เพียงรำพึงรำพัน
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
24 พฤศจิกายน 2024, 06:10:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เพียงรำพึงรำพัน  (อ่าน 18329 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
18 เมษายน 2012, 07:01:PM
ดาว อาชาไนย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 394
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,472



poem.archanai?fref=ts
« เมื่อ: 18 เมษายน 2012, 07:01:PM »
ชุมชนชุมชน





โลกของฉันมันคล้ำดำสนิท
ฉากรักปิดด้วยบทหมดใยเยื่อ
กับความหลังครั้งเก่าเขาจุนเจือ
รู้ตัวเมื่อสายนักรักลวงเอา

เมื่อมีข่าวกล่าวอ้างอย่างที่รู้
ใครคือผู้มอบกายไปหาเขา
สองก้อยเกี่ยวเที่ยวไหนไม่อยากเดา
สมเพชเราปล่อยจิตเราผิดเอง

ใจหนึ่งฝืนชื่นชมเธอสมหวัง
ใจหนึ่งคลั่งความตรมมาข่มเหง
เคยดื่มด่ำแต่เดิมเริ่มวังเวง
รักละเลงหมองหม่นจากคนไกล

สายลมยามเช้าเอยเคยชมชื่น
ระริกรื่นเย้าหยอกดอกไม้ไหว
แต่ในยามนี้ที่ไม่มีใคร
เสียงหัวใจสะอื้นรับกับเสียงลม

พอยามบ่ายแผดแสงแดดแรงร้อน
ทุกข์ก็ซ่อนแซงซุกทุกข์ทับถม
พอยามดึกน้ำค้างพรูพร่างพรม
ยังนั่งจมขาดใครเตือนให้นอน

แหงนมองฟ้าไม่ชื่นหนอคืนนี้
แม้ยังมีดาวเป็นเพื่อนเหมือนคืนก่อน
หากเธอยังเหมือนเก่าจะเว้าวอน
แสนสะท้อนใจว่า..ว้าเหว่นัก

ถึงเวลาพบกันวันว้าเหว่
มากล่อมเห่เพลงที่ใครไม่รู้จัก
ไร้สิ่งซึ่งงดงามของความรัก
เพียงเพื่อพักใจร้าวคราวหมองมน

เหมือนหมดสิ้นใดใดที่ในโลก
เหลือแต่โศกเศร้าแฝงทุกแห่งหน
เหม่อมองฟ้ามองดาวพราวเบื้องบน
ดูดาวหล่นปฐพีทีละดวง

เมื่อความโกรธลามเลียฉันเสียเพื่อน
เมื่อลืมเลือนฉันทิ้งเสียสิ่งหวง
เมื่อสูญเสียความรักประจักษ์ทรวง
สูญทั้งปวงเหลือตัวไร้หัวใจ

จึงปล่อยตามครรลองของความรัก
ขืนห้ามหักทรมานสุดต้านไหว
รีบตักตวงก่อนกลายสลายไป
ดังดอกไม้เริ่มริแรกผลิบาน

ปล่อยให้สวยสะพรั่งทั้งกลีบดอก
แสนสวยออกดมดอมความหอมหวาน
จะงามงดสดใสอยู่ไม่นาน
ก็ถึงกาลโรยราเหมือนครารัก

เจ้าดอกไม้สีชมพูรู้หรือไม่
เธอมีใครคิดถึงซึ่งประจักษ์
หรือถือเป็นโลกลวงไม่ห่วงนัก
อยากทึกทักแล้วโจทจะโทษใคร

ขออย่านั่งกังวลเลยคนสวย
ฉันแค่ป่วยไข้หนักรักษาไหว
ถึงยับเยินร้าวรวดปวดหัวใจ
พอทนได้เจ็บแด..ก็แค่นั้น

ชายชาติอาชาไนยไม่เคยท้อ
คงจะพอมีใครสนใจฉัน
แต่น้อยใจโลกนี้ที่เห็นกัน
ไฉนมันมืดคลุ้มแค่มุมเดียว

ดาว อาชาไนย
[/size]

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, amika29, sunthornvit, --ณัชชา--, panthong.kh, yaguza, ฤดีไพร, กังวาน, พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, ดุลย์ ละมุน, ลมหนาว, ยามพระอาทิตย์อัสดง, หนามเตย, ไพร พนาวัลย์, รัตนาวดี, สะเลเต, dinner, เนิน จำราย, Music

ข้อความนี้ มี 20 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เสี้ยวอารมณ์จากใจใครคนหนึ่ง
คงไม่ซึ้งจับใจใครทั้งหลาย
แค่มีใครคนหนึ่งซึ้งไม่คลาย
ก็สมหมายใครคนหนึ่งซึ่งรักกลอน
18 เมษายน 2012, 07:42:PM
--ณัชชา--
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2081
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,304


เวลาเปลี่ยนไปใจไม่เคยเปลี่ยนแปลง


pim
« ตอบ #1 เมื่อ: 18 เมษายน 2012, 07:42:PM »
ชุมชนชุมชน

ถ้าหากดาวดวงนั้นพลันวิโยก
กลีบดอกโศกร่วงหล่นไร้คนเหลียว
หัวใจดาวขื่นขมเป็นปมเกลียว
ฉันจะเหนี่ยวดาวมาเยียวยาใจ

กลีบดอกไม้สีชมพูยังดูเด่น
รักเปรียบเช่นดอกช่อลออไหว
เป็นดอกไม้ไร้หนามงามวิลัย
ถ้าเธอให้ฉันพร้อมยอมรับมัน

เช่นคืนนี้แสงดาวช่างพราวฟ้า
ท้องนภาพริ้งเพริดงามเฉิดฉันท์
แต่เสียงเธอที่ย้ำเฝ้ารำพัน
ทำให้ฉันโศกเศร้าเหงาเหลือเกิน

--natcha--


 ซึ้งจัง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, sunthornvit, yaguza, ฤดีไพร, กังวาน, พี.พูนสุข, ดาว อาชาไนย, รพีกาญจน์, ดุลย์ ละมุน, ลมหนาว, ยามพระอาทิตย์อัสดง, หนามเตย, ไพร พนาวัลย์, รัตนาวดี, สะเลเต, เนิน จำราย, Music, อริญชย์

ข้อความนี้ มี 18 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

18 เมษายน 2012, 08:13:PM
ฤดีไพร
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 67
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 108



« ตอบ #2 เมื่อ: 18 เมษายน 2012, 08:13:PM »
ชุมชนชุมชน


สงสารนักรักพังมานั่งเศร้า
คงจะเหงาอุรามานานเนิ่น
อยากอยู่ใกล้ได้ปลอบลอบหยอกเอิน
ให้จิตเพลินเพื่อเศร้าเหงาจักคลาย

อยากจะเป็นสาวนั้นที่มั่นมุ่ง
อยากผดุงเธอนี้มีความหมาย
อยากคอยเตือนให้พักพำนักกาย
อยากมีสายสัมพันธ์ฉันและเธอ

๑เรยา๑

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : yaguza, เพรางาย, กังวาน, พี.พูนสุข, --ณัชชา--, panthong.kh, ดาว อาชาไนย, รพีกาญจน์, ดุลย์ ละมุน, ลมหนาว, ยามพระอาทิตย์อัสดง, หนามเตย, ไพร พนาวัลย์, sunthornvit, รัตนาวดี, สะเลเต, เนิน จำราย, Music, อริญชย์

ข้อความนี้ มี 19 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

มีกลอนเป็นเพื่อน  เหมือนเงาเธอคอยชิดใกล้
18 เมษายน 2012, 08:28:PM
yaguza
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1567
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,308


**ยากูซ่า บ้าไม่เลือกที่**


« ตอบ #3 เมื่อ: 18 เมษายน 2012, 08:28:PM »
ชุมชนชุมชน


ยิ้มแฉ่งฟันหลอ

ปล่อยเขาเถิด เรยา มานั่งนี่
จงฟังพี่ ชี้ออก บอกเสนอ
เรื่องของเขา เราไม่เกี่ยว เดี๋ยวจะเจอ
ไม่รู้เหรอ นัชชา ด่าเป็นไฟ

อยากจะชวน เรยา มาทางนี้
คุยกับพี่ ดีกว่า เธอว่าไหม
ยากูซ่า ขอบอก ไม่หลอกใคร
สาบานได้ ให้ฟ้า ผ่าหัวลิง

 ขำแบบกระแดะหน่อยๆ
......ยากูซ่า......

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, --ณัชชา--, panthong.kh, ดาว อาชาไนย, รพีกาญจน์, ดุลย์ ละมุน, ลมหนาว, ยามพระอาทิตย์อัสดง, หนามเตย, ไพร พนาวัลย์, รัตนาวดี, สะเลเต, เนิน จำราย, Music, อริญชย์

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

18 เมษายน 2012, 08:39:PM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #4 เมื่อ: 18 เมษายน 2012, 08:39:PM »
ชุมชนชุมชน



โลกของฉันมันคล้ำดำสนิท
ฉากรักปิดด้วยบทหมดใยเยื่อ
กับความหลังครั้งเก่าเขาจุนเจือ
รู้ตัวเมื่อสายนักรักลวงเอา

เมื่อมีข่าวกล่าวอ้างอย่างที่รู้
ใครคือผู้มอบกายไปหาเขา
สองก้อยเกี่ยวเที่ยวไหนไม่อยากเดา
สมเพชเราปล่อยจิตเราผิดเอง

ใจหนึ่งฝืนชื่นชมเธอสมหวัง
ใจหนึ่งคลั่งความตรมมาข่มเหง
เคยดื่มด่ำแต่เดิมเริ่มวังเวง
รักละเลงหมองหม่นจากคนไกล

สายลมยามเช้าเอยเคยชมชื่น
ระริกรื่นเย้าหยอกดอกไม้ไหว
แต่ในยามนี้ที่ไม่มีใคร
เสียงหัวใจสะอื้นรับกับเสียงลม

พอยามบ่ายแผดแสงแดดแรงร้อน
ทุกข์ก็ซ่อนแซงซุกทุกข์ทับถม
พอยามดึกน้ำค้างพรูพร่างพรม
ยังนั่งจมขาดใครเตือนให้นอน

แหงนมองฟ้าไม่ชื่นหนอคืนนี้
แม้ยังมีดาวเป็นเพื่อนเหมือนคืนก่อน
หากเธอยังเหมือนเก่าจะเว้าวอน
แสนสะท้อนใจว่า..ว้าเหว่นัก

ถึงเวลาพบกันวันว้าเหว่
มากล่อมเห่เพลงที่ใครไม่รู้จัก
ไร้สิ่งซึ่งงดงามของความรัก
เพียงเพื่อพักใจร้าวคราวหมองมน

เหมือนหมดสิ้นใดใดที่ในโลก
เหลือแต่โศกเศร้าแฝงทุกแห่งหน
เหม่อมองฟ้ามองดาวพราวเบื้องบน
ดูดาวหล่นปฐพีทีละดวง

เมื่อความโกรธลามเลียฉันเสียเพื่อน
เมื่อลืมเลือนฉันทิ้งเสียสิ่งหวง
เมื่อสูญเสียความรักประจักษ์ทรวง
สูญทั้งปวงเหลือตัวไร้หัวใจ

จึงปล่อยตามครรลองของความรัก
ขืนห้ามหักทรมานสุดต้านไหว
รีบตักตวงก่อนกลายสลายไป
ดังดอกไม้เริ่มริแรกผลิบาน

ปล่อยให้สวยสะพรั่งทั้งกลีบดอก
แสนสวยออกดมดอมความหอมหวาน
จะงามงดสดใสอยู่ไม่นาน
ก็ถึงกาลโรยราเหมือนครารัก

เจ้าดอกไม้สีชมพูรู้หรือไม่
เธอมีใครคิดถึงซึ่งประจักษ์
หรือถือเป็นโลกลวงไม่ห่วงนัก
อยากทึกทักแล้วโจทจะโทษใคร

ขออย่านั่งกังวลเลยคนสวย
ฉันแค่ป่วยไข้หนักรักษาไหว
ถึงยับเยินร้าวรวดปวดหัวใจ
พอทนได้เจ็บแด..ก็แค่นั้น

ชายชาติอาชาไนยไม่เคยท้อ
คงจะพอมีใครสนใจฉัน
แต่น้อยใจโลกนี้ที่เห็นกัน
ไฉนมันมืดคลุ้มแค่มุมเดียว

ดาว อาชาไนย
[/size]



ยินสำเนียง เธอครวญ รัญจวนจิต
ให้หวนคิด ถึงอยู่ ดูเฉลียว
ยามห่างไกล พร่ำเพ้อ ละเมอเชียว
เธอผู้เดี่ยว ไว้ใจ ไม่เคยลืม

ไม่มีใคร ไหนอื่น มาชื่นรัก
ยังพนอ ทอถัก รักแสนปลื้ม
แม้เวลา ห่างมาก ยากหยัดยืม
จักจ่อจืม แน่นหนัก ปักอุรา

ยามพระพาย โชยพัด สบัดโบก
ให้วิโยค แสนเศร้า เหงาหนักหนา
ต้องจำจด ทดท้อ ทรมา
คลาบน้ำตา เต็มเปื้อน เกลื่อนทรวงใน

ถึงยามนอน อ้อนหา มาแนบชิด
มืดสนิท ฤทธิ์รัก ชักไม่ไหว
เอื้อมมือคว้า เจอหมอนข้าง อ้างว้างใจ
ในฤทัย ป่วนปั่น แสนรัญจวน

ลุกมานั่ง มองดาว พราวเพริศแพร้ว
สิ้นหวังแล้ว แคล้วว่า พาให้หวน
แม้คืนนี้ มีดาว สกาวนวล
ฤทัยครวญ ในอก สะทกร้าว

คงถึงคราว สิ้นหมด รสรักเก่า
สุดซึมเซา เศร้าสร้อย น้อยใจสาว
ถ้าชาติหน้า มีจริง ไม่ทิ้งดาว
จะโน้มน้าว ครองคู่ สู่นิรันดร์
พันทอง


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, --ณัชชา--, ดาว อาชาไนย, yaguza, รพีกาญจน์, ดุลย์ ละมุน, ลมหนาว, หนามเตย, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ไพร พนาวัลย์, เมฆา..., sunthornvit, รัตนาวดี, สะเลเต, Music, อริญชย์

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
19 เมษายน 2012, 12:12:AM
ดุลย์ ละมุน
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 342
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 486


กลั่นอักษร หมายอ้อนเธอ


« ตอบ #5 เมื่อ: 19 เมษายน 2012, 12:12:AM »
ชุมชนชุมชน

โบราณทักรักดีนี้หามจั่ว
ถ้ารักชั่วหามเสาคงเขลาขัน
แต่พิษรักปักทรวงทุกห้วงวัน
สุดงงงันอันจั่วเสาก็เมามัว

ยามรักสมต้มผักก็มักหวาน
เพียงร้าวรานขมลิ้นจินต์สลัว
อันดวงใจเผลอไผลดั่งไกลตัว
มิหวั่นกลัวหนามรักปักอุรา

ดุจข้าวใหม่ปลามันสวรรค์ส่ง
ให้ลุ่มหลงปลงใจที่ใฝ่หา
พอข้าวบูดสุดหมองนองน้ำตา
ต้องโศกาอาดูรสูญฤดี

ถึงความรักจักทำให้ตาบอด
ไม่รู้รอดจอดจบมิหลบหนี
พร้อมบูชาหารักมาปักพลี
แม้นชีวีสิ้นค่าวิญญาครวญ
 โอว์...มายก็อด

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ลมหนาว, หนามเตย, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ไพร พนาวัลย์, panthong.kh, รพีกาญจน์, ดาว อาชาไนย, เมฆา..., สล่าผิน, sunthornvit, รัตนาวดี, สะเลเต, เนิน จำราย, Music, อริญชย์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
19 เมษายน 2012, 01:00:AM
หนามเตย
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 127
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 427


http://img594.imageshack.us/img594/1395/krathinn20


« ตอบ #6 เมื่อ: 19 เมษายน 2012, 01:00:AM »
ชุมชนชุมชน

รำพึงรำพันฝันถึงคนึงจิต
อยากไกล้ชิดไออุ่นหนุนอกเขา
ทุกวันเป็นเช่นนี้ทีของเรา
อุ่นอกเขาเราคงสุขทุกค่ำคืน

รำพึงฝันฉันเพ้อละเมอพก
เหมือนดังตกในห้วงฤทัยฝัน
ป่านฉะนี้ดวงฤทัยให้จาบรรย์
ไปกับฝันเพ้อห่วงห้วงพวังค์

เหงาเศร้าว้าเหวี่ยวเปลี่ยวใจนัก
อยากมีรักมั่นคงเหมือนใจหวัง
มีแต่รักหลอกลวงแล้วเพพัง
แล้งมานั่งรำพึงพันฝันทั้งยืน..

( "ว้าเหว่ + ห่อเหี่ยว" เลยรวมเป็นประโยคเดียวคือ ว้าเหวี่ยวใจ อิอิ ..)

แจมด้วยคนค่ะ ผิดตกขออภัย ผิดสัมผัสใหนอ่านใส่ให้เต็ม

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไพร พนาวัลย์, panthong.kh, รพีกาญจน์, เมฆา..., สล่าผิน, ดุลย์ ละมุน, ลมหนาว, ลมหนาว, sunthornvit, ดาว อาชาไนย, รัตนาวดี, สะเลเต, เนิน จำราย, Music, อริญชย์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

"อยู่คนเดียวระวังความคิด อยู่กับมิตรระวังอารมณ์"
19 เมษายน 2012, 10:35:AM
ลมหนาว
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 185
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 326


พลิ้วไหวไปตามลม , นักกลอนสมัครเล่น


« ตอบ #7 เมื่อ: 19 เมษายน 2012, 10:35:AM »
ชุมชนชุมชน


เพียงรำพึงรำพันในวันเหงา
ลมบางเบาโชยมาพาใจหวน
ภาพความหลังครั้งนั้นเฝ้ารัญจวน
โอ้เนี้อนวลเคยเรียงคู่เคียงกัน

คืนนี้ดาวพราวพร่างกลางเวหา
แต่ไม่มีจันทรามาคู่ขวัญ
ดาวคงเศร้าเหงาใจไร้เพื่อนจันทร์
ดุจตัวฉันตอนนี้ไม่มีเธอ


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ดุลย์ ละมุน, sunthornvit, ดาว อาชาไนย, รัตนาวดี, สะเลเต, dinner, เนิน จำราย, รพีกาญจน์, Music, อริญชย์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
21 เมษายน 2012, 12:38:PM
dinner
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 74
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 206



« ตอบ #8 เมื่อ: 21 เมษายน 2012, 12:38:PM »
ชุมชนชุมชน

 
เธอนั่นแหละจ้ะ

เพียงรำพึงรำพันในวันเหงา
ลมบางเบาโชยมาพาใจหวน
ภาพความหลังครั้งนั้นเฝ้ารัญจวน
โอ้เนี้อนวลเคยเรียงคู่เคียงกัน

คืนนี้ดาวพราวพร่างกลางเวหา
แต่ไม่มีจันทรามาคู่ขวัญ
ดาวคงเศร้าเหงาใจไร้เพื่อนจันทร์
ดุจตัวฉันตอนนี้ไม่มีเธอ

sarasaga



ยังคงหวงห่วงแท้แม้ไกลห่าง
ไม่จืดจางมั่นนักรักเสมอ
แม้ไร้แสงจันทรามาบำเรอ
เราพบเจอกันได้ในเส้นทาง

เสียงรำพึงรำพันในวันเหงา
มันซึมเซาซมนักเพราะรักห่าง
เพียงสายลมพรมพลิ้วปลิวเบาบาง
รักอย่าจางห่างหายสลายเลือน

dinner

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : sunthornvit, ดาว อาชาไนย, เนิน จำราย, รพีกาญจน์, Music, อริญชย์, พี.พูนสุข, สะเลเต, panthong.kh

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
27 เมษายน 2012, 05:37:AM
Music
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 754
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,682


ขว้างไปยิ่งแรง-ยิ่งกลับมาเร็ว


« ตอบ #9 เมื่อ: 27 เมษายน 2012, 05:37:AM »
ชุมชนชุมชน




โลกของฉันมันคล้ำดำสนิท
ฉากรักปิดด้วยบทหมดใยเยื่อ
กับความหลังครั้งเก่าเขาจุนเจือ
รู้ตัวเมื่อสายนักรักลวงเอา

เมื่อมีข่าวกล่าวอ้างอย่างที่รู้
ใครคือผู้มอบกายไปหาเขา
สองก้อยเกี่ยวเที่ยวไหนไม่อยากเดา
สมเพชเราปล่อยจิตเราผิดเอง

ใจหนึ่งฝืนชื่นชมเธอสมหวัง
ใจหนึ่งคลั่งความตรมมาข่มเหง
เคยดื่มด่ำแต่เดิมเริ่มวังเวง
รักละเลงหมองหม่นจากคนไกล

สายลมยามเช้าเอยเคยชมชื่น
ระริกรื่นเย้าหยอกดอกไม้ไหว
แต่ในยามนี้ที่ไม่มีใคร
เสียงหัวใจสะอื้นรับกับเสียงลม

พอยามบ่ายแผดแสงแดดแรงร้อน
ทุกข์ก็ซ่อนแซงซุกทุกข์ทับถม
พอยามดึกน้ำค้างพรูพร่างพรม
ยังนั่งจมขาดใครเตือนให้นอน

แหงนมองฟ้าไม่ชื่นหนอคืนนี้
แม้ยังมีดาวเป็นเพื่อนเหมือนคืนก่อน
หากเธอยังเหมือนเก่าจะเว้าวอน
แสนสะท้อนใจว่า..ว้าเหว่นัก

ถึงเวลาพบกันวันว้าเหว่
มากล่อมเห่เพลงที่ใครไม่รู้จัก
ไร้สิ่งซึ่งงดงามของความรัก
เพียงเพื่อพักใจร้าวคราวหมองมน

เหมือนหมดสิ้นใดใดที่ในโลก
เหลือแต่โศกเศร้าแฝงทุกแห่งหน
เหม่อมองฟ้ามองดาวพราวเบื้องบน
ดูดาวหล่นปฐพีทีละดวง

เมื่อความโกรธลามเลียฉันเสียเพื่อน
เมื่อลืมเลือนฉันทิ้งเสียสิ่งหวง
เมื่อสูญเสียความรักประจักษ์ทรวง
สูญทั้งปวงเหลือตัวไร้หัวใจ

จึงปล่อยตามครรลองของความรัก
ขืนห้ามหักทรมานสุดต้านไหว
รีบตักตวงก่อนกลายสลายไป
ดังดอกไม้เริ่มริแรกผลิบาน

ปล่อยให้สวยสะพรั่งทั้งกลีบดอก
แสนสวยออกดมดอมความหอมหวาน
จะงามงดสดใสอยู่ไม่นาน
ก็ถึงกาลโรยราเหมือนครารัก

เจ้าดอกไม้สีชมพูรู้หรือไม่
เธอมีใครคิดถึงซึ่งประจักษ์
หรือถือเป็นโลกลวงไม่ห่วงนัก
อยากทึกทักแล้วโจทจะโทษใคร

ขออย่านั่งกังวลเลยคนสวย
ฉันแค่ป่วยไข้หนักรักษาไหว
ถึงยับเยินร้าวรวดปวดหัวใจ
พอทนได้เจ็บแด..ก็แค่นั้น

ชายชาติอาชาไนยไม่เคยท้อ
คงจะพอมีใครสนใจฉัน
แต่น้อยใจโลกนี้ที่เห็นกัน
ไฉนมันมืดคลุ้มแค่มุมเดียว

....ดาว อาชาไนย....





โอ้.ชีวิต.น่าตระหนก...เหมือนตกกระ
เพิ่งจะรู้.แพ้ชนะ.ได้ประเดี๋ยว
คนลอยนวล.ยวนยั่ว.ตัวเป็นเกลียว
ช่างปราดเปรียว.ทรนง.ดั่งจงใจ

ทิ้งให้ผู้.ประสบภัย.ใจแดดิ้น
คงหมดสิ้น.ความรู้สึก.นึกรักใคร่
มีคนปลอบ.ตอบโจทก์.อย่าโกรธใคร?
เมื่อเนื้อใน.หนักหน่วง.ให้ล่วงเกิน

ระบายมา.ได้เรื่อยเรื่อย.เหนื่อยก็พัก
สลัดรัก.เดียวดาย.ให้หายเขิน
เจ็บเพราะจิต.มุ่งหวัง.ใช่บังเอิญ
รู้ว่าเดิน.หลงทาง.ก็ครางครวญ

เพียงรำพึง.ถึงกัน.ฉันพลอยเศร้า
อยากจะเข้า.มาปลอบ.พร้อมสอบสวน
สู้นิ่งเฉย.เผยไป.คงไม่ควร
กลัวจะชวน.ร้องไห้.เจ็บคล้ายกัน


 ลาตายดีกว่าตู




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, อริญชย์, พี.พูนสุข, sunthornvit, ดาว อาชาไนย, รพีกาญจน์, สะเลเต

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

...อย่าคิดว่ายาก.แต่ทำได้../..ควรทำให้ได้.แม้มันจะยาก...
27 เมษายน 2012, 05:57:AM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #10 เมื่อ: 27 เมษายน 2012, 05:57:AM »
ชุมชนชุมชน


อ่านชีวิต แสนเศร้า เฝ้ารันทด
อ่านไม่จด ไม่จำ พร่ำหวาดหวั่น
อ่านเวียนวน จนหมอง สองสามวัน
ฤทัยพลัน เหงาหงอย น้อยใจนัก

ไม่อยากอ่าน อีกแล้ว แนวชีวิต
เหมือนดั่งพรม ลิขิต ให้คิดหนัก
อยู่บนโลก โสภา บ้าตายชัก
คงเสียหลัก รักหน่าย มิถ่ายเท

อยากจะอ่าน บทรัก สักพันครั้ง
เผื่อจะมี ความหวัง ยังสนเท่ห์
อ่านหวานฉ่ำ หนำใจ ไม่รวนเร
สมคะเน ในรัก ปักฤทัย

จึงขออ่าน บทนี้ ดีชื่นชอบ
ด้วยอยากมอบ สี่ห้อง ปองได้ไหม
หากใครยัง ไร้คู่ รู้ทรามวัย
ขอมาเป็น เพื่อนใจ ได้ไหมเธอ
พันทอง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : D, อริญชย์, พี.พูนสุข, sunthornvit, ดาว อาชาไนย, รพีกาญจน์, สะเลเต

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
03 พฤษภาคม 2012, 05:47:PM
สะเลเต
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1101
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,335


ขอขอบคุณ..ภาพจากอินเตอร์เน็ต


« ตอบ #11 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2012, 05:47:PM »
ชุมชนชุมชน


กระวนกระวายใจนักความรักฉัน
รำพึงรำพันฝันคะนึงถึงเสมอ
ทุรนทุรายหมายเคียงเพียงคู่เธอ
สนองเสนอเผลอจิต..คิดการไกล

สงบเสงี่ยมเจียมตัว..กลัวฝันเก้อ
ประเจิดประเจ้อเกรงนัก..รักหมองไหม้
กระโตกกระตากหากช้ำจำเงียบไว้
วิลาศวิไลรักแท้..แค่นิยาย

----สะเลเต---

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : sunthornvit, panthong.kh, รพีกาญจน์, ดาว อาชาไนย

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
03 พฤษภาคม 2012, 07:26:PM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #12 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2012, 07:26:PM »
ชุมชนชุมชน

สบัดสบิ้งกลิ้งกลอก ให้ชอกช้ำ
ระทวยระทดงามขำจำใจหลาย
ระรี้ระริกชิกชิก อยากจะตาย
กระวนกระวายหายใจ ไม่ทั่วท้อง

จะปัดจะป้องอย่างไร ไม่อยากรู้
จะเคียงจะคู่ดูหน่อย คอยสนอง
กระวีกระวาดมาดว่า ไม่มามอง
จะปิดจะป้องขอร้องว่าอย่าทำ
พันทอง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, ดาว อาชาไนย, สะเลเต

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s