ต่อไป »

[บุคคลทั่วไป]

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)

[รัตนาวดี]

[/f

...ในวันศุกร์ สำคัญ คือวันนี้
เป็นวันที่ ราชการ คล้องงานสิทธิ์
ทั่วโลกมี เรื่องราว ของชาวคริสต์
พระเยซู สิ้นชีวิต โดนปลิดปราณ...

...ทำพิธี ทุกโบสถ์ โชติพร้อมพร่ำ
คริสต์น้อมนำ ด้วยนึก ระลึกผ่าน
พระเยซู โดนตรึง ขึงประจาญ
ไม้กางเขน ทรงฐาน ตระหง่านวัน...

...ซึ่งวันคล้าย ตายจาก ลำบากแฝง
แทนแถลง แจ้งจำ บอกย้ำมั่น
พระเยซู พลีกาย ยอมตายพลัน
เพื่อยืนยัน ขวัญทราบ ไว้ตราบนาน...

...GOOD FRIDAY วันครวญ ทวนกันไว้
...HOLY FRIDAY ก็ใช่ วันคล้ายขาน
...GREAT FRIDAY เรียกด้วย ไร้ป่วยการ
...BLACK FRIDAY วันสาน งานพิธี...

รัตนาวดี
 

<a href="http://www.youtube.com/v/2y8ZnrNd7uE&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/2y8ZnrNd7uE&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

[รัตนาวดี]

ตามบันทึกในพระคัมภีร์ใหม่ พระเยซูและพระอัครธรรมฑูต (The Apostle) เดินทางไปที่เมืองเยรูซาเลม (Jerusalem) เพื่อประกอบพิธี Passover ซึ่งเป็นเทศกาลศักดิ์สิทธิ์ของชาวยิวเพื่อรำลึกถึงการที่ชาวฮิบรูได้รับการปลดปล่อยจากความเป็นทาส หลังอาหารค่ำในพิธี Passover พระเยซูทรงถูกจับกุม และในวันที่เรียกกันในปัจจุบันว่า วันศุกร์ประเสริฐ (Good Friday) พระเยซูก็ทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน แต่เพียงสองวันนับจากนั้น ท่านก็ทรงฟื้นคืนพระชนม์

ชนชาติยิวเป็นคนกลุ่มแรกที่เริ่มเฉลิมฉลองการฟื้นคืนพระชนม์นี้ โดยคาดกันว่าอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาล Passover ที่จริงแล้ว การเฉลิมฉลองเทศกาลอีสเตอร์เดิมเรียกว่า Pascha ซึ่งมาจากคำว่า Pasach คำในภาษายิวที่แปลว่า Passover

เดิมที เทศกาลอีสเตอร์เฉลิมฉลองกันในวันที่สองถัดจากวัน Passover ดังนั้นมันอาจจะเป็นวันไหนก็ได้ในหนึ่งอาทิตย์ แต่วันอีสเตอร์ที่ตรงกับวันพุธ ออกจะรู้สึกแปลกๆอยู่

ในปี ค.ศ. 325 จักรพรรดิคอนสแตนติน (Constantine) ของอาณาจักรโรมัน และที่ประชุมแห่งไนเซีย (The Council of Nicaea) ตัดสินว่าเทศกาลอีสเตอร์ควรต้องตรงกับวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันที่พระเยซูคริสต์ทรงฟื้นคืนพระชนม์ขึ้นมา วันอีสเตอร์ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์นั้น จะเป็นวันอาทิตย์แรก หลังพระจันทร์เต็มดวงในวัน Spring Equinox ซึ่งอาจจะเป็นวันไหนก็ได้ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม-25 เมษายน

ในช่วงเดียวกันนี้ ชาวคริสต์ได้เริ่มธรรมเนียมเฉลิมฉลองเทศกาลอีสเตอร์ขึ้นเป็นอย่างแรก นั่นคือธรรมเนียมการการจุดเทียนปัสกา (Paschal Candle) ซึ่งเปลวเทียนนั้นเป็นสิ่งระลึกถึงการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู เป็นเหมือนแสงที่ส่องสว่างออกมาท่ามกลางความมืดมิด

<a href="http://www.youtube.com/v/oWK4N5LIUWk&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/oWK4N5LIUWk&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

ขณะที่ศาสนาคริสต์ได้แผ่ขยายออกไปทั่วทวีปยุโรป มีธรรมเนียมเดิมตามความเชื่อของเพเกนบางอย่างที่ผสมผสานเข้ากับความเชื่อของศาสนาคริสต์ด้วย ที่จริงแล้ว คาดว่าคำว่า อีสเตอร์ (Easter) อาจจะมาจากชื่อของ เทพีเอสตรา (Eastra) เทพีแห่งฤดูใบไม้ผลิและความอุดมสมบูรณ์ นี่นำเรามาสู่ไข่อีสเตอร์ (Easter Egg)

ไข่เป็นสัญลักษณ์แห่งการเกิดตามความเชื่อในตำนานมาเป็นพันๆปี คาดว่าชาวคริสต์รับเอาไข่มาเป็นส่วนหนึ่งในธรรมเนียมเทศกาลอีสเตอร์ในช่วงศตวรรษที่ 13 ไข่แดงในเปลือกเป็นสัญลักษณ์แทนการปรากฏตัวของพระคริสต์จากหลุมฝังพระศพ และย้อมเปลือกไข่เป็นสีแดงเพื่อแทนพระโลหิตที่พระคริสต์ต้องสูญเสียไปบนไม้กางเขน

ไม่นาน ไข่อีสเตอร์หลากสีก็ได้มีประเพณีเป็นของมันเอง และประเพณีที่เป็นที่ชื่นชอบมากคือประเพณีการกลิ้งไข่อีสเตอร์ (Egg Rolling) ในปี ค.ศ. 1876 สภาคองเกรสออกกฎห้ามเด็กๆเล่นการละเล่นนี้ในพื้นที่ของสภา ดังนั้น ประธานาธิบดี รัทเธอร์ฟอร์ด บี. เฮส จึงเปิดสนามหญ้าของทำเนียบขาวให้เด็กๆได้เข้ามาเล่นกัน หลังจากนั้นประเพณีกลิ้งไข่อีสเตอร์ประจำทำเนียบขาว (The White House Easter Egg Roll) ก็กลายเป็นประเพณีประจำที่เกิดขึ้นทุกปี

แล้วกระต่ายอีสเตอร์กระโดดมาเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลได้อย่างไร กระต่ายวัยเจริญพันธุ์เป็นสัญลักษณ์ของชีวิตที่เกิดใหม่ตามความเชื่อของเพเกนมาเป็นเวลานาน ในช่วงศตวรรษที่ 16 พ่อแม่เริ่มบอกลูกตัวเองว่า ถ้าเด็กๆเป็นเด็กดี กระต่ายอีสเตอร์ก็จะมาวางไข่หลากสีไว้ที่บ้าน เด็กๆก็จะทำรังไว้ในบ้าน เพื่อล่อให้กระต่ายเข้ามา นี่เองเป็นที่มาของประเพณีการล่าไข่อีสเตอร์ (Ester Egg Hunt) และตะกร้าไข่อีสเตอร์ (Easter Basket)

เพื่อช่วยให้เด็กๆ เติมตะกร้าอีสเตอร์ให้เต็มได้ง่ายขึ้น ช่างทำช๊อคโกแล็ตในยุโรป ในช่วงยุคศตวรรษที่ 19 ได้เริ่มผลิตช๊อคโกแล็ตรูปไข่ออกมา ขนมแบบนี้ได้รับความนิยมไปทั่วโลก และคนในปัจจุบันใช้เงินเป็นพันๆล้านดอลลาร์ทุกปี เพื่อซื้อขนมในเทศกาลอีสเตอร์

เทศกาลอีสเตอร์เป็นวันแห่งความปีติที่ชาวคริสต์เฉลิมฉลองการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู แค่สองพันปีที่ผ่านมานี้มีธรรมเนียมประเพณีใหม่ๆ ถูกผนวกเข้าไว้มากมาย บ้างเป็นประเพณีทางศาสนา และบ้างก็เป็นประเพณีเพื่อความสนุกสนาน แต่อีสเตอร์ยังเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนในครอบครัวมารวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลองการมาถึงของฤดูใบไม้ผลิด้วย ฤดูกาลที่ชีวิตใหม่เกิดขึ้นหลังความหนาวเย็นของฤดูหนาว

(แปลโดยทีมงานทรูปลูกปัญญา)
ขอขอบคุณป้ายบอกทางค้นหาค่ะ

รัตนาวดี
 

 

 
 
 

     
 

[รัตนาวดี]

...❤...❤...❤...

...ศาสนา มีไว้ ให้ยึดถือ
สิ่งนี้คือ ความหวัง พลังส่ง
สิงสถิต จิตอยู่ ดูมั่นคง
สิ่งเสริมสร้าง บอกบ่ง จงทำดี...

...ให้เลือกยึด ถือความ ตามที่ชอบ
ศาสนา เตือนปลอบ มอบหลักที่
พึ่งด้วยใจ ให้สุข ปลุกเปรมปรี
เชื่อมรักราว ถูกสี ฤดีงาม...

...จะถือคริสต์ อิสลาม มิห้ามหยุด
จะถือพุทธ ด้วยใจ มิใครหยาม
ผู้ไม่มี ศาสนา ประดานาม
คราชีพวาย ต้องหาม ตามพิธี?!...

รัตนาวดี
 

❤ รัตน์ถือพุทธค่ะ..ร่วมกิจกรรมด้วยทั้งอิสลาม คริสต์ตามอัธยาสัยของสังคม โดยไม่มีปัญหา เพราะทุกพระเจ้า..บอกให้ทำดีจ้า จึงสนใจเกี่ยวกับสังคมศาสนามากค่ะ

...❤...❤...❤...

Good Friday หรือ วันศุกร์ประเสริฐ เป็นวันที่มีความสำคัญมากวันหนึ่งตามปฏิทินของชาวคริสต์ทั่วโลก เป็นการระลึกถึงความเจ็บปวดทุกข์ทรมาน ความเสียสละ และการอุทิศพระองค์ของพระเยซู ที่ทรงถูกตรึงบนไม้กางเขนจนสิ้นพระชนม์ในวันศุกร์ ชาวคริสต์จึงเรียกวันศุกร์นั้นว่า Good Friday (บ้างก็เรียก Holy Friday, Great Friday หรือ Black Friday) ในปีนี้ตรงกับวันที่ ๖ เมษายน  ถือเป็นวันหยุดราชการของหลายๆประเทศอีกด้วย

พิธีกรรมในวันศุกร์ประเสริญนี้จึงมุ่งเน้นไปที่การแสดงความรู้สึกเศร้าโศก จากความเจ็บปวดและการลบหลู่ที่พระเยซูทรงได้รับ เพื่อเป็นการปลดปล่อยมนุษย์จากความทุกข์ทั้งหลาย และเป็นชัยชนะต่อความชั่วร้ายผ่านความดีงาม เช่นเดียวกันความรุนแรงสามารถเอาชนะได้ด้วยการไม่ใช้ความรุนแรง และความเกลียดก็เอาชนะได้ด้วยความรัก

ชาวคริสต์ทั้งหลายต่างอดอาหารในวันนี้ ตามวิถีทางของพระเยซู และตามโบสถ์ต่างๆ ผู้คนต่างมาสวดอ้อนวอนเบื้องหน้าไม้กางเขน พร้อมกับจุมพิตไม้กางเขน ด้วยความเชื่อว่าพระเยซูสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนในเวลาบ่าย 3 โมงดังนั้นพิธีกรรมสำคัญจึงเริ่มตั้งแต่เที่ยงจนสิ้นสุดลงในเวลานั้น โบสถ์บางแห่งผู้มาไว้อาลัยแต่งกายด้วยชุดสีดำ บ้างก็เลียนแบบฉากในวันตรึงไม้กางเขนพระเยซู โบสถ์หลายแห่งก็ใช้ผ้าสีดำคลุมไม้กางเขนและแท่นบูชา และไม่จุดเทียนใดๆ แต่บางแห่งก็จุดเทียนเล่มเดียวต่อๆ กันจนเล่มสุดท้ายจะถูกดับในเวลาที่พระเยซูสิ้นพระชนม์

วันนี้เพื่อนๆ ชาวคริสต์ทั้งหลายต่างก็ไปร่วมพิธีรำลึกถึงวันสำคัญนี้ในโบสถ์กันทั่วหน้า และหลังจากนี้อีก 3 วัน พระเยซูก็จะฟื้นคืนพระชนม์ชีพอีกครั้ง (The resurrection of Jesus) วันนั้นเรียกว่า วันอีสเตอร์ (Ester) ซึ่งเป็นวันที่สำคัญมากอีกวันหนึ่งของชาวคริสต์ และแม้ว่าวันนี้ Good Friday จะเป็นวันสำคัญของชาวคริสต์ก็ตาม แต่ไม่ว่าจะเป็นของศาสนาใด อินเดียก็ให้ความสำคัญและกลายเป็นวันหยุดแห่งชาติของคนอินเดียทั้งประเทศไปโดยถ้วนหน้า

ขอบคุณป้ายบอกทางค้นหาค่ะ

รัตนาวดี