03 กันยายน 2012, 10:58:AM |
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 3482
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,752
ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
|
|
« ตอบ #40 เมื่อ: 03 กันยายน 2012, 10:58:AM » |
ชุมชน
|
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, D, เมฆา..., ปู่ริน, ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร, เนิน จำราย, saknun, พี.พูนสุข, Shumbala, ไม่รู้ใจ
ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
18 มีนาคม 2013, 11:15:PM |
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 3482
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,752
ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
|
|
« ตอบ #41 เมื่อ: 18 มีนาคม 2013, 11:15:PM » |
ชุมชน
|
อ้ออ้อยแขม แห้มไหม้ ใบตองแห้ง พร้าวตาลแดง แสงฉาบ กิ่งกาบสน เปลวแดดร้อน ระบำ ทั่วตำบล ยังขาดฝน หล่นฟ้า มาโปรยปราย
ที่ดอนดอง คลองกว้าง ทางระอุ แตกพังผุ เหือดห้าว ร้าวเป็นสาย ริ้วลมพัด ปัดหมุน ฝุ่นกระจาย หญ้าทอดกาย ลู่คลื่น ราบพื้นดิน
ไร้จิ้งหรีด กรีดเสียง รอบเถียงทุ่ง ไร้ปลากุ้ง แหวกว่าย ตะกายสินธุ์ ไร้กบเขียด เสียดซ้อง ก้องธานิน ไร้กาบิน นกขัน สนั่นคาม
ลำไยออก ดอกบาน ดิ่งดานร่วง ผลมะม่วง เล็กลูก เหี่ยวสุกห่าม รวงข้าวลีบ ตีบตัน โรคพลันลาม ฝักมะขาม แลบแบน แล่นคดงอ
ไร้ผักหนอก จอกแหน แพผำเขียว ไร้ผักเสี้ยว เชียงดา ขุดหาหน่อ ไร้ผักหวาน ก้านหอม ฝักซอมพอ ผักกาดจอ ไร้เนื้อ เบื่อจนเอียน
คงสลด หดหู่ อยู่เช่นนี้ อีกสองปี ไม่แน่ อาจแปรเปลี่ยน แล้งซ้ำซาก ยากจน หายวนเวียน สู่อาเซียน มั่งคั่ง ยังทันกาล
รพีกาญจน์
|
|
|
|
19 มีนาคม 2013, 01:17:AM |
muneenoi
|
|
« ตอบ #42 เมื่อ: 19 มีนาคม 2013, 01:17:AM » |
ชุมชน
|
ธรรมชาติใจดำ จึงช้ำหนัก หรือคนหัก ตัดไม้ทำลายป่า หรือเทวัญ ท่านหวงน้ำ ไว้บนฟ้า ปล่อยโลกา ให้แห้งแล้ง ด้วยแรงไฟ นับแต่นี้ สองปี มีอาเซียน ได้หมุนเวียน เศรษฐกิจ คิดแก้ไข แต่ปัญหาภัยแล้ง แสลงใจ ทำอย่างไร จะแก้ไข ได้ทันการณ์ "มุนีน้อย" สมาชิกน้องใหม่ ยังอ่อนหัดเรื่่องเชิงกลอน ฝากตัวฝากใจด้วยนะครับ
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พยัญเสมอ, D, รพีกาญจน์, เนิน จำราย, ปู่ริน, saknun, ชลนา ทิชากร, พี.พูนสุข, Shumbala, ลิตเติลเกิร์ล, Prapacarn ❀, ไม่รู้ใจ
ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
แต่งกลอนเพราะใจรัก หนักใจเพราะตัณหา เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน สำราญด้วยพระธรรม..
|
|
|
19 มีนาคม 2013, 11:57:AM |
ปู่ริน
|
|
« ตอบ #43 เมื่อ: 19 มีนาคม 2013, 11:57:AM » |
ชุมชน
|
มะพร้าวใบแห้งสวนแล้งจัด ต้นยางผลัดใบร่วงหล่นจนแดงฉาน กิ่งแห้งหักตายหลายต้นจนเต็มลาน หมดแรงต้านแรงลมล้มเรียงราย
ทนกรีดยางยางหมดค่าราคาถูก มะพร้าวลูกละสองบาทน่าใจหาย มะพร้าวงอกอยู่เต็มสวนสุดเสียดาย พอจำหน่ายไม่คุ้มค่าค่าปุ๋ยแพง
โค่นมะพร้าวมาปลูกชาต้นกาแฟ ขอเพียงแค่ความตั้งใจไม่แอบแฝง ปรับพื้นที่อินทรีย์วัตถุลงทุนแรง เอาสายพันธุ์ที่แข็งแกร่งมาจุนเจือ
อราบิก้า คาธิมอร์ จากโปรตุเกส เคยปลูกจาไมก้าประเทศเขตร้อนเหลือ มาพัฒนาแก้ปัญหาพาเอื้อเฝื้อ เพราะเริ่มเบื่อ..(เฮ้ย)..เสียงครวญ.จาก..ชาวสวนยาง..
ริน ดอนบูรพา ๑๙ มี.ค. ๕๖
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ชลนา ทิชากร, D, พี.พูนสุข, เนิน จำราย, muneenoi, อัญชัน, saknun, Shumbala, รพีกาญจน์, ลิตเติลเกิร์ล, Prapacarn ❀, ไม่รู้ใจ
ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
23 มีนาคม 2013, 03:00:AM |
อัญชัน
|
|
« ตอบ #44 เมื่อ: 23 มีนาคม 2013, 03:00:AM » |
ชุมชน
|
มีที่นาสิบไร่ไม่รู้ว่า จะสานต่อเป็นชาวนาจะดีไหม หรือจะเปลี่ยนมาทำสวนครวญใคร่ใจ หรือจะปล่อยร้างไว้ ไม่คุ้มทำ
แบ่งปลูกยางห้าไร่ประเดิมก่อน เผื่อได้เป็นทุนรอนตอนตกต่ำ ห้าไร่เหลือปลูกข้าวหอมพร้อมปักดำ หวังแค่ฝนฟ้าฉ่ำจะเป็นใจ
ยางสองปีต้นอ่อนทนร้อนแดด ทวีทบแรงแผดเผาเจ้าแทบไหม้ ขาดน้ำเลี้ยงลำต้นหล่นร่วงใบ ต้นแคระแกรนไม่ใหญ่อย่างใจจง
ฟังเสียงครวญจากสวนยางอ้างว้างนัก จะรื้อยางแล้วปลูกผักหาที่ส่ง แบบไร้สารเขาว่ามีที่ลง หลายตลาดเขาประสงค์มากดีมานด์ ( demand = ความต้องการ)
ทบทวนใจหลายตลบเราจบแน่ ทำอะไรตามกระแสแต่ไม่ผ่าน เขาปลูกมันปลูกอ้อยหลายร้อยงาน แต่หนี้สินยังบานไม่คุ้มทุน
ยับยั้งใจไม่ทิ้งสวนยางน้อย สงบใจลงหน่อยเลิกว้าวุ่น แปดเก้าปีข้างหน้าคงเป็นคุณ ราคายางยังคอยลุ้นคงเปลี่ยนแปลง
ส่วนผักปลอดสารพิษคิดถี่ถ้วน ขุดดินพรวนข้างรั้วไม่มัวแหนง กว้างเมตรครึ่งลากยาวตามกำแพง ผักสวนครัวแยกแบ่งปลูกผลัดกัน
|
|
|
|
27 มีนาคม 2013, 09:52:PM |
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 3482
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,752
ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
|
|
« ตอบ #45 เมื่อ: 27 มีนาคม 2013, 09:52:PM » |
ชุมชน
|
แว่วระฆัง ดังถี่ บอกตีห้า ตื่นล้างหน้า มือสาว เก็บข้าวของ จิตอาสา เดินนำ ย้ำมองมอง ยินเสียงฆ้อง ตักบาตร ก่อนคลาดไคล
ขึ้นปิกอัพ ขับเฟื่อง เครื่องสนั่น ฝ่าหมอกควัน ถนน จนถึงไร่ ยกเครื่องวาง ข้างบ่อ ต่อลำไย สูบน้ำไหล ดินยุ่ย ปุ๋ยละลาย
จับไม้ไผ่ ใช้ค้ำ กิ่งลำต้น ป้องกันฝน ซัดสาด ลมฟาดสาย ลูกเริ่มโต โผล่พวง หนักช่วงปลาย เที่ยงเลยบ่าย เหงื่อเล็ด เสร็จกึ่งทาง
ปั้นข้าวเหนียว เจียวผำ น้ำพริกอ่อง ตักลอดช่อง ล่องคอ ถ่อข้าวขวาง ผ้าขาวม้า คว้าหมับ ซับเช็ดคาง ลูบพุงกาง อมเมี่ยง ฟังเสียงซอ
อากาศร้อน นอนพัก หลับสักงีบ แดดร่มรีบ ยันลุก บุกงานต่อ ไร้เงินจ้าง ร่างรุด มิหยุดรอ มืดเดือนทอ แสงหม่น พ้นยอดดอย
ทิ้งเครื่องมือ เครื่องไม้ ไว้ตูบห้าง คิดนอนค้่าง ยากปลง คงเหงาหงอย จุดตะเกียง เมียงเถื่อน จิตเลื่อนลอย เรียบเรียงถ้อย ไร้คอมพ์ ต้องตรอมตรม
รพีกาญจน์
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ...เป็ดน้ำ..., จารุทัส, รัตนาวดี, ลิตเติลเกิร์ล, นพตุลาทิตย์, ชลนา ทิชากร, D, Prapacarn ❀, saknun, เนิน จำราย, ปู่ริน, ไม่รู้ใจ
ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|