ต่อไป »

[บุคคลทั่วไป]

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)

[D]

ทางชีวิตลำบากฝ่าขวากหนาม
มิงดงามตามคาดที่มาดหวัง
ผันผวนผกวกวนทนเซซัง
บางครั้งนั่งน้ำตาตกจุกอกตัน

มองข้างหน้าพร่ามัวสลัวหม่น
ต้องดั้นด้นเดียวแดแค่เพ้อฝัน
คิดแล้วท้อหนอใจเมื่อไหร่กัน
จะถึงวันมีชัยให้รื่นรมย์

สองปีกล้าวิหค...โอ้นกน้อย
เหินล่องลอยเวหาพลาดพาล่ม
คงมิถึงสุดท้ายที่หมายชม
จินต์จ่อมจมขมขุ่นกรุ่นในทรวง

จะมีไหมไม้ใหญ่ให้นกเกาะ
เดินแตะเตาะพักบ้างในบางช่วง
เหนี่อยและล้าเต็มทนจินต์หม่นกลวง
หาใครห่วงให้ชื่นใจคงไม่มี

"ดิน"

[ไพร พนาวัลย์]

มีร่มไม้ชายคาคอยท่านก
ที่ปีกตกโผบินทุกถิ่นที่
แม้จะอยู่ใกล้ฝั่งอย่างเต็มที
เชิญคนดีทำรังไว้นั่งนอน

จะอยู่นานกี่ปีให้มีสุข
หมดความทุกข์ผูกพันมิผันผ่อน
ต่างร่วมสุขกันไปไม่อาทร
ดั่งหนีร้อนพึ่งเย็นเถิดเพ็ญจันทร์ 

จะตายวันตายพรุ่งใครล่วงรู้
เชิญแม่หนูวางทุกข์รับสุขสันต์
ขอเพียงรื่นฤดีเรามีกัน
จนถึงวันลอยน้ำสู่ถ้ำทอง 

ไพร พนาวัลย์

 

[Silasiroong]

  ผาแดงและลำน้ำซองแห่งเมืองวังเวียง สปป.ลาว.. oknation.net

[/size]

.                            . เสียงซอในสายหมอก 
♫ ♪

ครายินเพลงซอลอยมาอ้อยสร้อย
อ้อยสร้อยหวานเลื่อนลอยพลอยหวามไหว
หวามไหวทรวงหน่วงหนักประจักษ์ใจ
ประจักษ์ใจในซอคลอเสียงมา

เสียงมาซึ้งตรึงฤดีที่ในฝัน
ในฝันถึงจึงพลันสุขหรรษา
หรรษาอยู่ชิดใกล้แต่ไกลตา
ไกลตาด้วยเหตุว่าเธอมิมอง

มิมองฉันนั้นเศร้าเหงายิ่งนัก
ยิ่งนักเธอไม่รักปักใจหมอง
ใจหมองหม่นทนเจ็บเหน็บจิตครอง
จิตครองเสี่ยร้านทองปองนวล"ดิน"

นวลดินครวญเพลงซอล้อสายหมอก
สายหมอกพลิ้วระลอกหยอกโฉมฉิน
โฉมฉินชื่นรื่นรมย์สมยุพิน
ยุพินฉ่ำชีวินฉันจินต์ตรม


ขอบคุณครับ
ศิลาสีรุ้ง
๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๗

[/size]

           
            heynatthawot.wordpress.com/2012


            ขอบคุณภาพจาก  Internet ครับ



.

[D]

เนี่ย..ท่านน้าไง

จินต์ตรมตรอมวันนี้ไร้พี่ข้าง พี่ข้างใครไยจางห่างสวนส้ม สวนส้มนครชัยฯไร้ชายชม ชายชมชื่นนิยมคารมใคร คารมใครรัดรึงซึ้งทรวงพี่ ทรวงพี่ลืมน้องนี้ที่เฝ้าใฝ่ เฝ้าใฝ่รอเคียงคู่อยู่บ้านไพร บ้านไพรคงหม่นไหม้ไร้คนเคียง คนเคียงน้องวันนั้นคือท่านน้า ท่านน้าน้องมารดาพี่อย่าเถียง อย่าเถียงให้หมางแดแหมแค่เพียง แค่เพียงคล้องแขนเรียงเลี่ยงลับตา ลับตาเลือนเหมือนพี่นั้นมีใหม่ มีใหม่ก็มีไปไยกล่าวหา กล่าวหาโดยหลงผิดมิคิดมา คิดมาพบคราวหน้าเจอะฝ่ามือ ละอองดิน

[รพีกาญจน์]

ขอซื้อผ้าห่มสักผืน     กลางคืนดึกมันหนาว
มีขนาดกว้างคูณยาว     กะราวราวห่มหนึ่งคน

ชอบบางเบาแบบไม่หนา     เนื้อผ้าเรียบไม่ยับย่น
ริมดอกลายสีเจือปน     ปุกปุยขนขึ้นไม่เอา

ไม่เน้นเลือกตรายี่ห้อ     เน้นถักทอใหม่ใช่เก่า
สนนราคาย่อมเยา     ช่วงนี้กระเป๋าแฟบแบน

พับเก็บไว้ข้างเตียงนอน     กะใช้ตอนหนาวเย็นแสน
อนาถแท้คนไร้แฟน     พอทดแทนทนพ้นปี

อยากได้ผ้าห่มตราคน     ยังขัดสนจนเป็นหนี้
คิดแล้วเราเศร้าทุกที     ซวยทั้งปีไม่มีตังค์

ยกยอกรวอนเทพจ้าว     เมตตาบ่าวเถิดสักครั้ง
ดลใจหญิงใจจริงจัง     รักจูบฝังกอดทัน..วันวาเลนไทน์

 

รพีกาญจน์

 

 

[ดารกะ]

" ลมหนาว..คราวเหมันต์? "

1.ฤดูกาลผันรอบมาครอบครบ
ได้ประสบอากาศพาดพิงหนาว
เยือกเย็นฉ่ำน้ำค้างที่พร่างพราว
หมอกสีขาวลอยล่องละอองไอ

2.รพีฉายปรายพบกระทบหยาด
เพราพิลาสดุจเพชรเก็จแก้วใส
ประกายงามยามพิศเคลิ้มจิตใจ
สะท้อนไหวระยับวิบวับวน

3.ลมพัดโชยโบยโบกโยกไม้แกว่ง
กรรโชกแรงสั่นไหวพฤกษ์ไพรสณฑ์
สายธาราพาพลิ้วพื้นผิวบน
ทุกแห่งหนเย็นเยือนเคลื่อนเคล้าคลอ

4.แถวถิ่นฐานบ้านนอกเหมือนตอกย้ำ
คราอาบน้ำทุกคราวหนาวสั่นหงอ
ต่างจากชนคนเมืองฟุ้งเฟื่องพอ
หลากยี่ห้อเครื่อง'น้ำอุ่นทุ่นประทัง

5.แสงสุดท้ายปลายฟ้าเตรียมลาเลื่อน
ค่อยคล้อยเคลื่อนชิงพลบหลบฟากฝัง
ผืนม่านฟ้าราตรีคลี่บดบัง
เริ่มประดังซ้ำเย็นเข่นระบาย

6.ผ้าห่มถมลมหนาว ยังก้าวล้ำ
อกระกำหนาวแท้แผ่ขยาย
โอ้อกสาวร้าวรานสะท้านกาย
ถ้ามีแฟนหนาวจะคลาย...หายไหมน้อ...?

ดารกะ

[รพีกาญจน์]

เศรษฐกิจตกสะเก็ดเม็ดเงินเขียม
นั่งหน้าเจี๋ยมจ๋องจดเหี่ยวหดหู่
บ่นปอดแปดสินค้าขึ้นน่าดู
เนื้อไก่หมูปูปลาแพงกว่าทอง

แม่ลูกดกหกคนกินป่นปี้
หนึ่งวันสี่ห้ามื้อรื้อครัวของ
เกลี้ยงหมดตู้หมดเตาเปล่าเมียงมอง
เหลือแต่ซองมาม่าคาช้อนชาม

กระเป๋าแบนแฟนทิ้งหญิงโดดเดี่ยว
จะกินเที่ยวเยี่ยวเบาเขาเหยียดหยาม
ผมยุ่งเหยิงย่ำไปไร้ความงาม
เลยทุ่มยามซมซานงานโอที

รายรับไม่เพียงพอต่อจับจ่าย
เปิดบ้านขายของสดชดใช้หนี้
คุ้มค่าน้ำเว้นไฟยังใช้ฟรี
ค้างแชร์มีกระจิบสิบกว่าวง

มัวต้อนรับขับขานท่านคะขา
ยื่นข้างหน้าขวารีบซ้ายหยิบส่ง
เกิดผิดพลาดขาดคนช่วยพางวยงง
บอกตามตรงลำบากอยากมีใคร

เป็นลูกจ้างประจำทำงานรวด
เสร็จบีบนวดแข้งขาเอวบ่าไหล่
เตรียมของเขียงเรียงวางว่างเมื่อใด
สวมเสือใหญ่ยิ้มโยกโบกธงแดง

 

แทน...ละอองดิน