"สัมผัสรอยยิ้ม...จากดวงจันทร์"
ลมเย็นเย็นเข็นเอื่อยเรื่อยระริก
ครางกระซิกจิกจับขยับหา
ครวญคะนึงถึงทางที่จากมา
สะท้านยอกอุราอนาทร
เพียงแสงดาวพราวแสงแรงระยับ
ไม่อาจรับขับสู้อุทาหรณ์
ไม่ขยับจับใจที่อาวรณ์
ไม่สะท้อนสองตาที่อาลัย
ยามราตรียีย่ำกระหน่ำซัด
มืดสงัดผลัดเปลี่ยวเทียวไฉน
ไม่กระชับรอยยับให้พับไป
ไม่สมานรอยใจให้คืนดวง
สุดคิดถึงบึงน้ำที่ว่ายเวียน
เคยพร่ำเพียรเรียนรักยังแสนหวง
น้ำไม่เคยไหลกลับให้จับตวง
ไม่อาจทวงดวงใจให้กลับคืน
เพ้อพะวงหลงทางในความมืด
ช่างเย็นชืดฝืดหนาวคราวจะขืน
มองแสงดาวเคียงเดือนเรือนจะกลืน
ขับอารมณ์ขมขื่นรื้นน้ำตา
ยังจับจดงดงามตามที่เคย
จันทร์เจ้าเอ๋ยเจ้าเคยยิ้มให้ข้า
ยามสิ้นไร้ไม้ตอกชอกชีวา
ยังมีดวงจันทรามายาเยียว
แม้เวลาพาใจให้ชินบ้าง
ยังอ้างว้างกลางทางที่คดเคี้ยว
ท่องลำเนาเคล้าเคียงเพียงคนเดียว
ช่างโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงาเป็นเงาตาม
เพียงสัมผัสรอยยิ้มพริ้มละไม
ราวสำเนียงเสียงใสมาไถ่ถาม
ตราบดวงจันทร์ปันแสงที่งดงาม
คงไม่สิ้นฟ้าครามยามอรุณ
...ด้วยรักและอาลัย...
เมฆสีรุ้ง
๑๖ เม.ย. ๒๕๕๕