ต่อไป »

[บุคคลทั่วไป]

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)

[อริญชย์]

      ๐เที่ยวสนามหลวง๐

เดินชมวิวสนามหลวงในช่วงบ่าย
คนมากมายมากันร่วมฝันใฝ่
ยืนนั่งนอนคุยเล่นอย่างเย็นใจ
ท้องฟ้าใสกระจ่างดูพร่างพราว

สายลมพัดเย็นสบายช่วยคลายร้อน
คนพักผ่อนแข่งขันประชันว่าว
แดงเหลืองเขียวพราวพรายโยงสายยาว
ต่างเกรียวกราวสุขสันต์ตามครรลอง

ต้นมะขามสูงลิบลิ่วคือทิวไม้
ผู้คนได้พักกายแดดบ่ายส่อง
แลเบื้องบนเห็นมีฟ้าสีทอง
ให้ไทยผองน้องพี่ยินดีพลัน

สนามหลวงกว้างใหญ่เขียวใบหญ้า
คนกรุงมาเดินเล่นเพื่อเป็นขวัญ
เวียนวนรอบสนามให้ชื่นใจกัน
ต่างแบ่งปันความสุขไม่รุกราน

บางครั้งคนล้นหลามสนามหลวง
มาตักตวงบุญให้เพิ่มไพศาล
ซื้อหนังสือเลิศล้ำธรรมทาน
เทศกาลวันวิสาขบูชา ฯ

                        อริญชย์
                     ๒๗/๕/๒๕๕๕

[--ณัชชา--]

แวะไปบ้างเหมือนกันในวันว่าง
แถวแถวข้างสนามเดินตามหา
ดูหมอดูใต้มะขามตามตำรา
ลือกันว่าแม่นนัก อยากทดลอง

ยื่นมือให้หมอดูรู้คำตอบ
พ่อหมอลอบจับแขนใช้แว่นส่อง
คลำเป็นนานสองนานฉันนั่งมอง
หมอตรึกตรองซ้ำซ้ำคลำไปมา

จับอย่างเดียวไม่ทายยังไงนี่
หมอชอ-กีหลอกอำชังน้ำหน้า
เกือบเอาหมัดนิ่มนิ่มทิ่มเบ้าตา
ดวงคง-xวย-นักหนาหมอบ้ากาม

--natcha--

 

[yaguza]

หมอต้องจับ ต้องถือ มือหนูไว้
อย่าทำงงสงสัย อะไรถาม
มิใช่หมอ มีจิต คิดลวนลาม
อย่าลามปาม กับหมอ ขอร้องที

จะให้ทาย ลายมือ ใช่หรือไม่
ทำนายได้ ทั้งชะชา และราศรี
กราฟชีวิต ครบครัน วันเดือนปี
หมอยังมี ที่รับ ประทับทรง

 
........ยากูซ่า.........

[--ณัชชา--]

เป็นหมอดูชีกอไม่ขอเกี่ยว
อย่ามาเที่ยวเกี่ยวพันฉันไม่หลง
เล่ห์หมอดูหมอเดาทำเรางง
ทายส่งส่งเรื่อยไปไม่จริงจัง

ทายมาตั้งหลายครั้งยังไม่ถูก
พ่อบุญปลูกยกตนมีมนต์ขลัง
ดวงหมอเองน่ะดูรู้หรือยัง
ว่าจะพลั้งโดนขวานวันอะไร

--natcha

 

[yaguza]

เรื่องเคราะห์หาม ยามร้าย อะไรนี้
ไม่เคยมี ทั้งนั้น วันไหนไหน
ดูไปตาม ตำรา ก็ว่าไป
แม่นไม่แม่น อย่างไร ไม่ประกัน

ขอทำนาย เนื้อคู่ อยู่ทิศใต้
มีนิสัย เฉื่อยชา สายตาสั้น
เที่ยวกัดปลา ตีไก่ ไปวันวัน
เห็นประจักษ์ สักยันต์ ขอฟันธง


 
......ยากูซ่า......

[--ณัชชา--]

ยันต์ที่ว่าเขาสักจากวัดไหน
ยันต์ของใครตอบเราอย่าเดาส่ง
อาจารย์หนู หรือไม่ตอบให้ตรง
หรือว่าคงเป็นท่านอาจารย์แมว

สักเป็นรูปอะไรบอกให้คัก
ที่เขาสักกันนั้นยันต์กี่แถว
อย่ามาโกหกกันฉันรู้แกว
เริ่มเห็นแววแล้วซีว่าขี้โม้

--ณัชชา--

 

[ดาว อาชาไนย]

นางหนึ่งสักนกอินทรีที่ท้องน้อย
ไยน้องพลอยคิดเห็นเป็นของโก้
ต้องแต่งงานซักทีจึงมีโชว์
อพิโธ่แฟนยังไม่สนใจดู

ดาว

[yaguza]

ยันต์ที่ว่าเขาสักจากวัดไหน
ยันต์ของใครตอบเราอย่าเดาส่ง
อาจารย์หนู หรือไม่ตอบให้ตรง
หรือว่าคงเป็นท่านอาจารย์แมว

สักเป็นรูปอะไรบอกให้คัก
ที่เขาสักกันนั้นยันต์กี่แถว
อย่ามาโกหกกันฉันรู้แกว
เริ่มเห็นแววแล้วซีว่าขี้โม้

--ณัชชา--

มิได้โม้ สักหน่อย หนอยมาว่า
กล่าววาจา ยั่วยวน กวนโมโห
หากเป็นจริง เธอจะต้อง ร้องโอ้โฮ
ทำตาโต ที่หมอทัก ชักมีแวว

เขาไปให้ อาจารย์คง ลงเข็มสัก
ตรงสะบัก ด้านขวา ยันต์ห้าแถว
สักน้ำมัน ให้เห็น พอเป็นแนว
เพื่อนเพื่อนแซว สักยันต์ ไว้กันยุง

 
......ยากูซ่า.......

[อริญชย์]

สนามหลวงคึกคักแหล่งพักผ่อน
คนนั่งนอนผ่อนคลายใจหมายมุ่ง
เป็นสถานที่กว้างใหญ่อยู่ในกรุง
อีกผดุงเรื่องงานราชพิธี

เดิมชื่อ “ทุ่งพระเมรุ” ไม่เป็นมิ่ง
คนท้วงติงว่าเห็นไม่เป็นศรี
ธ ทรงเปลี่ยนชื่อท้องสนามหลวงดี
ทุกวันนี้คนไปกันสุขสันต์จริง ฯ

                         อริญชย์
                    ๒๗/๕/๒๕๕๕


ประวัติ
ท้องสนามหลวง เดิมเรียกว่า ทุ่งพระเมรุ เนื่องจากใช้เป็นที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพพระเจ้าแผ่นดิน และพระบรมวงศานุวงศ์ ครั้นเมื่อ พ.ศ. 2398 รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อเรียกจาก “ทุ่งพระเมรุ” เป็น “ท้องสนามหลวง” ดังปรากฏในประกาศว่า “ที่ท้องนาหน้าวัดมหาธาตุนั้น คนอ้างการซึ่งนาน ๆ มีครั้งหนึ่งแลเป็นการอวมงคล มาเรียกเป็นชื่อตำบลว่า ‘ทุ่งพระเมรุ’ นั้นหาชอบไม่ ตั้งแต่นี้สืบไปที่ท้องนาหน้าวัดมหาธาตุนั้น ให้เรียกว่า ‘ท้องสนามหลวง’”
ตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เป็นต้นมา ได้ใช้สนามหลวงเป็นที่ประกอบพระราชพิธีต่าง ๆ เช่น เป็นที่ตั้งพระเมรุมาศของพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์ และเป็นที่ประกอบพระราชพิธีต่าง ๆ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ทำนาที่สนามหลวง เพื่อแสดงให้ปรากฏแก่นานาประเทศว่า เมืองไทยบริบูรณ์ด้วยข้าวปลาอาหาร มีไร่นาไปจนใกล้ ๆ พระบรมมหาราชวัง และไทยเอาใจใส่ในการสะสมเสบียงอาหารไว้เป็นกำลังของบ้านเมืองด้วย
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ประกอบพระราชพิธีพืชมงคล พิธีพิรุณศาสตร์มีกำแพงแล้วล้อมรอบบริเวณ ข้างในสร้างหอพระพุทธรูปสำคัญเป็นที่ประดิษฐานพระสำหรับพิธี สำหรับการพิธีมีพลับพลาที่ทำการพระราชพิธี มีหอดักลมลงที่พลับพลาสำหรับทอดพระเนตรการทำนา ข้างพลับพลามีโรงละครสำหรับเล่นบวงสรวง ด้านเหนือมีพลับพลาน้อยสร้างบนกำแพงแก้วสำหรับประทับทอดพระเนตรการทำนาในท้องทุ่ง นอกกำแพงแก้วยังมีฉางสำหรับใส่ข้าวที่ได้จากการปลูกข้าว
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ขยายสนามหลวงจากเดิม และรื้อพลับพลาต่าง ๆ ที่สร้างในรัชกาลก่อน ๆ เพราะหมดความจำเป็นที่จะต้องทำนา และได้ใช้สนามหลวงเป็นที่ประกอบพิธีต่าง ๆ เช่น การฉลองพระนครครบ 100 ปี งานฉลองเมื่อเสด็จพระราชดำเนินกลับจากยุโรปใน พ.ศ. 2440 ครั้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงใช้ประกอบพระราชพิธีต่าง ๆ ใช้เป็นสนามแข่งม้า สนามกอล์ฟ


http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87



 

[เทโพ]

ดูหมอดู สักกี่ดวง ก็ดวงตก
จะสักยันต์ สักกี่ยก ยังไม่หนำ
ร้านลงสี สักกี่เส้น ไม่เห็นดำ
เดินกี่รอบ ก็ยังย่ำ ซ้ำทางเดิม

....คนลงทาง....
....เทโพ....