ต่อไป »

[บุคคลทั่วไป]

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)

[น.ปฎิพน]

จริงๆ สยามมานุสสติ นี้ มีทั้งหมด 4 บทครับ แต่สองบทที่คุณรัตนาวดียกมานี้ เป็นสองบทที่ทุกคนจำได้จนขึ้นใจ และมีการนำมาแต่งเป็นเพลง

ฉบับเต็มที่เป็นพระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงพระราชนิพนธ์ไว้นั้น คือ


๏ รักราช จงจิตน้อม   ภักดี ท่านนา
รักชาติ กอบกรณีย์      แน่วไว้
รักศาสน์ กอบบุญตรี   สุจริต ถ้วนเทอญ
รักศักดิ์ จงจิตให้      โลกซร้องสรรเสริญ ฯ

๏ ยามเดินยืนนั่งน้อม   กมล
รำลึกถึงเทศตน      อยู่ยั้ง
เป็นรัฎฐะมณฑล      ไทยอยู่ สราญฮา
คนถนอมแน่นตั้ง      อยู่เพี้ยงอวสาน ฯ

๏ ใครรานใครรุกด้าว   แดนไทย
ไทยรบจนสุดใจ      ขาดดิ้น
เสียเนื้อเลือดหลั่งไหล   ยอมสละ สิ้นแล
เสียชีพไป่เสียสิ้น      ชื่อก้องเกียรติงาม ฯ

๏ หากสยามยังอยู่ยั้ง   ยืนยง
เราก็เหมือนอยู่คง      ชีพด้วย
หากสยามพินาศลง      ไทยอยู่ ได้ฤๅ
เราก็เหมือนมอดม้วย   หมดสิ้นสกุลไทย ฯ

[รัตนาวดี]

 


...ขอขอบคุณ น้ำใจ ที่ใหญ่กว้าง
ช่วยเปิดโลก สวยวาง บนทางใหญ่
คิดเผื่อแผ่ พี่น้อง ทั้งห้องใจ
โปรดทราบใคร คนนี้ ปลื้มปรีดา...

...วรรณกรรม นำให้ รู้ใหม่ด้วย
มองโลกสวย กว่าเก่า ช่วยเหล่าหา
มาแบ่งปัน กันรับ ประดับพา
ขอบูชา น้ำใจ กว้างใหญ่เอย...

ขอบคุณท่าน fourierlism มา ณ โอกาสนี้ค่ะ

❤ จากใจ ❤

รัตนาวดี
 
 

[รัตนาวดี]

<a href="http://www.youtube.com/v/_JhLudXR724&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/_JhLudXR724&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

...ด้วยพลังแห่งความรักอันยิ่งใหญ่
เกิดชาติไหน ขอผลบุญ หนุนส่งเสริม
ได้พบพาน ผู้อุ้มสม เจ้าคนเดิม
มิห่างเหิน ตัดญาติ ขาดจากกัน...

กวิน ยอดกวี

เพลงพลังแห่งรัก ขับร้องโดย กวิน ยอดกวี คำร้อง-ทำนอง โดย กวิน ยอดกวี
ดนตรีโดย นนท์ อานันท์ ดนตรีอีสาน..อ.มงคลชัย อ่อนบุญมา
เป็นบทเพลงไพเราะ น่าฟังมาก..เนื้อหาเกี่ยวกับความรัก ความผูกพันของคนเราที่มีมาแต่อดีตชาติ..สิ่งที่พบเจอล้วนไม่มีสิ่งบังเอิญบนโลกใบนี้­..

ขอขอบคุณท่านผู้ประพันธ์และจัดทำมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

รัตนาวดี
 

[panthong.kh]

บางตอนจากเรื่อง พระอภัยมณี
ผู้แต่ง พระสุนทรโวหาร (ภู่)

พระแค้นคำซ้ำด่าอีหน้าด้าน
ใครจะร่านเหมือนเช่นนี้ไม่มีถึง
น่าอดสูกูได้ทำไมมึง
มาเคล้าคลึงโลมลูบจูบผู้ชาย

ทั้งเหม็นสาบเหม็นสางเหมือนอย่างศพ
ไม่น่าคบน่ารักยักษ์ฉิบหาย
มายั่วเย้าเฝ้าเบียดเกลียดจะตาย
ไม่มีอายมีเจ็บเท่าเล็บมือฯ

อีนางยักษ์ควักค้อนแล้วย้อนว่า
ส่วนร่ำด่ากระนั้นได้เขาไม่ถือ
ทีขอจูบแต่พอถูกจมูกครือ
ยิ่งอึงอื้อบ่นว่าเป็นน่าชัง

เมื่ออยู่สองต่อสองในห้องหับ
จะบังคับมิให้ใครกลุ้มใจมั่ง
ถึงโกรธขึ้งอย่างไรก็ไม่ฟัง
พลางเข้านั่งแอบข้างไม่ห่างกายฯ

พระสุดแสนแค้นเคืองรำคาญจิต
เป็นสุดคิดสุดที่จะหนีหาย
ให้อักอ่วนป่วนใจไม่สบาย
มันกอดก่ายเซ้าซี้พิรี้พิไร

จะยั่งยืนขืนขัดตัดสวาท
ไม่สังวาสเชยชิดพิสมัย
จะสะบักสะบอมตรอมฤทัย
ต้องแข็งใจกินเกลือด้วยเหลือทน
พันทอง
จำได้ว่าเรียนอยู่ชั้น ป.6

 
   

[รัตนาวดี]

<a href="http://www.youtube.com/v/AFraZ47w1P8&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/AFraZ47w1P8&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

จาก หลวงปู่ภารตะฤๅษี (บัวขาว )

ขอบคุณผู้จัดทำบทประพันธ์ คุณธิติศักดิ์ ฐิติพงค์ทักษ์ค่ะ

จากใจ

รัตนาวดี
 

[รัตนาวดี]

❤     ❤     ❤

ไม่เคยลืมคนให้อุ่นไอรัก
ด้วยซึ้งนักน้ำใจในวันเก่า
ความรู้สึกลึกลึกผนึกเนา
มีสองเราที่รู้อยู่ด้วยกัน



ต่างคนห่วงยามห่างต่างคิดถึง
หากสิ่งหนึ่งทำให้ใจไหวหวั่น
รักช่วยโยงสายใยไว้ผูกพัน
กระชับมั่นแน่นเข้านานเท่านาน



ไม่เคยลืมน้ำใจที่ได้รับ
ยังซึมซับอารมณ์ผสมผสาน
ในบางสิ่งเรียกร้องที่ต้องการ
ซึ้งคำหวานตอบรับประทับใจ



เพียงคำเธอสั้นสั้นวันบอกรัก
โลกประจักษ์เป็นวันสมฝันใฝ่
เอารักแลกรักตอบมอบเธอไป
ถนอมไว้หน่อยนะอย่าละเลย



รับต้นรักที่ให้จากใจนี้
ขอคนดีปลูกไว้ไม่แกล้งเฉย
ให้รากแก้วลึกหยั่งหวังชมเชย
จะงอกเงยดอกงามยามผลิบาน



สัญลักษณ์แห่งรักจักคงมั่น
ไม่มีวันลืมคำที่ฉ่ำหวาน
เรามีสิทธิ์คิดฝันดลบันดาล
เธออย่าผลาญสัมพันธ์เท่านั้นพอ



ประพันธ์โดย

ดาว อาชาไนย

<a href="http://www.youtube.com/v/iTXPOujFfw0&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/iTXPOujFfw0&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

[รัตนาวดี]

❤

.***** บทกลอนกิติมศักดิ์ *****

.....ดุจน้ำทิพย์.....

... แม้เราอยู่ห่างไกลไม่เห็นหน้า
แต่ทว่าบทกลอนอักษรศิลป์
สัมผัสใจสองคนมาจนชิน
ความรักรินรายล้อมหล่อหลอมกาย



แม้จะเพิ่งคบกันในวันนี้
รักไม่มีเฉื่อยชาคำว่าสาย
ฉาบหวานตั้งแต่ต้นไปจนปลาย
มีความหมายยิ่งล้ำสำหรับเรา



รักจะไม่เย็นเฉียบยะเยียบหนาว
ไม่ร้อนราวเปลวไฟที่ไหม้เผา
แต่อบอุ่นยามแนบอิงแอบเนา
ใดอุ่นเท่าความรักจักไม่มี



ฤดูแห่งความรักจักเริ่มแล้ว
เชิญน้องแก้วเดินไปในวิถี
ร่ายมนต์กลอนสมศักดิ์นักกวี
กล่อมโลกสีชมพูกล่อมผู้คน



โปรยเสียงทิพย์ล่องฟ้ามาบรรสาน
แว่วแว่วหวานเคล้าละอองของไอฝน
หวิวหวิวหวามยามฟังดังต้องมนต์
ดื่มด่ำจนซึมซับประทับใจ



ดุจน้ำทิพย์มธุรสหมดธุระ
ด้วยพันธะโลกฝันอันยิ่งใหญ่
ดอกรักจึงบานสล้างกลางทรวงใน
ซึ้งจนไม่อาจปรามห้ามดอกรัก...

ประพันธ์โดย

ดาว อาชาไนย

๐๘.๐๒.๒๕๕๖

จาก...ชมรมนักกลอนอักษรสยาม

<a href="http://www.youtube.com/v/1sN5FBG_yAQ&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/1sN5FBG_yAQ&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

[รัตนาวดี]

.***บทกลอนกิติมศักดิ์***

ชมรมนักกลอนอักษรสยาม

... วอนลมกอด ...

... ไกลลิบลิบทะเลกว้างทางเบื้องหน้า
เห็นขอบฟ้าเลียบโค้งโยงลงต่ำ
บรรจงโน้มโลมลูบจูบแก้มน้ำ
กระซิบคำซึ้งซึ้งถึงความรัก



อ้อมกอดของทะเลฝันอันอบอุ่น
ใจว้าวุ่นอยากวอนนอนหนุนตัก
แต่ไม่มีเวลาจะมาพัก
จึงห่วงนักส่งคำมากำนัล



คลื่นผสมทะเลเร่พลิ้วผ่าน
ขอไหว้วานลมกอดจูบยอดขวัญ
ซุกซอกทรวงซอนไซ้สารพัน
ฝากมาฝันสุขใจในยามนอน



ไม่ว่าฟ้าที่นี่หรือที่ไหน
ลมหายใจอุ่นอุ่นละมุนหลอน
เคล้าสายลมเกลือกผิวสยิววอน
ตามมาอ้อนทวงถามความอุ่นไอ



ฟองคลื่นขาวดาหน้ามาทักหรือ
ราวความรักกวักมืออยู่ไหวไหว
ส่งตอบกลับรับมั่นสัญญาใจ
สัญญาณให้เห็นว่าอย่าร้าวรอน



เมื่อคนสวยส่งจิตยามคิดถึง
ส่งครั้งหนึ่งใจยังนึกสังหรณ์
ได้ส่งรักกลับไปให้อาทร
รู้เถิดตอนนั้นหนาว..คราวเราไกล...



ประพันธ์โดย

ดาวอาชาไนย

ในเล่ม...อุทยานคำ...จากกลุ่มนักกลอนออนไลน์ กรกฎาคม ๒๕๕๔

ขอขอบคุณ คุณพี่สล่าผิน มา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ที่ได้แนะนำให้รัตนาวดีได้สัมผัสกับเล่มอุทยานคำค่ะ

ปล. ลืมบอกไปว่า แจ็คกี้เคน คือเฉินหลงค่ะ (พระเอกหนังจีนผู้ร้องเพลงนี้จ่ะ )

<a href="http://www.youtube.com/v/aXwe4Y2VfhQ&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/aXwe4Y2VfhQ&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

[panthong.kh]

 อิเหนา (ตอน ศึกกะหมังกุหนิง)
บทพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2)
---------------------------------------------------------
โอ้ว่าเจ้าดวงยิหวาพี่   
ป่านนี้จะคร่ำครวญหวนหา
ใครจะปลอบโฉมงามสามสุดา   
แต่พอพาใจเศร้าบรรเทาคลาย
         
สงสารน้ำคำที่พร่ำสั่ง
คิดถึงความหลังแล้วใจหาย         
ครวญพลางทำสรดระทดกาย 
แล้วคิดอายพวกพลมนตรี

จึงชักม่านทองทั้งสี่ทิศ
ดังจะปิดบังแสงสุรีย์ศรี
ลมหวนอวลกลิ่นสุมาลี   
เหมือนกลิ่นผ้ายาหยีซึ่งเปลี่ยนมา

แว่วเสียงสำเนียงบุหรงร้อง
ว่าเสียงสามนิ่มน้องเสน่หา
พระแย้มเยี่ยมม่านทองทัศนา
เห็นแต่ป่าพุ่มไม้ใบบัง

เอนองค์ลงอิงพิงเขนย
กรเกยก่ายพักตร์ถวิลหวัง
รสรักร้อนรนพ้นกำลัง   
ชลนัยน์ไหลหลั่งลงพรั่งพราย

พันทอง

[panthong.kh]

เพชรน้ำหนึ่ง
ส.เชื้อหอม...นักกลอนรางวัลพระราชทาน
------------------------------
กลอนเก้าคำ จำไว้ ด้อยไพ"เราะ"
เขียนให้เหมาะ แปดคำ เพชรน้ำหนึ่ง
แต่ละวรรค หนักแน่น ดุจแกน"กลึง"
กลอนจะ"ซึ้ง"ติดใจ และให้คุณ

คำสุดท้าย วรรคแรก แยกพิ"เศษ"
สามัญ"เขต"หวงห้าม ตามเกื้อหนุน
ท้ายวรรคสอง ต้องรู้ อยู่เป็น"ทุน"
เอก-โท"จุน"จัตวาประ"พนธ์"

ท้ายวรรคสาม วรรคสี่ นี้จำ"มั่น"
เสียงสามัญ-ตรีใช้ ได้ทุก"หน"
สัมผัสซ้ำจำจด งดปะ"ปน"
จงคิด"ค้น"ถ้อยคำ ที่จำ"เป็น"

ไม้ไต่คู้ ใช้กับ ไม้ไต่"คู้"
เมื่อฟังดู เด่นดี ทั่งที่"เห็น"
เสียงสั้นยาว ก้าวก่าย หลายประ"เด็น"
อย่าบำ"เพ็ญ"พ้องกัน นิรัน"ดร

อย่าเขียนให้ ใจความ ตามเพ้อ"นึก"
จงตรองตรึก ตระหนัก เรื่อง"อักษร
คติธรรม นำใส่ ให้สัง"วร"
รวมสุน"ทร"ถ้อยไว้ ให้งด"งาม"

จุดจบก็ ขอให้ กินใจหน่อย
มิควร"ปล่อย"เปะปะ เหมือนสะ"หนาม"
จบให้เด่น เห็นชัด จำกัด"ความ"
ให้ตรง"ตาม"เค้าโครง เรื่องโยง"ใย"

เขียนเสร็จสรรพ กลับมา ตรวจตราผิด"
ตรวจชนิด เรียงตัว ทั่วกันใหม่
เมื่อเห็นเพราะ เหมาะดี จี้หัว"ใจ"
จึงเผย"ให้"ประชา ชนตรา"ตรึง"

กลอนเก้าคำ จำไว้ ด้อยไพเราะ
เขียนให้เหมาะ แปดคำ เพชรน้ำ"หนึ่ง
แต่ละวรรค หนักแน่น ดุจแกน"กลึง"
ผู้อ่าน"จึง"จะชอบ ชมขอบคุณ
พันทอง

[panthong.kh]

บทประพันธ์ของ ศ.ดร.อุดม วโรตม์สิกขดิต
เสียงจากความจน

๏ สองหูแว่วแผ่วเสียงสำเนียงโหย
เสียงโอดโอยโหยไห้ของใครหนา
เสียงนั้นแห้งแหบแผ่วแว่วแว่วมา
เสียงโหยหาร่ำไห้ของใครกัน

ฟังซิฟังฟังไว้จะได้รู้
เสียงของผู้อับโชคต้องโศกศัลย์
ทุกข์ระทมขมขื่นทุกคืนวัน
เพ้อรำพันฝันเปลี่ยวอยู่เดียวดาย

ข้าเกลียดบ้านฐานถิ่นที่กินอยู่
ช่างอุดอู้ดูไปแล้วใจหาย
ข้าเกลียดฝนหล่นพรูกรูกระจาย
สุดแฝงกายให้พ้นน้ำฝนนอง

ข้าเกลียดลมหนาวเหนือเมื่อพัดผ่าน
แทรกสะท้านวาบหวิวผิวสยอง
ข้าเกลียดน้ำเหนือหลากเจิ่งฟากนอง
ให้ข้าท่องลุยน้ำไปทำงาน

ข้าเกลียดเสื้อเกลียดผ้าที่ข้าใส่
ขาดวิ่นไซร้อนิจจาน่าสงสาร
ข้าเกลียดวันเกลียดคืนไร้ชื่นบาน
ได้พ้องพานทุกยามคือความตรม

ข้าเกลียดรักหักอกให้ฟกช้ำ
อกระกำกล้ำกลืนแต่ขื่นขม
ข้าเกลียดรักลวงใจให้ระทม
อกระบมปวดร้าวเศร้าดวงใจ

ข้าเกลียดคำหยามหลู่และดูหมิ่น
เพราะข้าสิ้นสินทรัพย์นับไฉน
ข้าเกลียดคนใจทรามชอบหยามใคร
เมื่อยามไร้ใครจะหลู่สู้กัดฟัน

ข้าเกลียดหล้าฟ้าดินทั้งสิ้นหมด
ชี้กำหนดให้แต่ทุกข์ไร้สุขสันต์
ข้าเกลียดกรรมซ้ำส่งช่วยลงทัณฑ์
กระหน่ำคัลลองชีวิตให้ผิดทาง

ข้าเกลียดหญิงหลายใจที่ไร้สัตย์
รักสลัดลืมวาจาสัญญาสร้าง
ข้าเกลียดชายหลายลิ้นสิ้นรักจาง
แล้วเหินห่างร้างลับไม่กลับมอง

สองหูแว่วแว่วเสียงสำเนียงหวน
เสียงครางครวญชวนให้ฤทัยหมอง
เสียงนั้นแว่วแผ่วมาน่าขนพอง
คือเสียงของความจนค่นแค้นเอย ๚
พันทอง

หมายเหตุ ศ.ดร.อุดม วโรตม์สิกขดิตถ์ เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง มหาวิทยาลัยรามคำแหง
และได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เป็นราชบัณฑิตประเภทวรรณศิลป์
สาขาวิชาภาษาศาสตร์

[Thammada]

" ใจเปลี่ยนสี "

แต่ก่อนเก่า เราสนิท ฉันมิตรแท้
ที่ได้แปร เปลี่ยนไป เหตุใดหรือ
ถ้าใช่เรา เขลาล้น กลกระบือ
ต่างยึดถือ เหตุผล ของตนเอง

พบรูปปั้น เรายล คนละด้าน
แล้วยืนกราน ตามผล ตนถูกเผง
เพราะต่างมุม ต่างสี ที่ละเลง
จึงสิ้นเกรง เฝ้าย้ำ ด้วยคำตน

เพื่อนรวยทรัพย์ รับสุข ทุกขณะ
แต่ฉันละ แน่ชัด แสนขัดสน
เพื่อนห่อนพาน พบฤทธิ์ ชีวิตจน
แต่ฉันทน หิวมา อย่างชาชิน

ฉันพูดถึง ทุกข์ยาก ลำบากชีพ
เพื่อนสิรีบ คุยเขื่อง เรื่องทรัพย์สิน
ฉันว่าโลก ชั่วช้า เป็นอาจิณ
เพื่อนเลยผิน หลังให้ สิ้นไยดี

เกิดเหตุการณ์ เช่นนี้ หลายปีนัก
ต่างก็ชัก หันเหียน ใจเปลี่ยนสี
จากขาว ย่อมหมองคล้ำ ดำทุกที
แล้วไมตรี แสนสะอาด ก็ขาดลง !

ประพันธ์โดย..ถาวร บุญปวัตน์
“คำหอม”  ๒๕๐๗

[รัตนาวดี]

กานท์คู่กล

( กลบทสร้อยคู่สคราญ)
 
กลคู่กานท์... สานสร้อยคู่ ดูเฉิดฉัน
กลคู่กัน... ร้อยคำคม ฉำสุกใส
สนิทสม ชมชิดเชื้อ ...เอื้ออุ่นไอ
สนิทใจ กูลก่อเกื้อ ...เอื้ออุ่นอวล

เป็นแบบอย่าง... วางแวววรรณ สรรค์ประพฤติ
เป็นแบบยึด... กรองคำย้อม ให้หอมหวน
สำเนียงหวาน ซ่านซาบซึ้ง ...คะนึงนวล
สำเนียงครวญ ...ติดตราตรึง ...คะนึงนาย

หอมไอดิน... ไม่สุดสิ้น รินเรื่องราว
หอมไอดาว.. เอื้อมสอยสาว พราวแสงฉาย
ประโลมหล้า ฟ้าสล้าง ...พร่างแพรวพราย
ประทิ่นอาย... กวีแก้ว ...พร่างแพรวพรรณ

คู่กานท์ไทย... ร้อยรสหวาม งามผุดผ่อง
คู่กานท์ทอง... ล้อต่อคำ นำสุขสันต์
หยิกหยอกเอิน เพลินคำกรอง ...กระทบกัน
เกลียวสัมพันธ์ ด้นดั้นกลอน ...กระทบกล

เจริญแรง...แสงมุ่งมั่น ปันสุขสม
เจริญรมย์... หล่อหลอม พร้อมฝึกฝน
พลาดพลั้งผิด พากเพียรแก้ ...ได้ตื่นตน
น้อมดวงมน ตรึกตรองไว้ ...ได้ตื่นตัว

ประพันธ์โดย

พี.พูนสุข

๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๔

จากเล่ม "กวีคืนชีพ"  กลุ่มวรรณกรรมคู่สังคม บ้านผ้าขาวม้า

ขอขอบคุณคุณพี่ ยายของบี้ มา ณ ที่นี้เจ้าค่ะ ไพเราะงดงามมากจ้า..❤..

<a href="http://www.youtube.com/v/p3YWWfnWBJM&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/p3YWWfnWBJM&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

[ดาว อาชาไนย]

แด่..คนที่ฉันรัก

ใบหน้าขาวราวกระดาษดังขาดเลือด
ดูซีดเผือดเศร้าหมองไม่ผ่องใส
ฉันเฝ้าคิดเฝ้าถามทำอย่างไร
มิมั่นใจหากลงมีดคิดกังวล

โรคมะเร็งลุกลามยากห้ามหัก
เพราะไม่รักษาก่อนในตอนต้น
เจ็บนิดไม่หาหมอขออดทน
สุดท้ายผลเกินกว่ารักษาทัน

กุมมือพ่อกระซิบถี่ที่ข้างหู
ให้พ่อรู้จะปลอดภัยในมือฉัน
ความสามารถเรียนไว้ขอใช้มัน
มือหมอศัลย์ช่วยพ่อขอดูแล

ทุกคมมีดกรีดลงที่ตรงหน้า
โอ้พ่อจ๋าตัวลูกทุกข์เกินแก้
เหงื่อเริ่มหลั่งโซมกายใจอ่อนแอ
เมื่อพบแผลโรคร้ายก็สายไป

สัญญาณชีพที่จ่อรอวันดับ
ลูกต้องซับน้ำตาที่บ่าไหล
แม้เผชิญโรคหนักสักเพียงใด
พ่อก็ใจอดทนไม่บ่นเปรย

แม้ลำบากตรากตรำทำงานหนัก
เพื่อลูกรักยอมได้ไม่อาจเฉย
ฉันช่วยชีพพ่อไว้ไม่ได้เลย
วูบหนึ่งเอ่ย "ฉันเรียนมารักษาใคร"

              พญ.ณัชชา

[รัตนาวดี]

***บทกลอนกิติมศักดิ์***

... ขอประการเดียว ...

ღ

...คงไม่สายเกินไปในการพบ
แต่ถ้าลบปวดร้าวคราวห่างเหิน
ห้วงเวลาสั้นสั้นนั้นสุขเกิน
ไออุ่นเพลินอบอวลล้วนดีๆ

ღ

...หากรวบรวมเคยสุขทุกทุกสิ่ง
ไม่มากยิ่งกว่าเศร้าเหงาอยู่นี่
เมื่อห่างกันความหมองย่อมต้องมี
ขอบคุณที่ช่วงสั้นสั้นฟ้าปันใจ

ღ

...ฟ้ามิผิดดาวก็มิขอผิด
เพราะลิขิตของสวรรค์บันดาลให้
สดสวยและล้ำค่ากว่าสิ่งใด
ซึ่งฝังในอารมณ์เป็นหล่มลึก

ღ

...ฝันถึงลานรักหวานลานมาร้าง
เบาะนั่งข้างร่ำไห้ในยามดึก
ไร้วิญญาณยังรักรู้จักนึก
คนจะไม่รู้สึกเจียวหรือคน

ღ

...มองเบาะข้างว่างเปล่าเหงาทดท้อ
เบาะเฝ้ารอเฝ้าถามตามถนน
ฟ้าอยู่ไหนไม่นั่งเขาชังตน
จะแกล้งจนขาดใจหรือไรกัน

ღ

...ฟ้าบอกเถิด..ฝนจะหมดหยดสุดท้าย
จันทร์จะหายสูญดับลับสวรรค์
โลกจะถึงกาลวุ่นหยุดหมุนพลัน
ดอกไม้อันสดใสจะไม่บาน

ღ

...บอกอะไรก็ได้..ขอให้บอก
แม้จะหลอกพูดพร่ำทุกคำขาน
ดาวยอมเชื่อสนิทใจไม่ทัดทาน
ขอประการเดียวว่าอย่าบอก..รอ

ღ

ประพันธ์โดย

ดาว อาชาไนย

๒๖ มีนาคม ๒๕๕๖

จาก...ชมรมนักกลอนอักษรสยาม

Anne-Sophie Mutter - Air aus der Suite Nr. 3 von Johann Sebastian Bach 2008

<a href="http://www.youtube.com/v/sOOgqZdztGY&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/sOOgqZdztGY&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

[ดาว อาชาไนย]

ขอบคุณคุณรัตนาวดีที่ลงเพลงที่ผมชอบให้ฟัง เพลงนี้ผมไม่มีโน้ต เล่นได้ตอนต้นนิดเดียวที่จำได้
นักไวโอลินคนนี้ที่ผมเคยเขียนกลอนชื่อ เสียงสวรรค์อันแท้จริง เมื่อเธอเล่นคอนเสิร์ตในเพลง
ไวโอลินคอนแชร์โต้ของไชคอฟสกี้ ลงในบ้านกลอนไทยมาแล้ว

[รัตนาวดี]

ขอบคุณคุณรัตนาวดีที่ลงเพลงที่ผมชอบให้ฟัง เพลงนี้ผมไม่มีโน้ต เล่นได้ตอนต้นนิดเดียวที่จำได้
นักไวโอลินคนนี้ที่ผมเคยเขียนกลอนชื่อ เสียงสวรรค์อันแท้จริง เมื่อเธอเล่นคอนเสิร์ตในเพลง
ไวโอลินคอนแชร์โต้ของไชคอฟสกี้ ลงในบ้านกลอนไทยมาแล้ว

  ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์ดาว ไว้ ณ ที่นี้ เช่นกันค่ะ 

ขอบคุณสำหรับทุกบทกลอนที่ประพันธ์โดย อาจารย์ดาว อาชาไนย 

ประทับใจในฝีมือมาตลอด โดยเฉพาะบทกลอนที่นำมาลงในกระทู้นี้ ชอบอ่านมากค่ะ 

ขอบพระคุณมากที่เป็นกำลังใจให้รัตนาวดีมาตลอดเวลา...❤

ดีใจที่มีรสนิยมเหมือนกัน รัตน์เอา เพลงของ  Tchaikovsky ที่รัตน์ชอบมาฝากค่ะ

เพราะรัตน์หาเพลงของไชคอฟสกี้ ที่ อันเนอร์โซฟี เล่นไวโอลินยังไม่ได้ (แต่เจอเธอเล่นเพลงเยอะแยะเลยค่ะ)

จะส่งโน๊ตเพลงมาให้นะคะ...

❤ ❤   ❤

Swan Lake - Tchaikovsky, American Ballet Theatre, 2005.

<a href="http://www.youtube.com/v/gP132E-xABg&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/gP132E-xABg&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

[เพลิงคำ]

นิราศลอนดอน
ผู้แต่ง หม่อมราโชทัย

ฯลฯ
เมื่อไกลนางห่างนุชสุดวิตก  ใครจะกกกอดมิตรขนิษฐา 
พี่เปลี่ยวใจฝ่ายเจ้าเปล่าอุรา  เหลือปัญญาที่จะพบประสบกัน 

ทุกวันนี้เปรมปรีดิ์เมื่อยามหลับ  นึกว่ากลับคืนห้องประคองขวัญ 
ได้อิงแอบแนบทรวงดวงชีวัน  ครั้นสิ้นฝันตื่นเฝ้าเศร้าฤทัย
ฯลฯ

 

[รัตนาวดี]

ขอขอบคุณ chicagoclassicalrieview.com ค่ะ

❤...เสียงสวรรค์อันแท้จริงของ Anne-Sophie Mutter  ❤

เธอคือผู้หญิงที่เก่งที่สุดในโลกทางด้านบรรเลงด้วยไวโอลินค่ะ

Beethoven's Cadenza (3rd Movement)

<a href="http://www.youtube.com/v/qSmt5apMhYo&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/qSmt5apMhYo&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

คางแนบ ไวโอลิน ริมหัวไหล่
มือขวาใช้คันชักดังจักรผัน
นิ้วซ้ายเรียวงามงดกดสายพลัน
โยกนิ้วสั่นเสียงดังพลิ้วกังวาน

Anne-Sophie Mutter เธอแสนเลิศ
เสื้อไหล่เปิดกระโปรงยาวคนกล่าวขาน
เดี่ยวกับวง ออเคสตร้า ท่าสะคราญ
ช่างเชียวชาญยิ่งนักรักดนตรี

ไวโอลินของ สตราดิวาริอุส
เสียงใสสุดเลิศเลอเพลงเธอสี
คอนแชร์โต้ แต่งใน บันไดดี
ไชคอฟสกี้ ประพันธ์ฝันทุ่มเท

ลีลาแรก อัลเลโกรโมเดราโต้
แล้ว คอนโซเนตต้า อันดันเต้
ท่อนจบเพราะน่าชมสมคะเน
คือ อัลเลโกรวิวาซิสสิโม

เธอดื่มด่ำเสียงเด็ดเจ็ดเสียงนี้
ว่าช่างมีความเพราะเหมาะอักโข
ฟังครั้งใดใจเริ่มเคลิ้มใหญ่โต
คือเสียง โด เร มี ฟา ซอล ลา ซี

แต่เมื่อแต่งงานคราวสาวเลี้ยงลูก
ใจก็ถูกเปลี่ยนไปคิดหน่ายหนี
เพราะเสียงเด็ดเจ็ดเสียงสรรพดนตรี
แพ้เสียงที่เรียก"แม่"แม้เสียงเดียว

ประพันธ์โดย

ดาว อาชาไนย

ตีพิมพ์ในมติชนสุดสัปดาห์
ฉบับที่ 1546  12-18 เมษายน 2553

เขียนจากชีวิตจริงของ Anne-Sophie Mutter
นักไวโอลินสาวชาวเยอรมัน

ต้องขออภัยค่ะที่ลงเพลงไม่ตรงตามบทกลอน รัตน์หาเจอแล้วจะเอามาแก้ไขค่ะ

<a href="http://www.youtube.com/v/RRrOv72GFRw&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/RRrOv72GFRw&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

Méditation from Thaïs

<a href="http://www.youtube.com/v/zhFcBGQLehw&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/zhFcBGQLehw&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

http://translate.google.co.th/translate?hl=th&sl=en&u=http://en.wikipedia.org/wiki/Anne-Sophie_Mutter&prev=/search%3Fq%3Danne%2Bsophie%2Bmutter%2B%25E0%25B8%25A0%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A9%25E0%25B8%25B2%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25A2%26hl%3Dth%26biw%3D1350%26bih%3D621&sa=X&ei=xzhbUZbgI-iQ4gTa34C4Dw&ved=0CE8Q7gEwBA

[รัตนาวดี]

ขอบคุณภาพจากอินเทอร์เน็ท

 

เพลงตามคำขอ

ภายในร้านอาหารอันแสนโก้
นักเปียโนบรรเลงเพลงหวานหวาน
ตามคำขอแขกร้องตามต้องการ
เพลงเก่านานเพลงใหม่ได้ทั้งนั้น

แขกขับร้องเขาก็เล่นคลอให้
พวกเพลงไทยเพลงฝรั่งเพลงสร้างสรรค์
เพลงลูกทุ่งเล่นได้ไม่แพ้กัน
แต่ละวันผู้คนล้นทุกคราว

หญิงคนงามนั่งรอขอร้องด้วย
อุ้มหมาสวยพันธุ์ดีขนสีขาว
นักเปียโนพรมนิ้วเสียงพลิ้วกราว
เพลง  "ลมหนาว" เธอโชว์เปียโนคลอ

"เพลงกลิ่นโคลนสาบควาย"  ชายหนึ่งร้อง
"ผมขอจองต่อไปใคร่จะขอ"
นักเปียโนเล่นให้ไม่รั้งรอ
เขาโก่งคอร่วมร้องทำนองเพลง

ลูกสุนัขตัวน้อยพลอยเริงรื่น
ลุกขึ้นยืนโต๊ะกลางอย่างอวดเก่ง
ฉี่ใส่ในแก้วเหล้าเขาครื้นเครง
แขกเตะจนร้องเอ๋งไม่เกรงใจ 

ตะโกนบอกเจ้าของหมาข้อหาบ่ง
"หมาเยี่ยวลงแก้วเหล้า...เจ้ารู้ไหม
นักเปียโนตอบ.."มิรู้เพลงผู้ใด
คุณร้องไปผมคลอ..พอได้ครับ   

ประพันธ์โดย

ดาว อาชาไนย

<a href="http://www.youtube.com/v/6HGsA2aNvnA&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/6HGsA2aNvnA&amp;rel=0&amp;fs=1</a>