ยังมีวันพรุ่งนี้ : ชีวิตพอเพียง
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
22 พฤศจิกายน 2024, 10:17:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ยังมีวันพรุ่งนี้ : ชีวิตพอเพียง  (อ่าน 4850 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
24 มีนาคม 2012, 09:56:PM
ภู กวินท์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 364
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 383


สนสามใบ กับใครหลายคน


« เมื่อ: 24 มีนาคม 2012, 09:56:PM »
ชุมชนชุมชน





ยังมีวันพรุ่งนี้ : ชีวิตพอเพียง
…..
เขาตัดพ้อต่อว่าหน้ากระจก
โชคชะตาเล่นตลกจนตกต่ำ
อนาคตหมดสิทธิ์จะคิดทำ
เป็นเพียงความชอกช้ำและจำเจ

เหมือนมันผ่านเมื่อวานมานานนม
เกิดอารมณ์จมปลักการหักเห
ความรู้สึกอ้างว้างกลางทะเล
โดนคลื่นซัดโซเซพัดเพมา

ใบหน้ายิ้มแสร้งหัวเป็นตัวบีบ
แต่หัวใจกับลีบถูกลบค่า
จากน้ำเสียงได้ฟังการสั่งลา
มีคำตอบในดวงตาอย่างทารุณ

เป็นเงินเดือนงวดสุดท้ายเจ้านายบอก
สิ้นสุดการจนตรอกระลอกหุ้น
คือความจริงวันนี้ไม่มีทุน
จึงไม่อาจรับคุณไว้ทำงาน

มันเป็นความหนักอึ้งมัดตึงแน่น
รถถูกแล่นจากกรุงมุ่งสู่บ้าน
คิดถึงการติดลบงบประมาณ
จึงถูกวานให้ออกช้ำชอกใจ

พ้นตะวันรุ่งเรืองจากเมืองบาป
ที่ถูกสาปนานนับไม่หลับไหล
สู่ท้องทุ่งสล้างกว้างกลางไพร
รับสายลมวูบไหว, น้ำใสเย็น
…..
ค่อยค่อยเติมความหมายหลายปีผ่าน
ฤดูกาลเก็บเกี่ยวอย่างเคี่ยวเข็ญ
ข้าวในนาปลาในน้ำพล่านกระเซ็น
นั่นแหล่ะเป็นผลผลิตการคิดทำ

ใช่จะหมดหนทางทุกย่างก้าว
ขณะสาวหรือหนุ่มก็ชุ่มฉ่ำ
ตามแบบแผนแต่ก่อนไร้ซ่อนงำ
ได้จดจำพอเพียงไว้เลี้ยงตน

ที่ผ่านมาตระหนกกระจกแก้ว
อยู่ในแนวกำหนดบทเข้มข้น
แต่ตอนนี้กลับมารู้ค่าคน
ที่อยู่บนพื้นฐานการพอเพียง..!!

…..
 เคารพรัก

ภาพจาก bloggang.com




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : plang, รพีกาญจน์, ทอฝัน, เนิน จำราย, แป้งน้ำ, สุนันยา, ยามพระอาทิตย์อัสดง, Prapacarn ❀, สิงขร, บัณฑิตเมืองสิงห์, Design with love ᵔᴥᵔ, Music, บ้านกลอนไทย, พี.พูนสุข, เมฆา..., รัตนาวดี, m1, ไร้นวล^^, สะเลเต, ปู่ริน, อริญชย์, panthong.kh, navee, ไม่รู้ใจ

ข้อความนี้ มี 24 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
25 มีนาคม 2012, 07:32:PM
ไร้นวล^^
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 825
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,430

โปรดแนะนำเพื่อค้ำชูภาษาไทย


« ตอบ #1 เมื่อ: 25 มีนาคม 2012, 07:32:PM »
ชุมชนชุมชน

ผมขอเป็นแรงใจเพื่อให้สู้     
อย่าหดหู่โชคชะตาที่มาเหวี่ยง
เราทุกคนผจญสุขและทุกข์เคียง     
เป็นสำเนียงโลกธรรมธรรมดา

จะมีลาภก็เสื่อมลาภภาพสะท้อน     
ยศเมื่อก่อนเหือดหายใคร่ครวญหา
คำสรรเสริญอย่าเหลิงเกินคำนินทา 
หลงชะร่าใจสุขจะทุกข์ตาม

เหมือนกระจกกระจายส่องเป็นสองด้าน   
อนธกาลสว่างลงฝั่งตรงข้าม
หากเผชิญปัญหามาคุกคาม         
อย่าครั่นคร้ามใช้ปัญญาฝืนฝ่าไป

เมื่อท่านพบหนทางสว่างแล้ว       
เหมือนได้แก้ววิเศษแสนสุกใส
พอทุกสิ่งพร้อมยิ่งพอเพียงใจ       
สิ่งอื่นใดไร้ราคาเทียบค่าคน

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : plang, สะเลเต, ปู่ริน, รพีกาญจน์, อริญชย์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, เนิน จำราย, สุนันยา, พี.พูนสุข, panthong.kh, navee, ภู กวินท์, ไม่รู้ใจ

ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แดนดินใดให้เราเกิด  เราจะเทิดทูนไว้เหนือเศียร
25 มีนาคม 2012, 10:04:PM
ปู่ริน
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1095
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,009


หนุ่มเหลือน้อยคอยรักจากลูกหลาน


« ตอบ #2 เมื่อ: 25 มีนาคม 2012, 10:04:PM »
ชุมชนชุมชน

เกิดปัญหามีไว้ให้เราแก้
อย่ายอมแพ้สิ่งใดใดให้สับสน
คนขยันจะอยู่ได้ไม่อับจน
สู้อดทนอดกลั้นทั่วทุกยาม

ในขวานทองของไทยใครก็รู้
ช่วยเชิดชูความเป็นไทยในสยาม
สมกับคำเลื่องลือระบือนาม
ทุกเขตคามอยู่สุขสนุกสบาย

ในน้ำมีปลาในนาก็มีข้าว
ทุกข์ค่ำเช้ามีสุขทุกข์เหือดหาย
แต่วันนี้กลับทุกข์สุขมลาย
พ่อหลวงได้ช่วยคิดทฤษฎี

ให้ใช้เศรษฐกิจพอเพียงมาเลี้ยงชีพ
ดั่งประทีปโคมส่องไม่หมองศรี
ปลูกพืชผักผลไม้หลายวิธี
ยังมีวันพรุ่งนี้ฝึกฝนจนชำนาญ

ท่านช่วยราษฎร์ช่วยรัฐขจัดทุกข์
มีความสุขทั่วถ้วนล้วนประสาน
ร่วมสมานสามัคคีมีช้านาน
ให้ลูกหลานความพอเพียงใช้เลี้ยงตน...

                                 ริน ดอนบูรพา
                                              ๒๕ มี.ค. ๕๕

                     

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : plang, อริญชย์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, รพีกาญจน์, เนิน จำราย, สุนันยา, พี.พูนสุข, panthong.kh, navee, ภู กวินท์, ไม่รู้ใจ

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
26 มีนาคม 2012, 08:43:PM
เนิน จำราย
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 637
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,224



« ตอบ #3 เมื่อ: 26 มีนาคม 2012, 08:43:PM »
ชุมชนชุมชน

 บ้านไร่...นาเรา              
     

     บ้านไร่ทุ่งนาเรา                 ภูสีเทาสุดสายตา

อาทิตย์ส่งยิ้มมา                ให้ข้าวกล้าเขียวไสว
   
     ชายป่าดาษดื่นดง               ล้วนพฤกษ์พงศ์สมุนไพร

หรีดหริ่ง...หริ่งเรไร             กู่กันก้องท่องราตรี
 
     ในน้ำมีปูปลา                     นกบนฟ้าบินเสรี

ปีกประดับสลับสี                ลอยละลิ่วตามริ้วลม
 
     ทุกทับ..ทุกเรือนชาน            ต่างเบิกบานสู่สุขสม

ลูกหลานร้องระงม               ย่า.ตา.ยาย.ได้ดูแล
   
     พ่อแม่กลับจากนา                หาผักปลามาปรุงแปร

แกงส้ม..บวบ,ดอกแค           แกล้มเพกา..ปลาร้าหลน
   
     กินเสร็จสบายกาย                ค่อยผ่อนคลายในกมล

ถ้วนทั่วทุกครัวคน               ต่างแยกย้ายกันเข้านอน
 
     ณ ที่นี่..วิถีทุ่ง                    มิหมายมุ่งเรื่องหลอกหลอน

ตื่นเช้าตะข้องคอน              บ่าแบกไถไปทำนา...........

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สุนันยา, พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, panthong.kh, ภู กวินท์, ไม่รู้ใจ

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
26 มีนาคม 2012, 10:10:PM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #4 เมื่อ: 26 มีนาคม 2012, 10:10:PM »
ชุมชนชุมชน





ยังมีวันพรุ่งนี้ : ชีวิตพอเพียง
…..
เขาตัดพ้อต่อว่าหน้ากระจก
โชคชะตาเล่นตลกจนตกต่ำ
อนาคตหมดสิทธิ์จะคิดทำ
เป็นเพียงความชอกช้ำและจำเจ

เหมือนมันผ่านเมื่อวานมานานนม
เกิดอารมณ์จมปลักการหักเห
ความรู้สึกอ้างว้างกลางทะเล
โดนคลื่นซัดโซเซพัดเพมา

ใบหน้ายิ้มแสร้งหัวเป็นตัวบีบ
แต่หัวใจกับลีบถูกลบค่า
จากน้ำเสียงได้ฟังการสั่งลา
มีคำตอบในดวงตาอย่างทารุณ

เป็นเงินเดือนงวดสุดท้ายเจ้านายบอก
สิ้นสุดการจนตรอกระลอกหุ้น
คือความจริงวันนี้ไม่มีทุน
จึงไม่อาจรับคุณไว้ทำงาน

มันเป็นความหนักอึ้งมัดตึงแน่น
รถถูกแล่นจากกรุงมุ่งสู่บ้าน
คิดถึงการติดลบงบประมาณ
จึงถูกวานให้ออกช้ำชอกใจ

พ้นตะวันรุ่งเรืองจากเมืองบาป
ที่ถูกสาปนานนับไม่หลับไหล
สู่ท้องทุ่งสล้างกว้างกลางไพร
รับสายลมวูบไหว, น้ำใสเย็น
…..
ค่อยค่อยเติมความหมายหลายปีผ่าน
ฤดูกาลเก็บเกี่ยวอย่างเคี่ยวเข็ญ
ข้าวในนาปลาในน้ำพล่านกระเซ็น
นั่นแหล่ะเป็นผลผลิตการคิดทำ

ใช่จะหมดหนทางทุกย่างก้าว
ขณะสาวหรือหนุ่มก็ชุ่มฉ่ำ
ตามแบบแผนแต่ก่อนไร้ซ่อนงำ
ได้จดจำพอเพียงไว้เลี้ยงตน

ที่ผ่านมาตระหนกกระจกแก้ว
อยู่ในแนวกำหนดบทเข้มข้น
แต่ตอนนี้กลับมารู้ค่าคน
ที่อยู่บนพื้นฐานการพอเพียง..!!

…..
 เคารพรัก

ภาพจาก bloggang.com



ใครตัดพ้อ ต่อว่า อย่าไปสน
จิตของคน ปนปาก ไม่อยากเสี่ยง
ยิ่งพูดมาก เกินทน ไม่ยลเยียง
ควรหลีกเลี่ยง เพียงใจ ไม่ใฝ่ปอง

เรื่องร้ายร้าย กลายผ่าน เมื่อวานนี้
ถ้อยวจี ปีบคั้น อกกลั่นหนอง
น้ำตาเรา มีค่า ยิ่งกว่าทอง
อย่าปล่อยให้ ไหลนอง ทาบสองปรางค์

ดีแค่ไหน ที่เขาให้ ได้ซองขาว
คิดคร่าวคร่าว เราต้องไม่หมองหมาง
จิตใจแกร่ง แขนขา พานำทาง
สู่ทุ่งกว้าง กลางนา ฟ้าจรดดิน

หยุดชีวิต คนเมือง ที่เรืองรุ่ง
ย่ำเหยียบทุ่ง จรุงจิต มิดีดดิ้น
ข้าวในนา ปลาในน้ำ ฉ่ำชีวิน
หาเลี้ยงกาย จนสิ้น ถิ่นพอเพียง
พันทอง




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : navee, รพีกาญจน์, ภู กวินท์, ไม่รู้ใจ

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s