15 กุมภาพันธ์ 2012, 08:25:AM |
..กุสุมา..
|
|
« ตอบ #20 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2012, 08:25:AM » |
ชุมชน
|
ข้าพเจ้าเข้ามาในบ้านกลอนทำให้ได้รู้จักมิตรมากมาย >>..จากตัวอักษรที่ท่านทั้งหลายได้บันทึกลงบนกระดานบ้านกลอนไทยแห่งนี้ ..ทำให้มองเห็นตัวตนที่อยู่ข้างในจิตใจของแต่ละคนได้ชัดเจน ว่านิสัยที่แท้จริงของคนนั้นเป็นเยี่ยงใด อารมณ์อยู่ ณ จุดไหน บางคน อาจจะหยาบ ละเอียด อ่อนไหว เยือกเย็น สนุกสนาน ทุกตัวอักษรที่วางลงบนกระดานนี้.. ได้เขียนออกมาจากหัวใจ ..มิได้เขียนออกมาจากปาก บทกลอนที่เขียนจากหัวใจ จึงไพเราะทำนองจะเสนาะรับกันแบบลงตัวบน ๐ตัวอักษร๐ สิ่งที่เขียนออกมา ตัวอักษรจะงดงามสามารถมองเห็นภาพบนตัวอักษรได้เลยทีเดียว >>..เมื่อวัยเยาว์คุณแม่ชอบให้ข้าพเจ้าอ่านหนังสือให้ท่านฟังร้อยแก้วร้อยกรอง กาพย์ โคลง ฉันท์ ให้อ่านเป็นทำนองเสนาะ เมื่อข้าพเจ้าอ่านผิดท่านก็จะสอน ให้อ่านให้ถูกต้อง เมื่อข้าพเจ้าเติบโต ก็ได้ห่างไป กระทั่งได้เข้ามาที่บ้านกลอน ไทยนี้ ทำให้นึกถึงคุณค่าของเอกลักษณ์ไทย ว่าเป็นสิ่งที่สวยงามควรอนุรักษ์ ไว้ให้ชนรุ่นหลังต่อไปเจ้าค่ะ ด้วยความเคารพในมิตรทุกท่าน ..กุสุมา..
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เฮยอิง, ♥หทัยกาญจน์♥, แป้งน้ำ, D, พี.พูนสุข, Music, บูรพาท่าพระจันทร์, addy, กามนิต, สะเลเต, ปู่ริน, sunthornvit, ช่วงนี้ไม่ว่าง, กังวาน, Thammada, ดุลย์ ละมุน, สุนันยา, สล่าผิน, amika29, ลมหนาว, พ่อค้าพเนจร, รพีกาญจน์, อริญชย์
ข้อความนี้ มี 23 สมาชิก มาชื่นชม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
15 กุมภาพันธ์ 2012, 09:22:AM |
addy
Special Class LV1 นักกลอนผู้เร่ร่อน
คะแนนกลอนของผู้นี้ 26
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 100
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2012, 09:22:AM » |
ชุมชน
|
ที่ผมเขียนเพราะเหตุว่า 1.ต้องการรอยยิ้ม(ทุกครั้งที่เขียน ผมจะยิ้มตลอด) 2.อยากหัวเราะ(อ่านกลอนเพื่อนๆ และ อ่านกลอนเราแล้วหัวเราะ) 3.สบายใจ 4.ให้ย้อนกลับไปอ่า ข้อ 1. 2. 3. 5.................ช่วยบอกทีผมเพี้ยนมั้ย(เอิ๊กๆ) addy
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Prapacarn ❀, D, พี.พูนสุข, Music, บูรพาท่าพระจันทร์, กามนิต, สะเลเต, ปู่ริน, แป้งน้ำ, sunthornvit, yaguza, ..กุสุมา.., สล่าผิน, เฮยอิง, ช่วงนี้ไม่ว่าง, กังวาน, Thammada, ดุลย์ ละมุน, สุนันยา, amika29, ลมหนาว, รพีกาญจน์, อริญชย์
ข้อความนี้ มี 23 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
เคยท้อแต่..ไม่เคยถอย
|
|
|
15 กุมภาพันธ์ 2012, 09:45:AM |
D
นักรบทุกบอร์ด
คะแนนกลอนของผู้นี้ 3313
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,894
ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & Youtube ค่ะ
|
|
« ตอบ #22 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2012, 09:45:AM » |
ชุมชน
|
ดินยังหาเหตุผลที่แท้จริงไม่ได้เลย ที่รู้ๆขออ่านเขียนไปเรื่อยก่อนนะคะ (งงกับตัวเองอ่ะ)
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, Music, บูรพาท่าพระจันทร์, addy, กามนิต, สะเลเต, แป้งน้ำ, sunthornvit, ..กุสุมา.., สล่าผิน, เฮยอิง, ช่วงนี้ไม่ว่าง, กังวาน, Thammada, ดุลย์ ละมุน, สุนันยา, amika29, ลมหนาว, รพีกาญจน์, อริญชย์
ข้อความนี้ มี 20 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
15 กุมภาพันธ์ 2012, 10:53:AM |
ดาว อาชาไนย
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 394
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1,472
|
|
« ตอบ #23 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2012, 10:53:AM » |
ชุมชน
|
๔. เขียนเพื่อเอาชนะตนเอง เอาชนะความไม่รู้ของตนโดยหัดเขียนกลอนกระนั้นพอเราเขียนกลอนได้ก็จะมี โคลง,กาพย์,กลอน,ฉันท์ มาให้เรียนรู้อีก พิมพ์วาสขายหน้าเมื่อคราวันสุนทรภู่ตอนประถม ๕ เลยหันมาเขียนกลอนตอนนั้นเข้ามาในบ้านกลอนใหม่ๆ ครามาครั้งแรกก็โดนท่านสมาชิคติชมกลอนขอยอมรับนะคะว่าเขียนกลอนไม่ได้ไม่เป็นจริงๆในขณะนั้นขนาดผังก็ยังต้องเอามาดูเลยสัมผัสระหว่างบทก็ยังไม่รู้จัก หรือแม้แต่สัมผัสใน สัมผัสสระเป็นอย่างไร สัมผัสอักษรเป็นอย่างไรยังไม่ทราบเลค่ะ ถึงว่าไปย้อนอ่านกลอนตัวเองดูถึงรู้ว่าตลก หรือจะพูดได้ว่าเขียนไม่เป็นเลย เขียนไม่ได้เลยก็ว่าได้ค่ะ ประมาณกระทู้ที่ ๓๐๐ กว่าๆถึงจะรู้ตัวว่าเขียนไม่ได้เรื่องเลยข้อความแต่ละขอความที่ส่งมาพิมพ์วาสขอยอมรับนะคะว่าอ่วมใจเลยจนเต็มไปรอบหนึ่งแล้ว แต่ก็ต้องกราบขอบพระคุณค่ะ พิมพ์วาสว่า พิมพ์วาสไม่ได้เขียนเพื่อะไรทั้งนั้นหละคะเขียนเพราะมันติดมากกว่ากระมังคะ เพราะว่าพอเขียนบ่อยๆแล้วมันจะจำได้จากนั้นสิ่งที่เรารู้เราก็จะรู้มากขึ้นจากนั้นก็จะแผ่ขยายความรู้แตกออกไปอีก แล้วพอเราหยุดทำมันก็จะลืม ที่ว่าติดนี่หมายถึงว่าเมื่อคราไม่ได้เขียนแล้วมันจะ รู้สึกคันไม้คันมืออยากจะเขียนขึ้นมาเฉยๆก็ประมาณนี้ค่ะ เขียนเพราะว่าเราชอบค่ะเรามีความสุขกับมันก็เขียนไปเถอะค่ะ ประมาณนั้นกระมังคะกาพย์กลอนฉันลิลิตรวิจิตรบท งามถ้อยรสพจน์คำแสนล้ำศิลป์ เจรียงความงามถ้อยนำร้อยสิ้น ให้เป็นถิ่นรินกลอนอักษรไทย หนูพิมพ์วาสจ๋า ช่วงหลังๆนี่อา เอ๊ย พี่สังเกตว่าฝีมือหนูพัฒนามากขึ้นทีเดียว จะว่าไปมันเป็นสิ่งที่ดี ในการที่เราได้ครูหรือบุคคลที่มีความรู้มาเป็นผู้แนะนำนั้น ตลอดถึงมีตัวอย่างหลากหลายให้ศึกษา ช่วยให้ฝีมือเราก้าวหน้าขึ้นเยอะ ผิดกับอา อ๊ยพี่ สมัยที่แต่งกลอนใหม่ๆนั้น(นานมากแล้ว ราวยี่สิบปีเห็นจะได้) การฝึกกลอนนั้นผงผัง หรือผู้แนะนำไม่มีหรอก ก็เราไม่ได้ศึกษามาทางนี้ ไม่ว่าจะผัง คู่มือแนะนำการแต่ง ล้วนไม่มีทั้งนั้น แม้แต่กลอนที่จะหามาเป็นแบบอย่างสักบทมันช่างยากเย็นเต็มที กลอนที่หาได้ก็อาจจะเป็นตามหนังสือธรรมะ ที่พระท่านแต่งเป็นคติธรรมคำกลอนแจกบ้าง จากหนังสืองานศพ ที่เขาพิมพ์กลอนคติธรรมแจกบ้าง แหล่งกลอนที่ถือว่ามีกลอนเยอะพอสมควรก็เห็นจะเป็นหนังสือ ศาลาคนเศร้า ซึ่งต้องเสียเงินซื้อ(ซึ่งถือว่ามีกลอนมากหน่อย) กับอีกเล่มหนึ่งที่ลงกลอนระดับคุณภาพแต่ลงแค่ฉะบับละสองบท นั่นก็คือ วารสารตราไปรษณียากร ฉะนั้นการแต่งโคลง กาพย์ กลอน จึงเป็นอะไรที่นับคำ ชนิดเทียบกันแบบคำต่อต่อคำกันเลยทีเดียว กว่าจะจับแนวทางได้ก็นานพอดู อีกอย่างสมัยก่อนแต่งเองอ่านเอง จึงไม่ได้แต่งบ่อยเหมือนเดี๋ยวนี้ นานๆถ้ามีอารมณ์แต่งถึงจะแต่งขึ้นมาสักครั้ง แล้วเวลาที่แต่งแล้วจะไปให้ใครอ่านเขาก็มองว่าเป็นพวกบ้ากลอน นอกจากไม่ได้แสดงความชื่นชมยินดี แล้วหนำซ้ำยังจะดูถูกอีกต่างหาก นี่มันเป็นชีวิตจริง มันเหมือนกระทิงหลงฝูง หรือไผ่นอกกอ ข้าวนอกนาอะไรประมาณนั้นแหละ ฉะนั้นพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า ไอ้ที่แต่งๆนี่ไม่ว่าจะเป็นกลอน กาพย์ โคลง แกะมาเองทั้งนั้นแหละ คล้ายๆพวกนักโบราณแกะศิลาจารึกอะไรประมาณนั้น หรือจะพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ครูกลอนที่แท้จริงของอา เอ๊ย พี่ ก็คือ บทกลอนที่ใช้ศึกษานั่นเอง หรือถ้าจะนับเป็นบุคคลก็ได้แก่ตัวผู้แต่งกลอนนั้นๆ ฉะนั้นรุ่นหลังๆนี่จึงถือว่าโชคดีเป็นอย่างมาก ที่มีแหล่งกลอนให้ศึกษา มีผู้รู้คอยให้คำแนะนำ มีแผนผัง มีกลอนตัวอย่างให้อ่านให้ศึกษากันอย่างมากมาย อะไรที่ไม่เข้าใจ ถามอากู๋ เดี๋ยวเดียวก็ได้
เคล็ดลับสำคัญสำหรับการแต่งบทกลอนให้ดีนอกจากจะอาศัยแค่แผนผังกับวิธีการแต่งอย่างเดียวไม่ได้ จำเป็นจะต้องมีบทกลอนบทใดบทหนึ่งหรือหลายๆบท ที่แต่งดี แต่งถูกต้องตามฉันทลักษณ์มาเป็นแบบอย่างสำหรับท่องจำให้รู้จักท่วงทำนอง จังหวะจะโคนเสียก่อน ถ้าอาศัยดูแต่แผนผังอย่างเดียวมักจะอยู่ไม่นาน พอปล่อยแผนผังก็เป๋ การดูแค่แผนแล้วแต่งได้นั้นเป็นเรื่องของผู้ที่เชี่ยวชาญแล้วเท่านั้น ฉะนั้น กลอนตัวอย่างหรือบทครูนั้นจะสำคัญมาก ถ้าได้ตัวอย่างที่ดี เราก็จะดีตามไปด้วย ถ้าได้ตัวอย่างที่ไม่ดี เราก็จะพลอยแย่ คล้ายๆพ่อปูสอนลูกปูแบบนั้น
เสริมอีกข้อ เป็นข้อ ๕ คือ แต่งเพื่อถ่ายทอดศิลปะ การแต่งเพื่อถ่ายทอดศิลปะก็คือการแต่งกลอนด้วยใจรักในศิลปะนั่นเอง ดังนั้น กลอนที่สื่อออกมาจึงเป็นบทกลอนที่มีคุณภาพ มีความละเอียดอ่อน ตามความตั้งใจของผู้แต่งนักกลอนเพื่อน ๆ ของผมมีครูกันทั้งนั้น เป็นครูพักลักจำ คือท่านสุนทรภู่ พวกเรานับถือท่านเป็นครูกันทุกคน จึงศึกษาและสังเกตงานของท่าน และจดจำมาเป็นแบบอย่างเท่าที่จะทำได้ เพราะจะให้เหมือนครูเป๊ะ ๆ คงทำไม่ได้ ได้สังเกตการเล่นสัมผัสของท่าน ท่านจะไม่มี"สัมผัสเลือน"เลย ขอแนะนำว่าอย่าไปเรียนกับงานของคนอื่น แม้แต่บางคนที่เขายกย่องกันว่าเป็น"กวี" ยังเขียนผิดฉันทลักษณ์เลย
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, ปู่ริน, กามนิต, แป้งน้ำ, sunthornvit, yaguza, บูรพาท่าพระจันทร์, ..กุสุมา.., เฮยอิง, ช่วงนี้ไม่ว่าง, สะเลเต, กังวาน, Thammada, ดุลย์ ละมุน, สุนันยา, สล่าผิน, amika29, ลมหนาว, รพีกาญจน์, อริญชย์, Music
ข้อความนี้ มี 21 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
เสี้ยวอารมณ์จากใจใครคนหนึ่ง คงไม่ซึ้งจับใจใครทั้งหลาย แค่มีใครคนหนึ่งซึ้งไม่คลาย ก็สมหมายใครคนหนึ่งซึ่งรักกลอน
|
|
|
15 กุมภาพันธ์ 2012, 12:58:PM |
..กุสุมา..
|
|
« ตอบ #24 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2012, 12:58:PM » |
ชุมชน
|
บทกลอนของท่าน..บูรพา ท่าพระจันทร์ ส่วนมากที่ได้อ่านผ่านมา เวลาอ่านเสียงเสนาะไพเราะมากเจ้าค่ะ ข้าพเจ้ากำลังจะนำมาเป็นครูพักลักจำเจ้าเจ้าค่ะ ณ โอกาสนี้ ขอให้ท่านบูรพาท่าพระจันทร์อนุญาตด้วยน่ะเจ้าค่ะ ตัวอย่าง.....บทกลอนท่านบูรพา ท่าพระจันทร์เจ้าค่ะ บทเพลงแรก แปลกปร่า มาปลอบขวัญ บทเพลงนั้น สรรค์สร้าง จากปางไหน ช่างคุ้นหู หรูเสนาะ เพราะกระไร แม่กล่อมให้ ได้ฟัง กระทั่งนอน
ตราบแม่สิ้น กลิ่นอาย มิหายจาก ฦๅจะพราก ยากนัก ถ่ายรักถอน ทุกวันคืน ตื่นมา ยังอาวรณ์ มิแคลนคลอน รอนรัก สักนิดเดียว.../ ด้วยความนับถือ ..กุสุมา..
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : กามนิต, พี.พูนสุข, ...สียะตรา.., บูรพาท่าพระจันทร์, เฮยอิง, ช่วงนี้ไม่ว่าง, sunthornvit, สะเลเต, กังวาน, Thammada, ดุลย์ ละมุน, สุนันยา, สล่าผิน, amika29, ลมหนาว, รพีกาญจน์, อริญชย์
ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
15 กุมภาพันธ์ 2012, 01:20:PM |
...สียะตรา..
|
|
« ตอบ #25 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2012, 01:20:PM » |
ชุมชน
|
......คงเป็นเพราะเป็นคนซึมซับรายละเอียดของสิ่งต่างๆรอบตัว..แล้ว...อยากสื่อสิ่งนั้นให้คนอื่นๆได้ร่วมรับรู้..ไม่ว่าดอกไม้เล็กๆบานแล้วสักดอก...น้องหมาตายแล้วหนึ่งตัว..บรา..บรา..บรา..อื่นๆอีกมากมาย...
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : กามนิต, พี.พูนสุข, ดาว อาชาไนย, บูรพาท่าพระจันทร์, เฮยอิง, ช่วงนี้ไม่ว่าง, สะเลเต, กังวาน, Thammada, ดุลย์ ละมุน, สุนันยา, สล่าผิน, amika29, Prapacarn ❀, ลมหนาว, รพีกาญจน์, อริญชย์
ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
15 กุมภาพันธ์ 2012, 03:42:PM |
บูรพาท่าพระจันทร์
|
|
« ตอบ #26 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2012, 03:42:PM » |
ชุมชน
|
บทกลอนของท่าน..บูรพา ท่าพระจันทร์ ส่วนมากที่ได้อ่านผ่านมา เวลาอ่านเสียงเสนาะไพเราะมากเจ้าค่ะ ข้าพเจ้ากำลังจะนำมาเป็นครูพักลักจำเจ้าเจ้าค่ะ ณ โอกาสนี้ ขอให้ท่านบูรพาท่าพระจันทร์อนุญาตด้วยน่ะเจ้าค่ะ ตัวอย่าง.....บทกลอนท่านบูรพา ท่าพระจันทร์เจ้าค่ะ บทเพลงแรก แปลกปร่า มาปลอบขวัญ บทเพลงนั้น สรรค์สร้าง จากปางไหน ช่างคุ้นหู หรูเสนาะ เพราะกระไร แม่กล่อมให้ ได้ฟัง กระทั่งนอน
ตราบแม่สิ้น กลิ่นอาย มิหายจาก ฦๅจะพราก ยากนัก ถ่ายรักถอน ทุกวันคืน ตื่นมา ยังอาวรณ์ มิแคลนคลอน รอนรัก สักนิดเดียว.../ ด้วยความนับถือ ..กุสุมา..
จะว่าไปแล้วยังไม่อยู่ในฐานะที่จะเรียกกันว่า"ครู"ได้หรอกครับ เป็นเพียงผู้ที่มีความรักความชอบในเรื่องบทกลอนเสียมากกว่า คงจะไม่เชื่อ ถ้าจะบอกว่า เพิ่งมาเขียนกลอนอย่างจริงจังเป็นเรื่องเป็นราวก็เมื่อมาสมัครเป็นสมาชิกบ้านกลอนไทยนี่แหละ ก่อนหน้านี้เคยเขียนที่ราชดำเนิน มาก่อนเริ่มเขียนประมาณปี 50 ซึ่งก็ไม่จริงจังอะไรนัก จากนั้นก็หยุดไปนาน มาเริ่มที่บ้านกลอนไทยเป็นที่ฝึกฝน เนื่องจากเป็นแหล่งรวมของ ผู้ที่มีรสนิยมตรงกัน บ้านกลอนไทยนี่แหละคือที่ฝึกฝนอย่างแท้จริง เนื่องจากมีผู้ที่เป็นแบบอย่างในเรื่องโคลงกลอนอยู่มาก ก็ได้อาศัยท่านเหล่านี้เป็นครูมาตลอด ตราบทุกวันนี้ ซึ่งก็ขอขอบคุณอยู่ในใจมาตลอดครับ บูรพาท่าพระจันทร์
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, เฮยอิง, sunthornvit, ช่วงนี้ไม่ว่าง, สะเลเต, กังวาน, Thammada, ดุลย์ ละมุน, สุนันยา, amika29, ลมหนาว, รพีกาญจน์, อริญชย์
ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
"สั้น-ตรงเป้า-เร้าใจ"
|
|
|
15 กุมภาพันธ์ 2012, 04:38:PM |
somkan
|
|
« ตอบ #27 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2012, 04:38:PM » |
ชุมชน
|
*แก้นิสัยใจร้อนด้วยกลอนเกลา แก้ความเหงาง่วงหงอยค่อยคลายหาย แก้ยามโกรธกรองร้อยค่อยสบาย มิเคยหมายมุ่งใดให้ไกลเกิน. ... ได้ผลค่ะ..ใจเย็นขึ้นเยอะค่ะ
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สะเลเต, ช่วงนี้ไม่ว่าง, กังวาน, Thammada, ดุลย์ ละมุน, บูรพาท่าพระจันทร์, สุนันยา, Prapacarn ❀, พี.พูนสุข, ลมหนาว, รพีกาญจน์, sunthornvit, อริญชย์, amika29, กามนิต
ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
15 กุมภาพันธ์ 2012, 04:47:PM |
สะเลเต
|
|
« ตอบ #28 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2012, 04:47:PM » |
ชุมชน
|
ได้พักผ่อน(ทั้งในที่ทำงาน-บ้าน)...ได้พูดคุยหยอกล้อกับตัวหนังสือ...(ปกติไม่ค่อยมีใครคบ)
---สะเลเต---
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ช่วงนี้ไม่ว่าง, กังวาน, Thammada, ดุลย์ ละมุน, บูรพาท่าพระจันทร์, สุนันยา, สล่าผิน, Prapacarn ❀, พี.พูนสุข, ลมหนาว, รพีกาญจน์, sunthornvit, อริญชย์, amika29
ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
15 กุมภาพันธ์ 2012, 04:50:PM |
ช่วงนี้ไม่ว่าง
|
|
« ตอบ #29 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2012, 04:50:PM » |
ชุมชน
|
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : กังวาน, Thammada, ดุลย์ ละมุน, บูรพาท่าพระจันทร์, สุนันยา, สล่าผิน, amika29, พี.พูนสุข, ลมหนาว, รพีกาญจน์, sunthornvit, อริญชย์
ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
15 กุมภาพันธ์ 2012, 04:52:PM |
ช่วงนี้ไม่ว่าง
|
|
« ตอบ #30 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2012, 04:52:PM » |
ชุมชน
|
ได้พักผ่อน(ทั้งในที่ทำงาน-บ้าน)...ได้พูดคุยหยอกล้อกับตัวหนังสือ...(ปกติไม่ค่อยมีใครคบ)
---สะเลเต--- หวัดดีพี่ ไม่มีใครคบ คบกับเพลิงสิ
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สะเลเต, กังวาน, Thammada, ดุลย์ ละมุน, บูรพาท่าพระจันทร์, สุนันยา, สล่าผิน, Prapacarn ❀, พี.พูนสุข, ลมหนาว, รพีกาญจน์, sunthornvit, อริญชย์, amika29
ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
15 กุมภาพันธ์ 2012, 05:04:PM |
กังวาน
|
|
« ตอบ #31 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2012, 05:04:PM » |
ชุมชน
|
เขียนกลอนไว้หลอกผู้หญิง แต่โดยมากจะโดนผู้หญิงหลอกครับ
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Thammada, panthong.kh, ดุลย์ ละมุน, บูรพาท่าพระจันทร์, สุนันยา, สล่าผิน, ช่วงนี้ไม่ว่าง, amika29, Prapacarn ❀, พี.พูนสุข, ลมหนาว, รพีกาญจน์, sunthornvit, อริญชย์
ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
ถ้ารู้สึกพอ ก็เป็นสุขทันที
|
|
|
15 กุมภาพันธ์ 2012, 05:56:PM |
พิมพ์วาส
|
|
« ตอบ #32 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2012, 05:56:PM » |
ชุมชน
|
วัยของตัวเองไม่สับสน แต่กำลังสับสนวัยของคนที่กำลังพูดด้วย เลยไม่รู้ว่าจะวางตัวเองไว้ในฐานะอะไร (ยังสงสัยว่าแม่หนูนั้นอยู่ป.๖ดังเอ่ยอ้างจริงหรือ )พิมพ์วาสใกล้ขึ้น มัธยม ๑ แล้วนะคะ ตื่นเต้น ตื่นเต้น ใกล้จะสอบ O-NET วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ นี้แล้วหละคะ ต้องอัดหนังสือ ไว้ให้เต็มสมองก่อน กลอนเขียนบ้างเล่นบ้าง ถ้าพิมพ์วาสท่อง สูตรเลขเป็นกลอนได้คงจะดีนะคะแต่คึงจะยุ่งยากน่าดู อิอิ..
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Thammada, สุนันยา, สล่าผิน, ช่วงนี้ไม่ว่าง, บูรพาท่าพระจันทร์, amika29, Prapacarn ❀, พี.พูนสุข, ลมหนาว, กังวาน, รพีกาญจน์, sunthornvit, อริญชย์, กามนิต
ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
ความผกผันของเวลา เฉือนเจตนาของอารมณ์
|
|
|
15 กุมภาพันธ์ 2012, 05:57:PM |
Thammada
|
|
« ตอบ #33 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2012, 05:57:PM » |
ชุมชน
|
เพราะเรามิใช่...อริยชน ยังย่างเหยียบอยู่บนทางปรารถนา ร้อยหลากมากมุ่งปรุงแต่งเติมทางอย่างมายา และ ค้นหาค่าบางสิ่งวิ่งตามลมร้ายมาหายใจ มวลมิตรสิทธิ์เสรีที่สรรค์สร้างอย่างยิ่งใหญ่ในอักษร สู่สะท้อนทุกทำนองของชีวิตความคิดฝันวันวาดไว้ ด้วยรู้สึกนึกน้อมพร้อมแบ่งปันแห่งวันวัย ศาสตร์ศิลป์ใส่หัวใจตนบนความกล้าพยายาม
เขียนเพราะ อยาก จะเขียนนะครับ ไม่อยาก เขียนก็ไม่เขียนครับ แค่นั้น เรามองความหวังเป็นกำไร??? หรือความตั้งใจบนความจริง
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สุนันยา, สล่าผิน, ช่วงนี้ไม่ว่าง, บูรพาท่าพระจันทร์, amika29, Prapacarn ❀, พี.พูนสุข, ลมหนาว, กังวาน, รพีกาญจน์, sunthornvit, อริญชย์, กามนิต
ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
15 กุมภาพันธ์ 2012, 10:40:PM |
ลมหนาว
|
|
« ตอบ #34 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2012, 10:40:PM » |
ชุมชน
|
ความรู้สึกลึกลึกนึกสรรสร้าง ไม่แตกต่างเพื่อนพ้องน้องพี่ท่าน เขียนไปตามงามศิลป์จินตนาการ สุขสำราญยามว่างพลางผ่อนคลาย เพิ่งฝึกเรียนเขียนกลอนตอนสมัคร ชักหลงรักลานวจีที่เฉิดฉาย แม้ไม่เก่งเจ๋งแจ๋วแนวแต่งร่าย เฝ้าเวียนว่ายเขียนไปตามใจตน ยินปี่กลองก้องดังได้ฟังแล้ว ต้องออกแนวรำป๋อจ้อทุกหน ว่างเมื่อไรใฝ่หาสาละวน คอยคิดค้นถักถ้อยร้อยบทกลอน
|
|
|
|
16 กุมภาพันธ์ 2012, 11:34:AM |
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 3482
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,752
ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
|
|
« ตอบ #35 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2012, 11:34:AM » |
ชุมชน
|
ชอบตีเคาะ เพราะมือ ไม่อยู่สุข ชอบสนุก เฮฮา ประสาเถื่อน ชอบทำตรม ขมเขรอะ แสร้งเลอะเลือน ชอบแหย่เพื่อน นินทา ด่าเจ้านาย
เพราัะเสบย เคยได้ รับใช้วัด เพราะถนัด รับจ้าง ร่างจดหมาย เพราะใจซื่อ มืออ่อน รำฟ้อนฟาย เพราะเดินสาย แบกกลอง ร้องรำวง
จึงรู้คำ นำคล้อง-จองสัมผัส จึงรู้จัด ข้อความ ตามประสงค์ จึงรู้รับ ขับถอย ลอยขึ้นลง จึงเขียนโคลง ชงกานท์ อ่านทุกวัน
รพีกาญจน์ 59
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : sunthornvit, Prapacarn ❀, พี.พูนสุข, อริญชย์, ช่วงนี้ไม่ว่าง, ลมหนาว, กังวาน, Thammada, บูรพาท่าพระจันทร์, amika29, กามนิต
ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|