เสียงไพรตอนใกล้ค่ำ
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
24 พฤศจิกายน 2024, 02:28:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: 1 [2]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เสียงไพรตอนใกล้ค่ำ  (อ่าน 23739 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
29 มิถุนายน 2012, 01:32:PM
ลมหนาว
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 185
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 326


พลิ้วไหวไปตามลม , นักกลอนสมัครเล่น


« ตอบ #20 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2012, 01:32:PM »
ชุมชนชุมชน



แสงสุรีย์สีทองส่องฟากฟ้า
อรุณรุ่งอีกคราฟ้าสดใส
วิหคร้องก้องดงพฤกษ์พงไพร
ร่าเริงใจผกผินบินออกรัง

หมู่ภมรร่อนลมชมโกสุม
มาชุมนุมหลากสีมีมนต์ขลัง
ดอกไม้บานลานดงพงสะพรั่ง
เมฆฝนตั้งเค้ามาพนาลี

ช่วยปลอบปลุกทุกชีวีสดชื่น
ให้หยัดยืนดำรงคงวิถี
จะเมืองไหนใต้ฟ้าป่าพงพี
ทุกชีวีละม้ายคลับคล้ายกัน



สุริยัน สาดแสง แรงเจิดจ้า
เดินกลางดง พงพนา พาหวาดหวั่น
เสียงชะนี โหยหวน ชวนรำพัน
จำด้นดั้น ผันผาย เยื้องกรายไป

เห็นเถาวัลย์ พันเกี่ยว ใจเปลี่ยวนัก
ฤทัยหัก รักร้าว คราวหม่นไหม้
นกกระบูด ร้องดัง วังเวงใจ
เสียงกอไผ่ หวิวหวีด กรีดในทรวง

กลิ่นคัตเค้า เย้ายวน กวนนาสา
พะยอมงาม จับตา คราใบร่วง
ลำดวนดง หอมเย็น เด่นดอกดวง
ช่อมะม่วง พวงแกม แต้มแต่งไพร

มองท้องฟ้า อีกหน บนสุขสันต์
ดวงตะวัน คล้อยเคลื่อน เลื่อนลับไหว
ต้องเร่งรุด ออกจากป่า มาทันใด
กลัวมืดค่ำ ร่ำไห้ ในพงพี


สายน้ำใสไหลเย็นเห็นมัจฉา   
ว่ายเวียนวนไปมาพาสุขี         
กุ้งหอยปูดูหลากล้วนมากมี     
จรลียักย้ายเยื้องกรายเดิน 
     
ชลาลัยไหลรินได้ยินก้อง       
เป็นฟูฟ่องเลาะลานผ่านโขดเขิน
ดังดนตรีสีเป่าเคล้าดำเนิน
ฟังเสนาะเพลิดเพลินจำเริญใจ

เย็นสายลมพรมพลิ้วปลิวพัดผ่าน
บุพชาติเบ่งบานลานไสว
หอมละมุนกรุ่นกลิ่นระรินไอ
ชูช่อใบสวยสดงดงามตา

ภุมรินบินตอมมิยอมห่าง
เกาะเหยาะย่างชิมชมดมบุปผา
ดอกนั้นทีนี่ย้ายไปส่ายมา
เพลินอุรายินยลมนต์พงไพร

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, panthong.kh, uddyart, sunthornvit, ไม่รู้ใจ, D, เนิน จำราย, รพีกาญจน์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, เมฆา..., วรุณรุ่ง, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
29 มิถุนายน 2012, 02:53:PM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #21 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2012, 02:53:PM »
ชุมชนชุมชน


น้ำใสไหลริน ถวิลถึง
เห็นภู่ผึ้ง บินลง ตรงใกล้ใกล้
พินิจมอง จ้องตาม อร่ามไป
บัวใบใหญ่ เริงร่า อุษาแยง

นกกระสา บินมา เกาะริมหนอง
คอยจับจ้อง มองหา ปลาแขยง
ที่ว่ายแหวก ไปมา อ่อนล้าแรง
เจอนกฉก สิ้นแรง แย่งไปกิน

ลมพัดเฉี่อย เอื่อยอ่อน ตอนเช้าตรู่
นกกิ้งโครง บินคู่ ดูผกผิน
เกาะกิ่งโศก เคล้าคลอ พะนอดิน
ให้ถวิล ถึงคนรัก ที่จากลา

[/b][/font][/size][/color]

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : sunthornvit, ไม่รู้ใจ, ดาวระดา, อริญชย์, D, ลมหนาว, เนิน จำราย, พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, เมฆา..., วรุณรุ่ง, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
29 มิถุนายน 2012, 04:47:PM
ฟ้าฟื้น ธรรมชาติ
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 22
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 31



« ตอบ #22 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2012, 04:47:PM »
ชุมชนชุมชน

หริ่งเรไรขับกล่อมกระท่อมทับ
เพลงนกร้องก้องศัพท์สดับหนาว
คลอเสียงลมครางครืนในคืนยาว
สลัวแสงเดือนดาวพราวประกาย

คิดถึงคนเคยรักหากออดอ้อน
บรรจถรณ์น้ำตาซะความหมาย
โกกิลาร้องหวานด้วยอันใด
ด้วยเรียนกายข้างพี่มีแต่ลม

จักกี่คืนงดงามบ่สร่างเศร้า
หนาวกว่าหนาวนานนักด้วยรักขม
รักษาใจแตกร้าวคราวระบบ
เหม่อใจลอยลานลมอยู่ซมเซา

เสียงเพลงแก้วแซวไพรในคืนค่ำ
ยิ่งเตือนจำร้าวเจ็บความเหน็บหนาว
น้ำตาต่างน้ำค้างหยดรดคืนเนาว์
เรียมค้างเศร้าเถาช้ำในค่ำงาม

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, ดาวระดา, uddyart, sunthornvit, ไม่รู้ใจ, อริญชย์, D, ลมหนาว, เนิน จำราย, พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, เมฆา..., วรุณรุ่ง, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
29 มิถุนายน 2012, 10:50:PM
ลมหนาว
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 185
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 326


พลิ้วไหวไปตามลม , นักกลอนสมัครเล่น


« ตอบ #23 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2012, 10:50:PM »
ชุมชนชุมชน


น้ำใสไหลริน ถวิลถึง
เห็นภู่ผึ้ง บินลง ตรงใกล้ใกล้
พินิจมอง จ้องตาม อร่ามไป
บัวใบใหญ่ เริงร่า อุษาแยง

นกกระสา บินมา เกาะริมหนอง
คอยจับจ้อง มองหา ปลาแขยง
ที่ว่ายแหวก ไปมา อ่อนล้าแรง
เจอนกฉก สิ้นแรง แย่งไปกิน

ลมพัดเฉี่อย เอื่อยอ่อน ตอนเช้าตรู่
นกกิ้งโครง บินคู่ ดูผกผิน
เกาะกิ่งโศก เคล้าคลอ พะนอดิน
ให้ถวิล ถึงคนรัก ที่จากลา

[/b][/font][/size][/color]




สายน้ำใสไหลเย็นกระเซ็นซ่าน
กระทบผ่านโขดเขินเนินหินผา
ดูเลาะลดคดเคี้ยวเลี้ยวไปมา
ลิบลิ่วไกลสุดตาวนาลี

 เห็นห่านดงลงน้ำผุดดำว่าย
 คชสารพังพลายกระหายปรี่   
  ช้างกับห่านสานรักถักไมตรี
เป็นเพื่อนซื้เล่นน้ำชุ่มฉ่ำใจ
 
 ฝูงเป็ดป่าหากินบินเป็นคู่
เสาะปลาปูสำราญริมธารใส
 แต่ตัวเราเปล่าเปลี่ยวเหี่ยวฤทัย             
ไม่มีใครเคียงข้างช่างเอกา

ลาตายดีกว่าตู

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : sunthornvit, panthong.kh, เนิน จำราย, ไม่รู้ใจ, พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, D, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ดาวระดา, เมฆา..., สุวรรณ, อริญชย์

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
29 มิถุนายน 2012, 11:32:PM
ลมหนาว
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 185
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 326


พลิ้วไหวไปตามลม , นักกลอนสมัครเล่น


« ตอบ #24 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2012, 11:32:PM »
ชุมชนชุมชน

         ใกล้เอ๋ยใกล้ค่ำ               ยามเย็นย่ำ ลมปลิว ระริ่วผ่าน
ระฆังกลอง หง่องเหง่ง เป็นกังวาน     ขับคำขาน เสียงสวดแว่ว แผ่วไกลไกล
กลางทุ่งหญ้า ดอกไม้ปลิว ระริ่วล่อง   กลางบึงหนอง มาลีโบก โยกไสว
กลางทุ่งนา ยอดข้าว ก็เกว่งไกว        กลางพงไพร พระพายผ่าน ซ่านอนู
สุริยนต์ลาร่ำก็ค่ำแล้ว                   ยินเสียงแว่ว หรีดหริ่ง ยิ่งเพลินหู
หิ่งห้อยน้อย ระยิบยับ จับลำพู          วิหคคู่ บินลับ กลับรังนอน
ดาวดวงน้อย ท้าแรง แสงจันทร์ผ่อง    เมื่อพี่มอง ดั่งต้องมนต์ ภาพหนก่อน
เหมันต์กลาย พี่มีเจ้า เฝ้าเว้าวอน       ยากจะถอน ให้ดวงจิต คิดลืมเอย…..  



                                                             แม่กลอง....


สุริยาลาลับจับขอบฟ้า                 
ใกล้ค่ำสนธยามาแล้วเหวย           
พลิ้วแผ่วกรายสายลมพรมรำเพย     
วิหคบินกลับเกยรังเคยนอน
         
ยินเจื้อยแจ้วแว่วหวานประสานเสียง   
ก้องจำเรียงพนาป่าสิงขร                     
บอกลำนำย้ำเตือนเเสงเลือนจร             
ตะวันรอนนกร้องแซ่ซ้องไพร
             
ไก่ฟ้าพญาลอโก่งคอขัน
เคียงคู่กันอยู่บนต้นไม้ใหญ่
นกยูงทองร้องเพลงบรรเลงไป
เสียงหรีดหริ่งเรไรก้องไพรวัน

หิ่งห้อยระยิบยับวับวาวแสง
ทุกหนแห่งมืดมัวสลัวนั่น
เบื้องบนดาวพราวพร่างเคียงข้างจันทร์
โอ้ตัวฉันไฉนใยเดียวดาย

ลาตายดีกว่าตู

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เนิน จำราย, ไพร พนาวัลย์, ไม่รู้ใจ, พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, sunthornvit, D, ยามพระอาทิตย์อัสดง, เมฆา..., อริญชย์, วรุณรุ่ง, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
30 มิถุนายน 2012, 08:51:AM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #25 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2012, 08:51:AM »
ชุมชนชุมชน


สายน้ำใสไหลเย็นกระเซ็นซ่าน
กระทบผ่านโขดเขินเนินหินผา
ดูเลาะลดคดเคี้ยวเลี้ยวไปมา
ลิบลิ่วไกลสุดตาวนาลี

 เห็นห่านดงลงน้ำผุดดำว่าย
 คชสารพังพลายกระหายปรี่   
  ช้างกับห่านสานรักถักไมตรี
เป็นเพื่อนซื้เล่นน้ำชุ่มฉ่ำใจ
 
 ฝูงเป็ดป่าหากินบินเป็นคู่
เสาะปลาปูสำราญริมธารใส
 แต่ตัวเราเปล่าเปลี่ยวเหี่ยวฤทัย             
ไม่มีใครเคียงข้างช่างเอกา

ลาตายดีกว่าตู
[/quote]

น้ำใสใส ไหลหลาก มากท่วมหนอง
ทั้งคูคลอง นองเหลือ เชื่อไหมหนา
มองเห็นฟ้า จรดน้ำ ทุกเวลา
กุ้งปูปลา อยู่ไหน ไม่เห็นเจอ

ยังละเมอ เพ้อพก อกแทบแตก
คูคลองแยก แตกเติม เริ่มเพ้อเจ้อ
จอกแหนหลาก เกี่ยวพัน หวั่นจริงเออ
น้ำนองเอ่อ อีกหน ทนทำใจ

ยินกบเขียด เบียดกัน สนั่นร้อง
เสียงแซ่ซ้อง ท้องนา พาหวั่นไหว
เจ้าอึ่งอ่าง ครวญเพลง บรรเลงไกล
ทอดถอนใจ อีกครั้ง ต้องนั่งตรม

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, sunthornvit, เนิน จำราย, D, ลมหนาว, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ไม่รู้ใจ, ดาวระดา, เมฆา..., อริญชย์, วรุณรุ่ง, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
01 กรกฎาคม 2012, 01:08:AM
ลมหนาว
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 185
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 326


พลิ้วไหวไปตามลม , นักกลอนสมัครเล่น


« ตอบ #26 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2012, 01:08:AM »
ชุมชนชุมชน

ฝนกระหน่ำฉ่ำฟ้าเพลานี้
สายนทีเปลี่ยนไปไม่เหมาะสม
ทะลักนองท้องนาพาราจม
หลายผู้คนขื่นขมบ้านล้มพัง

สาเหตุใหญ่ไพรพงลดลงนั้น
ถูกตัดบั่นเรื่อยมาป่าสิ้นขลัง
พอฝนพรำน้ำหลากขาดรากรั้ง
จึงเอวังท่วมท้นล้นไหลนอง

ความสมดุลพูนผลถูกคนผลาญ
บุกรุกรานทำลายจนกลายหมอง
อากาศรวนปรวนแปรย่ำแย่ครอง
เถอะขอร้องหันมารักษาไพร


ลาตายดีกว่าตู

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ยามพระอาทิตย์อัสดง, panthong.kh, ไม่รู้ใจ, sunthornvit, D, ดาวระดา, รพีกาญจน์, เมฆา..., เนิน จำราย, อริญชย์, วรุณรุ่ง, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
01 กรกฎาคม 2012, 11:02:AM
ดาวระดา
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 369
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 595



« ตอบ #27 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2012, 11:02:AM »
ชุมชนชุมชน


สร้อยเสียงศัพท์จับสายลมง่ายนัก
ลมพาผลักโผยผ่านประสานสณฑ์
เหมือนลำเลียงเสียงไพรให้รวมพล
แผ่ผ่านผืนดื่นดลเป็นมนตร์ไพร

แดดค่ำค้างบางส่วนของมวลป่า
สร้างสีสันแปลกตาท่ามป่าใหญ่
ภาพปรากฏหมดลงอย่างเร็วไว
ก่อนคืนให้ราตรีนี้เริงลิน

ถึงเพียงชั่วคั่วพริกกลับพลิกภาพ
เปลี่ยนระนาบคาบเกี่ยวเป็นเซียวสิ้น
ปรับกระบวนผวนผันบรรเลงพิณ
ทั่วพื้นถิ่นดินพฤกษ์ด้วยเพลงพง..

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไม่รู้ใจ, panthong.kh, รพีกาญจน์, เมฆา..., เนิน จำราย, ยามพระอาทิตย์อัสดง, อริญชย์, วรุณรุ่ง, sunthornvit, สุวรรณ, D, ลมหนาว

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
01 กรกฎาคม 2012, 11:21:AM
ไม่รู้ใจ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 568
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 593


« ตอบ #28 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2012, 11:21:AM »
ชุมชนชุมชน



แสงสุดท้ายหายลับกับขอบฟ้า     
ผืนพนามืดมัวทั่วเขตขัณฑ์         
ฟ้าเบื้องบนหม่นเทาไร้เงาจันทร์     
เพียงดวงดาวร้อยพันพรรณราย 
   
เสียงหรีดหริ่งเรไรก้องไพรสณฑ์
คืนมืดมนขับเพลงบรรเลงหมาย
กล่อมพนาป่าเขาให้เหงาคลาย
จวบสุดท้ายราตรีที่ยาวนาน

เมฆสลัวมัวหม่นฝนตั้งเค้า
ลมบางเบาโชยพลิ้วละลิ่วผ่าน
จนอุษาฟ้าสางกระจ่างลาน
แสงสุริยการฉายฉานมา

ลมเพลมพัด


รอนรอนโอ้อัสดงลับลงแล้ว
ประกายแก้วแวววามข้ามเวหา
ยามโพล้เพล้เสน่ห์ค่ำส่งคำลา
รำเพยพาแผ่วพานม่านเดียวดาย

แสงจางจางรางเลือนดาวเดือนหม่น
ในเบื้องบนทึมเทาเศร้าใจหาย
รำพึงเพ้อรำพันพ้อพอเหงาคลาย
ฟ้าระบายสีโศกให้โลกราน

ไม่รู้ใจ



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เมฆา..., เนิน จำราย, ดาวระดา, ยามพระอาทิตย์อัสดง, panthong.kh, อริญชย์, วรุณรุ่ง, sunthornvit, สุวรรณ, D, ลมหนาว, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
01 กรกฎาคม 2012, 04:53:PM
ดาวระดา
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 369
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 595



« ตอบ #29 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2012, 04:53:PM »
ชุมชนชุมชน

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, สุวรรณ, ยามพระอาทิตย์อัสดง, แป้งน้ำ, ไม่รู้ใจ, ลมหนาว, เมฆา..., D, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
01 กรกฎาคม 2012, 07:01:PM
สุวรรณ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 565
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,487


หวังทุกชีวิต สถิตไว้แต่สิ่งดี


« ตอบ #30 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2012, 07:01:PM »
ชุมชนชุมชน

แว่ววิหคผกผินบินกลับบ้าน
จิ๊บจิ๊บ ไจ๊ไจ๊ขาน ตามเหลี่ยมผา
บอกสัญญาณให้รู้กาลเวลา
ว่าเย็นย่ำสนธยามาเยือนไพร

ย่าหลานรีบจีบบัวบูชาพระ
สวดมนต์เพื่อชำระ จิตผ่องใส
มโนนบคุณพระรัตนตรัย
ที่ช่วยให้เกิดมิ่งมงคลงาม

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ยามพระอาทิตย์อัสดง, แป้งน้ำ, D, เพรางาย, ไม่รู้ใจ, ลมหนาว, อริญชย์, เมฆา..., รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
02 กรกฎาคม 2012, 04:09:PM
ลมหนาว
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 185
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 326


พลิ้วไหวไปตามลม , นักกลอนสมัครเล่น


« ตอบ #31 เมื่อ: 02 กรกฎาคม 2012, 04:09:PM »
ชุมชนชุมชน

วิเวกวังเวงแว่วพลิ้วแผ่วเสียง
นกจำเรียงอยู่บนยอดต้นหนาม
บอกเวลาสายัญตะวันยาม
จักคล้อยข้ามขอบฟ้าลับลาไป

ย่ากับหลานสวดมนต์ไหว้ดลพระ
เพื่อชำระครรลองจิตผ่องใส
รสพระธรรมคำสอนน้อมสอนใจ
ท่านตรัสไว้ปล่อยวางสายกลางดี

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, อริญชย์, เมฆา..., D, ไม่รู้ใจ, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
02 กรกฎาคม 2012, 04:38:PM
ลมหนาว
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 185
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 326


พลิ้วไหวไปตามลม , นักกลอนสมัครเล่น


« ตอบ #32 เมื่อ: 02 กรกฎาคม 2012, 04:38:PM »
ชุมชนชุมชน



แสงสุดท้ายหายลับกับขอบฟ้า     
ผืนพนามืดมัวทั่วเขตขัณฑ์         
ฟ้าเบื้องบนหม่นเทาไร้เงาจันทร์     
เพียงดวงดาวร้อยพันพรรณราย 
   
เสียงหรีดหริ่งเรไรก้องไพรสณฑ์
คืนมืดมนขับเพลงบรรเลงหมาย
กล่อมพนาป่าเขาให้เหงาคลาย
จวบสุดท้ายราตรีที่ยาวนาน

เมฆสลัวมัวหม่นฝนตั้งเค้า
ลมบางเบาโชยพลิ้วละลิ่วผ่าน
จนอุษาฟ้าสางกระจ่างลาน
แสงสุริยการฉายฉานมา

ลมเพลมพัด


รอนรอนโอ้อัสดงลับลงแล้ว
ประกายแก้วแวววามข้ามเวหา
ยามโพล้เพล้เสน่ห์ค่ำส่งคำลา
รำเพยพาแผ่วพานม่านเดียวดาย

แสงจางจางรางเลือนดาวเดือนหม่น
ในเบื้องบนทึมเทาเศร้าใจหาย
รำพึงเพ้อรำพันพ้อพอเหงาคลาย
ฟ้าระบายสีโศกให้โลกราน

ไม่รู้ใจ






ลมรำเพยเชยพลิ้วทิวสิงขร           
ตะวันรอนสดับฟังขับขาน         
แว่วหวีดหวิวพลิ้วพัดสะบัดนาน   
รัตติกาลมาเยือนแสงเลือนลา

ดาวดวงน้อยร้อยพันแสงจันทร์หม่น
ส่อเค้าฝนมืดมัวทั่วเวหา
คืนเงียบเหงาเทาทึมครึ้มเมฆา
ใต้ผืนฟ้าเคว้งคว้างเวิ้งว้างเกิน

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, เมฆา..., D, ไม่รู้ใจ, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s