ต่อไป »

[บุคคลทั่วไป]

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)

[กาญจนธโร]

พุทธ ๑

ปางบรรพ์คราก่อนครั้ง          พุทธกาล
บรมสุขแดนสำราญ               ไป่รู้
สุขทุกข์ที่พบพาน                   เพียงเปลือก นอกนอ
วนว่ายเวียนภพผู้                    พ่ายแพ้ตัณหา

บำเพ็ญทานเพื่อสร้าง            บารมี
วิบากย่อมเผล็ดดี                    กอปรเกื้อ
เทียนบุญส่องชีวี                    ให้ห่าง มารเฮย
กระจ่างนัยจิตเอื้อ                  สู่เคื้อธรรมถวัลย์

พระชินศรีท่านแจ้ง              ในธรรม
เหตุแห่งกิเลสนำ                  ทุกข์ร้อน 
ตัณหาต่อเรือนกรรม            ชาติภพ ภูมิแล
พระจึ่งละทางย้อน               ตัดแล้วสังสาร

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า           ศาสดา             
ทรงเปี่ยมพระกรุณา             เลิศล้ำ
หนทางสู่มรรคา                   ดำรัส ไขเฮย
องค์แปดจักสืบค้ำ                แก่นแท้ศาสนา

ปภัสร์
๖ เมษายน ๒๕๕๕   
            

[กาญจนธโร]

พุทธ ๒

ปุจฉา..?

กล้าไม้หยั่งรากแล้ว...........ผลิใบ
แทงกิ่งชูก้านไกล.............แผ่คุ้ม
ปรกบังร่มเงาไป...............ได้ผ่อน ระอุเฮย
สัตว์ต่างหลบเข้าซุ้ม..........รื่นล้อเริงสถาน

ล่วงวารใบดอกคว้าง..........ปลิดโรย
แดดส่องไร้ลมโชย...........อบอ้าว
รกเรื้อมิกวาดโกย.............พูนเพิ่ม
เท้าเกลี่ยหนทางก้าว.........ยากแท้จักเห็น

จักเป็นผู้อิ่มด้วย................ภิรมย์
พึงหมั่นเพียรอย่างม...........เงื่องคร้าน
ดอกใบหล่นทับถม.............เก็บกวาด ทิ้งแฮ
จักสุขไร้ทุกข์ต้าน..............เมื่อไม้ตายสูญ

วิสัชนา..=

อวิชชาเมื่อหยั่งแล้ว.............กลางใจ
กิเลสจักงามใน..................จิตนั้น
สำคัญผิดว่าไฟ..................เย็นรื่น
หลงพ่ายลวงปรนปั้น............เล่ห์ชั้นตัณหา

อาสวะชวนยั่วเย้า................ประชุม
ทุกข์จู่โจมเกาะกุม...............เหนี่ยวพร้อม
ปัญญาดั่งถูกคลุม................มืดบอด
จิตห่างทางนำน้อม..............สู่ห้อมธรรมถวัลย์

ขันติพาเลิศล้วน.................สำราญ
ความหมั่นเพียรนำพาน..........ผ่องแผ้ว
ตรึกเลศแห่งเหตุการณ์..........ถ้วนถี่
จักสว่างดังดวงแก้ว..............สบแพร้วสถิตสถาน

ปภัสร์
๒๔ พฤษภาคม ๒๕๕๕

add complete
by Klonthaiclub fb

[...สียะตรา..]

 

[เนิน จำราย]

......เรืองจรัสมนัสคล้อยตามรอยบาท

...ธรรมวาทย์องค์วิมุติพุทธฉาย

...นำพ้นทางสร่าง..กำแหง....แห่งอบาย

...ลุยังสายมรรคาทิพย์..คือ.....นิพพาน




  จิตกำหนด ลดยึดติด พิษกิเลส
 
เพื่อข้ามเขต วงวัฏฏสังสาร

ปรารภเพียรละโมหะชนะมาร

เพ่งลมปราณ ใสพิสุทธิ์ว่า พุท-โธ

เนิน จำราย

[กาญจนธโร]

พุทธ ๓

พระสิทธัตถะเจ้า.......................ปรีชา
แอบประพาสพารา....................สลดเศร้า
เกิดแก่เจ็บมรณา.......................มิอาจ เลี่ยงเฮย
ทรงเบิ่งสมณะเจ้า.....................สงบซึ้งมโนหมาย

อริยสัจสี่ข้อ..............................ลำเค็ญ
พระจึ่งสิ้นสงบเย็น....................แต่นั้น
สมณะย่อมจักเป็น......................ที่พึ่ง
ดำริเมื่อคราครั้น........................ครุ่นแล้วปลีกแสวง

พระแสงขรรค์สะบั้น.................พระเมาลี
ริมฝั่งอโนมานที.........................ผนวชแล้ว
กาสาวพัตร์ทรงมี........................คลุมห่ม
วารล่วงวิศุทธิ์แผ้ว.......................ตรัสรู้ลุประสงค์

พุทธองค์ทรงตรัสชี้....................บอกทาง
เดินห่างหนมารพราง...................ล่อไว้
บุคคลย่อมละวาง........................ปลงปล่อย ได้แล
ทุกข์ดับเวียนวัฏฏ์ไร้......................จิตสิ้นปรารถนา

“”””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””
ลาบวช..

ศรัทธาจิตเกิดแล้ว.......................กอปรนำ
บุญส่งวิบากกรรม........................ก่อเกื้อ
สิกขาบทข้อธรรม.........................เพียรอ่าน
หมายร่วมวงศ์โอบเอื้อ...................ว่านเคื้อเครือเขษม

อกเปรมประณตไหว้......................ขอขมา
ใดล่วงเกินหากคา...........................ขุ่นข้อง
กรานขอท่านเมตตา........................ลุแก่ จิตเทอญ
เถิดอนุโมทนาก้อง..........................ร่วมซ้องในกุศล

กรรมใดข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินท่านทั้งหลาย ด้วยกายกรรมก็ดี ด้วยวจีกรรมก็ดี ด้วยมโนกรรมก็ดี
ข้าพเจ้า ขออโหสิกรรมต่อท่านทั้งหลาย ด้วยเจตนาบริสุทธิ์แห่งจิตนี้เป็นที่ตั้ง ขอท่านทั้งหลาย
โปรดอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า และร่วมอนุโมทนาการอุปสมบทครั้งนี้ด้วยเถิด

ปภัสร์
๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๕

[ยามพระอาทิตย์อัสดง]

ขออนุโมทนาบุญด้วยคนคะ สาธุ

[Prapacarn ❀]

   บุญนำธรรมโอบเอื้อ     อำไพ
แสงสว่างกลางห้วงใจ     แจ่มจ้า
ปัญญาหยั่งลึกใน     บริบท
กระจ่างใดในหล้า     ไป่แม้น พุทธรรม
 
"ประภาคาร"
05/26/2012

แซมเป็นคนที่เขียนโคลงไม่เป็นนะคะ...
แต่วันนี้ แซมรู้สึกปิติยินดี ที่เห็นท่านพี่ปภัสร์มาลาบวช..
แซมอยากจะร่วมอนุโมทนาบุญกับท่านพี่ ด้วยค่ะ...
และแซมไม่ทราบว่า เค้ามีการอวยพรการที่คนลาบวชหรือเปล่า...
ถ้ามี คงแบบว่า ขอให้เดินถึงจุดหมายที่สูงที่สุดนะคะ...
จากใจแซม

[--ณัชชา--]

ถึงวาระฤกษ์ดีศรีสวัสดิ์
จริยวัตรศรัทธาธรรมบุญนำส่ง
เดินตามรอยพระสัมมาผู้อ่าองค์
จำเนียรนงค์กราบบาทพระศาสดา

--ณัชชา--

 

ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

[บูรพาท่าพระจันทร์]

                                                   


                                                       



                                 อนุโมทนาร่วมท่วมท้น..............ยินดี
                                พิศุทธิ์สุขอินทรีย์.................... ก่อเกื้อ
                                สุขใดเล่าสุขศรี...................... ปานเปรียบ  นาพ่อ
                                ธรรมบทรสเอื้อ...................... อาบย้อมจินต์ใจ


                                                         
                                                 -บูรพาท่าพระจันทร์-

[sucklife]

กุศลจิตเปี่ยมล้น                ดลใจ
ลิขิตขีดเขียนไว้                 แน่แล้ว
พุทธธรรมสว่างไสว           พลันเถิด
ยุติวัฏฏะแผ้ว                    หลุดพ้นมายา
 

[เนิน จำราย]

    สมมติสงฆ์สร่างแล้ว      กิเลสกรรม

เนื้อหน่อบุญหนุนนำ          ส่งให้

ซาบซึ้งใฝ่ในธรรม           จิตสงบ                

นิวรณ์ห่างอย่าได้-          ติดข้องโลกย์วิสัย      
   
             เนิน จำราย

[ไร้นวล^^]

อนุโมทนาท่านลาบวช
บุญยิ่งยวดยอดยติเผากิเลส
ขออวยพรพบชระสมณเพศ
ให้เห็นเหตุแห่งห้วงหลงโลภโกรธา

ขอหยิบยกคติธรรม์พระสรรเพชร
แท้หรือเท็จท่านจงตรองคลองคาถา
สิ่งยากยิ่งแย้มโผล่ในโลกา
วาสนาน้อมนำจึงจำรูญ

หนึ่งคือเกิดก่อมาเป็นมนุษย์
ว่ายากสุดสรรค์สร้างทางไอศูรย์
สองคือชีพเชิดอยู่ได้ไร้อาดูร
บุญพร้อมมูลจึงครบสองผ่องโสภี

สามคือกรรมนำเนื่องจำเรืองรุ่ง
พบผดุงศาสนาพระชินสีห์
เพชรน้ำหนึ่งถึงทางห่างโลกีย์
บารมีมากล้นจึงค้นเจอ

สี่คือความเคารพนบนอบน้อม
ใจยินยอมกล่อมเกลาตามธรรมเสมอ
เปี่ยมศรัทธาคลายร้อนรนทุกข์ปรนเปรอ
ท่านพบเจอจตุถ้วนสมควรเทอญฯ

[หนามเตย]

ขออนุโมทนาสาธุด้วยนะคะ_/\_


หนามเตย

[สุนันยา]

ผุดผ่องประหนึ่งแก้ว..................นพคุณ
เกิดกุศลเจือจุน.......................เพริศแพร้ว
อานิสงส์จักนำหนุน...................นับเนื่อง นาพ่อ
จิตเป็นสุขผ่องแผ้ว....................มากเนื้อนาบุญฯ
 
"สุนันยา"

[กาญจนธโร]

ร่างลายเส้นเร้นสีภาพชีวิต
ดำลิขิตสั้นยาวบนขาวขึง
ก็ชวนแลชวนตรึกนึกรำพึง
ให้ลึกซึ้งถึงอรรถนัยธรรม

สรรพสัตว์เหลื่อมชั้นต่างกันบ้าง
เป็นเส้นทางวิบากลากขยำ
ตามเผล็ดเม็ดผลตนกระทำ
ครรลองกรรมนำย้อนไม่ผ่อนปรน

ร่างลายเส้นเร้นสีให้ชีวิต
หมายลิขิตจิตลุทางกุศล
สังสารวัฏเพียรผละละวังวน
วาดกมลบนทางสายกลางบุญ

กาญจนธโร

[ปรางทิพย์]

[/url][/img]

ทุกเส้นสายปลายทางเราร่างเขียน
วาดวนเวียนเพียรเพื่อหวังเกื้อหนุน
เหตุและผลกลกรรมได้ค้ำจุน
ลดว้าวุ่นขุ่นเคืองทุกเรื่องไป

สรรพสิ่งยิ่งดูยิ่งรู้มาก
ทั้งหลายหลากยากแจ้งแถลงไข
ต่างหลบเร้นเส้นเงาสุดเข้าใจ
ซุกซ่อนไว้ในภาพตราบเวลา

ทุกเส้นสายปลายทางเราร่างเขียน
จากบทเรียนเพียรวาดปรารถนา
หวังสวยสดงดงามอร่ามตา
ด้วยศรัทธาพาพบประสบธรรม][/color]

[บูรพาท่าพระจันทร์]

 



ธรรมบาลประทานชอบมอบส่ำสัตว์
พ้นเคืองขัดวิบัติรุกทุกข์ถลำ
ความชั่วดีชี้เห็นนั้นเป็นกรรม
ล้วนกายทำย่ำยีจึงมีมา

ใจมีธรรมกรรมจึงดีทวีสุข
ไม่รานรุกทุกข์ทิ้งอหิงสา
ไม่ยึดมั่นฉันสนิทอวิชชา
ยึดธรรมาศรัทธาพิสุทธิ์พุทธองค์...

"  บูรพ์  "


 

[เนิน จำราย]

โมทนา สาธุการ บัวบานฉ่ำ   
ร่มพระธรรม จะกางกั้น อันดับสงฆ์
ทั้งรูป-นาม มานะละ อย่างทะนง
เดินท่ามกลาง สายตรง มัชฌิมา

         ขอกุศล ผลบุญ อดุลย์สร้าง            
มุ่งมั่นอย่าง ใจสิงห์ อหิงสา
เป็นโภคผล ดลสุข ทุกเวลา   
เป็นเนื้อนา บุญเรา ทุกเหล่ากอ

กราบนมัสการ  เนิน จำราย ครับ

[กาญจนธโร]

สิ่งเทียมเทียมรูปแม้        เทียมจริง
เป็นแต่พออ้างอิง           ว่าคล้าย
ข้อต่างให้ติติง              มีอยู่
ความที่เทียมละม้าย        จึ่งได้พาถลำ

สภาพธรรมในโลกล้วน     อนัตตา
หมู่สัตว์ถูกเวทนา           หน่วงไว้
สภาวะย่อมโรยรา           โทรมเสื่อม
ทุกข์สุขวนเวียนไร้          ที่สิ้นโลกธรรม

แลธรรมพินิจแล้ว           กรึกกรอง
จิตเพ่งสู่ครรลอง            หลุดพ้น
วิมุติคู่สมมติมอง            เห็นจึ่ง ลุเฮย
ขอจิตเร่งเสาะค้น           เพื่อข้ามสังสาร..


๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖   

หาความไม่ใช่ตัวตนในตัวตน
อัตตา=ตัวตนที่ตั้งอยู่(รูปหรือร่างกาย)เป็นสภาพธรรมที่เป็นจริง(วิมุติธรรม)
อนัตตา=ความไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน
ความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน อนัตตาคือสภาพธรรมหนึ่งๆที่เป็นไปตามสภาวะแห่งธรรมนั้นๆเช่น ดินเมื่อถูกลมพัดพาก็กลายเป็นฝุ่น
หรือนานๆเข้าดินก็กลายเป็นหิน ดังนั้นอนัตตาจึงเป็นความที่ไม่อาจยึดมั่นถือมั่นในรูปใดรูปหนึ่งของธรรมนั้นๆและไม่อาจถือเอาเป็นของตัวของตนหรีอครอบครองได้

ขอเจริญพร
 กาญจนธโร