ต่อไป »

[บุคคลทั่วไป]

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)

[จันท์ จันทบูร]

เห็นสายฝนหล่นพรำเหมือนย้ำข้า
ปรอยเตือนว่าใจมนุษย์ดุจสายฝน
เหมือนฝนโรยโปรยจากฟ้ามาล่วงหล่น
ฝนไม่ต่างดังใจคนย่อมหม่นมัว

แม้นใจสูงดังยูงทองสองปีกเเข็ง
ใจเราย่อมอ่อนแรงแสงสลัว
เห็นฟ้าฟาดหวาดใจให้หวั่นกลัว
เหมือนใจมัวเพราะหลงใหลในอบาย

เมื่อแสงส่องต้องนภาฟ้าหลังฝน
คือใจคนเริ่มฉายแสงแห่งความหมาย
มืดก็เห็น ทุกข์ขื่น ก็คืนคลาย
ท่านทั้งหลายระวังตนเมื่อฝนพรำ

[gratrypa]

ทั้งหลายท่านระวังตนเมื่อฝนพรำ
ฝนพรมพรำย้ำมนุษย์ดุจสายฝน
ยามเมฆหล่นโปรยปนน้ำจากเบื้องบน
ฝนนั้นต่างจากใจคนไม่หม่นมัว

แม้นบินสูงดั่งเหยี่ยวทองสองปีกแข็ง
ใจเราย่อมกล้าแกร่งแม้แสงสลัว
เห็นฟ้าฟาดยิ้มใส่ไม่หวาดกลัว
ยืนยิ้มหัวเข้าใส่ใจนักเลง

เล็งดูแสงส่องนภาหลังฟ้าฝน
ดั่งใจคนเริ่มฉายแสงแห่งความหวัง
หลังฟ้าฝนขนทุกข์คืนมืดเปิดไฟ
ท่านทั้งหลายระวังตนเมื่อฝนพรำ

     กระต่ายป่า ข้างวัด

[/size]

[จันท์ จันทบูร]

ทั้งหลายท่านระวังตนเมื่อฝนพรำ
ฝนพรมพรำย้ำมนุษย์ดุจสายฝน
ยามเมฆหล่นโปรยปนน้ำจากเบื้องบน
ฝนนั้นต่างจากใจคนไม่หม่นมัว

แม้นบินสูงดั่งเหยี่ยวทองสองปีกแข็ง
ใจเราย่อมกล้าแกร่งแม้แสงสลัว
เห็นฟ้าฟาดยิ้มใส่ไม่หวาดกลัว
ยืนยิ้มหัวเข้าใส่ใจนักเลง

เล็งดูแสงส่องนภาหลังฟ้าฝน
ดั่งใจคนเริ่มฉายแสงแห่งความหวัง
หลังฟ้าฝนขนทุกข์คืนมืดเปิดไฟ
ท่านทั้งหลายระวังตนเมื่อฝนพรำ

     กระต่ายป่า ข้างวัด

[/size]

จะขอย้ำเป็นคำกลอนสุนทรกลับ
ให้สดับรับเสียงเพียงความหมาย
แม้ฝนพรำจงทำใจให้สบาย
ทุกข์ทั้งหลายเปลี่ยนจากขื่นเป็นชื่นใจ

กระต่ายป่ากล่าวว่ายามฟ้าฟาด
ใจองอาจยิ้มใส่ไม่หวั่นไหว
แต่ใจมนุษย์ ดุจหินศอก  ตอกเป็นไชย
ไปมาผลักย่อมไกวด้วยใจกลัว

[gratrypa]

จะขอย้ำเป็นคำกลอนสุนทรกลับ
ให้สดับรับเสียงเพียงความหมาย
แม้ฝนพรำจงทำใจให้สบาย
ทุกข์ทั้งหลายเปลี่ยนจากขื่นเป็นชื่นใจ

กระต่ายป่ากล่าวว่ายามฟ้าฟาด
ใจองอาจยิ้มใส่ไม่หวั่นไหว
แต่ใจมนุษย์ ดุจหินศอก ตอกเป็นไชย
ไปมาผลักย่อมไกวด้วยใจกลัว

ขอตอบกลับ เป็นคำกลอน สุนทรทู่
ความหมายรู้ เมื่อหู ได้ยินเสียง
ข้านอนฟัง สายฝน อยู่บนเตียง
ทุกข์ทั้งหลาย หายเกลี้ยง เพียงหลับตา

สายฟ้านั้น เป็นเพื่อนกัน กับตัวข้า
เจรจา กันทุกหน คนหวั่นไหว
ใจมนุษย์ เพียงจิตตอก ศอกด้วยใจ
ผลักทำไม ไม่ต้องแกว่ง แย่งกันกลัว

   กระต่ายป่า ข้างวั�

[จันท์ จันทบูร]

ขอตอบกลับ เป็นคำกลอน สุนทรทู่
ความหมายรู้ เมื่อหู ได้ยินเสียง
ข้านอนฟัง สายฝน อยู่บนเตียง
ทุกข์ทั้งหลาย หายเกลี้ยง เพียงหลับตา

สายฟ้านั้น เป็นเพื่อนกัน กับตัวข้า
เจรจา กันทุกหน คนหวั่นไหว
ใจมนุษย์ เพียงจิตตอก ศอกด้วยใจ
ผลักทำไม ไม่ต้องแกว่ง แย่งกันกลัว

"อันเสาหินแปดศอกตอกเป็นหลัก
ไปมาพลักบ่อยเข้าเสายังไหว"
ได้ยินเสียงก็เถียงกันเรื่องหวั่นใจ
จะตะแคงแกว่งไหวทางใดกัน

ทุกข์ทั้งหลายหายเกลี้ยงเพียงหลับตา
หาใช่ข้าจะขุ่นเคืองในเรื่องนั้น
เพียงฉงนจนใจทันใดพลัน
ความหวาดหวั่นคงมอดดับเเค่หลับฤา

[gratrypa]

อันเสาหินแปดศอกตอกเป็นหลัก
ไปมาพลักบ่อยเข้าเสายังไหว"
ได้ยินเสียงก็เถียงกันเรื่องหวั่นใจ
จะตะแคงแกว่งไหวทางใดกัน

ทุกข์ทั้งหลายหายเกลี้ยงเพียงหลับตา
หาใช่ข้าจะขุ่นเคืองในเรื่องนั้น
เพียงฉงนจนใจทันใดพลัน
ความหวดหวั่นคงมอดดับเเค่หลับฤา

โอ้เสาหินแปดศอกหลอกไม่หนัก
ให้สาวผลักทุกเช้าเสาไม่ไหว
ตะโกนเถียงเสียงลั่นชักหวั่นใจ
ผลักทางใดถึงตะแคงแกว่งไหวกัน

เพียงหลับตาทุกข์ทั้งหลายก็หายเกลี้ยง
ไม่อยากเถียงให้ท่านนั้นเคืองขุ่น
อย่าฉงนหยุดสงสัยจนใจวุ่น
เชิญท่านอุ่น นมร้อน นอนหลังทาน

ความหวาดหวั่นมอดดับหรือหลับหลอก
พอตื่นมาตากรอกบอกหวั่นไหว
มันจะหวาดหรือจะหวั่นข้ามั่นใจ
ไม่เท่าไรรู้ธรรมฉ่ำซึ้งจริง

       กระต่ายป่า ข้างวัด

[/size]

[จันท์ จันทบูร]

กระต่ายป่าช้างวัดถนัดย้อน
ตอบเป็นกลอนแก้กลับได้จับจิต
เชิญลิ้มรสบทพระธรรมเถิดพี่ทิด
ธรรมอำนวยช่วยติดสะกิดใจ

[gratrypa]

กระต่ายป่าช้างวัดถนัดย้อย
ตอบเป็นกลอนแก้กลับได้จับจิต
เชิญลิ้มรสบทพระธรรมเถิดพี่ทิด
ธรรมอำนวยช่วยติดสะกิดใจ

กระต่ายข้า อยู่ข้างวัด ไม่หนัดย้อย
ถนัดคอย แก้กลอนกลับ ให้จับจิต
ชอบแจกธรรม แผ่เพื่อน เหมือนพี่ทิด
ใจสะกิด แกะธรรมช่วย อำนวยชัย

กระต่ายป่า ข้างวั�

[จันท์ จันทบูร]

ธรรมรสจรดเจิมเติมหัวจิต
ให้หาคิดตัวอย่างทางแก้ไข
โมทนาบุญญะกระต่ายไทย
สะกิดใจให้ธรรมช่วยอำนวยพร