๐...เพื่อดวงดาว...๐
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
01 พฤศจิกายน 2024, 08:26:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ๐...เพื่อดวงดาว...๐  (อ่าน 5437 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
15 พฤษภาคม 2012, 08:45:AM
เมฆสีรุ้ง
Special Class LV3
นักกลอนผู้มากผลงาน

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 73
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 171


เปิดรับทุกคำติชมครับ^^


fuciation fuciation
« เมื่อ: 15 พฤษภาคม 2012, 08:45:AM »
ชุมชนชุมชน


"เพื่อดวงดาว"



หยาดน้ำตาร่วงรินยินสะอื้น
ต้องกล้ำกลืนฝืนเก็บแม้เจ็บหนัก
มิใช่ทำด้วยใจที่ใฝ่รัก
หากแต่ทนเพราะหักมิได้เอง

เคยทุ่มเทเท่าไหร่ไม่เป็นผล
รังแต่ดลให้ระทมเขาข่มเหง
ซุ่มสำเนียงเสียงหวานเคยบรรเลง
กลายเป็นเพลงโศกเศร้าของเงาใจ

ยิ้มละมุนอุ่นอกเมื่อแนบชิด
กอดสนิทพิศวาสที่เคยได้
เหมือนอำลาจากแล้วไปแสนไกล
เหลือแต่รอยร่ำไห้เวทนา

เหมือนความสุขวันวานผ่านมาแล้ว
แต่ไม่แคล้วหวนถึงคำนึงหา
พลันสะท้านรานร้าวหนาวกายา
หยดน้ำตาพรั่งพรูกรูกันนอง

แม้นหนทางสิ้นไร้หัวใจนั้น
ยังอดกลั้นดั้นด้นทนสนอง
ประคองทางร่วมไว้ในครรลอง
แม้มิได้หมายปองจะครองกัน

ในหลากร้อยเหตุผลที่ทนฝืน
ใช่อาวรณ์วันคืนที่ร่วมฝัน
เพียงแต่หากท้องฟ้าไร้ตะวัน
คงไม่มีแสงจันทร์มาเคียงดาว


ด้วยความกล้ำกลืน
เมฆสีรุ้ง  -  ๑๕  พ.ค.  ๒๕๕๕


ปล. เคยรู้สึกไหม...  การต้องทนอยู่กับใครหนึ่งคน...เพื่อ... ใครอีกคนหนึ่ง!!!

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, amika29, บูรพาท่าพระจันทร์, D, รพีกาญจน์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, sunthornvit, หนามเตย, ดาว อาชาไนย, ปู่ริน, ดุลย์ ละมุน, พี.พูนสุข, ภู กวินท์, รการตติ, panthong.kh

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..........สายลมลอยล่องคล้อย.......งามชม้อยคอยเวหา.......พรีกพริ้วกลีบเมฆา.......ลอยลับลาเลือนหายไป..........
15 พฤษภาคม 2012, 12:55:PM
D
นักรบทุกบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 3313
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,894


ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & Youtube ค่ะ


sasa.yai
เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 15 พฤษภาคม 2012, 12:55:PM »
ชุมชนชุมชน


มีเหตุผล ใดหรือ จึงถือจาก
น้ำตาพราก พร่างพรู สู่ใจสาว
ก่อนเคยเคียง เรียงกระซิบ ระยิบพราว
ใยรักร้าว หนาวเหน็บ จนเจ็บจินต์

ตอบได้ไหม ใครหนอ คลอเคลียอยู่
ทิ้งดาวผู้ ต่ำต้อย คอยถวิล
จึงหันเห เซไป ไม่ยลยิน
น้ำตาดาว ร่วงริน จินต์ตรมตรอม

เคยรักมาก ฝากฝัง ครั้งคลอเคล้า
เคยพะเน้า คลอเคียง เพียงถนอม
บัดนี้ลา ห่างไกล ไม่ออมชอม
หากเหตุผล ดีพร้อม ยอมจากไป. ร้องไห้งอแง

"ดิน"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เมฆสีรุ้ง, ยามพระอาทิตย์อัสดง, sunthornvit, อริญชย์, หนามเตย, ดาว อาชาไนย, ดุลย์ ละมุน, ปู่ริน, บูรพาท่าพระจันทร์, amika29, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ภู กวินท์, รการตติ

ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

15 พฤษภาคม 2012, 01:43:PM
เมฆสีรุ้ง
Special Class LV3
นักกลอนผู้มากผลงาน

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 73
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 171


เปิดรับทุกคำติชมครับ^^


fuciation fuciation
« ตอบ #2 เมื่อ: 15 พฤษภาคม 2012, 01:43:PM »
ชุมชนชุมชน

เกิดเป็นเพียงดวงจันทร์อันกระจ้อย
คงต้องคอยรับแสงแรงไสว
จากอาทิตย์ฤทธิ์ร้อนสะท้อนใจ
เพื่อส่องให้สุกสว่างเคียงข้างดาว

แม้ไม่อาจเปล่งแสงด้วยตนได้
ยังเต็มใจลอยคว้างในกลางหาว
เพื่อรอรับแสงตะวันอำพันพราว
ส่องสกาววาววับระยับพราย

รู้ทั้งรู้แสงทิวามันแรงร้อน
ยังออดอ้อนยื้อยั้งก่อนสลาย
แม้ต้องทนเร่าร้อนกร่อนละลาย
เพียงขอเปล่งประกายแด่ดารา

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, sunthornvit, ยามพระอาทิตย์อัสดง, หนามเตย, ดาว อาชาไนย, D, ดุลย์ ละมุน, ปู่ริน, บูรพาท่าพระจันทร์, amika29, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ภู กวินท์, รการตติ, panthong.kh

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..........สายลมลอยล่องคล้อย.......งามชม้อยคอยเวหา.......พรีกพริ้วกลีบเมฆา.......ลอยลับลาเลือนหายไป..........
15 พฤษภาคม 2012, 02:38:PM
ดาว อาชาไนย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 394
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,472



poem.archanai?fref=ts
« ตอบ #3 เมื่อ: 15 พฤษภาคม 2012, 02:38:PM »
ชุมชนชุมชน




ความเหงาเป็นเช่นเพื่อนเยือนเสมอ
จึงพร่ำเพ้อคร่ำครวญเฝ้าหวนหา
เคยสมหวังผิดหวังหลายครั้งครา
จนชินชาจำทนจนสาใจ

ดาว อาชาไนย

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เมฆสีรุ้ง, ปู่ริน, ดุลย์ ละมุน, D, อริญชย์, sunthornvit, บูรพาท่าพระจันทร์, amika29, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ภู กวินท์, รการตติ

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เสี้ยวอารมณ์จากใจใครคนหนึ่ง
คงไม่ซึ้งจับใจใครทั้งหลาย
แค่มีใครคนหนึ่งซึ้งไม่คลาย
ก็สมหมายใครคนหนึ่งซึ่งรักกลอน
15 พฤษภาคม 2012, 10:37:PM
เมฆสีรุ้ง
Special Class LV3
นักกลอนผู้มากผลงาน

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 73
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 171


เปิดรับทุกคำติชมครับ^^


fuciation fuciation
« ตอบ #4 เมื่อ: 15 พฤษภาคม 2012, 10:37:PM »
ชุมชนชุมชน




ความเหงาเป็นเช่นเพื่อนเยือนเสมอ
จึงพร่ำเพ้อคร่ำครวญเฝ้าหวนหา
เคยสมหวังผิดหวังหลายครั้งครา
จนชินชาจำทนจนสาใจ

ดาว อาชาไนย


หากต้องเหงาเศร้าสร้อยเพราะไร้คู่
ดีกว่าอยู่อย่างเหงาๆเพราะทนให้
แม้นสิ้นรักไม่สิ้นเชื้อยังเหลือไฟ
ถึงไม่เหลือเยื่อใยใช่สิ้นกรรม

เมฆสีรุ้ง
๑๕  พ.ค.  ๒๕๕๕

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ปู่ริน, ภู กวินท์, รการตติ, รพีกาญจน์, บูรพาท่าพระจันทร์, อริญชย์, ดาว อาชาไนย, sunthornvit

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..........สายลมลอยล่องคล้อย.......งามชม้อยคอยเวหา.......พรีกพริ้วกลีบเมฆา.......ลอยลับลาเลือนหายไป..........
16 พฤษภาคม 2012, 08:31:AM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #5 เมื่อ: 16 พฤษภาคม 2012, 08:31:AM »
ชุมชนชุมชน


"เพื่อดวงดาว"
หยาดน้ำตาร่วงรินยินสะอื้น
ต้องกล้ำกลืนฝืนเก็บแม้เจ็บหนัก
มิใช่ทำด้วยใจที่ใฝ่รัก
หากแต่ทนเพราะหักมิได้เอง

เคยทุ่มเทเท่าไหร่ไม่เป็นผล
รังแต่ดลให้ระทมเขาข่มเหง
ซุ่มสำเนียงเสียงหวานเคยบรรเลง
กลายเป็นเพลงโศกเศร้าของเงาใจ

ยิ้มละมุนอุ่นอกเมื่อแนบชิด
กอดสนิทพิศวาสที่เคยได้
เหมือนอำลาจากแล้วไปแสนไกล
เหลือแต่รอยร่ำไห้เวทนา

เหมือนความสุขวันวานผ่านมาแล้ว
แต่ไม่แคล้วหวนถึงคำนึงหา
พลันสะท้านรานร้าวหนาวกายา
หยดน้ำตาพรั่งพรูกรูกันนอง

แม้นหนทางสิ้นไร้หัวใจนั้น
ยังอดกลั้นดั้นด้นทนสนอง
ประคองทางร่วมไว้ในครรลอง
แม้มิได้หมายปองจะครองกัน

ในหลากร้อยเหตุผลที่ทนฝืน
ใช่อาวรณ์วันคืนที่ร่วมฝัน
เพียงแต่หากท้องฟ้าไร้ตะวัน
คงไม่มีแสงจันทร์มาเคียงดาว

ด้วยความกล้ำกลืน
เมฆสีรุ้ง  -  ๑๕  พ.ค.  ๒๕๕๕


ปล. เคยรู้สึกไหม...  การต้องทนอยู่กับใครหนึ่งคน...เพื่อ... ใครอีกคนหนึ่ง!!!



เรื่องบางอย่าง ปล่อยวาง เสียบ้างหนา
พรมลิขิต ขีดมา ไยว่ากล่าว
ไม่อยากทำ ทุกครั้ง ใจทั้งร้าว
เจ็บเหน็บหนาว ตรมหม่น ต้องทนเอา

คิดเสียว่า เวรกรรม ที่ทำไว้
ตามมาไว ให้ช้ำ กระหน่ำเข้า
ทั้งที่ใจ หักห้าม ยังตามเรา
คิดแล้วเศร้า สิ้นดี ไม่มีทาง

ขอให้มอง ข้ามผ่าน อย่าซ่านซม
ห้วงอารมณ์ ข่มจิต ให้คิดบ้าง
ชดใช้หนี้ ทั้งหมด ลดเบาบาง
เป็นหนทาง ก้าวใหม่ ใสกว่าเดิม
พันทอง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, sunthornvit, รพีกาญจน์, เมฆสีรุ้ง

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s