♥ บั ณ ฑิ ต ฯ . . . ♪♫ . . . ติ ด โ ค ล ง ♥
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
22 พฤศจิกายน 2024, 07:50:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: 1 2 [3]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ♥ บั ณ ฑิ ต ฯ . . . ♪♫ . . . ติ ด โ ค ล ง ♥  (อ่าน 45143 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
29 มีนาคม 2012, 03:56:PM
บัณฑิตเมืองสิงห์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 378
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 608



« ตอบ #40 เมื่อ: 29 มีนาคม 2012, 03:56:PM »
ชุมชนชุมชน

วิทยาโคลงท่วมท้น     ทวีคูณ
มีเหล่าวิญญูกูล     ก่อเกื้อ
งานเขียนจึ่งจำรูญ     เพียงท่าน สอนแฮ
ขจัดความรกเรื้อ     ไป่ได้งามงอน ฯ

นอนวิเคราะห์อ่านแล้ว     ตรึกตรอง
ใดเด่นคือครรลอง     จดไว้
ใดพลาดผิดคือทอง     มีค่า อยู่เฮย
หากพากเพียรเรียนไซร้     จักรู้วิชา ฯ

เอ่ยหาชื่อกระทู้     เราติด โคลงเอย
ใช่ว่าดัดจริต     จักรั้น
แค่เพียงอยากประดิษฐ์     เพี้ยนแผก บ้างนา
คือชื่อโคลงกระทู้นั้น     แบบเบื้องบุราณเอย ฯ

เลยอยากชวนเพื่อนพ้อง     ประพันธ์
โคลงกระทู้รู้กัน     ถักถ้อย
ตามแบบท่านสร้างสรรค์     นาพ่อ- แม่เอย
เชิญร่วมเรียนเรียงร้อย     บัดนี้สืบไป ๚ะ๛



บัณฑิตเมืองสิงห์

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ♥หทัยกาญจน์♥, อริญชย์, พี.พูนสุข, ไร้นวล^^, รพีกาญจน์, เมฆา..., แงซาย, พยัญเสมอ, ดาว อาชาไนย, บูรพาท่าพระจันทร์, ช่วงนี้ไม่ว่าง, sunthornvit, ไพร พนาวัลย์, กามนิต, น.ปฎิพน, Thammada, กาญจนธโร, สุวรรณ, รัตนาวดี, สล่าผิน, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ไม่รู้ใจ, เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 23 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
29 มีนาคม 2012, 04:07:PM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« ตอบ #41 เมื่อ: 29 มีนาคม 2012, 04:07:PM »
ชุมชนชุมชน


เขียนโคลงยากยิ่งแท้..........ฉันทลักษณ์
หลายอย่างเพียรจารสลัก......หนักอึ้ง
อมความเยี่ยมยากนัก...........ชนชอบ
เพียงแต่ทนเครียดบึ้ง..........แต่ขึ้งเครียดทน ฯ




ขออภัยมือใหม่หัดมึนนนนน

 เต้นบัลเลย์ อายจัง เต้นบัลเลย์

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บัณฑิตเมืองสิงห์, พี.พูนสุข, ไร้นวล^^, รพีกาญจน์, เมฆา..., แงซาย, สิงขร, พยัญเสมอ, ดาว อาชาไนย, บูรพาท่าพระจันทร์, ช่วงนี้ไม่ว่าง, sunthornvit, ไพร พนาวัลย์, เนิน จำราย, กามนิต, Thammada, กาญจนธโร, สุวรรณ, รัตนาวดี, สล่าผิน, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ไม่รู้ใจ

ข้อความนี้ มี 22 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
30 มีนาคม 2012, 08:13:AM
กามนิต
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 408
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 366


ฉันเห็นไฟในสายตาเธอ


« ตอบ #42 เมื่อ: 30 มีนาคม 2012, 08:13:AM »
ชุมชนชุมชน

การนับคำทางฉันทลักษณ์

ก่อนอื่นต้องทราบก่อนว่า คำประพันธ์ประเภทที่บังคับครุ-ลหุ  นับหนึ่งพยางค์เป็นหนึ่งคำ

ส่วนคำประพันธ์ประเภทที่ไม่บังคับครุ-ลหุ นับหลายพยางค์เป็นหนึ่งคำได้ โดยถือเสียงดังเด่นเป็นสำคัญ เช่น วิทยาลัย อาจนับได้ตั้งแต่ ๑-๔ คำตามแต่ลักษณะการออกเสียง ถ้าออกเสียงเบารวมกลุ่มนับเป็น ๑ คำ ถ้าลงท้ายหนักที่พยางค์ วิทยา-ลัย หรือ วิท-ทยาลัย นับเป็น ๒ คำ ถ้าลงท้ายหนักที่พยางค์ วิท-ทยา-ลัย นับเป็น ๓ คำ ถ้าออกเสียงหนักเสมอกันทุกพยางค์ วิด-ทะ-ยา-ลัย นับเป็น ๔ คำ

การนับคำทางฉันทลักษณ์ถือการออกเสียงเป็นเกณฑ์ เมื่ออ่านคำประพันธ์ ผู้อ่านจึงต้องทราบฉันทลักษณ์คำประพันธ์ชนิดนั้น เพื่อจะได้แบ่งเสียงอ่านได้ครบถ้วนฉันทลักษณ์ ไม่ทำให้จังหวะลีลาของคำประพันธ์บกพร่องไป

จังหวะเสริมและลูกเก็บ

ในโคลงมีจังหวะปลีกย่อยเป็นกรอบอีกชั้นหนึ่ง เป็นกลเม็ดที่กวีแต่ละคนจะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้ เพื่อให้โคลงมีความไพเราะยิ่งขึ้น จึงมีการเพิ่มลหุเข้าไปในโคลงโดยไม่ให้จังหวะของกรอบเดิมเสียไป

เวลาอ่านจะต้องมีลูกเก็บเหมือนตีระนาด ถ้าตีเทิ่ง ๆ ไปไม่ไพเราะฉันใด การอ่านโคลงมีจังหวะเสริมที่มีลูกเก็บก็ไม่ไพเราะฉันนั้น มิหนำซ้ำอาจคิดไปว่ากวีแต่งโคลงไม่เป็น ตรงกันข้ามคือกวีแต่งโคลงเพราะแล้วแต่คนอ่านไม่เป็นจึงไม่เพราะ ทำให้โคลงเสียไปหมด ดังพระนิพนธ์เจ้าฟ้ากุ้งที่ว่า

            ๏ อักษรเรียบร้อยถ้อย            คำเพราะ
    ผู้รู้อ่านสารเสนาะ                        เรื่อยหรี้
    บ่รู้อ่านไม่เหมาะ                          ตรงเทิ่ง    ไปนา
    ทำให้โคลงทั้งนี้                          ชั่วช้าเสียไป ฯ

            ๏ อักษรสรรค์สร้างช่าง          ชุบจาน
    โคลงก็เพราะเสนาะสาร                 แต่งไว้
    ผู้รู้อ่านกลอนการ                         พาชื่น    ใจนา
    ผู้บ่รู้อ่านให้                               ขัดข้องเสียโคลง ฯ

ท่าน น.ม.ส.ได้ยกตัวอย่างโคลงให้ดู คือ

             ๏ กรุงเทพมหานครนี้            นามระบิล
    อมรรัตนโกสินทร์                          ต่อสร้อย

โคลงสองบาทนี้ ถ้าคนอ่านไม่เป็น ก็อ่านเทิ่ง ๆ ว่า กรุง-เทบ-มหา-นคร-นี้    นาม-รบิล    อะ-มอน-รัด-โก-สินทร์     ต่อ-สร้อย   นี่คืออ่านอย่างไม่มีลูกเก็บ (แถมอาจคิดว่าโคลงนี้ผิดฉันทลักษณ์ไปเสีย) ถ้าอ่านให้ไพเราะควรให้มีลูกเก็บว่า  กรุง-เทบพะ-มหา-นะคะระ-นี้    นาม-รบิล    อะมอน-รัด-ตะนะ-โก-สินทร์    ต่อสร้อย  จึงฟังดูไม่ห้วน (และไม่ผิดฉันทลักษณ์)

แต่มิได้หมายความว่าโคลงทุกบาทต้องอ่านมีลูกเก็บเสียหมด บางบทก็อ่านมีลูกเก็บไม่ได้ เช่น "ข่ายเขตเหตุให้ไห้    เหือดแห้งแรงโหย" เป็นต้น

จังหวะเสริมนี้เป็นเคล็ดอย่างหนึ่งของกวีบางคนที่นิยมกัน เช่น กรมพระปรมานุชิตฯ, น.ม.ส. และกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ตัวอย่าง

            ๏ พระอนุชาข้าแกล้วกล่าว         กลอนถวาย
    พยัญชนะคลาสบาทกลายหลาย          แห่งพลั้ง
    ผิดอรรถะขจัดขจายปลาย                 สลายสล่ำ
    แม้พลาดประมาทประมาณยั้ง              โทษะร้ายขจายเสีย
                                                                  (กรมพระปรมานุชิตฯ)

            ๏ งามผงาดราชะพ่าหะเพี้ยง       พรหมทรง
    พระธินั่งศรีสุพรรณหงษ์                    รเห็จห้วง
    หงษ์ทองล่องลอยลง                       รองบาท    พระฤๅ
    กลอนเกริ่นเพลินพายจ้วง                  พากย์แจ้วจำเรียง
                                                                 (น.ม.ส., กาพย์เห่เรือ)

            ๏ หวือวิเวกการะเวกร้อง           รงมสวรรค์
    เสนาะมิเหมือนเสนาะฉันท์                เสนาะซึ้ง
    ประกายฟ้าสุริยาจันทร์                    แจร่มโลก
    เมฆพยับอับแสงสอึ้ง                       อร่ามแท้ประพนธ์เฉลย
                                                                (กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์, ลิลิตมหามกุฎราชคุณานุสรณ์)

บทสุดท้ายนี้ หากจะลองนับนิ้วดูจะเห็นว่า บาทแรก ๑๑ พยางค์ บาทสอง ๑๐ พยางค์ บาทสาม ๑๐ พยางค์ บาทสุดท้าย ๑๔ พยางค์ รวมแล้ว ๔๕ พยางค์ บางคนอาจจะโวยวายว่าใช้คำเกิน แท้จริงแล้วไม่เกิน ๓๐ คำตามบังคับ แต่เป็นจังหวะเสริม คือแทรกลหุเข้าไป ๑๕ แห่งต่างหาก

พ.ณ.ประมวลมารค ให้ความเห็นไว้ว่า ผู้ที่อ่านจังหวะเสริมไม่เป็นมักติพระนิพนธ์ในกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ว่า " สบัดสบิ้ง " บ้าง ว่าไม่ใช่โคลงบ้าง เพราะนับแล้วเกิน ๓๐ คำตามตำรา เรื่องมันไม่มีกวีไหนเขานับนิ้วกัน เขาใช้หูเป็นเครื่องวัดทั้งนั้น แล้วของท่านก็ไม่เห็นมีครุเกินที่ไหนซักแห่งเดียว ท่านเสริมก็เสริมด้วยลหุ ไม่เปลี่ยนกรอบลีลาเดิมเลย

นอกจากนี้ ให้สังเกตว่ากวีเก่าบางท่านประวิสรรชนีไม่เหมือนในพจนานุกรม ที่ท่านจำเป็นต้องทำเช่นนั้นก็เพราะไม่ต้องการให้คนอ่านจังหวะเสริมของท่านผิด

ต่อนี้ไปใครเคยนับนิ้วนับพยางค์ในโคลง ให้เข้าใจเสียใหม่ว่า การนับคำเขาถือเสียงเด่นเป็นสำคัญ ไม่ใช่นับ ๑ พยางค์เป็น ๑ คำ การแทรกจังหวะเสริมด้วยลหุอันเป็นคำเบา ไม่ได้ทำให้กรอบลีลาเดิมของโคลงเสียไปเลย

แต่การนำไปใช้ต้องให้พอเหมาะ เมื่อต้องการให้อ่านเนิบ ๆ ช้า ๆ ก็มักไม่จำเป็นต้องมีลูกเก็บ เช่น บทชมดงในตะเลงพ่าย

            ๏ อบเชยอบชื่นชี้                   เฌอสม    ยาฤๅ
    อบว่าอรอบรม                                รื่นเร้า
    อบเชยพี่เชยชม                             กลิ่นอบ    เฌอนา
    อบอั่งอบองค์เจ้า                            จักให้เรียมเชยฯ

การรบพุ่ง มีจังหวะดุดัน สง่า เร่งเร้า ว่องไว มีไดนามิก

            ๏ สองโจมสองจู่จ้วง               บำรู
    สองขัติยสองขอชู                         เชอดด้ำ
    กระลึงกระหลอกดู                         ไวว่อง    นักนา
    ควาญขับคชแข่งค้ำ                       เข่นเขี้ยวในสนาม ฯ

ส่วนบทเฉลิมพระเกียรติ นึกภาพพราหมณ์ทำพิธีสวดเสียงสูงรัวลิ้น ให้อารมณ์ขรึมขลัง

            ๏ บุญเจ้าจอมภพพื้น                แผ่นสยาม
   แสยงพระยศยินขาม                          ขาดแกล้ว
    พระฤทธิดั่งฤทธิราม                         รอญราพณ์    แลฤๅ
    ราญอริราชแผ้ว                               แผกแพ้ทุกภาย ฯ

==================

ป.ล. ๑  เรียนท่านบุคคลทั่วไป

        ขอเรียนว่าไม่ค่อยสบายใจที่ท่านใช้คำว่าแพ้-ชนะ  กา-หงส์ ณ ที่นี้ ขออย่าได้คิดไปไกลขนาดนั้นเลย พวกเราต่างก็คนหลงใหลร้อยกรอง มีที่มาต่างกัน ชอบแนวทางต่าง ๆ กันไป ตรงนี้แค่การแสดงความเห็นเพียงบางเสี้ยว แลกเปลี่ยนความรู้กัน ได้ประโยชน์หลายฝ่าย ผมอาจจะผิด หากมีผู้ท้วง ผู้ช่วยแก้ ก็จะเป็นประโยชน์แก่ผม ท่านก็เช่นกัน ดังนั้นจึงไม่มีใครชนะใคนแพ้ ณ ที่นี้ ขอให้ถือว่าคนที่ทักที่ท้วงคือกัลยาณมิตร อันจะให้คุณแก่มิตรทุกคน หากมีอันใดล่วงเกินท่าน ก็ต้องขออภัยเป็นอย่างสูง หวังว่าคงเข้าใจนะครับ

ป.ล.๒  วันนี้เวลาน้อย ต้องขออภัยที่ได้ได้แจมกลอนกับท่านใดเลย พิมพ์ตกพิมพ์ผิดต้องขออภัย ดึก  ๆ หากมีเวลาจะแวะมาอีกครั้งครับ


 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พยัญเสมอ, แงซาย, อริญชย์, ดาว อาชาไนย, เมฆา..., บัณฑิตเมืองสิงห์, ไร้นวล^^, พี.พูนสุข, น.ปฎิพน, บูรพาท่าพระจันทร์, ช่วงนี้ไม่ว่าง, เพรางาย, sunthornvit, รพีกาญจน์, ไพร พนาวัลย์, เนิน จำราย, เมฆสีรุ้ง, Thammada, กาญจนธโร, สุวรรณ, รัตนาวดี, สล่าผิน, ยามพระอาทิตย์อัสดง, พ่อค้าพเนจร, ไม่รู้ใจ

ข้อความนี้ มี 25 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ความรักแท้จริงมีสีดำดังศอพระศิวะ
30 มีนาคม 2012, 09:54:AM
แงซาย
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 40
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 109



« ตอบ #43 เมื่อ: 30 มีนาคม 2012, 09:54:AM »
ชุมชนชุมชน



    ขอบคุณครับท่านกามนิต   ที่มาให้ความกระจ่างตามสัญญา
              บ้านกลอนไทยมีสมาชิกมากมายที่ชื่นชอบบทกวี  มีทั้งผู้รู้และผู้ที่อยากรู้ (อย่างผม)
(ความเห็นส่วนตัวนะครับ) โคลงเป็นบทกวีที่มี กฏ กติกา ที่เรียกว่าฉันทลักษณ์ค่อยข้างเยอะอยู่
 ซึ่งก็มีมาแต่ครั้งโบร่ำโบราณ ผ่านยุคสมัยมาจนถึงปัจจุบัน  ควรที่จะมีผู้อนุรักษ์สืบต่อไป
              ภาษาที่ใช้ประพันธ์ ถ้าหากนำคำเก่าๆโบราณๆ มาใช้ก็ดูรู้สึกว่าขลังและงดงามดี
(แต่ต้องแปลไทยเป็นไทยอีกที)  สำหรับผู้มาใหม่ (อย่างผม)ก็หัดแต่งหัดเล่น  เริ่มจากกติกาพื้นฐาน
คือ เอก ๗ โท ๔ วางตำแหน่งให้ถูก ศึกษาคำเป็น คำตาย บ้าง แล้วก็ลองแต่งดู เสร็จก็ส่งการบ้าน
ถ้าถูกก็ผ่านไป  แต่ถ้าผิดแล้วผ่านไป ไม่มีใครท้วงติง  เราก็จะสำคัญผิดคิดเป็นถูกได้
               ฉะนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องอาศัยท่านผู้รู้คอยชี้แนะ ติติง เพื่อกระชับที่ความถูกต้อง
ให้มากขึ้น  เพราะความถูกต้องตามกฏเกณฑ์ และค่าความนิยมมักจะเดินคู่กันไปเสมอ  เพื่อประโยชน์
แก่ผู้เสพโคลงจนติด ได้เดินทางอย่างถูกต้อง
              ขอขอบคุณท่านผู้รู้ทุกท่านที่มาให้ความกระจ่าง คนบ้านเดียวกัน ถือเสมือนเป็นกัลยาณมิตรครับ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, น.ปฎิพน, บูรพาท่าพระจันทร์, ช่วงนี้ไม่ว่าง, เพรางาย, sunthornvit, รพีกาญจน์, ไพร พนาวัลย์, บัณฑิตเมืองสิงห์, เมฆา..., อริญชย์, กามนิต, Thammada, กาญจนธโร, สุวรรณ, สล่าผิน, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ไม่รู้ใจ, เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 19 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

"พรสวรรค์ หรือจะสู้ การแสวงหา
      ลิขิตฟ้า หรือจะสู้ มานะตน"
30 มีนาคม 2012, 10:39:AM
น.ปฎิพน
Special Class LV3
นักกลอนผู้มากผลงาน

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 97
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 82



เว็บไซต์
« ตอบ #44 เมื่อ: 30 มีนาคม 2012, 10:39:AM »
ชุมชนชุมชน


ที่ท่านกามนิตเขียนไว้ว่า...

"นอกจากนี้ ให้สังเกตว่ากวีเก่าบางท่านประวิสรรชนีไม่เหมือนในพจนานุกรม ที่ท่านจำเป็นต้องทำเช่นนั้นก็เพราะไม่ต้องการให้คนอ่านจังหวะเสริมของท่านผิด"

อันนี้จริงเลยครับ... ยิ่งถ้าเป็นฉันท์ ก็จะยิ่งเห็นมากขึ้น

ท่านชิต บุรทัต จะประวิสรรชนีย์ในตำแหน่งที่ต้องการให้ผู้อ่าน อ่านคำลหุ มิฉะนั้นแล้ว จะไม่ลงฉันทลักษณ์ ทำนองจะออกมาแปลกๆ ความไพเราะก็จะหายไป...

อย่างเช่น:

อินทรวิเชียรฉันท์ 11

๏ หวังเทอญมิต้องสง-....สัยะคงประสบพลัน
ซึ่งสุขเกษมสันต์...........หิตะกอบทวีการ


(บทสรุปสามัคคีเภทคำฉันท์)

จะเห็นว่า คำว่า สัย นั้น ถ้าไม่ประวิสรรชนีย์ จะอ่านเฉยๆว่า ไส ซึ่งเป็นครุ... เมื่อประวิสรรชนีย์แล้ว จะให้อ่านว่า สะยะ จะได้ลงลหุสองพยางค์ตามต้องการ

หิต ก็เหมือนกันครับ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บูรพาท่าพระจันทร์, ช่วงนี้ไม่ว่าง, เพรางาย, พี.พูนสุข, sunthornvit, รพีกาญจน์, ไพร พนาวัลย์, บัณฑิตเมืองสิงห์, เมฆา..., อริญชย์, กามนิต, แงซาย, Thammada, กาญจนธโร, สุวรรณ, สล่าผิน, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ไม่รู้ใจ, เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 19 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

๐ กรองฉันท์สวรรค์พจนะร้อย.......กวะถ้อยบวรมี
รสซึ้งประหนึ่งทิพะฉวี...............จะพิเลปน์ประโลมมาน ฯ
30 มีนาคม 2012, 11:38:AM
ช่วงนี้ไม่ว่าง
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 358
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 792



« ตอบ #45 เมื่อ: 30 มีนาคม 2012, 11:38:AM »
ชุมชนชุมชน




ตอบ คุณกามนิต

               มารับรู้และรับทราบครับ  แล้วก็ไม่ได้คิดขัดเคืองหรือติดใจอะไร    เหตุผลก็บอกไปแล้วข้างบนนะครับว่าไม่ได้มีความคิดจับผิดอะไร
แต่ที่ต้องพูดก็เพราะมีผู้ทักท้วง  แต่ถามแล้วเขาไม่ยอมตอบมันก็เป็นเรื่องที่เราต้องมาหาคำตอบเอาเอง  คิดว่าคงเข้าใจนะครับ
                 ส่วนเรื่องบทโคลงก่าๆตามที่คุณกามนิตได้ยกตัวอย่างมาให้ดูนั้นก็รับทราบครับ  และก็พอจะทราบอยู่บ้างว่าโคลงกลอนเก่าๆนั้น
ก็อาจจะมีบ้างบางบทที่ไม่ค่อยตรงกับฉันลักษณ์ที่ยึดถืออยู่ในปัจจุบันนี่นัก และก็เฉพาะบางบทและเป็นส่วนน้อยเท่านั้นซึ่งต้องยกให้เป็นกรณีพิเศษ
เราคนรุ่นหลังก็เพียงแต่รับรู้รับทราบและถือเป็นกรณีศึกษาเป็นเรื่องที่ควรรู้ไว้ประดับสติปัญญาเท่านั้น
ส่วนเมื่อรู้แล้วจะปฏิบัติอย่างไรต่อนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง  เรื่องบางอย่างแม้ท่านเคยทำไว้แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องถือตามเสมอ  คิดว่าเรื่องนี้หลายคนคงเข้าใจ
เป็นอย่างดี
                 การศึกษากฎเกณฑ์ในเบื้องต้น เพื่อให้เรารู้จำแนกผิดถูก ไหนถูกเราถือเอาปฏิบัติตาม  ไหนผิดเราก็ละไว้โดยไม่ต้องไปวิจารณ์หรือติติง
เพราะนั่นเท่ากับเป็นการจาบจ้วงละเมิดครูบาอาจารย์ซึ่งเป็นสิ่งไม่สมควร
             สุดท้ายนี้หวังว่าเราคงเข้าใจกันดีแล้ว  ต้องขออภัยคุณบัณฑิตเมืองสิงห์ด้วย ที่ทำให้กระทู้ท่านปั่นป่วนวุ่นวายทั้งๆที่มันน่าจะเป็นบรรยากาศแห่งการ
ต่อโคลงกันแท้ๆ  ท่านอุตส่าประดิษฐ์ถ้อยร้อยคำแทนที่จะได้รับคำชมกลายเป็นว่าต้องเป็นที่โต้เถียงกันไปมา 


                                                                                            บุคคลทั่วไป

                                                                                            เคารพรัก



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เพรางาย, พี.พูนสุข, sunthornvit, รพีกาญจน์, ไพร พนาวัลย์, บัณฑิตเมืองสิงห์, เมฆา..., อริญชย์, กามนิต, แงซาย, Thammada, กาญจนธโร, สุวรรณ, สล่าผิน, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ไม่รู้ใจ, เนิน จำราย, บูรพาท่าพระจันทร์

ข้อความนี้ มี 18 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
30 มีนาคม 2012, 04:01:PM
ไร้นวล^^
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 825
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,430

โปรดแนะนำเพื่อค้ำชูภาษาไทย


« ตอบ #46 เมื่อ: 30 มีนาคม 2012, 04:01:PM »
ชุมชนชุมชน


บัณฑิตฯท่านนั่งครึ้ม   ครวญโคลง

เพื่่อนพจน์ผสมโรง    หลั่นล้า

กระทู้คึกควันโขมง    คงแอบ ยิ้มเฮย

ยิ่งร่ำเร่งเพลงพร้า    ถอดด้ามสาดสาร์น

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บัณฑิตเมืองสิงห์, ไพร พนาวัลย์, พี.พูนสุข, เมฆา..., อริญชย์, sunthornvit, กามนิต, แงซาย, ช่วงนี้ไม่ว่าง, Thammada, กาญจนธโร, สุวรรณ, สล่าผิน, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ไม่รู้ใจ, เนิน จำราย, บูรพาท่าพระจันทร์

ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แดนดินใดให้เราเกิด  เราจะเทิดทูนไว้เหนือเศียร
30 มีนาคม 2012, 04:29:PM
บัณฑิตเมืองสิงห์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 378
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 608



« ตอบ #47 เมื่อ: 30 มีนาคม 2012, 04:29:PM »
ชุมชนชุมชน

ท่านเอยเราเร่าเร้า     สนใจ
ประโยชน์ใด๋ใด่ใด     น่ารู้
บัณฑิตฯชื่นชอบใจ     ใจใจ่ ใจ้นา
เพียงติดโคลงกระทู้     ทู่ทู้ทูทู ๚ะ๛

ผมได้ความรู้จากกระทู้นี้เยอะแยะเลยครับ ขอบคุณความคิดเห็นของทุกๆท่านนะครับ
เรื่องไหนที่ผมไม่เคยรู้ผมก็รู้ เรื่องไหนที่ผมเคยอ่านมาบ้าง ก็มีความรู้มากขึ้นครับ
ยิ้มกับความรู้ที่ได้มากกว่าครับพี่ไร้นาม  ยิ้มให้จ้ะ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไร้นวล^^, ไพร พนาวัลย์, พี.พูนสุข, panthong.kh, เมฆา..., อริญชย์, sunthornvit, เพรางาย, กามนิต, เมฆสีรุ้ง, แงซาย, ช่วงนี้ไม่ว่าง, Thammada, กาญจนธโร, สุวรรณ, สล่าผิน, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ไม่รู้ใจ, เนิน จำราย, บูรพาท่าพระจันทร์

ข้อความนี้ มี 20 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
30 มีนาคม 2012, 04:59:PM
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,422


นักร้อง


paobunjin
« ตอบ #48 เมื่อ: 30 มีนาคม 2012, 04:59:PM »
ชุมชนชุมชน


บัณฑิตจิตมุ่งเอื้อ             เจือจาน
บ่มิทำรำคาญ                   แต่น้อย
เพื่อต่อเพื่อสืบสาน          กานท์ก่อ ไทยเฮย
ทุกท่านจึ่งเรียงร้อย          ร่วมสร้างทางนิพนธ์

ดั่งมนต์มัดจิตให้           วนเวียน
ทุกท่านต่างนำเทียน       ส่องหล้า
ด้วยใจรักสมัครเพียร      มีต่อ กันแฮ
ยิ้มย่องผ่องใสหน้า         อย่างผู้มีชัย

“ไพร พนาวัลย์”


นี่แหละคือความงดงามแห่งน้ำใจเหล่าท่านที่นำมาฝากพวกเราล่ะ
ขอขอบคุณและคารวะด้วยความจริงใจ
 เคารพรัก   เคารพรัก   เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, พี.พูนสุข, เมฆา..., อริญชย์, sunthornvit, เพรางาย, บัณฑิตเมืองสิงห์, รพีกาญจน์, กามนิต, เมฆสีรุ้ง, แงซาย, ช่วงนี้ไม่ว่าง, Thammada, กาญจนธโร, สุวรรณ, สล่าผิน, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ไม่รู้ใจ, เนิน จำราย, บูรพาท่าพระจันทร์

ข้อความนี้ มี 20 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

30 มีนาคม 2012, 06:13:PM
ไร้นวล^^
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 825
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,430

โปรดแนะนำเพื่อค้ำชูภาษาไทย


« ตอบ #49 เมื่อ: 30 มีนาคม 2012, 06:13:PM »
ชุมชนชุมชน



สดใสแสงส่องซ้อง    สยาม

เปล่งปลั่งช่างงดงาม   อร่ามรุ้ง

กวีวาดวับวาม         ระยิบระยับ

ดารดาษฟ่องฟุ้ง     เฟื่องฟ้าสวรรค์




ครั้นคราวเกิดก่อเนื้อ  กายมา

วิบากกรรมพัดพา     พบพ้อง

กุศลส่งโสภา       ยังฝั่ง  เฟื้องแฮ

ประดับประดาคล้อง   กาพย์เพี้ยงโกสุมฯ   



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : sunthornvit, ไพร พนาวัลย์, บัณฑิตเมืองสิงห์, รพีกาญจน์, กามนิต, พี.พูนสุข, แงซาย, ช่วงนี้ไม่ว่าง, Thammada, กาญจนธโร, สุวรรณ, สล่าผิน, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ไม่รู้ใจ, เนิน จำราย, บูรพาท่าพระจันทร์

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แดนดินใดให้เราเกิด  เราจะเทิดทูนไว้เหนือเศียร
30 มีนาคม 2012, 11:51:PM
กามนิต
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 408
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 366


ฉันเห็นไฟในสายตาเธอ


« ตอบ #50 เมื่อ: 30 มีนาคม 2012, 11:51:PM »
ชุมชนชุมชน

        กัลยาณมิตรชี้                 ทางสวรรค์
บัณฑิตชี้ทางสรรค์                 สุขให้
บ้านกลอนร่วมแบ่งปัน           กลอนกาพย์
เสริมส่งทางกวีไว้                    คู่หล้าอย่าเลือน ฯ

กามนิต - ๓๐ มี.ค.๕๕

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บัณฑิตเมืองสิงห์, เมฆสีรุ้ง, ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, แงซาย, น.ปฎิพน, ไร้นวล^^, ช่วงนี้ไม่ว่าง, Thammada, กาญจนธโร, สุวรรณ, เพรางาย, sunthornvit, สล่าผิน, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ไม่รู้ใจ, เนิน จำราย, บูรพาท่าพระจันทร์

ข้อความนี้ มี 19 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ความรักแท้จริงมีสีดำดังศอพระศิวะ
31 มีนาคม 2012, 08:15:AM
แงซาย
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 40
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 109



« ตอบ #51 เมื่อ: 31 มีนาคม 2012, 08:15:AM »
ชุมชนชุมชน

...เหมือนมนต์สะกดแม้น            หมายเมิน
ถอยห่างหว่างทางเดิน             เลี่ยงแล้ว
กลัวกานท์ขัดกัณณ์เกิน           จึงกริ่ง   เกรงนา
เดินดุ่มโดนบ่วงแก้ว               บ่แคล้วติดหลง ฯ
            
                ...แงซาย..

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไร้นวล^^, บัณฑิตเมืองสิงห์, ช่วงนี้ไม่ว่าง, Thammada, รพีกาญจน์, กามนิต, กาญจนธโร, ไพร พนาวัลย์, สุวรรณ, sunthornvit, สล่าผิน, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ไม่รู้ใจ, บูรพาท่าพระจันทร์

ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

"พรสวรรค์ หรือจะสู้ การแสวงหา
      ลิขิตฟ้า หรือจะสู้ มานะตน"
01 เมษายน 2012, 12:28:AM
กามนิต
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 408
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 366


ฉันเห็นไฟในสายตาเธอ


« ตอบ #52 เมื่อ: 01 เมษายน 2012, 12:28:AM »
ชุมชนชุมชน


        มะพร้าว  งามลูกน้อย             น้ำหอม
ห้าว  แต่วานลืมถนอม                    เนิ่นช้า
ขาย  ใคร บ่ ขายออม                      มาอวด สวนแฮ
สวน  ระงมฮิฮ้า                              ฮ่าห้าน่าอาย ฯ

มาอ่านดูความเห็นตัวเองอีกรอบก็รู้สึกขำ ๆ ครับ หลายคนคงรู้ดีอยู่แล้ว

ระหว่างรอเลยเอาสิ่งที่หลายคนรู้อยู่แล้วมาบอกซ้ำ ผู้รู้อยู่แล้วก็อย่าพึ่งขำนะครับ  เอ้อ..จริงว่ะ

ผมกำลังรอคำอธิบายจากคุณดอกรักเร่ด้วยใจระทึก

กามนิต - ๓๑ มี.ค.๕๕

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : กาญจนธโร, ไพร พนาวัลย์, สุวรรณ, เพรางาย, sunthornvit, สล่าผิน, ไร้นวล^^, รพีกาญจน์, Thammada, บัณฑิตเมืองสิงห์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ไม่รู้ใจ, panthong.kh, เมฆสีรุ้ง, พี.พูนสุข, บูรพาท่าพระจันทร์

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ความรักแท้จริงมีสีดำดังศอพระศิวะ
01 เมษายน 2012, 02:17:AM
สุวรรณ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 565
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,487


หวังทุกชีวิต สถิตไว้แต่สิ่งดี


« ตอบ #53 เมื่อ: 01 เมษายน 2012, 02:17:AM »
ชุมชนชุมชน

กราบมิตรลิขิตถ้อย                    นาเฮย
เราบ่ชินโคลงเลย                     อ่อนด้อย
เขียนคำไป่งามเอย                   โอแม่ ลองแล
จึงส่งมาบทน้อย                       หนึ่งนี้คำโคลง

 เอ้อ..จริงว่ะ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, เพรางาย, sunthornvit, สล่าผิน, ไร้นวล^^, รพีกาญจน์, Thammada, บัณฑิตเมืองสิงห์, ไพร พนาวัลย์, กามนิต, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ไม่รู้ใจ, panthong.kh, เมฆสีรุ้ง, พี.พูนสุข, บูรพาท่าพระจันทร์

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
19 เมษายน 2012, 12:50:PM
กามนิต
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 408
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 366


ฉันเห็นไฟในสายตาเธอ


« ตอบ #54 เมื่อ: 19 เมษายน 2012, 12:50:PM »
ชุมชนชุมชน

        "ดอกรักเร่" เร่แล้ว                 อย่าเลือน
โปรดกลับมาเยี่ยมเยือน              หน่อยเน้อ
วางระเบิดร่วมจะเดือน                ผันผ่าน  แล้วพ่อ
อย่าปล่อยให้รอเก้อ                     กับร้อนเมษาฯ


คุณดอกรักเร่ หายไปเลย ไม่ยอมกลับมากู้ระเบิดเลยนิ

กามนิต - ๑๙ เม.ย.๕๕

 เอ้อ..จริงว่ะ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ยามพระอาทิตย์อัสดง, sunthornvit, ไพร พนาวัลย์, ไม่รู้ใจ, รพีกาญจน์, บัณฑิตเมืองสิงห์, panthong.kh, เมฆสีรุ้ง, พี.พูนสุข, บูรพาท่าพระจันทร์

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ความรักแท้จริงมีสีดำดังศอพระศิวะ
02 พฤษภาคม 2012, 06:04:PM
เมฆสีรุ้ง
Special Class LV3
นักกลอนผู้มากผลงาน

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 73
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 171


เปิดรับทุกคำติชมครับ^^


fuciation fuciation
« ตอบ #55 เมื่อ: 02 พฤษภาคม 2012, 06:04:PM »
ชุมชนชุมชน

       สนุกนักใช่มั้ย       คนดี
วางระเบิดแล้วหนี      หลบหน้า
ทำปั่นป่วนยวนยี       สีเสียด
รีบตอบอย่าชักช้า      หากแม้นเป็นชาย


ผมคืออีกคนที่ยังรอคำตอบอยู่นะครับ  ท่านดอกรักเร่

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, DEVIL, my smile, บัณฑิตเมืองสิงห์, กามนิต, sunthornvit, พี.พูนสุข, บูรพาท่าพระจันทร์, ไร้นวล^^

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..........สายลมลอยล่องคล้อย.......งามชม้อยคอยเวหา.......พรีกพริ้วกลีบเมฆา.......ลอยลับลาเลือนหายไป..........
22 พฤษภาคม 2012, 10:09:AM
กามนิต
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 408
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 366


ฉันเห็นไฟในสายตาเธอ


« ตอบ #56 เมื่อ: 22 พฤษภาคม 2012, 10:09:AM »
ชุมชนชุมชน


        ดอกรักเร่เร่แล้ว                              เร่หาย
เย้านิดมิตรพึงหมาย                              หมั่นแจ้ง
สนทนาอย่าเสียดาย                              ใดบ่น    อะไรเฮย
ชมหน่อยหรือคอยแย้ง                           อย่าร้างไมตรี ฯ

กามนิต, ๒๒ พ.ค.๕๕
 เอ้อ..จริงว่ะ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สายใย, sunthornvit, พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, บัณฑิตเมืองสิงห์, บูรพาท่าพระจันทร์, เมฆสีรุ้ง

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ความรักแท้จริงมีสีดำดังศอพระศิวะ
22 พฤษภาคม 2012, 10:32:AM
สายใย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,700


ช่างเขาเฮอะ


เว็บไซต์
« ตอบ #57 เมื่อ: 22 พฤษภาคม 2012, 10:32:AM »
ชุมชนชุมชน

รักเร่เล่ห์รักแล้ว            ฤาลวง
กลหลอกรักปักทรวง       ป่นซ้ำ
เคยนะที่มอบดวง-          ใจพี่
รักเร่มาหมายย้ำ             ยั่วเย้าฤๅไฉน   
     

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : sunthornvit, พี.พูนสุข, กามนิต, sucklife, รพีกาญจน์, บัณฑิตเมืองสิงห์, ไพร พนาวัลย์, ratikal, ไร้นวล^^

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
หน้า: 1 2 [3]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s