03 กุมภาพันธ์ 2014, 06:38:PM |
ป้าโย
Special Class LV1 นักกลอนผู้เร่ร่อน
คะแนนกลอนของผู้นี้ 22
ออฟไลน์
กระทู้: 108
|
|
« ตอบ #180 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2014, 06:38:PM » |
ชุมชน
|
พันคณะสระฉันทลักษ์ เหมาะเจาะเพราะวรรค จะสเนาะญาณ วิทยอักขระประสาน สติพิจารณ์ มิตินิพนธ์
พร้อมปฏิหิริตผล มนุสชน วิมุติชัย ปราชญ์ทะนุพยัญชนะไทย บุรณะไว้ คติวิธี
สวยสระภาษะทฤษฎี นิมิรตี วิจิตรสยาม ด้วยครุลหุสลับงดงาม ผิใดจะตาม ประภัททกฉันท์
|
กะเทยไทยใจประเสริฐเลิศที่สุด เป็นมนุษย์คิดแตกจากใช่ปากหมา นำพาชาติมิ่งยิ่งใหญ่แต่ไรมา มีค่ากว่าสัตว์ตัวผู้สมสู่กัน
|
|
|
10 กุมภาพันธ์ 2014, 03:02:PM |
|
|
19 กุมภาพันธ์ 2014, 10:47:PM |
ศรีเปรื่อง
|
|
« ตอบ #182 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2014, 10:47:PM » |
ชุมชน
|
(มาณวกฉันท์ ๘)
ทอรจเรข เสกบทฉันท์ เล่หประพันธ์ หมายมิตรยล ตั้งอุระคล้อง จองอนุสนธิ์ เรื่องทิพดล ผลสัตยา
(ลลิตาฉันท์ ๑๒)
http://www.sac.or.th/databases/inscriptions/inscribe_image_detail.php?id=3618 รักเธอเสมอนภและดิน ยุพินประภา ไม่เปลี่ยนหทัย ณ วนิดา แถลงยุบล
ถึงนางสวรรค์สิริพิลาศ สะอาดสกนธ์ มายั่วดนู ฤ ก็มิสน มโนมิคลอน
แต่รุ่งอรุณสุริยะแจ้ง ลุแสงจะรอน อกชายคนึงเฉพาะสมร มุสาบ่มี
หากเจ้ามิปลงกมลเชื่อ ณ เนื้อพจี กริ่งเรียมมิมั่นถิรฤดี จะลวงยุพาน
"ถ้าหลอกก็ให้วชิระฟาด พิฆาตมลาน" >> [ชายหนุ่มสาบานครับ...สาบาน] ลั่นวาทะสัจจะปฏิญาณ สนั่นสกล
ฉับพลันก็เกิดอนิลหวือ อะอื้ออะอล สายฟ้ากระหน่ำบุรุษจน มะเมื่อมสรีร์ (๗๕๒)
ศรีเปรื่อง ๑๙ ก.พ. ๒๕๕๗
ปล.
นภ = ฟ้า สกนธ์ = ร่างกาย สมร = หญิงสาวสวย (แปลได้อีกอย่างว่า การรบ) ถิร = มั่นคง ยุพาน = หญิงสาวสวย มลาน = ตาย สกล = สากล = ทั่วโลก ทั้งโลก อนิล = ลม อะอื้ออะอล = กร่อนจาก อื้ออื้ออึงอล มะเมื่อม ตัดจาก ดำมะเมื่อม (แสลง)
|
|
|
|
28 กุมภาพันธ์ 2014, 12:53:PM |
toshare
|
|
« ตอบ #183 เมื่อ: 28 กุมภาพันธ์ 2014, 12:53:PM » |
ชุมชน
|
อินทรลิลาตฉันท์ ๑๑
...ขอเพื่อนแนะเขียนฉันท์............จริตมั่นขยับจาร หวังร่วมประโคมกานท์................ประดับหล้านภาไทย
...ศิลป์ศาสตร์ผสานโยง..............ประดิษฐ์โคลงระรื่นใส ผองเพื่อนสิมอบใจ.....................แนะสอนให้สนุกจริง
|
|
|
|
28 กุมภาพันธ์ 2014, 02:42:PM |
toshare
|
|
« ตอบ #184 เมื่อ: 28 กุมภาพันธ์ 2014, 02:42:PM » |
ชุมชน
|
อินทรลิลาตฉันท์ ๑๑
...อ่อนโยนมิอ่อนแอ.........พลังแล้ผลิผลจริง พาลเผยมิเฉยนิ่ง..............ผจญสู้มิรู้หนี
...อ่อนโยนมิอ่อนแอ.........มนุษย์แท้มุมั่น ดี ทุกข์ท้นก็พร้อมพลี...........ประพฤติเพื่อประโยชน์ชน
...อ่อนโยนประดุจแข.........จรัสแดสว่างหน ชุบชื่นฤดีมล....................นภาหม่นกระจ่างพลัน
...อ่อนโยนประดุจแข.........มุเผื่อแผ่สงบสันต์ รวยจนจะแบ่งปัน...............บแบ่งชั้นฤเลวดี (๗๕๘)
|
|
|
|
28 กุมภาพันธ์ 2014, 05:42:PM |
ศรีเปรื่อง
|
|
« ตอบ #185 เมื่อ: 28 กุมภาพันธ์ 2014, 05:42:PM » |
ชุมชน
|
(วสันตวงศ์ฉันท์ ๑๕)
แยก, แผลง และกร่อนพจนเรียง "ลหุ" เหวี่ยงเฉวียงวลี มาเคล้าคละกับ "ครุ" พจี กวิฉันท์ก็ก่อกระบวน
การแยกกถาเสนาะสนอง ฤ จะต้องตริตรองประมวล อักษร ณ ท้ายพจะมิควร ภวะคล้องกะแม่สะกด
ส่วนแผลงนิยมมละสภาพ "สระ" คราบอดีตกำหนด ให้ได้สำเนียงวจนะหด "ลหุ" ตามนิยามประสงค์
คำซ้ำและซ้อน ฤ ก็สมรรถ- (ถ)ะจะกัดประภาษ(ะ)ลง แต่เสียงพยัญชนะเจาะจง เฉพาะหน้าและหลังเสมือน
คำเชื่อม ฤ แก้ "ลหุ" มิพอ ผิว์ระย่อสมองเลอะเลือน ของดีนะอย่านัยนเบือน พิเคราะห์ใช้ ณ คราจำเป็น (๗๖๓)
ศรีเปรื่อง ๒๘ ก.พ. ๒๕๕๗
ปล.
แยก >> การแยกเสียง ตามหลักคำที่แยกได้ต้องเป็นคำบาลี-สันสกฤต มักจะเป็นคำที่ตัวสะกดไม่ตรงกับชื่อแม่ เช่น เลิศ ภาษ แผลง >> การแผลงคำ ที่นิยมกันก็มักจะเป็นการแผลงสระ ส่วนใหญ่เป็นไม้ตายในการสร้างคำลหุ เช่น โบราณ เป็น บุราณ, กวี เป็น กวิ กร่อน >> การกร่อนเสียง โดยลดเสียงคำเดิมให้เหลือแค่ อะ ในฉันท์มักจะเห็นในกรณีที่เป็นคำซ้ำหรือคำซ้อนที่มีเสียงพยัชนะเดียวกัน เช่น วับวับ เป็น วะวับ, โฮกโฮก เป็น ฮะโฮก คำเชื่อม >> เอาไว้แก้ปัญหา ลหุ ไม่พอได้ เช่น จะ, สิ, ก็, ณ, และ, เพราะ, ละม้าย, ประหนึ่ง, กวะ (ราวกับว่า) ฯลฯ
|
|
|
|
03 มีนาคม 2014, 02:50:PM |
toshare
|
|
« ตอบ #186 เมื่อ: 03 มีนาคม 2014, 02:50:PM » |
ชุมชน
|
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
...ขอเพื่อนแนะเขียนฉันท์............จิต(ะ)หวั่นสิยากเกิน เพียงหวังจะเพลิดเพลิน..............พละร่วมประดิษฐ์กานท์
...ศิลป์ศาสตร์ บ่ ใคร่เก่ง............ริก็เกรงมิบรรสาน หวังเพื่อนประศาสน์ชาญ............ผลิผสานประทับใจ (๗๖๕)
บรรสาน [บัน-] (กลอน; แผลงมาจาก ประสาน) ก. ทําให้ติดกัน, ทําให้สนิทกัน, เชื่อม, รัด, ผูกไว้. ประศาสน์ [ปฺระสาด] น. การแนะนํา, การสั่งสอน; การปกครอง, การงําเมือง, การสั่ง. (ส. ปฺรศาสน; ป. ปสาสน). ชาญ (มค. ชญฺญ) ว. ชำนาญ, รู้, ว่องไว, คล่องแคล่ว. (พจนานุกรม ไทย-ไทย อ.เปลื้อง ณ นคร)
|
|
|
|
|
|
18 มีนาคม 2014, 03:12:PM |
toshare
|
|
« ตอบ #189 เมื่อ: 18 มีนาคม 2014, 03:12:PM » |
ชุมชน
|
อินทรลิลาตฉันท์ ๑๑
...ฉันยังละอ่อนอยู่............มิอาจสู้กระเตงฉันท์ เพียงนึกสนุกพลัน.............สะบัดจารกระผีกเดียว
...ว่างว่างจะลองดู.............สิวอนสูละล้อเชียว เพียงเพื่อน บ ถี่เหนียว........แนะสอนฉันก็ขอบคุณ (๗๗๖)
|
|
|
|
21 มีนาคม 2014, 08:55:AM |
toshare
|
|
« ตอบ #190 เมื่อ: 21 มีนาคม 2014, 08:55:AM » |
ชุมชน
|
อุปัฏฐิตาฉันท์ ๑๑
...ฉันท์นี้สิจะเริ่ม...............ริประเดิมสะบัดจาร แม้ไม่เสนาะหวาน..............ก็มุหาญประลองดู
...ฉันนั้นพิเคราะห์แล้ว.........จะลุแนวระดับครู แม้ยาก บ ละสู้.................จิต(ะ)กู่"พยายาม" (๗๗๘)
ฉันท์นี้ ครั้งแรกครับ เลย....
|
|
|
|
06 พฤษภาคม 2014, 04:35:PM |
toshare
|
|
« ตอบ #191 เมื่อ: 06 พฤษภาคม 2014, 04:35:PM » |
ชุมชน
|
วิชชุมมาลาฉันท์ ๘
....โอ้โอหนุ่มสาว เข้าคราวเหลือน้อย ต่างพร้อมพร่ำสร้อย ผูกถ้อยร้อยขำ ข้าจึ่งแส่เรื่อง อย่าเคืองร่วมยำ แปลงแนวร้องรำ สมคำ"กล้วยไม้"
....พอดีรี่เร่ง บุกเบ่งอย่าเคือง สบช่องคุยเขื่อง โคลงเลื่องลงไว ปัญหาข้าฯถาม ฉันท์ตามแก้ไข ร่ายแล้วลงไป หวังใจตอบกัน
"กล้วยไม้"แฝงใด วางไว้ให้ทาย อย่าหลบลี้หาย มุ่งหมายตอบพลัน ใบ้บอกสักนิด หวังมิตรหลับฝัน เห็นเหตุขบขัน ผกผันทายเทอญ (๗๘๑)
(เดิมเคยแต่งเป็น โคลง ถามปริศนาครับ)
....ขอถามนามที่ใช้..................คิดไฉน แฝงบ่งบอกธรรมใด..................ใคร่รู้ "กล้วยไม้"เปี่ยมความนัย............หลายหลาก ฝันฝากหนุ่มสาวผู้....................ร่วมสร้างโลกสวย
|
|
|
|
07 พฤษภาคม 2014, 10:48:AM |
Silasiroong
ผู้ดูแลบอร์ด
คะแนนกลอนของผู้นี้ 189
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 113
|
|
« ตอบ #192 เมื่อ: 07 พฤษภาคม 2014, 10:48:AM » |
ชุมชน
|
|
|
|
|
07 พฤษภาคม 2014, 12:40:PM |
|
|
09 พฤษภาคม 2014, 04:29:PM |
toshare
|
|
« ตอบ #194 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2014, 04:29:PM » |
ชุมชน
|
ในปี พ.ศ.2526 ขุนวิจิตรมาตราได้แต่งเพลง กล้วยไม้ ในภาพยนตร์ศรีกรุงเรื่อง "ปู่โสมเฝ้าทรัพย์" โดยมี ร.ท.มานิต เสนะวีณิณ รน. เป็นผู้แต่งทำนอง เป็นเพลงในจังหวะรุมบ้าเพลงแรกของไทย และเป็นเพลงไทยสากลเพลงแรกที่ใช้โน้ตสากล มี มณี บุญจมานนท์ และ องุ่น เครือพันธุ์ เป็นดาราแสดงนำ และออกร้องโชว์ตัวทั้งศาลาเฉลิมกรุงและพัฒนากรทุกรอบ ขุนวิจิตรมาตราเล่าให้ฟังว่า ร.ท.มานิต เสนะวีณิณ รน.เป็นผู้ที่ชื่นชอบเพลงคลาสสิคมากและชอบเล่นเปียโนให้ฟังเสมอๆ เมื่อจะแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องปู่โสมเฝ้าทรัพย์ จึงแนะนำว่าอยากให้เป็นแนวคลาสสิค และขอให้มีความยาวเพียง 2 - 3 นาทีเท่านั้น เมื่อได้ทำนองมาแล้วจึงแต่งใส่เนื้อลงไปได้พอดี เพลงนี้มีชื่อเต็มว่า "เพลงลาทีกล้วยไม้" เกิดขึ้นก่อน เพลงกล้วยไม่ลืมดอยของพรานบูรพ์ซึ่งแต่งไว้ในละครเรื่อง โจ๊โจ้ซัง แสดงที่โรงหนังพัฒนากร เมื่อวันที่ 13 - 15 พฤศจิกายน 2477 (กล้วยไม้ของเราแต่เก่าก่อน อยู่ในดงดอนเจ้าซ่อนช่อซ่อนใบ...) http://www2.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9470000036030
เพลงลาทีกล้วยไม้(กล้วยไม้) คำร้อง ขุนวิจิตรมาตรา ทำนอง ร.ท.มานิต เสนะวีณิน รน. โอ้ว่ากล้วยไม้เอย ก่อนนี้เคยเป็นดอกไม้ไพร หญิงได้เด็ดแซมผม ชายได้ดมชื่นใจ นึกจะเด็ดดม ได้สมนึกใน มาเป็นเมืองไม้ ได้แต่ชำเลืองไกลไกล ให้แสนอาลัยจริงหนา โอ้กล้วยไม้จำลาที โอ้ว่ากล้วยไม้เอย ก่อนไม่เคยเป็นดอกไม้ใคร ได้กระเช้าแล้วเหนอ ทั้งกระเชอในไพร ได้ที่ทิ้งถิ้น แปลกสิ้นเปลี่ยนไป มามีเจ้าของ ก็ได้แต่มองถอนใจ ด้วยความอาลัยเจ้านา โอ้กล้วยไม้จ๋า ลาที
-------------- http://www.oknation.net/blog/print.php?id=261325 เพลง..กล้วยไม้ คำร้อง/ทำนอง " ครูพรานบูรพ์ " ข้บร้องต้นฉบับโดย " คุณอารีย์ นักดนตรี "
กล้วยไม้ คำร้อง...ทำนอง พรานบูรพ์ ขับร้อง..อารีย์ นักดนตรี
กล้วยไม้ ของเราแต่เก่าก่อน อยู่ในดงในดอน เจ้าซ่อนช่อซ่อนใบ ไกลภู่ ไกลผึ้ง เจ้าอยู่ถึงไหนไหน ใครจะเด็ด จะดมได้ เราไม่เห็นเลย ใครจะเด็ด จะดมได้ เราไม่เห็นเลย โอ้ กล้วยไม้เอย น่าชื่น น่าเชย เจ้าไม่เคยชอกช้ำ เช้า สาย บ่าย ค่ำ ชื่นบ่ช้ำชอกเลย
เดี๋ยวนี้ ดูรึกล้วยไม้ มาชูช่อ ชูใบ บานอยู่ในกระเช้า ลืมดง ลืมดอย ที่เคยอยู่ก่อน อยู่เก่า ภู่จะคลึง ผึ้งจะเคล้า ให้เจ้าเฉาลง ภู่จะคลึง ผึ้งจะเคล้า ให้เจ้าเฉาลง โอ้ กล้วย ไม้ เอย เจ้าไม่น่าเลย ที่จะมาใหลหลง เจ้าลืมสุมทุม พุ่มพง ลืมดงดอย.. เอย
ขออภัยครับ คลิก "ที่มา" ผิดไป "ที่จะมาใหลหลง" ผมขออนุญาตแก้ไขคำพิมพ์ใน web "ไหลหลง" ด้วยครับ
|
|
|
|
13 พฤษภาคม 2014, 01:33:PM |
|
|
30 พฤษภาคม 2014, 10:32:AM |
toshare
|
|
« ตอบ #196 เมื่อ: 30 พฤษภาคม 2014, 10:32:AM » |
ชุมชน
|
อินทรลิลาตฉันท์ ๑๑
....พร้อมพลันจะทุ่มเท.............มิหันเหมุรับใช้ รักแผ่ผลิผลให้......................ประโยชน์ได้ระรื่นเย็น
|
|
|
|
30 พฤษภาคม 2014, 12:06:PM |
toshare
|
|
« ตอบ #197 เมื่อ: 30 พฤษภาคม 2014, 12:06:PM » |
ชุมชน
|
อินทรลิลาตฉันท์ ๑๑
....พร้อมพลันจะทุ่มเท.............มิหันเหมุรับใช้ รักแผ่ผลิผลให้......................ประโยชน์ได้ระรื่นเย็น
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
....รักพร้อมริร่วมฝัน..............*ยุติธรรม์ขจัดเข็ญ (*อ่าน ยุ-ติ-ทัน) เพื่อผองสิยอมเป็น.................พละเข่นพิฆาตภัย (๗๙๓)
|
|
|
|
18 มิถุนายน 2015, 09:31:AM |
toshare
|
|
« ตอบ #198 เมื่อ: 18 มิถุนายน 2015, 09:31:AM » |
ชุมชน
|
...ร่วมแรงสิผองเพื่อน..........จะลุเดือนจะหมดวัน สามปีกะจบนั้น.................ทะลุกันประกาศชัย
...ผองเรา ฤ ยอมแพ้...........มนแน่ทะยานไป (มน อ่าน มะนะ) ฝากชื่อระบือไกล...............มิคุไว้"ละอ่อนจัง"
...เจ็ดวันมุทุ่มเท................บ่ละเห ฤ สิ้นหวัง แข่งใดกระจายดัง...............มิจะขลัง"ชนะตน" (๙๕๓)
|
|
|
|
|