบัติ แต่เรื่องดังกล่าวได้ถูกนำมาพิจารณาอย่างต่อเนื่องเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูประบบสุขภาพ โดยคณะกรรมาธิการสาธารณสุขวุฒิสภา ได้เสนอประเด็น “สิทธิการตายอย่างมีศักดิ์ศรี” เข้าไปอยู่ในร่างกรอบความคิดระบบสุขภาพแห่งชาติ หมวดว่าด้วยสิทธิหน้าที่ ความเสมอภาค และหลักประกันความมั่นคงด้านสุขภาพ ที่ต่อมาได้กลายมาเป็น พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ ๒๕๕๐ มาตรา ๑๒ “บุคคลมีสิทธิทำหนังสือแสดงเจตนาไม่ประสงค์จะรับบริการสาธารณสุขที่เป็นไปเพียงเพื่อยืดการตายในวาระสุดท้ายของชีวิต หรือเพื่อยุติความทรมานจากการเจ็บป่วยได้” จนเกิดกระบวนการจัดทำ (ร่าง) กฎกระทรวงดังกล่าว และกำลังอยู่ในระหว่างการรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นแพทย์ พยาบาล ผู้ป่วย ญาติ นักกฎหมาย เพื่อร่วมกันกำหนดแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมกับสังคมไทย