|
14 ตุลาคม 2012, 05:28:PM |
เนิน จำราย
|
|
« ตอบ #121 เมื่อ: 14 ตุลาคม 2012, 05:28:PM » |
ชุมชน
|
บุญเดือนสิบนครศรีฯ ยานี ๑๑ วันสารทของชาติไทย ใครและใครคิดถึงถิ่น ฝึกฟื้นทั่วผืนดิน อนุรักษ์สิ่งที่ดี
เป็นหลักทางปักษ์ใต้ ต้องยกให้นครศรีฯ จัดงานมานานปี ประเพณีบุญเดือนสิบ
ฉบัง ๑๖ ห้วงหาวดาวพราวกะพริบ ส่องต่างแสงทิพย์ มลังมเลืองเรืองรอง
กระทบพระธาตุยอดทอง สดใสผุดผ่อง เจิดจรัสอเนกอนันต์
เทวีเทวาประชุมกัน ทั่วแคว้นแดนสวรรค์ หิมพานต์กินนรกินรี
เบี้องล่างสัตว์นรกอเวจี ผุดผ่านปฐพี รับเครื่องบัตรพลีกล้ำกลืน
สุรางคนาค์ ๒๘ ทุกบ้านทั่วเมือง เตรียมของนองเนือง อดนอนค่อนคืน หาวง่วงโงกหลับ ต้องตกใจตื่น ข้องใจไฟฟืน ขนมนมเนย
สำเร็จเสร็จสรรพ ต้องตามตำหรับ เตรียมการกันเหวย หยิบพองยกลา กองไว้ก่ายเกย แล้วอย่าละเลย กง,บ้า,ดีซำ
หนุ่มสาวเอาด้วย ผู้เฒ่าค่อยช่วย ลูกหลานอิ่มหนำ สร้างเป็นบายศรี เจดีย์โอคว่ำ วางใต้ปะรำ เตรียมทำพิธี (๔๕๖)
เนิน จำราย
หมายเหตุ พอง ลา กง บ้า ดีซำ เป็นขนม ๕ ชนิด สำหรับพิธี “บุญเดือนสิบ” จัดช่วงแรม ๑๓,๑๔,๑๕ ค่ำ
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, ♥ กานต์ฑิตา ♥, อริญชย์, ไร้นวล^^, ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, panthong.kh, สุวรรณ, ชลนา ทิชากร, Thammada, ไม่รู้ใจ
ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
14 ตุลาคม 2012, 08:15:PM |
toshare
|
|
« ตอบ #122 เมื่อ: 14 ตุลาคม 2012, 08:15:PM » |
ชุมชน
|
.......................๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ (กาพย์ฉบัง ๑๖)
(รับ) รวมพลัง ผองเหล่า ประชา............ร่วมจิต วิญญาณ์ สืบสาน ประชา- ธิปไตย (ซ้ำ)
....ผู้คน ยังลำบาก ยากเข็ญ................ทุกข์แท้ ลำเค็ญ ไม่เห็น ที่ซึ่ง พึ่งพา ....ทุรชน กดขี่ บีฑา.........................แปลงแฝง เร้นมา สูบเลือด วิญญาณ์ สูญสิ้น ....ผู้ปกครอง หนวกบอด ยลยิน............บ้างร่วม โกงกิน ผลาญเผา แผ่นดิน แห้งเหือด (รับ)
....บ้านเมือง สร้างด้วย เนื้อเลือด...........ประชา ดาลเดือด ล้างเชือด อธรรม พังภินท์ ....สืบสาน ตำนาน แผ่นดิน..................ผู้คน ใฝ่ถวิล “รักสามัคคี” ร่วมใจ ....ทูนเทิด กษัตริย์ ทรงชัย..................ธรรมะ สว่างไสว ประชา-ธิปไตย ยืนยง (รับ)
ร้องเป็นทำนองเพลงสากลได้ครับ
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไร้นวล^^, ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, รัตนาวดี, พี.พูนสุข, panthong.kh, เนิน จำราย, อริญชย์, สุวรรณ, ชลนา ทิชากร, Thammada, ไม่รู้ใจ
ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
14 ตุลาคม 2012, 10:07:PM |
ไร้นวล^^
ผู้ดูแลบอร์ด
คะแนนกลอนของผู้นี้ 825
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1,430
โปรดแนะนำเพื่อค้ำชูภาษาไทย
|
|
« ตอบ #123 เมื่อ: 14 ตุลาคม 2012, 10:07:PM » |
ชุมชน
|
ลมหนาวพัดมาพาเหงา ซึมซมซบเซา เปลี่ยวเปล่าอ้างว้างร้างโรย
น้ำค้างยามรุ่งฟุ้งโปรย ระหองระโหย เย็นเยียบเฉียบทรวงครวญคราง
ค่ำคืนลมหวิวพลิ้วฟาง จิ้งหรีดร้องพลาง ริ้วรักเหมือนโดนผลักไส
เหมันต์หวนมาคราใด สะท้านทรวงใน เหน็บหนาวรวดร้าวรุนแรง
|
แดนดินใดให้เราเกิด เราจะเทิดทูนไว้เหนือเศียร
|
|
|
|
26 ตุลาคม 2012, 07:52:PM |
toshare
|
|
« ตอบ #125 เมื่อ: 26 ตุลาคม 2012, 07:52:PM » |
ชุมชน
|
กาพย์ห่อโคลง
.…ธรรมชาติพิสุทธิ์_ล้ำ…...…...…วจีสรรค์ สุริยะดาราจันทร์…………...…...….แจ่มฟ้า พืชสัตว์หลากพงศ์พันธุ์…......……งามเด่น นำจิตเจิดจรัสจ้า…………....…...…ผ่องแผ้วในธรรม
….สุดคำสุดเอื้อนเอ่ย………........สุดเฉลยอัศจรรย์ ธรรมชาติพิสุทธิ์ครัน………........จิตแจ่มพลันธรรมสู่ใจ
....สัตว์โลก โศกตรอมตรม........ทุกข์ระทม น้ำมือใคร ผู้ใด ก่อกรรมไว้....................โลกหมองไหม้ ทุกวารวัน
....เหตุขาด รักเมตตา.............ใช่ดินฟ้า แกล้งเดียดฉันท์ โลภหลง โกรธเกลียดกัน..........นำโทษทัณฑ์ พาบรรลัย
....รักตน รักผู้อื่น...................ชีพแช่มชื่น จิตแจ่มใส รักสัตว์ รักพืชไพร..................ห้วยภูไศล รักดูแล
....มั่นธรรม ชีพสัมมา..............เป็นมรรคา ฝ่ากระแส โลกีย์ มิข้องแล้.....................ผุดผ่องแท้ ทั้งกายใจ
|
|
|
|
26 ตุลาคม 2012, 10:24:PM |
toshare
|
|
« ตอบ #126 เมื่อ: 26 ตุลาคม 2012, 10:24:PM » |
ชุมชน
|
ที่มา : มาจากเรื่อง นักเรียนชายชื่อ นายโข่ง
....เชื่อเถอะ ไม่มาอำ.........เพราะเห็นขำ ใดใดเลย ด้วยรัก จึ่งมาเฉลย............อ้างอิงเผย ให้จดจำ
....ชาวบ้าน เรียกวาฬว่า....."ปลา"นั่นหนา ด้วยว่ายน้ำ สัตว์ใด แหวกว่ายดำ..........ในวารี อาจเรียกปลา (๔๗๔)
เช่น ปลาหมึก ปลาดาว ชื่อแบบวิชาการให้เรียก หมึก ดาวทะเล
|
|
|
|
31 ตุลาคม 2012, 09:34:PM |
เนิน จำราย
|
|
« ตอบ #127 เมื่อ: 31 ตุลาคม 2012, 09:34:PM » |
ชุมชน
|
ประเพณีลากพระ(ชักพระ)
แรมค่ำหนึ่งเดือนสิบเอ็ด พุทธกิจสำเร็จ เสด็จคลาไคลจากไตรตรึงษ์ ชาวสวรรค์แห่แหนอื้ออึง ทั่วทั้งดาวดึงส์ ส่งองค์สัมมาอรหัง
ประทับบุษบกบัลลังก์ พิณทิพย์แตรสังข์ ประโคมเกริกก้องคัคนานต์
บุญญาบารมีบันดาล มนุษย์เมืองเบิกบาน สมโภชสมณะโคดม
ตามขนบชาวใต้นิยม ใบพ้อห่อต้ม ทำบุญวันออกพรรษา
กิจวัตรปฏิบัติบูชา แต่โบราณมา ลากพระฉลองพุทธองค์
ปัจจุบันยังคงดำรง ยั่งยืนมั่นคง สืบต่อชั่วลูกหลานเหลน (๔๘๑)
เถิ่ง ตุม ตุม ตุม เถิ่ง ตุม , เถิ่ง เถิ่ง ตุม เถิ่ง ตุม เถิ่ง ตุม , เถิ่ง เถิ่ง ตุม ตุม เถิ่ง ตุม เถิ่ง ตุม ฯ เนิน จำราย
|
|
|
|
08 พฤศจิกายน 2012, 07:24:AM |
กามนิต
|
|
« ตอบ #128 เมื่อ: 08 พฤศจิกายน 2012, 07:24:AM » |
ชุมชน
|
๔๘๒. อยากเขียนเจียนงามตามเกณฑ์ กาพย์ชัดจัดเจน ยังไร้อะไรหรูตรูตรา
๔๘๓. กระดาษว่างวางลงตรงหน้า มุ่งมาดปรารถนา เจียนจักสักบท, บทกวี
๔๘๔. ดินสอรอกรายหลายที ยังไร้,ไม่มี- สักบทอดอวดชวดชม
๔๘๕. หันเหเหว่หว้าอารมณ์ ป่วนปั่นรรรงม ท่ามกลางว่างเปล่าเงาลวง ๔๘๖. ทุกทิศทุกทางยังกลวง- เปล่าทั้งไร้ท่วง- ท่าที่เหมาะเหมาะและไหม่
๔๘๗. บทกวีที่เขียนเจียนใจ จักดีจักไม่ เป็นขยะระรานผลาญชนม์
๔๘๘. กระดาษเปล่าใจเปล่าเงาวน นานเนาเปล่าจน- วันนี้ไม่มีกวีงาม
กามนิต, ๘ พ.ย.๕๕
|
ความรักแท้จริงมีสีดำดังศอพระศิวะ
|
|
|
08 พฤศจิกายน 2012, 08:33:PM |
|
|
14 พฤศจิกายน 2012, 12:47:PM |
toshare
|
|
« ตอบ #130 เมื่อ: 14 พฤศจิกายน 2012, 12:47:PM » |
ชุมชน
|
๏ ๏ บทไหว้ครู ปฐม ก กา ๏ ๏ (กาพย์ยานี ๑๑) จาก http://krupayao.blogspot.com/2007/08/blog-post_8629.html http://www.baanmaha.com/community/thread39650.html
• นะโมข้าจะไหว้ วระไตรระตะนา ใส่ไว้ในเกษา วระบาทะมุนี
• คุณะวระไตร ข้าใส่ไว้ในเกษี เดชะพระมุนี ขออย่ามีที่โทษา
• ข้าขอยอชุลี ใส่เกษีไหว้บาทา พระเจ้าผู้กรุณา อยู่เกษาอย่ามีไภย
• ข้าไหว้พระสะธรรม ที่ลึกล้ำคำภีร์ใน ได้ดูรู้เข้าใจ ขออย่าได้มีโรคา
• ข้าไหว้พระภิกษุ ที่ได้ลุแก่โสดา ไหว้พระสกิทาคา อะระหาธิบดี
• ข้าไหว้พระบิดา ไหว้บาทาพระชะนะนี ไหว้พระอาจารีย์ ใส่เกษีไหว้บาทา
• ข้าไหว้พระครูเจ้า ครูผู้เฒ่าใส่เกษา ให้รู้ที่วิชา ไหว้บาทาที่พระครู
• จะใคร่รู้ที่วิชา ขอเทวามาค้ำชู ที่ใดข้าไม่รู้ เล่าว่าดูรู้แลนา
• ไชยโยขอเดชะ ชัยชะนะแก่มารา ระบือให้ลือชา เดชะสามาไชยโย
• ไชยโยขอเดชะ ชัยชนะแก่โลโภ โทโสแลโมโห อย่าโลเลโจ้เจ้ใจ
• กุมาระกุมารี ตะรุณีย์ที่เยาว์ไว จะฬ่อพอเข้าใจ ให้รู้จำคำวาที
• ว่าไว้ใน ก กา ก ข ขา อา อิ อี ว่าไว้ในเท่านี้ ที่พอได้ใน ก กา
• แต่พอให้รู้เล่า ที่ผู้เขลาเยาวะพา ได้ดูรู้แลนา กุมาราตะรุณี
• จะใคร่ได้รู้ธำม์ ที่ลึกล้ำจำไว้ดี ได้แน่แต่เท่านี้ ดีจำเอาเบาใจครู
• จะว่าแต่ฬ่อๆ ว่าแต่พอฬ่อใจดู ว่าไว้ได้พอรู้ ดูว่าเล่าเอาใจใส่
Web ส่วนใหญ่จะ ตก ๒ วรรค ที่ใส่ สีแดง ครับ
|
|
|
|
21 พฤศจิกายน 2012, 09:06:PM |
toshare
|
|
« ตอบ #131 เมื่อ: 21 พฤศจิกายน 2012, 09:06:PM » |
ชุมชน
|
....วาดหวังหวังวาดไว้........ผู้คนได้รักช่วยกัน ปัญหาสารพัน.................ร่วมโรมรันปัดเป่าไป
....หวังคนรู้หน้าที่............ดั่งสุรีย์ส่องแสงไสว ชีวีแสนสั้นกระไร.............เถิดเหลือไว้ความเป็น"คน" (๔๙๒)
|
|
|
|
01 ธันวาคม 2012, 07:27:PM |
เนิน จำราย
|
|
« ตอบ #132 เมื่อ: 01 ธันวาคม 2012, 07:27:PM » |
ชุมชน
|
คะนึงเหลือเมื่อห่างร้างไกล..........อนงค์อย่าหวั่นไหว ลุ่มหลงเล่ห์ลิ้นลมลวง (๔๘๙)
ปากอื่นคงเป็นเช่นบ่วง.................แลคำพี่ห่วง ทั้งสิ้นก็ด้วยรักนาง (๔๙๐)
ก่อนเคยเชยชมสองปราง แนบชิดสนิทข้าง ใต้ดาวเด่นด้าวดื่นดวง
จันทร์เพ็ญเร้นแสงบังสรวง คืนเวหาห้วง มอบสองเราสบสุขสันต์
โอบเอื้อออมแรงแบ่งปัน มอบกันและกัน ราตรีหนึ่งนั้นติดตรึง
หวนไห้โหยหารำพึง หลับพลันฝันถึง ห่อนจืดชืดจางร้างลา
ไหว้วอนเทพไท้เทวา ทวนวันกลับมา แก่ข้าผู้น้อยคอยนาง(๔๙๗)
เนิน จำราย
|
|
|
|
01 ธันวาคม 2012, 08:52:PM |
สุวรรณ
|
|
« ตอบ #133 เมื่อ: 01 ธันวาคม 2012, 08:52:PM » |
ชุมชน
|
คำนึงถึงความอ้างว้าง ให้ร่ำยามห่าง สะอื้นบ่วาง ว้างใจ (๔๙๘)
มองฟ้าบุหลันอำไพ ทาบเงาแสงไต้ เหมือนเย้าหยอกให้คะนึง (๔๙๙)
นึกครั้งคราวก่อนซาบซึ้ง ไมตรีตราตรึง ชวนจิตรำพึงถึงเธอ (๕๐๐)
สองเรายามได้พบเจอ คุยกันเสมอ ถามไถ่ทุกข์สุข บ่ ลืม (๕๐๑)
จำคำสัญญายังปลื้ม สองเรา บ่ ลืม สัญญารักมั่นนิรันดร์ (๕๐๒)
|
|
|
|
09 มกราคม 2013, 01:19:PM |
toshare
|
|
« ตอบ #134 เมื่อ: 09 มกราคม 2013, 01:19:PM » |
ชุมชน
|
....ขอบคุณ ผองเพื่อนรัก.........ข้าฯ ประจักษ์ ซึ้งน้ำใจ แม้กาย อาจใกล้ไกล..............รักเยื่อใย หนักแน่นจริง ....ขอบคุณ กำลังใจ...............อีกห่วงใย คุณพ่อยิ่ง เมตตา รักสรรพสิ่ง.................แก่นพักพิง ผองผู้คน
|
|
|
|
12 มกราคม 2013, 12:12:PM |
toshare
|
|
« ตอบ #135 เมื่อ: 12 มกราคม 2013, 12:12:PM » |
ชุมชน
|
....อ้างว้าง ว่างเปล่าเปลี่ยว......โลกโดดเดี่ยว เหงาเงียบจัง เคว้งคว้าง อวกาศขัง.............ชีวียัง เพื่อการใด
....ช่วงชิง ทรัพย์ชื่อเสียง........หาพ้นเพียง พันปีได้ สูญดับ ลับเหลือไว้...............สิ่งดีไซร้ เพื่อผองชน (๕๐๖)
|
|
|
|
17 กุมภาพันธ์ 2013, 12:32:PM |
เนิน จำราย
|
|
« ตอบ #136 เมื่อ: 17 กุมภาพันธ์ 2013, 12:32:PM » |
ชุมชน
|
รำพึงตน
ดื่นใดข้องในดวงกมล อึดอัดขัดสน พึงทบเทียบหวนทวนความ
กังวลเกิดได้ทุกยาม อย่าได้ครั่นคร้าม ห้ามได้ด้วยตัวสติแท้
อารมณ์หันเหียนเปลี่ยนแปร ใช้สมาธิแก้ ผ่อนพักจากหนักเป็นเบา
เหตุจากเพราะมีเรา,เขา อ้างเอาไม่เอา ขัดเกลาลำบากยากเข็น วางกรอบรอบเราให้เป็น แยกแยะประเด็น เดือนเพ็ญผ่องโชติชัชวาล
โยนิโสมนสิการ ข้อธรรมบันดาล สังขารสงบสยบทุกข์แลฯ(๕๑๒)
เนิน จำราย
|
|
|
|
30 มีนาคม 2013, 03:31:PM |
พี.พูนสุข
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 1269
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1,104
ทิวาฉาย ณ ปลายผา
|
|
« ตอบ #137 เมื่อ: 30 มีนาคม 2013, 03:31:PM » |
ชุมชน
|
ต้องมีสักวัน..
กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘ (กากคติ)
๐ ณ กาละนี้ สดับคดี พิพิธภัย ดนูสลด ระทดฤทัย มิกล้าคระไล เพราะอันตราย
๐ ประชาตระหนก ระทึกระทก อุบาทว์อุบาย ก็เหี้ยมและโหด ฤ โฉด ฤ ร้าย ถล่มทลาย มิหวั่นมิเกรง
๐ ตำรวจทหาร สะเทือนสะท้าน มิย่านมิเยง ปะทะดุเดือด ชะเลือดละเลง มิครื้นมิเครง สะอื้นระงม
๐ อนาถกรรม ไฉนกระทำ ไผทระทม ประนีประนอม ก็ยอมระดม ระเบิดถล่ม สยดสยอน
๐ ดนูประณาม เพราะเย้ยเพราะหยาม กระบิลนคร จะอดจะทน ผิว์พ้นผิว์ผ่อน.. จะกินจะนอน อุราสำราญ ฯ (๕๑๗)
พี.พูนสุข ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๖ *กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘ (กากคติ) กำหนดให้มี "ลหุ" ในคำที่ ๑ และที่ ๓ ของทุกวรรค (กากคติ อ่านว่า กากะคะติ) กาพย์ที่มีจังหวะอย่างกาบิน
|
|
|
|
30 มีนาคม 2013, 05:54:PM |
เนิน จำราย
|
|
« ตอบ #138 เมื่อ: 30 มีนาคม 2013, 05:54:PM » |
ชุมชน
|
๐ พรุ่งนี้สว่างแล้วหนอ ๐
กาพย์ฉบัง ๑๖
๐จวนแจ้งแสงทองอำไพ ดาวต่ำรำไร เดือนคล้อยลอยหายสายตา
๐กลางบ้านแว่วไก่ขันมา เชื่อมโยงเวลา ส่งรับหมุนเวียนเปลี่ยนกาล
๐ธรรมชาติรังสรรค์บันดาล ก้องเกริกเบิกบาน เรือนชานแย้มออกหยอกกัน
๐กลาดเกลื่อนบัวเผื่อนบัวผัน จำปีมะลิวัลย์ โชยกลิ่นกรุ่นครันลอยมา
๐ริ้วสว่างพราวพร่างบูรพา เหนือคำพรรณนา ชุ่มชื่นรวยรื่นหฤทัย
๐ศรีสวัสดิ์พิพัฒน์เรืองสมัย ทอแสงอโณทัย มวลมนุษย์กำหนดบทจร (๕๒๓)
เนิน จำราย
|
|
|
|
31 มีนาคม 2013, 08:42:PM |
เนิน จำราย
|
|
« ตอบ #139 เมื่อ: 31 มีนาคม 2013, 08:42:PM » |
ชุมชน
|
๐วันรันทด๐
กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘
๐เช้าตื่นฟื้นตัว หัวหมุนตามัว ลุกจากที่นอน รั้งร่างผุดนั่ง กายตั้งใจถอน อกอ้าวร้าวรอน เฉียวฉุนหุนหัน
๐เช้านี้มีงาน เจ้านายสั่งการ เก็บดอกรายวัน แม่ค้ามาลัย สูงวัยจนครัน ชื่อแกยายจันทร์ หลานติดแม่ตาย
๐จับมอเตอร์ไซค์ สีดำคันใหญ่ ขับสู่ที่หมาย ซอยเล็กคนล้น สับสนวุ่นวาย แผงวางเรียงราย ขวาซ้ายพลุกพล่าน
๐เกือบแถวสุดท้าย ผู้คนมากมาย ถกเถียงโจทย์ขาน บ้างบ่นเวทนา กล่าวว่าคืนวาน ยายจันทร์กับหลาน หนีหายหน้าไป
๐กลับบ้านกอดลูก รับขวัญพันผูก น้ำตาพ่อไหล ย้อนคิดยายจันทร์ สัมพันธ์สายใจ ลูกเยื่อหลานใย พ่อ,ยายคล้ายกัน
๐ฝ่าฝืนไม่ได้ หน้าที่มีไว้ ตัวใครตัวมัน พ่ออ่อนเจ้าอด รันทดไหวหวั่น สังคมทุกวัน หมดแล้วอาทร (๕๒๙)
เนิน จำราย ขอบพระคุณน้ำใจ จากพี่พูนสุข
|
|
|
|
|