11 มีนาคม 2012, 10:58:PM |
baimai@sailom
Special Class LV2 นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร
คะแนนกลอนของผู้นี้ 63
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 158
ทองหลังพระ..
|
|
« เมื่อ: 11 มีนาคม 2012, 10:58:PM » |
ชุมชน
|
ชื่อบทกลอน : ยี่สิบห้านาฬิกา..ตอนที่ ๑ ( สู่ดินแดน )ผู้แต่ง : baimai@sailom...เข็มเวลา มาบรรจบ ทบสิบสอง ยี่สิบสี่ ตีก้อง ทำนองเสียง บทเพลงสั้น ว่าวันครบ จบคืนเที่ยง เริ่มร้อยเรียง เคียงวันใหม่ ในจุดนั้น
ทั้งจบพ้น และต้นเริ่ม คงเดิมเหมือน มิบิดเบือน เตือนว่า อย่ามัวฝัน เวลาลด หมดลับ กับทุกวัน ที่เหลือนั้น จะสั้นยาว สักเท่าใด
ตรงจุดเดิม เริ่มทบ หรือจบนิ่ง ก็พลันทิ้ง ดิ่งสู่ ประตูใหญ่ เหมือนถูกตรึง ดึงร่าง สู่ข้างใน แล้วทิ้งไว้ ในกลางป่า พนาลี
ใบไม้แดง แห้งลอย มิคล้อยเคลื่อน ดูกลาดเกลื่อน เหมือนฉาบ ด้วยภาพสี ทุกอย่างนิ่ง ทุกสิ่งหยุด สุดปฐพี ดินแดนนี้ ที่ไร้กลิ่น สิ้นเวลา...แสงสว่าง กลางนภา ปรากฏเด่น คล้ายจันทร์เพ็ญ เห็นใกล้เคียง แต่เกลี้ยงกว่า ให้เพ่งแย้ง แจ้งสติ นาฬิกา เข็มเวลา มาคงค้าง ที่กลางวง
ทั้งเรือนเปลี่ยว เดียวเอก เลขสิบสาม ให้รู้ความ ตามสถาน แห่งกาลหลง ยี่สิบห้า นาฬิกา มาชี้ตรง อยู่กลางพง ดงแฝง ณ แห่งใด...**************************
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สุวรรณ, สุนันยา, amika29, Thammada, ยามพระอาทิตย์อัสดง, Prapacarn ❀, ไม่รู้ใจ, ไพร พนาวัลย์, ..กุสุมา.., บูรพาท่าพระจันทร์, panthong.kh, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, yaguza, รการตติ, masapaer, เนิน จำราย, sunthornvit, Music, ภู กวินท์
ข้อความนี้ มี 20 สมาชิก มาชื่นชม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
11 มีนาคม 2012, 11:21:PM |
สุวรรณ
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 11 มีนาคม 2012, 11:21:PM » |
ชุมชน
|
ฤๅ โลกหมุน ปัจจุบันพาผันพบ คาบเวลาครากลบบรรจบไหน ยี่สิบห้านาฬิกาเคลื่อนคลาไคล สู่ยุคใหม่ไพรพง เริ่มคืนมา
ฤๅ เป็นช่วงผ่ามิติพิศวง ตัวท่านคงหลงแคว้นดงแดนป่า แทรกร่างกายในเขตสนธยา ตามช่วงของเวลานี้พอดี
อาจเพราะเส้นรุ้งแวงตะแคงทิศ พาเข็มชี้ถูกผิดกระดิกถี่ จนคลาดเคลื่อนเลือนรางกลางพงพี แล้วหยุดที่ยี่สิบห้านาฬิกา
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ยามพระอาทิตย์อัสดง, amika29, Prapacarn ❀, Thammada, baimai@sailom, สุนันยา, ไม่รู้ใจ, ไพร พนาวัลย์, ..กุสุมา.., บูรพาท่าพระจันทร์, panthong.kh, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, รการตติ, masapaer, sunthornvit, Music, ภู กวินท์
ข้อความนี้ มี 18 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
11 มีนาคม 2012, 11:56:PM |
baimai@sailom
Special Class LV2 นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร
คะแนนกลอนของผู้นี้ 63
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 158
ทองหลังพระ..
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 11 มีนาคม 2012, 11:56:PM » |
ชุมชน
|
ชื่อบทกลอน : ยี่สิบห้านาฬิกา..ตอนที่ ๒ ( ทุ่งแห่งเทียน )ผู้แต่ง : baimai@sailom..นาฬิกา จ้านำ ลำแสงส่อง สู่ปลายปล่อง ช่องออก นอกป่าใหญ่ จึงเยื้องร่าง ย่างเดิน ดำเนินไป ระคนใน ใจพรั่น หวั่นระแวง
เมื่อพ้นพง ดงไม้ ให้สว่าง เป็นทุ่งคว้าง กว้างลิบ ระยิบแสง มีเทียนตั้ง พรั่งพราว ดุจดาวแดง เกินนับแจ้ง แท่งผุด สุดประมาณ
แต่เล่มละ คละต่าง ทั้งกว้างสั้น มีหลายอัน นั้นดับ สลับสาน เปลวสว่าง ต่างแสง แสดงกาล สักครู่ผ่าน ทั้งลานวับ พลันดับลง
ทุ่งสะเทือน เลื่อนลั่น สนั่นเกรี้ยว เพียงครู่เดียว เกลียวผืน กลืนฝุ่นผง แล้วลอยลิ่ว ปลิวม้วน ก่อนหวนคง เป็นดาวทรง องก์รวม ท่วมด้วยไฟให้โชติช่วง ดวงแดง สาดแสงจ้า แล้วมอดล้า คราดับ กลับขาวใส ยะเยือกเย็น เป็นดาว อันหนาวใน มิทันไร ให้เกิดสี ขจีครอง...
...ละหลากสี เขียวฟ้า อันตาคุ้น คือโลกพรุน วุ่นวาย ทำลายสยอง สัตว์ประเสริฐ เลิศล้น ถือตนครอง หลงลำพอง ผองข้า ปัญญามี...********************** ไว้รออ่านตอนต่อๆไปด้วยนะครับ...ขอบคุณครับผม
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : amika29, ไม่รู้ใจ, ไพร พนาวัลย์, Prapacarn ❀, ..กุสุมา.., บูรพาท่าพระจันทร์, panthong.kh, รพีกาญจน์, Thammada, พี.พูนสุข, ยามพระอาทิตย์อัสดง, รการตติ, masapaer, sunthornvit, Music, ภู กวินท์
ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
12 มีนาคม 2012, 05:50:AM |
..กุสุมา..
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 12 มีนาคม 2012, 05:50:AM » |
ชุมชน
|
แสงจันทราโลมไล้อาบใบหญ้า ดอกเอื้องป่าเบ่งบานลานไพรนี้ อวลกลิ่นหอมพร้อมชื่นพื้นพงพี ล่องนทีชื่นฉ่ำร่ำรวยริน
ไก่ป่าขันบอกวันอรุณรุ่ง แสงทองพุ่งอาบทาพนาถิ่น เพลงใบไม้ในทรวง ..ลวงลมยิน ดุจชีวินสิ้นเสียงใจวันไร้เธอ ..กุสุมา..
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บูรพาท่าพระจันทร์, panthong.kh, รพีกาญจน์, Thammada, baimai@sailom, พี.พูนสุข, ยามพระอาทิตย์อัสดง, amika29, รการตติ, sunthornvit, Music, ภู กวินท์
ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
12 มีนาคม 2012, 11:36:AM |
baimai@sailom
Special Class LV2 นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร
คะแนนกลอนของผู้นี้ 63
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 158
ทองหลังพระ..
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 12 มีนาคม 2012, 11:36:AM » |
ชุมชน
|
เพลงใบไม้ กระจายแผ่ว แนวป่าเขา กล่อมลำเนา เคล้าถ้อยคำ ธรรมวิถี อันสันโดษ โจษขาน มานานปี มิเคยลี้ เร้นหาย สลายลง
เห็นทุกข์เศร้า เข้าใจ ในทั้งหมด อยากช่วยลด ปลดวาง ทางไหลหลง สายลมแผ่ว ใบไม้ผ่าน ขานบทปลง สิ่งคู่คง บ่งความจริง ใช่สิ่งลวง..
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, บูรพาท่าพระจันทร์, พี.พูนสุข, Thammada, ยามพระอาทิตย์อัสดง, amika29, รการตติ, sunthornvit, Music, ..กุสุมา.., ภู กวินท์
ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
12 มีนาคม 2012, 02:02:PM |
baimai@sailom
Special Class LV2 นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร
คะแนนกลอนของผู้นี้ 63
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 158
ทองหลังพระ..
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 12 มีนาคม 2012, 02:02:PM » |
ชุมชน
|
ชื่อบทกลอน : ยี่สิบห้านาฬิกา..ตอนที่ ๓ ( มหาพายุ )ผู้แต่ง : baimai@sailom..ดั่งไวรัส กัดกิน แผ่นดินโลก เกิดวิโยค โรคร้าย ทำลายสี เป็นเทาคล้ำ ดำจับ ดับชีวี ทั่วปฐพี โลกีย์แล้ง แห่งหินทราย
ให้ตระการ สานปน ระคนเศร้า ทั้งตัวเรา ทุกเผ่าผู้ สู่จุดหมาย ที่เดียวไป ไม่มีพ้น บนความตาย สิ้นสลาย วายจ่อ รอเวลา
เมื่อได้เห็น เป็นมุมไกล อันใหญ่นี้ คำถามมี ปรี่ประดัง ยังใคร่หา ชีวิตยื้อ ถือสิ่งใด ในโลกา ช่างไร้ค่า หาน้อย จ้อยธุลี
ขณะวุ่น ครุ่นคิด จิตสับสน ในบัดดล เกิดฝนใหญ่ ไปทุกที่ เพียงครู่เดียว เชี่ยวธารท้น ล้นธรณี พัดร่างลี้ ลากล้ม จมธาราบังเกิดเป็น เช่นมหา พายุยักษ์ เข้าวนหัก ตักนที ปรี่เวหา ดั่งงวงง้าง ช้างใหญ่ ไอยรา หอบกายา คว้าคว้าง กลางวารี
กระเด็นดอน ร่อนวน จนตาพร่า หรือชะตา จะสิ้นลง ที่ตรงนี้ แล้วพลันผิ สติล่ม สมประดี มิรู้กาย ร้ายดี ณ ที่นั้น...**********************
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, บูรพาท่าพระจันทร์, Thammada, ยามพระอาทิตย์อัสดง, amika29, รัตนาวดี, รการตติ, sunthornvit, Music, ..กุสุมา.., ภู กวินท์
ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
13 มีนาคม 2012, 02:07:PM |
baimai@sailom
Special Class LV2 นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร
คะแนนกลอนของผู้นี้ 63
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 158
ทองหลังพระ..
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 13 มีนาคม 2012, 02:07:PM » |
ชุมชน
|
ชื่อบทกลอน : ยี่สิบห้านาฬิกา..ตอนที่ ๕ ( ความรัก )ผู้แต่ง : baimai@sailom...ควานมืดดำ อำพราง หาทางออก แล้วเป็นหมอก ออกสู่ หมู่บ้านใหญ่ ตามเสียงเห่ เหว่ว้า มารดาไป มาหยุดใกล้ ใช่เรือน เหมือนบ้านเรา
กายเหี่ยวแห้ง แรงล้า ชราหญิง แม่นอนนิ่ง ทิ้งร่าง กลางเตียงเก่า ละเมอกล่อม ตรอมอุรา หาลูกเยาว์ มิเห็นเงา เจ้าย้อน มาอ้อนอิง
สุดห้ามค้ำ น้ำตา พารินไหล แต่คว้าไขว่ ไร้กายา ชราหญิง จะพร่ำเพรียก เรียกเท่าใด มิไหวติง แม่นอนนิ่ง ประวิงฉาบ เพียงภาพลม
ด้วยรักแท้ แม่นี้ ที่เริ่มต้น ให้มากล้น บนทุกข์ ทิ้งสุขสม ลูกเติบใหญ่ ให้ไขว่คว้า หารักชม แล้วเวียนจม บ่มพลอด คลอดลูกยา....เป็นล้อเกวียน เวียนเข็ญ อยู่เช่นนี้ หากรักมี ย่อมหนีทุกข์ มิพ้นหนา รักสิ่งใด ห่วงสิ่งนั้น บั่นอุรา ถูกสาปสา หารักคู่ อยู่ร่ำไป
ภาพมารดา พาเคลื่อน แล้วเลือนหาย รู้สึกกาย กระหายปาก อยากน้ำใส จึงเดินเลาะ เสาะค้น หนทางไป จนพบธาร ละหารใหญ่ ให้ยินดี..**************************
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, Prapacarn ❀, D, รพีกาญจน์, Thammada, บูรพาท่าพระจันทร์, รการตติ, masapaer, sunthornvit, Music, ..กุสุมา.., ภู กวินท์
ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
|
|