เดือนคล้อย กลอยรัก
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
23 พฤศจิกายน 2024, 07:58:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เดือนคล้อย กลอยรัก  (อ่าน 9454 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
03 กุมภาพันธ์ 2012, 05:41:PM
ดุลย์ ละมุน
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 342
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 486


กลั่นอักษร หมายอ้อนเธอ


« เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2012, 05:41:PM »
ชุมชนชุมชน

                                    เดือนคล้อย กลอยรัก

                            พราวระยับวับวาวสะกาวฟ้า
                         เดือนนภาเด่นช่วงดวงไสว
                         พรายระยิบพริบหวานตระการใจ
                         หริ่งเรไรคลายเคล้าเล้าพะนอ
 
                            พวงพยอมหอมกรุ่นละมุนเอ๋ย
                         อวลอบเชยเคยไล้ละไมหนอ
                         ดาวเคียงเดือนเคลื่อนคล้อยร้อยเรียงรอ
                         คอยถักทอคลอรับประดับดวง
                           
                            เพียงประคองจองจูบลูบเกศา
                         รมณาวาวับสดับสรวง
                         เจ้าอายแอบแนบรับระยับทรวง
                         ระย้าห้วงห่วงหาประดาพราย
                           
                            ได้พานพบซบพักตร์ประจักษ์จิตต์
                         ดังลิขิตฤทธาดาราฉาย
                         เคียงรักสมชมจันทร์พรรณราย
                         ละอองสายพรายแสงแสร้งเย้ายวน
 
                            เริงระรมณ์ชมช่อต่อกระเซ้า
                         นงพะเยาว์เคล้าครางพร่างพราวสรวญ
                         พลันหรรษาคราเคล้าเล้ากระบวน
                         เริงรัญจวนครวญคร่ำระบำคราง
 
                            ร้อยบุปผาเริงร่าลีลารัก
                         รอยสลักปักฤดีราตรีสาง
                         กรุ่นยวนเย้าเยาวลักษณ์ไม่จักจาง
                         ประกายพร่างปรางจรัสสุรัสวดี



                                 ดุลยภาพแห่งลำนำ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บูรพาท่าพระจันทร์, รพีกาญจน์, panthong.kh, ยามพระอาทิตย์อัสดง, Thammada, มานพ, D, Prapacarn ❀, รการตติ, sunthornvit, kon, อริญชย์, Music, blues, ลมหนาว, --ณัชชา--, รัตนาวดี, ดาว อาชาไนย, แป้งน้ำ

ข้อความนี้ มี 19 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
20 มีนาคม 2012, 10:35:PM
ดุลย์ ละมุน
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 342
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 486


กลั่นอักษร หมายอ้อนเธอ


« ตอบ #1 เมื่อ: 20 มีนาคม 2012, 10:35:PM »
ชุมชนชุมชน

ดาวระย้าลาล่วงห้วงเวหา
แววนภาดาดับลับราศรี
จันทราคล้อยพลอยวิโยคโศกวจี
ดั่งสุรีย์ลี้แรงแห่งทิวา

เคยห่มเรียงเคียงอุ่นละมุนอก
ต้องสะทกตระหนกใจให้ผวา
กอดล้อมดาวห้อมเดือนเป็นเพื่อนมา
เจ้าร้างลาแล้งไร้ไม่กลับคืน

โศกสะอื้นกลืนกล้ำน้ำตาฟ้า
ล่วงลงมาใจคลาดมิอาจฝืน
ให้เหน็บหนาวร้าวร่ำระกำกลืน
มิอาจคืนขื่นขมระทมทรวง

หากไร้ดาววาวใสที่ใคร่ถึง
เคยตราตรึงคลึงเคล้าพะเนาว์หวง
คงสิ้นวาสน์บาดขมเพราะลมลวง
ต้องติดบ่วงห้วงเหงาเศร้าอุรา

ยังคร่ำครวญหวนหาดาราฉาย
ตราบแม้ตายวายสิ้นถวิลหา
เพียงพรายแสงแยงย้อนสะท้อนมา
สมวิญญาแม้นข้าต้องราคิน
 ลาตายดีกว่าตู

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : D, panthong.kh, Thammada, บูรพาท่าพระจันทร์, Prapacarn ❀, รการตติ, sunthornvit, kon, รพีกาญจน์, อริญชย์, Music, blues, ลมหนาว, --ณัชชา--, รัตนาวดี, ดาว อาชาไนย, แป้งน้ำ

ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
21 มีนาคม 2012, 12:26:PM
D
นักรบทุกบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 3313
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,894


ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & Youtube ค่ะ


sasa.yai
เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 21 มีนาคม 2012, 12:26:PM »
ชุมชนชุมชน

ดาวระย้าลาล่วงห้วงเวหา
แววนภาดาดับลับราศรี
จันทราคล้อยพลอยวิโยคโศกวจี
ดั่งสุรีย์ลี้แรงแห่งทิวา

เคยห่มเรียงเคียงอุ่นละมุนอก
ต้องสะทกตระหนกใจให้ผวา
กอดล้อมดาวห้อมเดือนเป็นเพื่อนมา
เจ้าร้างลาแล้งไร้ไม่กลับคืน

โศกสะอื้นกลืนกล้ำน้ำตาฟ้า
ล่วงลงมาใจคลาดมิอาจฝืน
ให้เหน็บหนาวร้าวร่ำระกำกลืน
มิอาจคืนขื่นขมระทมทรวง

หากไร้ดาววาวใสที่ใคร่ถึง
เคยตราตรึงคลึงเคล้าพะเนาว์หวง
คงสิ้นวาสน์บาดขมเพราะลมลวง
ต้องติดบ่วงห้วงเหงาเศร้าอุรา

ยังคร่ำครวญหวนหาดาราฉาย
ตราบแม้ตายวายสิ้นถวิลหา
เพียงพรายแสงแยงย้อนสะท้อนมา
สมวิญญาแม้นข้าต้องราคิน
 ลาตายดีกว่าตู

ริบ...ริบหรี่ ระยับ ประดับแสง
ดาวอ่อนแรง เหนื่อยล้า ฟ้าหม่นสิ้น
ดาวหล่นร่วง ไร้คน มายลยิน
เพชรไพลิน ประดับฟ้า คราระทม

น้ำตาฟ้า ไหลพราก จากความฝัน
น้ำตาดาว พลันไหลหลาก จากใจขม
น้ำตาฟ้า ไม่ไหล ใครชื่นชม
น้ำตาดาว สุดระบม ทนข่มใจ

ดาวไม่มา ฟ้ามีเดือน เพื่อนประดับ
งามระยับ ทอแสง สว่างไสว
ฟ้ายังมี ดาวอื่นเด่น เห็นร่ำไป
กลัวดาวใจ ฟ้าเคยมี ฟ้านี้ลืม

ฟ้ามีดาว หลายดวง บนห้วงฟ้า
ดาวใจล้า อ่อนแรง แสงมิปลื้ม
หากวันไหน ฟ้าลืมดาว คงเหงาซึม
ดาวคงขรึม คงเหงา คงเฉาตาย อายแบบน่ารัก

ผู้หญิงดินๆ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Prapacarn ❀, รการตติ, sunthornvit, kon, ดุลย์ ละมุน, Thammada, รพีกาญจน์, อริญชย์, panthong.kh, Music, blues, ลมหนาว, --ณัชชา--, รัตนาวดี, บูรพาท่าพระจันทร์, แป้งน้ำ

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

21 มีนาคม 2012, 09:10:PM
ดุลย์ ละมุน
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 342
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 486


กลั่นอักษร หมายอ้อนเธอ


« ตอบ #3 เมื่อ: 21 มีนาคม 2012, 09:10:PM »
ชุมชนชุมชน

ดาวระย้าลาล่วงห้วงเวหา
แววนภาดาดับลับราศรี
จันทราคล้อยพลอยวิโยคโศกวจี
ดั่งสุรีย์ลี้แรงแห่งทิวา

เคยห่มเรียงเคียงอุ่นละมุนอก
ต้องสะทกตระหนกใจให้ผวา
กอดล้อมดาวห้อมเดือนเป็นเพื่อนมา
เจ้าร้างลาแล้งไร้ไม่กลับคืน

โศกสะอื้นกลืนกล้ำน้ำตาฟ้า
ล่วงลงมาใจคลาดมิอาจฝืน
ให้เหน็บหนาวร้าวร่ำระกำกลืน
มิอาจคืนขื่นขมระทมทรวง

หากไร้ดาววาวใสที่ใคร่ถึง
เคยตราตรึงคลึงเคล้าพะเนาว์หวง
คงสิ้นวาสน์บาดขมเพราะลมลวง
ต้องติดบ่วงห้วงเหงาเศร้าอุรา

ยังคร่ำครวญหวนหาดาราฉาย
ตราบแม้ตายวายสิ้นถวิลหา
เพียงพรายแสงแยงย้อนสะท้อนมา
สมวิญญาแม้นข้าต้องราคิน
 ลาตายดีกว่าตู

ริบ...ริบหรี่ ระยับ ประดับแสง
ดาวอ่อนแรง เหนื่อยล้า ฟ้าหม่นสิ้น
ดาวหล่นร่วง ไร้คน มายลยิน
เพชรไพลิน ประดับฟ้า คราระทม

น้ำตาฟ้า ไหลพราก จากความฝัน
น้ำตาดาว พลันไหลหลาก จากใจขม
น้ำตาฟ้า ไม่ไหล ใครชื่นชม
น้ำตาดาว สุดระบม ทนข่มใจ

ดาวไม่มา ฟ้ามีเดือน เพื่อนประดับ
งามระยับ ทอแสง สว่างไสว
ฟ้ายังมี ดาวอื่นเด่น เห็นร่ำไป
กลัวดาวใจ ฟ้าเคยมี ฟ้านี้ลืม

ฟ้ามีดาว หลายดวง บนห้วงฟ้า
ดาวใจล้า อ่อนแรง แสงมิปลื้ม
หากวันไหน ฟ้าลืมดาว คงเหงาซึม
ดาวคงขรึม คงเหงา คงเฉาตาย อายแบบน่ารัก

ผู้หญิงดินๆ


ยลแสงดาวแวววาวสะกาวแสง
ส่องมาแยงแทงใจใกล้สลาย
หรือดาวแสร้งแกล้งอำให้ช้ำอาย
จึงโปรยปรายพรายหวังประทังแด

คงไม่หยอกหลอกฟ้าน้ำตาหล่น
ต้องทุกข์ทนหม่นใจให้อายแข
ยังรอดาวพราวสายมากรายแล
มิผันแปรรักชื่นทุกคืนวัน

แม้นดาวมากหลากดวงบนสรวงใส
มั่นฤทัยใฝ่เพียงดาวที่พราวฝัน
เฝ้าจงรักภักดิ์จิตนิจนิรันดร์
มีดวงจันทร์เป็นพยานขานรักครอง

โปรดกลับมาแต้มฟ้าดาราสวย
ร่วมอำนวยอวยฝันด้วยกันสอง
เป็นดาวแจ่มแกล้มฟ้านภาทอง
รักเรืองรองผ่องฟ้าดาราเคียง
 เอ้อ..จริงว่ะ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, panthong.kh, D, รพีกาญจน์, Music, blues, ลมหนาว, ไพร พนาวัลย์, --ณัชชา--, บูรพาท่าพระจันทร์, ดาว อาชาไนย, Thammada, แป้งน้ำ, รการตติ

ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
21 มีนาคม 2012, 09:58:PM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #4 เมื่อ: 21 มีนาคม 2012, 09:58:PM »
ชุมชนชุมชน

                                    เดือนคล้อย กลอยรัก

                            พราวระยับวับวาวสะกาวฟ้า
                         เดือนนภาเด่นช่วงดวงไสว
                         พรายระยิบพริบหวานตะการใจ
                         หริ่งเรไรคลายเคล้าเล้าพะนอ
 
                            พวงพยอมหอมกรุ่นละมุนเอ๋ย
                         อวลอบเชยเคยไล้ละไมหนอ
                         ดาวเคียงเดือนเคลื่อนคล้อยร้อยเรียงรอ
                         คอยถักทอคลอรับประดับดวง
                           
                            เพียงประคองจองจูบลูบเกศา
                         รมณาวาวับสดับสรวง
                         เจ้าอายแอบแนบรับระยับทรวง
                         ระย้าห้วงห่วงหาประดาพราย
                           
                            ได้พานพบซบพักตร์ประจักษ์จิตต์
                         ดังลิขิตฤทธาดาราฉาย
                         เคียงรักสมชมจันทร์พรรณราย
                         ละอองสายพรายแสงแสร้งเย้ายวน
 
                            เริงระรมณ์ชมช่อต่อกระเซ้า
                         นงพะเยาว์เคล้าครางพร่างพราวสรวญ
                         พลันหรรษาคราเคล้าเล้ากระบวน
                         เริงรัญจวนครวญคร่ำระบำคราง
 
                            ร้อยบุปผาเริงร่าลีลารัก
                         รอยสลักปักฤดีราตรีสาง
                         กรุ่นยวนเย้าเยาวลักษณ์ไม่จักจาง
                         ประกายพร่างปรางจรัสสุรัสวดี

                                 ดุลยภาพแห่งลำนำ




ดาวระยับ จับจินต์ ถวิลหา
เคียงดารา ฉายฉาน ปานดิถี
นภาผ่อง แพรวพราย ร่ายวจี
บทกวี เริงรมณ์ สมฤทัย

งามระยิบ ริบหรี่ มีแสงส่อง
ประดับท้อง นภา คราสดใส
หมู่ดาวเหนือ มองเห็น เด่นอำไพ
จินตนา- การไกล ใคร่ยลยิน

ผวากอด ยอดรัก สลักมั่น
ฤทัยสั่น หวันหวาม งามเสียสิ้น
น้ำค้างหยด รดลง ตรงพื้นดิน
อยากคืนถิ่น หานวล ชวนพิศดู

พระจันทร์น้อย คล้อยเคลื่อน เลื่อนลาลับ
ไก่ป่าขับ เสียงหวาน พานหาคู่
นกเขาขัน หวั่นใจ ไร้โฉมตรู
ยอดพธู เหงาหงอย เศร้าสร้อยจัง
พันทอง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, sunthornvit, Music, blues, ลมหนาว, ไพร พนาวัลย์, D, --ณัชชา--, บูรพาท่าพระจันทร์, ดาว อาชาไนย, Thammada, แป้งน้ำ, รการตติ, ดุลย์ ละมุน

ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
22 มีนาคม 2012, 07:52:AM
D
นักรบทุกบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 3313
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,894


ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & Youtube ค่ะ


sasa.yai
เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 22 มีนาคม 2012, 07:52:AM »
ชุมชนชุมชน


ยลแสงดาวแวววาวสะกาวแสง
ส่องมาแยงแทงใจใกล้สลาย
หรือดาวแสร้งแกล้งอำให้ช้ำอาย
จึงโปรยปรายพรายหวังประทังแด

คงไม่หยอกหลอกฟ้าน้ำตาหล่น
ต้องทุกข์ทนหม่นใจให้อายแข
ยังรอดาวพราวสายมากรายแล
มิผันแปรรักชื่นทุกคืนวัน

แม้นดาวมากหลากดวงบนสรวงใส
มั่นฤทัยใฝ่เพียงดาวที่พราวฝัน
เฝ้าจงรักภักดิ์จิตนิจนิรันดร์
มีดวงจันทร์เป็นพยานขานรักครอง

โปรดกลับมาแต้มฟ้าดาราสวย
ร่วมอำนวยอวยฝันด้วยกันสอง
เป็นดาวแจ่มแกล้มฟ้านภาทอง
รักเรืองรองผ่องฟ้าดาราเคียง
 เอ้อ..จริงว่ะ


ดาวกลับมา หาฟ้า น้ำตาตก
อกสะทก สั่นไหว ได้ยินเสียง
ฟ้ายังอยู่ รอดาว เฝ้าคอยเคียง
ใจขอเพียง ฟ้าห่มดาว พราวแสงพราย

ขอเพียงฟ้า มีเพลง บรรเลงหวาน
คอยขับขาน ส่งใจ ใส่ความหมาย
ดาวดวงน้อย จะคิดถึง ซึ้งมิคลาย
"ดิน"(อุ่ย!ดาว)ไม่หน่าย ลืม"ดุลย์ ละมุน"  ตาม

ความคิดถึง ลอยวน บนความเหงา
ฟ้าจะรู้ หรือเปล่า ดาวอยากถาม
เป็นดาวน้อย ลอยเคว้ง ดั่งเช่นยาม
เฝ้าฟ้างาม ยามฟ้า ลา...ไปเมา อายแบบน่ารัก
(เป็นดินมานาน..ขอเป็นดาวสักครั้ง) ยิ้มแก้มแดง
ผู้หญิงดินๆ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บูรพาท่าพระจันทร์, ดุลย์ ละมุน, ดาว อาชาไนย, Thammada, แป้งน้ำ, รการตติ, sunthornvit, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

22 มีนาคม 2012, 09:09:AM
ดาว อาชาไนย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 394
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,472



poem.archanai?fref=ts
« ตอบ #6 เมื่อ: 22 มีนาคม 2012, 09:09:AM »
ชุมชนชุมชน



ณ แดนสรวงดวงดาวพราวสะพรั่ง
พอฟ้าชังเลิกห่วงดวงดาวเหงา
ต้องหล่นร่วงห้วงฟ้าลาถิ่นเนา
ความหลังเก่าเก็บกอบปลอบดวงมาน

คะแนนรักเต็มร้อยค่อยระรื่น
ถูกเรียกคืนไปหมดสิ้นรสหวาน
อกดาวทองต้องหักแม้รักราน
ขอสถานพักกมลบนบ่าเธอ

ดาว อาชาไนย

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ดุลย์ ละมุน, D, Thammada, บูรพาท่าพระจันทร์, panthong.kh, แป้งน้ำ, รการตติ, sunthornvit, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เสี้ยวอารมณ์จากใจใครคนหนึ่ง
คงไม่ซึ้งจับใจใครทั้งหลาย
แค่มีใครคนหนึ่งซึ้งไม่คลาย
ก็สมหมายใครคนหนึ่งซึ่งรักกลอน
22 มีนาคม 2012, 09:48:AM
บูรพาท่าพระจันทร์
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 848
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,717


ผู้นิยม..ชมรส..บทกานท์กลอน./


« ตอบ #7 เมื่อ: 22 มีนาคม 2012, 09:48:AM »
ชุมชนชุมชน





ฉลองกัน


แม้นเดือนน้อย คล้อยเคลื่อน เลือนเลือนลับ
มินานกลับ คืนครา มาเสนอ
กระจ่างแจ้ง แสงนวล ชวนละเมอ
ส่งบำเรอ เปรอปน จนล้นเกิน

อย่าวิโยค โศกครวญ ไห้หวนหา
ใช่ขวัญตา ราร้าง คิดห่างเหิน
หรือเสแสร้ง แกล้งพราง เหมือนหมางเมิน
แท้เจ้าเขิน สะเทิ้นอาย ยามชายเมียง.../
 



 เคารพรัก
บูรพาท่าพระจันทร์


 

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, ดุลย์ ละมุน, แป้งน้ำ, รการตติ, sunthornvit, รพีกาญจน์, D

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

"สั้น-ตรงเป้า-เร้าใจ"
22 มีนาคม 2012, 06:04:PM
ดุลย์ ละมุน
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 342
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 486


กลั่นอักษร หมายอ้อนเธอ


« ตอบ #8 เมื่อ: 22 มีนาคม 2012, 06:04:PM »
ชุมชนชุมชน

                                    เดือนคล้อย กลอยรัก

                            พราวระยับวับวาวสะกาวฟ้า
                         เดือนนภาเด่นช่วงดวงไสว
                         พรายระยิบพริบหวานตะการใจ
                         หริ่งเรไรคลายเคล้าเล้าพะนอ
 
                            พวงพยอมหอมกรุ่นละมุนเอ๋ย
                         อวลอบเชยเคยไล้ละไมหนอ
                         ดาวเคียงเดือนเคลื่อนคล้อยร้อยเรียงรอ
                         คอยถักทอคลอรับประดับดวง
                           
                            เพียงประคองจองจูบลูบเกศา
                         รมณาวาวับสดับสรวง
                         เจ้าอายแอบแนบรับระยับทรวง
                         ระย้าห้วงห่วงหาประดาพราย
                           
                            ได้พานพบซบพักตร์ประจักษ์จิตต์
                         ดังลิขิตฤทธาดาราฉาย
                         เคียงรักสมชมจันทร์พรรณราย
                         ละอองสายพรายแสงแสร้งเย้ายวน
 
                            เริงระรมณ์ชมช่อต่อกระเซ้า
                         นงพะเยาว์เคล้าครางพร่างพราวสรวญ
                         พลันหรรษาคราเคล้าเล้ากระบวน
                         เริงรัญจวนครวญคร่ำระบำคราง
 
                            ร้อยบุปผาเริงร่าลีลารัก
                         รอยสลักปักฤดีราตรีสาง
                         กรุ่นยวนเย้าเยาวลักษณ์ไม่จักจาง
                         ประกายพร่างปรางจรัสสุรัสวดี

                                 ดุลยภาพแห่งลำนำ




ดาวระยับ จับจินต์ ถวิลหา
เคียงดารา ฉายฉาน ปานดิถี
นภาผ่อง แพรวพราย ร่ายวจี
บทกวี เริงรมณ์ สมฤทัย

งามระยิบ ริบหรี่ มีแสงส่อง
ประดับท้อง นภา คราสดใส
หมู่ดาวเหนือ มองเห็น เด่นอำไพ
จินตนา- การไกล ใคร่ยลยิน

ผวากอด ยอดรัก สลักมั่น
ฤทัยสั่น หวันหวาม งามเสียสิ้น
น้ำค้างหยด รดลง ตรงพื้นดิน
อยากคืนถิ่น หานวล ชวนพิศดู

พระจันทร์น้อย คล้อยเคลื่อน เลื่อนลาลับ
ไก่ป่าขับ เสียงหวาน พานหาคู่
นกเขาขัน หวั่นใจ ไร้โฉมตรู
ยอดพธู เหงาหงอย เศร้าสร้อยจัง
พันทอง



แว่วเสียงไพรขับขานกังวานหู
ยอดหญ้าชูฟูช่อรอความหวัง
หยาดน้ำค้างพร่างโปรยโรยประทัง
ท้องทุ่งดั่งวังสถานพิมานทอง

ธรรมชาติสร้างสมพระพรหมแต่ง
เจ้าอย่าแห้งแล้งใจไมตรีหมอง
ท่านสร้างฟ้าคู่ดาวพราวประคอง
เหมือนตัวพี่คู่น้องปองวิวาห์

แม้นเจ้าลี้หนีไกลให้ใจแกว่ง
ดุจสวรรค์แกล้งแช่งดินสิ้นพฤกษา
โปรดอาทรอย่าตัดรอนถอนอุรา
มาเป็นดาวคู่ฟ้าระดาพราย
 หัวเราะเยาะ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บูรพาท่าพระจันทร์, panthong.kh, รพีกาญจน์, D

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
22 มีนาคม 2012, 06:15:PM
ดุลย์ ละมุน
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 342
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 486


กลั่นอักษร หมายอ้อนเธอ


« ตอบ #9 เมื่อ: 22 มีนาคม 2012, 06:15:PM »
ชุมชนชุมชน


ยลแสงดาวแวววาวสะกาวแสง
ส่องมาแยงแทงใจใกล้สลาย
หรือดาวแสร้งแกล้งอำให้ช้ำอาย
จึงโปรยปรายพรายหวังประทังแด

คงไม่หยอกหลอกฟ้าน้ำตาหล่น
ต้องทุกข์ทนหม่นใจให้อายแข
ยังรอดาวพราวสายมากรายแล
มิผันแปรรักชื่นทุกคืนวัน

แม้นดาวมากหลากดวงบนสรวงใส
มั่นฤทัยใฝ่เพียงดาวที่พราวฝัน
เฝ้าจงรักภักดิ์จิตนิจนิรันดร์
มีดวงจันทร์เป็นพยานขานรักครอง

โปรดกลับมาแต้มฟ้าดาราสวย
ร่วมอำนวยอวยฝันด้วยกันสอง
เป็นดาวแจ่มแกล้มฟ้านภาทอง
รักเรืองรองผ่องฟ้าดาราเคียง
 เอ้อ..จริงว่ะ


ดาวกลับมา หาฟ้า น้ำตาตก
อกสะทก สั่นไหว ได้ยินเสียง
ฟ้ายังอยู่ รอดาว เฝ้าคอยเคียง
ใจขอเพียง ฟ้าห่มดาว พราวแสงพราย

ขอเพียงฟ้า มีเพลง บรรเลงหวาน
คอยขับขาน ส่งใจ ใส่ความหมาย
ดาวดวงน้อย จะคิดถึง ซึ้งมิคลาย
"ดิน"(อุ่ย!ดาว)ไม่หน่าย ลืม"ดุลย์ ละมุน"  ตาม

ความคิดถึง ลอยวน บนความเหงา
ฟ้าจะรู้ หรือเปล่า ดาวอยากถาม
เป็นดาวน้อย ลอยเคว้ง ดั่งเช่นยาม
เฝ้าฟ้างาม ยามฟ้า ลา...ไปเมา อายแบบน่ารัก
(เป็นดินมานาน..ขอเป็นดาวสักครั้ง) ยิ้มแก้มแดง
ผู้หญิงดินๆ


<a href="http://www.youtube.com/v/1wFRD3GY_Oo&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/1wFRD3GY_Oo&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

.....หากว่าดาวยังมีเมตตา ส่องแสงลงมายังฉัน ให้เรากลับมารักกัน เหมือนกับที่ฟ้ารักดาว.....

ฟ้าคงงงหลงไหลเข้าใจผิด
ดาวอย่าคิดถือโทษโกรธความเขลา
เห็นกงจักรทักว่าบัวเพราะหัวเบา
สมองเท่าเม็ดถั่วมั่วอบาย

มาตอนนี้ฟ้าซึ้งถึงคุณค่า
แม่ดาวจ๋าโปรดส่องละอองสาย
คิดถึงไออวลอุ่นละมุนกาย
ขอดาวพรายกรายแสงมาแยงทรวง

ถ้าขาดดาวฟ้าเหงาเศร้าเป็นแน่
เพราะรักแท้แม่นงนุชสุดแหนหวง
วานสุรีย์ชี้ฤกษ์เกริกมิ่งดวง
ให้จันทร์จวงเป็นเฒ่าแก่ขอแม่เอย

 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, รพีกาญจน์, D

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
22 มีนาคม 2012, 08:49:PM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #10 เมื่อ: 22 มีนาคม 2012, 08:49:PM »
ชุมชนชุมชน


แว่วเสียงไพรขับขานกังวานหู
ยอดหญ้าชูฟูช่อรอความหวัง
หยาดน้ำค้างพร่างโปรยโรยประทัง
ท้องทุ่งดั่งวังสถานพิมานทอง

ธรรมชาติสร้างสมพระพรหมแต่ง
เจ้าอย่าแห้งแล้งใจไมตรีหมอง
ท่านสร้างฟ้าคู่ดาวพราวประคอง
เหมือนตัวพี่คู่น้องปองวิวาห์

แม้นเจ้าลี้หนีไกลให้ใจแกว่ง
ดุจสวรรค์แกล้งแช่งดินสิ้นพฤกษา
โปรดอาทรอย่าตัดรอนถอนอุรา
มาเป็นดาวคู่ฟ้าระดาพราย
 หัวเราะเยาะ

[/quote]


อยากเป็นดาว ประดับฟ้า นภาผ่อง
แต่กลัวต้อง หมองหมาง มากลางสาย
ใกล้สว่าง นวลนาง พรางเยื้องกราย
เปรียบดังคล้าย เมฆหม่นทนระทม

คงไม่สม ประสงค์ จำนงค์หมาย
ดาราราย พราวพร่าง ช่างสุขสม
อยากอยู่ใกล้ ใจชิด พิศภิรมย์
กลัวตรอมตรม ข่มจิต ผิดแผกไป

จึงกล้ำกลืนฝืนทน จนละท้อ
นวลลออ พรอดพร่ำ ร่ำไฉน
มองจันทร ลอยเลื่อน เตือนฤทัย
ขอคนไกล คืนกลับ ประทับทรวง
พันทอง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, ดุลย์ ละมุน, D

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s