ต่อไป »

[บุคคลทั่วไป]

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)

[สิงขร]

สิทธิ์ของผมคืออยากถูกด่าครับ เช่น
1. กลอนท่านสุนทรวิทย์ มีหลายรส ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ อ่านมัน มีทั้งคติยันจนไม่มีคติ
2. กลอนท่านรพีกาญจน์ แนวชีวิต ตลกโปกฮา (บ้าสวนปรุง) นับถือ
3. กลอนท่านเพรางาย เบาๆ เน้นความถูกต้อง ไม่ถูกไม่ได้คะแนน ครับครูครับ
4. กลอนท่านสุนันยา รักหวาน คำคม อ่าแล้วคิดถึงความหลัง
5. กลอนท่านรัตนาวดี รักหวาน + แนวธรรม ธัมโม ชอบๆ
6. กลอนท่านพันทอง เก่งมากตอบได้ทุกเรื่อง แต่หนักไปทาง........แฮ่ๆ(น่ารักอีกแบบ)
7. กลอนท่านดาวอาชาไนย เชิงประสบการณ์สูง พึ่งได้ (สงสัย มีอายุ น่าดู)
8. กลอนหลานบูรพาท่าพระจันทร์ กลางๆ ไม่หนัก ไม่เบา โยกตามหัวข้อกลอน มีคำคมแอบแฝง
9. กลอนสล่าผิน นี่ก็ทุกรส หยอกล้อ ล่อหลอก ไก่แจ้หรือปล่าว สนุกสนาน (บางครั้งอ่านง่ายเข้าใจยาก)
10. กลอนท่านสียะตรา สั้นๆได้ใจความ มีกระแนะ กระแหน เหย้าหยอก หนักทางดอกไม้ (เคารพครับ)

       ชวนกันด่าผม เดี๋ยวผมมาวิจารณ์ต่อคนที่ 11ถึง 20 ต่อไป

                       สิงขร คนบวมๆ

[ช่วงนี้ไม่ว่าง]

อ้าววว  ไม่ติดท็อปเท็นแฮะเรา.........    งั้นวิจารณ์ต่อไปเลยละกัน

11.บุคคลทั่วไป  เป็นนักกลอนดีเลิศประเสริฐศรีมาก  แต่คนมักจะมองไม่เห็นคุณค่า  เหมือนเพชรที่อยู่ในตมฉะนั้น 
12.ณัชชา- ยากุซ่า  รวมสองคนเลย  สั้นง่าย แต่ได้ใจความชัดเจน อ่านแล้วไม่ต้องตีความ จัดเป็นนักกลอนฝีปากดีทั้งคู่  


จริงๆแล้วแต่ละคนก็ล้วนฝีมือฉกาจด้วยกันทั้งนั้น  แต่ขออนุญาตพูดเฉพาะคนที่สนิทหน่อย
ขออภัยท่านนักกวีท่านอื่นๆด้วยที่ไม่ได้เอ่ยถึง

[sunthornvit]

มีนักกลอนในบ้านกลอนที่ผมชื่นชอบมากหลายท่านครับ
แต่ก็ธรรมดาที่บางคนจะเป็นฮีโร่ที่ชื่นชอบเป็นพิเศษ
ขอเอ่ยเพียงสามท่านครับ ฮีโร่3ท่านของผมคือ
1.ท่านรพีกาญจน์
2.ท่านลุงปรางค์ ไพร พนาวัลย์
3.ท่านยากูซ่าครับ
และอีกหลายท่านครับที่ไม่ได้เอ่ยถึงขออภัยด้วยครับ
สุนทรวิทย์

[สิงขร]

ครับต้องขออนุญาตต่อรอบสองแล้วจบนะครับ  ความลับของผมคือ จัดนักกลอนเหล่านี้ไว้เพื่อเอาศึกษางาน ขโมยไปพูดบ้าง(แต่ไม่อ้างเป็นผลงานนะ)

11.กลอนท่านระนาดเอก ท่านเป็นกลอนชั้นครู(ความรู้สึกผมนะ)
12.กลอนท่านอริญชย์ ไม่เป็นเพียงนักกลอนชั้นยอดแล้ว ยังสื่อสมุนไพรมาให้ประโยชน์อีก ถ้าเป็นนักมวยถือว่าครบเครื่อง เช่นมีจรเข้ฟาดหาง มณโฑนั่งแท่น แถมชอบเพลงเก่าๆ เยี่ยมมาก
13.กลอนท่านไพร  พนาวัลย์(ลุงปรางค์) ท่านสุภาพบุรุษแห่งกลอน ได้ข้อคิด ขนาดหยอกยังสุภาพ นับถืออย่างจริงใจ
14.กลอนท่านบุคคลทั่วไป เชิงรณรงค์ สร้างสรร สังคม หยอกล้ำลึก เดี๋ยวเชิญไปเป็นวิทยากร ครับ
15.กลอนท่านยากูซ่า เก่งมากๆ ท่านตอบโต้ได้ดั่งคิด เห็นภาพ(ไม่ควรบรรยายเรื่อง.........เตียง) ห้าๆ
16.กลอนท่านณัชชา เรื่องแหล่งท่องเที่ยว เรื่องอาหาร เหน๋บแนม แซว สนุกไม่หยอก ใครผอมปรึกษาได้
17.กลอนท่านประภาคาร(แซม) ออกจะเหงาๆ พวกเราให้กำลังใจกันให้มากนะ เขาอนุรักษ์ภาษาไทยของเราไว้ น่ารักมาก
18.กลอนท่านบ้านริมโขง มีรสชาดน่าดู มีบทบู๊ บทบุ๋น  มองตรงข้ามกับผู้เขียน แจ๋ว
19.กลอนท่านhort 39 และมหาซัง สงสัยเคยบวชมาทั้งคู่ กลอนธรรมยอดเยี่ยม อ่านแล้วปลงหมด จนเมียด่า หาว่ามีกิ๊ก  ห้าๆๆ
20.กลอนท่านกานต์ไก  กับท่านมานพ  แนวไล่จีบสาว อ้อนสาว น่าสนใจ ถ้าเป็นสมัยหนุ่ม สมัครเป็นศิษย์แน่ แต่ไม่เอาตาม เพราะไม่มีสาวไหนเชื่อในบ้านกลอน ห้าๆ
     
ส่วนกลอนท่านพรายม่าน ชั้นสูงเกินระดับปัญญาผม เพราะผมเป็นคนเขลา
กลอนท่านกามนิต  เก่งเกินจะวิจารณ์  เอาไว้ชมผลงานตลอด
21.กวีของท่านเอ มิ กา เร้าใจ ได้อารมณ์ตามคำรำพึง(ถ้าไม่มีโทรศัพท์มา)
22.กลอนบัณฑิตเมืองสิงห์  ถือว่าเป็นเด็กหนุ่มที่ไม่เป็นรองใคร  มีแนวคิดสร้างสรร คิดเหมือนผู้ใหญ่ อายุราว 50 ปี
23.หนูพิมพ์วาส ลุงถือว่าหนูเป็นเด็กเก่งกว่าเด็กในวัยเดียวกัน ยอดมากลุงยังทำอย่างหนูไม่ได้ อีกหน่อยหนูต้องเป็นกวีเอกของเมืองไทยแน่ ขอสาธุการ ณ บัดนี้
24.ท่านสเลเต  สงสัยเป็นคนมีความรู้รอบตัวยอดมาก ตามหยิก ตามหยอก น่าสนใจ นานๆจะเขียนยาวซะที คล้าย ณัชชา
25.ท่านพี่พูนสุข  เป็นนักกลอนที่สุภาพสตรี เจ้าของดอกยี่เข่ง ยี่โถ  อ่านแล้วตัวเบาไม่เครียดครับ
26.ตลกที่สุดที่ลืมท่านดนตรีเอ้ย มิวสิค ติดตามผลงานท่านมาตลอด   ถ้าหากคิดไม่ออกจะดูกลอนท่านสุนทรวิทย์แล้วตามมิวสิคต่อป๋าพี เหตุผล เพราะท่านพิมพ์ตลอด
                 ครับหากผิดพลาดประการใดอภัยผมนะ อย่าถือคนบ้าอย่าว่าคนเมานะครับ
         
                                    สิงขร คนบวมๆ

[panthong.kh]

ขอจัดบ้างตามใจฉันไม่เกี่ยวกะใครและตามอ่านกลอนของท่านทั้งหลายเหล่านี้ ก่อนจะสมัครเข้ามาที่บ้านกลอนจ้า

แรงจูงใจที่ทำให้สมัครเข้ามาบ้านกลอนไทย มาแบบ บินเดี่ยว ไม่รู้จักใคร ไม่มีใครแนะนำ
เพราะได้อ่านกลอนของหลายๆท่าน อยู่ประมาณ 1 เดือน เลยตัดสินใจ สมัครมาเพราะชอบอ่านมากเลยคิด อยากจะแต่งบ้าง
คือทุกท่านมีความสำคัญหมดเลย ขอจัดอันดับดังนี้

ผลงาน 5 ท่าน ที่อ่านก่อนเข้าบ้านกลอนไทย
1) สล่าผิน เป็นทั้งครู ที่สอนมากับมือ เป็นผู้ใหญ่ใจดี คอยให้กำลังใจ อยุ่เสมอ ใช้ภาษาง่ายง่าย อ่านแล้วไม่ต้องแปลไทยเป็นไทย
2) บัณฑิตเมืองสิงห์ ไม่รู้จักเลย ตามอ่านผลงานกลอนอยู่ประมาณ 1 เดือนก่อนสมัครเข้ามาบ้านกลอนไทย
3) ป๋ารพีฯ ตามอ่านผลงานก่อนเข้าบ้านกลอนประมาณ 1 เดือนเหมือนกัน
4) บ้านริมโขง  แต่งกลอนดีมาก แต่ต้องแปลไทยเป็นไทย อีกรอบจ้า หลังไมค์ สอนประจำ (ตอนนี้หายสาบสูญ)
5) ลุงปรางค์ ผู้ใหญ่ใจดี สอนทุกเรื่อง คอยแนะนำอยู่เสมอเสมอ ให้กำลังใจมาตลอด



1) คุณพี่กะปู ครูสอนภาษาไทยคนแรกในบ้านกลอนไทย แก้คำผิด น่ารักมาก สมกับเป็นครู
2) คุณยากูซ่า  น้องณัชชา ชอบแนวกลอนมาก ถ้าลงกระทู้ต้องตามต่อเสมอ (ขอฮาไว้ก่อน)
3) ป๋าสุนทรวิทย์ ผู้ใหญ่ใจกว้าง ให้กำลังใจเสมอ กลอนครบทุกรสชาดและตามต่อกลอนให้ตลอด แถมเป็นยามเฝ้าบ้านกลอน ทุกวัน
4) พี่บูรพาฯ ชอบแนวกลอน ครบทุกรส ผู้ใหญ่ใจดี
5)คุณบุคคลธรรมดา ชอบกลอนเช่นกัน กล้าดี ชอบทุกกระทู้ที่ลง โผงผาง
6)พี่มิวสิค  ได้ทุกแนว ยังคิดถึงเสมอ
7)น้องแซม คนที่เอาดอกไม้สวยๆ ไปต้อนรับวันแรกที่เข้าบ้านกลอน ซึ้งจ้า
8) คุณอริญชย์ แต่งได้เพราะมาก แนวธรรมชาติ
9) น้องสเลเต น้องที่น่ารักเสมอ
10) คุณสุนันยา กลอนหวานมากๆ
11) คุณกานต์ไก่ ได้ทุกรส หวานแบบขำขำจ้า

ขอขอบคุณทุกท่านที่มีแต่เรื่องดีๆ มาให้เสมอๆ ถึงแม้บางท่านจะไม่รู้จักเลย แต่ก็ทึ่งในบทกลอนของท่านทั้งหลาย
มาโดยตลอด และถือเป็นแบบอย่างที่ดี ให้กับนักกลอนน้องใหม่ ให้มีกำลังใจแต่งกลอนต่อไป
พันทอง

[hort39]

กลอนก็คือตัวตนของคนเขียน
จึงวนเวียนเขียนคำนำเสนอ
บวกอารมณ์บ่มกลอนป้อนบำเรอ
กลอนของเธอของฉันแบ่งปันไป

อารมณ์ดีมีสุขกลอนปลุกเร้า
อารมณ์เศร้าเหงาดับกลอนหลับไหล
อารมณ์รักหวานซึ้งตราตรึงใจ
อารมณ์โกรธเป็นไฟระบายกลอน

อารมณ์นี้คือกึ่งกลางความว่างเปล่า
จะบอกเล่าคงลำบากฝากอักษร
อยากจะอยู่อยากจะไปไกลจากจร
แต่ก็ยังอาวรณ์บ้านกลอนไทย

[Music]

 

อารมณ์นี้คือกึ่งกลางความว่างเปล่า
จะบอกเล่าคงลำบากฝากอักษร
อยากจะอยู่อยากจะไปไกลจากจร
แต่ก็ยังอาวรณ์บ้านกลอนไทย
.......ป๋า Hort........

        

มิรู้ตัวของตนเสียด้วยซ้ำ
อาจเพลี่ยงพล้ำเลินเล่อถ้าเผลอไข
ยากสรุปมาตรวัดกลัวขัดใจ
วิจารณ์ไปเกรงเศร้าจะเข้าตัว

ด้วยไม่มีอำนาจวาสนา
จะสรรหาแยกแยะทีละหัว
ได้แต่อ่านเพื่อสนองความหมองมัว
ประมาณกลัวเพื่อนจะชัง..ซึ่งกังวล

 

[amika29]

ครับต้องขออนุญาตต่อรอบสองแล้วจบนะครับ  ความลับของผมคือ จัดนักกลอนเหล่านี้ไว้เพื่อเอาศึกษางาน ขโมยไปพูดบ้าง(แต่ไม่อ้างเป็นผลงานนะ)


21.กวีของท่านเอ มิ กา เร้าใจ ได้อารมณ์ตามคำรำพึง(ถ้าไม่มีโทรศัพท์มา)
                                   สิงขร คนบวมๆ

แนะนำให้เลือกว่าจะอ่านกลอนหรือโทรศัพท์
ถ้าจะโทรศัพท์ก็อย่าเพิ่งอ่านกลอน เดี่ยวเสียอารมณ์
ถ้าจะอ่านกลอนก็ ถอดสายโทรศัพท์ หรือถอดแบตเลย หรือทุบทิ้งดี คริคริ
ล้อเล่นค่ะ ขอบคุณที่อ่านกลอนของเอมิกา

 

[อริญชย์]

12.กลอนท่านอริญชย์ ไม่เป็นเพียงนักกลอนชั้นยอดแล้ว ยังสื่อสมุนไพรมาให้ประโยชน์อีก ถ้าเป็นนักมวยถือว่าครบเครื่อง เช่นมีจรเข้ฟาดหาง มณโฑนั่งแท่น แถมชอบเพลงเก่าๆ เยี่ยมมาก


ใช้จรเข้ฟาดหางบ่อย ๆ ก็อาจโดนสวนกลับแบบนี้เหมือนกันนะ เขามีลูกแก้แล้ว ฮ่ะ ฮ่ะ



เจริญทอง เกียรติบ้านช่อง แก้ลูกจรเข้ฟาดหางอย่างไร น่าดู ๆ

<a href="http://www.youtube.com/v/CvwszLqx0bA&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/CvwszLqx0bA&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

ขออนุญาตเอามาลงรกกระทู้เน้อ

[--ณัชชา--]

เอามั่ง

501.....ช่วงนี้ไม่ว่าง  (บุคคลทั่วไป)  (เถ้าสารพัดพิษ) ฯลฯ นักกลอนในง่ามหลืบใจ เข้าใส้เข้าพุง   

--ณัชชา--

 

[รัตนาวดี]

5. กลอนท่านรัตนาวดี รักหวาน + แนวธรรม ธัมโม ชอบๆ

ท่านสิงขร นึกคลาย อยากหายเครียด
ไร้ผู้เกลียด เจียดอ้าง คำหมางเอ่ย
มาขอร้อง ให้ด่า ท้ากันเลย
แทนอยู่เฉย เลยชอบ มาปลอบใจ

รายชื่อที่ วิจารณ์ มีขานรับ
ชื่อรัตน์ติด อันดับ เลยปรับให้
เชิญช่วยด่า น่าขัน ฤๅฝันไป
ท่านสิงขร ซ่อนอยู่ไหน บอกให้ที

จะให้รัตน์ นั่งนอน หรือออนด่า
กำกับท่า มาด้วย ช่วยนะพี่
รัตน์จะอวด สวดด่า คำค่าดี
ขอบคุณมาก ค่ะพี่ ที่อ่านกลอน

รัตนาวดี
 

 emo_76จับได้แล้วคุณก็ตามอ่านกลอนของรัตน์ด้วย ..ขอบคุณจ้า...

[บูรพาท่าพระจันทร์]

ครับต้องขออนุญาตต่อรอบสองแล้วจบนะครับ  ความลับของผมคือ จัดนักกลอนเหล่านี้ไว้เพื่อเอาศึกษางาน ขโมยไปพูดบ้าง(แต่ไม่อ้างเป็นผลงานนะ)

11.กลอนท่านระนาดเอก ท่านเป็นกลอนชั้นครู(ความรู้สึกผมนะ)
12.กลอนท่านอริญชย์ ไม่เป็นเพียงนักกลอนชั้นยอดแล้ว ยังสื่อสมุนไพรมาให้ประโยชน์อีก ถ้าเป็นนักมวยถือว่าครบเครื่อง เช่นมีจรเข้ฟาดหาง มณโฑนั่งแท่น แถมชอบเพลงเก่าๆ เยี่ยมมาก
13.กลอนท่านไพรวัลย์(ลุงปรางค์) ท่านสุภาพบุรุษแห่งกลอน ได้ข้อคิด ขนาดหยอกยังสุภาพ นับถืออย่างจริงใจ
14.กลอนท่านบุคคลทั่วไป เชิงรณรงค์ สร้างสรร สังคม หยอกล้ำลึก เดี๋ยวเชิญไปเป็นวิทยากร ครับ
15.กลอนท่านยากูซ่า เก่งมากๆ ท่านตอบโต้ได้ดั่งคิด เห็นภาพ(ไม่ควรบรรยายเรื่อง.........เตียง) ห้าๆ
16.กลอนท่านณัชชา เรื่องแหล่งท่องเที่ยว เรื่องอาหาร เหน๋บแนม แซว สนุกไม่หยอก ใครผอมปรึกษาได้
17.กลอนท่านประภาคาร(แซม) ออกจะเหงาๆ พวกเราให้กำลังใจกันให้มากนะ เขาอนุรักษ์ภาษาไทยของเราไว้ น่ารักมาก
18.กลอนท่านบ้านริมโขง มีรสชาดน่าดู มีบทบู๊ บทบุ๋น  มองตรงข้ามกับผู้เขียน แจ๋ว
19.กลอนท่านhort 39 และมหาซัง สงสัยเคยบวชมาทั้งคู่ กลอนธรรมยอดเยี่ยม อ่านแล้วปลงหมด จนเมียด่า หาว่ามีกิ๊ก  ห้าๆๆ
20.กลอนท่านกานต์ไก  กับท่านมานพ  แนวไล่จีบสาว อ้อนสาว น่าสนใจ ถ้าเป็นสมัยหนุ่ม สมัครเป็นศิษย์แน่ แต่ไม่เอาตาม เพราะไม่มีสาวไหนเชื่อในบ้านกลอน ห้าๆ
     
ส่วนกลอนท่านพรายม่าน ชั้นสูงเกินระดับปัญญาผม เพราะผมเป็นคนเขลา
กลอนท่านกามนิต  เก่งเกินจะวิจารณ์  เอาไว้ชมผลงานตลอด
21.กวีของท่านเอ มิ กา เร้าใจ ได้อารมณ์ตามคำรำพึง(ถ้าไม่มีโทรศัพท์มา)
22.กลอนบัณฑิตเมืองสิงห์  ถือว่าเป็นเด็กหนุ่มที่ไม่เป็นรองใคร  มีแนวคิดสร้างสรร คิดเหมือนผู้ใหญ่ อายุราว 50 ปี
23.หนูพิมพ์วาส ลุงถือว่าหนูเป็นเด็กเก่งกว่าเด็กในวัยเดียวกัน ยอดมากลุงยังทำอย่างหนูไม่ได้ อีกหน่อยหนูต้องเป็นกวีเอกของเมืองไทยแน่ ขอสาธุการ ณ บัดนี้
24.ท่านสเลเต  สงสัยเป็นคนมีความรู้รอบตัวยอดมาก ตามหยิก ตามหยอก น่าสนใจ นานๆจะเขียนยาวซะที คล้าย ณัชชา
25.ท่านพี่พูนสุข  เป็นนักกลอนที่สุภาพสตรี เจ้าของดอกยี่เข่ง ยี่โถ  อ่านแล้วตัวเบาไม่เครียดครับ
26.ตลกที่สุดที่ลืมท่านดนตรีเอ้ย มิวสิค ติดตามผลงานท่านมาตลอด   ถ้าหากคิดไม่ออกจะดูกลอนท่านสุนทรวิทย์แล้วตามมิวสิคต่อป๋าพี เหตุผล เพราะท่านพิมพ์ตลอด
                 ครับหากผิดพลาดประการใดอภัยผมนะ อย่าถือคนบ้าอย่าว่าคนเมานะครับ
         
                                    สิงขร คนบวมๆ

คารมเด็ด เผ็ดมัน ทั่นลุงขร
ทั้งบ้านกลอน บังอร,หนุ่ม ถูกรุมขาน
พิจารณ์ถึง ซึ้งจำ เก่งชำนาญ
หลายดวงมาน ขานเจี๊ยว ลุงเชี่ยวจริง

ตัวลุงเอง เก่งการ เชี่ยวชาญสอน
เตือนสังวร หลากเรื่อง เปรื่องดังขิง
ฝีปากคม ชมจัง ทั้งติติง
จึงเผ็ดยิ่ง อิงเทียบ เปรียบขิงแก่.../

 

บูรพาท่าพระจันทร์

[สะเลเต]

24.ท่านสเลเต  สงสัยเป็นคนมีความรู้รอบตัวยอดมาก ตามหยิก ตามหยอก น่าสนใจ นานๆจะเขียนยาวซะที คล้าย ณัชชา
~ท่านสิงขร~

9) น้องสเลเต น้องที่น่ารักเสมอ
~พี่พัน~

ขอบคุณ....พี่ทั้งสอง ท่านมากกกกกกกกกกกก ๆ นะะะะะะะะะะะคะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ
ที่นึกถึง สะเลเต ข้อก้มกราบงามๆๆ ที่กระเป๋าตังค์ พี่ทั้งสองท่านนะคะ(พยายามจะไม่จิ๊กตังค์ กราบเฉยๆๆ  )

---สะเลเต---

[บูรพาท่าพระจันทร์]

4) พี่บูรพาฯ ชอบแนวกลอน ครบทุกรส ผู้ใหญ่ใจดี

พันทอง

ขอติติง หญิงพัน กำนันแล้ว
ไยขวัญแก้ว ลืมลด ซึ่งยศฉัน
เลี้ยงแซ่ซ้อง ร้องเพลง บรรเลงมัน
เราชวนกัน เต้นรำ ทั้งค่ำคืน.../


 

บูรพาท่าพระจันทร์

[รพีกาญจน์]

กลอนท่านรพีกาญจน์ แนวชีวิต ตลกโปกฮา (บ้าสวนปรุง).....สิงขร

ท่านรพีกาญจน์ หนึ่่งในสามฮีโร่ของผม.....สุนทรวิทย์

ติดตามอ่านกลอนของป๋ารพีฯ ประมาณหนึ่งเดือน ก่อนเข้าบ้านกลอน......พันทอง

ยกมาจากบางส่วนข้างบนนี้ ขอบคุณครับ เชิญวิจารณ์ทั้งบวกลบตามสบายครับ


เต่าล้านปี ชีวิต มักผิดหวัง
เป็นความหลัง ฝังใจ ให้ขื่นขม
วัยแรก.กลาง สร้างดี มีแต่ตรม
ร่างทรุดโทรม ทอดตัว มั่วกับงาน

ชีวิตรัก หนักแน่น แฟนเพียงหนึ่ง
ชอบทะลึ่ง ปดปูด พูดเสียงหวาน
แสร้งแย้มยิ้ม กริ่มกรุ่ม หนุ่มสำราญ
สมการ สนุก ทุกข์สร่างเซา

เกือบไม่ทัน บั้นท้าย อยู่ปลายไร่
คอยรับใช้ ร่างองค์ เทพทรงเจ้า
ช่วยวัดวา อาราม ตามทำเนา
เพื่อนชวนเข้า บ้านกลอน ตอนหลังเพล

ลองหัดจิ้ม พิมพ์แท่น พลั้งแว่นหลุด
ก้มลงมุด มือหยิบ รีบไม่เห็น
หัวชนโต๊ะ โพละ!พลัน ฟันกระเด็น
เลือดไหลเซ่น คอมเคส กล่องเน็ตจอ

มัวงุ่มง่าม สามคืน ยื่นสมัคร
มันขลุกขลัก เสียจริง เหมือนลิงหนอ
พิมพ์ยิกยิก คลิกไม่-ไปเฝ้ารอ
ผ่านอีก พ.ศ.ใหม่ ถึงได้วาง

กลอนข้าเจ้า เบา.หนัก จักประสม
คราโศกซม ใส่จริง ทิ้งสุดร่าง
คราภิรมย์ ชมชื่น รื่นเบาบาง
ใครจะว่า บ้าก็ช่าง คนอย่างเรา

13 ธันวาคม 2553   ซื้อคอมพ์เก่า ติดเน็ต
18 ธันวาคม 2553 สมัครสมาชิกบ้านกลอน
06 มกราคม 2554    วางงานชิ้นแรกสำเร็จ

 

รพีกาญจน์ 59

[ยามพระอาทิตย์อัสดง]

"ลุงเว็บ"
ตั้งแต่เข้ามาอาศัยบ้านกลอนเล่นเป็นเวลา 2 ปีกว่า ยังไม่เห็นเจ้าของเว็บจะลงกลอน
ช่วยมาลงกลอนให้อ่านเป็นบุญตาหน่อย สักปีล่ะ 1 บทก็ยังดี นะค่ะ ลุงเว็บ ขาๆๆๆๆๆ 

"ลุงปรางค์"
กลอนของลุงไม่ได้สมกับคนที่อยู่ทะเลทรายเลย เพราะอ่านที่ไรมันชุ่มฉ่ำหัวใจ
มีแต่น้ำไหลเย็นผ่านมาสู่ลูกหลาน ทำให้รู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ได้อ่านกลอน

"ท่านพี่พรายม่าน"
กลอนท่านทำให้อัสดงต้องเสียเงินเสียทองเสียเวลา............ฯลฯ
ขับรถไปตระเวณตามร้านหนังสือเพื่อหาซื้อพจนานุกรม (ตรากตรำรู้ไหมล่ะนั่น )
แต่ได้ความรู้มาท่วมหัวเลยเจ้าค่ะ กราบขอบคุณมา ณ.ที่นี่ด้วย

"ท่านพี่กามนิตที่รัก"
กลอนของท่านพี่ก็หนักเอาการอยู่ แต่ด้วยใจรักและเสน่หา (อดทนและอึดสุดๆ)
น้องดงเลยมีความตั้งใจที่จะเรียนรู้ฝึกฝนเอาแบบอย่างของท่านพี่ ขอบคุณมากสำหรับทุกสิ่งอย่าง

"พี่ปรางทิพย์"
กลอนทั้งเศร้าทั้งหวานคละเคล้ากันไป อยู่ต่างประเทศยุ่งมากเลยหรือไงคะ
หวังว่าคงจะสรรหาเวลาแต่งกลอนให้แฟนคลับได้อ่านบ้างนะคะ คิดถุง น้องดงจะรอ 

"ท่านนะโม"
รูปข้างหลังก็ดูดี กลอนก็ไพเราะ สัญญาว่าจะมาตอบกลอนน้องดงตั้งแต่ชาติที่แล้ว
ก็ทำหาย ทำลืม ทำเลือน เหมือนไม่รู้จักกัน( อยากโดนด่าเหลือเกิน)

" ท่าน อริญ ฯ "
กลอนท่านอริญ สาระเยอะจัด จัดว่า อ่านแล้วต้องเอาสายเข็มขัดมารัดที่หัว
เป็นกลอนที่เปลื่องยางรัดผมมากที่สุด อ่านแล้วหัวฟูเลยเจ้าคะ 

" พี่กะปู "
อ่านกลอนพี่กะปูทีไร คิดว่ากำลังอ่านกลอนของเด็กสาวแนว อายุ 18
(แนวเจ็บปวด น่ารักสุดๆๆ)  อันนี้ เลิฟสุดๆเลย

"ท่านบุคคลทั่วไป"
จะหาสาระจากกลอนท่านยิ่งนับวันยิ่งเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร (กำ แต่อัสดงก็อ่านมันทุกบททุกตอนเลย)
ทำเปลื่ยนชื่อเรียกร้องความสนใจ ไม่รู้เรียกร้องสาวๆ หรือ ชายด้วยกัน คริคริ   
(อยากโดนท่านด่าเหลือเกิน  ) *ที่พูดไปทั้งหมดตรงกันข้ามนะคะ 

"ปู่ระพี"
อ่านกลอนพี่ปู่ระพี แล้วอยากมีกางเกงขาก๊วยใส่สักตัว เผื่อจะเข้าถึงบรรยายกาศความหลังบ้าง 
เออ....แล้วเมื่อไรปู่ระพีจะมาฟ้อนรำให้หลานดงได้เห็นบ้างคะ

*วันนี้อัสดงว่างจัดก็เลยจัดหนัก แต่งกลอนไม่ออก อยู่ว่างๆ ก็เลยเขียนถึงนักกลอนบางท่านในมุมมองของอัสดงแบบขำๆนะคะ*
ผิดพลาดประการใด อัสดง ขอประทานอภัยด้วยนะคะ เคารพรักทุกท่าน 

[อริญชย์]

" ท่าน อริญ ฯ "
กลอนท่านอริญ สาระเยอะจัด จัดว่า อ่านแล้วต้องเอาสายเข็มขัดมารัดที่หัว
เป็นกลอนที่เปลื่องยางรัดผมมากที่สุด อ่านแล้วหัวฟูเลยเจ้าคะ 


พบแล้ว หมอพรทิพย์ คนใหม่ อิ อิ
 

[สิงขร]

 
ท่านที่เคารพครับ

วันนี้ได้รับเชิญไปบรรยายสถานที่แห่งหนึ่ง(เก็บเป็นความลับนะครับ คุก ครับ ห้ามพูดใครฟังนะ)  ตอนแรกคิดหัวข้อไม่ออก พูดอะไรดีหนอเรา เปิดกลอนท่านสุนทรภู่เอ้น วิทย์ครับ
เรื่องใบไม้ร่วงเปรียบเสมือนชีวิต มีการผลัด ผลิ อ่านกลอนท่านสุนด้วย ปรากฎว่าเงียบซึมไปตามๆกัน
ต่อมา
ได้พูดว่าถ้าหากใครมีโอกาสออกจากที่ตรงนี้ ให้ไปกราบหลวงพ่อใหญ่ที่หนู รัตนาวดี ชี้แนะพร้อมเปิดเพลงแขกสวดตามนั้นเป๊ะ เริ่มมีเสียงจอแจ

นายคนหนึ่งลุกขึ้นถามว่า ..ท่านครับหลวงพ่อใหญ่ มันใหญ่จริงหรือครับ..  ผมคิด เอ หมอนี่มาไม้ไหนวะนี่  ผมทำสมาธิแล้วถามเขาไปว่า..สิ่งที่ท่านถามหมายถึง พระพุทธรูปนั้น
องค์ใหญ่จริงใช่ไหม..  แกตอบว่า ใช่ครับ (เออ โล่งอกเพราะหนูรัตนาวดี มิได้ให้รายละเอียดไว้) ครั้นผมจะตอบว่ายังไม่เคยเห็น ก็กลัวว่าจะเสียเหลี่ยม เลยบอกว่าจริงครับ
ท่านประดิษฐานจังหวัดอ่างทอง (งานนี้เสียตังค์แน่ต้องไปกราบหลวงพ่อใหญ่พร้อมเก็บข้อมูล)

พอใกล้หมดเวลา ผมเอามวยท่านอริญชย์ฉาย มีเฮกันใหญ่แถมมีต่อรองอีก พอท้ายสุดเอาโองการแช่งชักหักกระดูก (ขอโทษ โองการของป๋ารพีกาญจน์ อวยพร จบลงด้วยปรบมือ

ผมสงสัยคงเตี้ยมกันมาน่าดู เพราะถูกบังคับมาฟังเกือบ 4000 คน รอดตัวไป 

กราบขอบคุณท่านที่เข้ามาอ่าน ผมรู้สึกเป็นเกียรติมาก เสมือนญาติเลย ดูหนูเอ มิ กา แกน่ารัก บอกผมทุบโทรศัพย์ทิ้ง ฮึ่ม ยังมีหลายท่านที่ชอบ เช่นหทัยกาญจน์ อาทิตยตก(อัสดง)
หรือกุสุมา บาน ท่านแป้งน้ำ  และท่านแกไม่ค่อยว่าง หายต๋อม  นักกลอนน้องใหม่ต้องให้กำลังใจครับ

                  กราบคารวะอย่างสุดซึ้งที่ให้ผมขโมยกลอน ห้าๆ

                                    สิงขร

[ช่วงนี้ไม่ว่าง]

"ท่านบุคคลทั่วไป"
จะหาสาระจากกลอนท่านยิ่งนับวันยิ่งเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร (กำ แต่อัสดงก็อ่านมันทุกบททุกตอนเลย)
ทำเปลื่ยนชื่อเรียกร้องความสนใจ ไม่รู้เรียกร้องสาวๆ หรือ ชายด้วยกัน คริคริ   
(อยากโดนท่านด่าเหลือเกิน  ) *ที่พูดไปทั้งหมดตรงกันข้ามนะคะ 

 

คำโบราณเขาบอกว่า ผีมักจะมองเห็นผี  คนมองเห็นคนอื่นเป็นเช่นไรก็มักจะเป็นเช่นนั้น   

[ยามพระอาทิตย์อัสดง]

"ท่านมหาซัง"
กลอนของท่านไม่ได้ทำให้อัสดงปลงได้เลย ช่วยจัดหนักหน่อยได้ไหมค่ะท่าน
เอาแบบให้ตัวบาปที่เกาะอยู่กระจายหายไปในบัดดลนะ เจ้าคะ (สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง  )

"พี่วิไม่รู้ใจ"
คนนี้ไม่อยากจะบรรยายกลอนเค้าสักเท่าไร กลัวโดนเตือนเรื่องคำผิดเสียมากกว่าที่จะไปคอมเม้นกลอนพี่เค้า
สักนิดแล้วกัน กลอนออกจะเศร้า พยายามตามโครงเรื่องของกระทู้ที่เจ้าของเค้าตั้งมากไปป่าวค่ะ  

"เมฆา"
กลอนน่าค้นหาแต่หาไม่เจอสักที ไม่รู้อัสดงโง่เกินไปหรือป่าว อ่านแล้วเข้มเต็มรส
แต่ว่างๆ ช่วยเติมความหวานหน่อยนะค่ะ ถึงแม้ใจจะรู้ว่าท่านมอบความหวานให้นางเดียว  

"แม่ค้าหน้าหวาน"
กลอนก็หวานสมใจในทุกครั้งที่ได้อ่านตั้งแต่รู้จักกันมา ไม่เห็นกลอนไหนเลยจะไม่หวาน
เอารสอื่นบ้างก็ได้ มันเลี่ยนอ่ะ อ่านที่ไรต้องไปกินมาม่ารสต้มยำทุกทีเลย กำ  

"พี่ปภัสร์"
กลอนท่านพี่รู้สึกจะแหวกแปลกแนวไปได้เรื่อย อยากถามว่ากำลังสับสนอยู่หรือป่าว
ทางธรรม กับ ทางรัก มันต่างกันราวฟ้ากับดินเลย เห็นท่านเปลี่ยนอารมณ์ไวๆ  

"พี่กาแฟดำ"
กลอนพี่ก็จะมีหลายรสรวมกัน ตามแต่คู่แต่งตอบจะเล่นแบบไหน แต่จะขมตามรสกาแฟมากกว่า
ว่างๆจะลองไปชิมสักหน่อย อยากรู้ว่าฝีมือชงกาแฟ จะเหมือนอย่างกลอนหรือป่าว  

"คุณนัท รักในหลวง"
กลอนคุณนัทอย่าให้บอกเลย เข้าไปอ่านที่ไรเวียนหัวจะอาเจียนทุกที อัสดงเมา"กลบท"
ไม่นึกจะเปลี่ยนแนวบ้างหรือไงจ๊ะ จะได้ตามไปเล่นด้วยใหม่
(แต่น้องดงก็ตามไปต่อกลอนคุณนัททุกที ไม่รู้มีใครเลี่ยนน้องดงป่าว)  

"Tina"
กลอนเจ้าแม่ที่น่า ก็กวนประสาทไม่หยุด อ่านแล้วหมั่นเคี้ยว เพราะอัสดงแต่งตอบไม่เคยทันแม่ทีน่าเสียที
เถียงก็ไม่เคยชนะ แม่แกย้อนได้ทุกบททุกคำเอากับแม่สิ หลบให้คนนี้คนเดียวเลย  

"ทอฝัน (ดรีม)"
กลอนเจ๊แก ใช้ภาษาทำให้อัสดง อ่านที่ไร เป็นงง ว่าคำนี้มันมีในภาษาไทยด้วยหรือ
ต้องไปถามชาวบ้านให้ช่วยเหลือ คำที่เจ๊แกใช้ สุดเกินบรรยาย กึนแกเยอะไปหน่อย  

"น้องหยก"
แอบมาติดใจอ่านกลอนน้องเค้าก็ตอนที่เราแต่งกลอนไม่ออก มานั่งอ่านกลอนเปล่าแก้เหงาใจพรางๆ
เป็นกลอนเปล่าที่ใช้ภาษาสวย เลยทำให้อยากแต่งบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ตัวตนของอัสดงเลยอ่านดีกว่า
บทน้องเค้าจะหวานจนกินใจ บทจะโศกก็โศกาอาดูร บทจะกวนก็กวนจนอยาก........ละไว้เป็นที่เข้าใจกัน2ต่อสอง  

*ยังว่างงานอยู่ไม่มีไรทำ อยากโดนด่าแบบไม่มีเหตุผล นี่ก็เป็นอีกมุมมองหนึ่งที่อัสดงมอง
คนอื่นมองอย่างไรก็อีกเรื่อง นานาจิตตัง (เขียนถูกป่าวหว่า) ว่าแต่อย่าได้ถือสาคนว่างงานเลยนะคะ  

ผิดพลาดประการใด อัสดง ขอประทานอภัยด้วยนะคะ เคารพรักทุกท่าน