26 มกราคม 2012, 08:26:PM |
เมฆา...
|
|
« เมื่อ: 26 มกราคม 2012, 08:26:PM » |
ชุมชน
|
ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตครับ.. ‘..ฤๅ..โลมเล้า?..’
๐ คีตะศัพท์จับใจเมื่อไขข้อง พยางค์ผ่องเพียงเพ็ญเป็นไฉน ฤาโลมเล้าตัณหามรรคาใจ ที่ตั้งไว้เพียงตัว..จนมัวเมา
๐ ประโคมแข่งแสงสูรย์สุรีย์หรือ นั่นคล้ายถือถาดทองมารองเขลา กลับสะท้อนก้อนตมในงมเงา อำพรางเถ้าธุลีแห่งชีวา
๐ เบียดบังบดงดงามอร่ามร่วง จะกล่อมทรวงก็สร้อยหงอยผวา กระนั้นฤๅยังพร่ำกระทำมา อวิชชาเกินปรับหรือกลับตัว
๐ ทุรนร้อนหลงเหลิงในเพลิงอับ ละเลงดับดวงแดแผลท่วมหัว อนิจจังวังวนคนขลาดกลัว แยกจักรบัวย่อมเบือนมิเหมือนคน
๐ จึงสลักคำคายละลายพจน์ บริบทเบือนบังอีกครั้งหน ก่อวิสัยนัยเน้นเช่นสากล ออกเที่ยวยลเสาะเยี่ยงเสียงพจี
๐ หมายเพียงศัพท์จับใจสิ้นไขข้อง มโนผ่องเพียงเพ็ญเป็นวิถี ถึงครานั้นคงสุขทุกราตรี กล่อมฤดีโลมเล้า..เลิกเมามัวฯ
//////////////////////////
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ..กุสุมา.., พี.พูนสุข, panthong.kh, พิมพ์วาส, my smile, ไม่รู้ใจ, ภู กวินท์, บอม ซอง ดุ๊ก, รพีกาญจน์, กาญจนธโร, กระต่าย, Design with love ᵔᴥᵔ, ไพร พนาวัลย์, รัตนาวดี, sucklife, สุนันยา, รการตติ, Thammada, บูรพาท่าพระจันทร์, Music, sunthornvit, อริญชย์, D, ...สียะตรา.., แป้งน้ำ, ยามพระอาทิตย์อัสดง, กังวาน, เนิน จำราย
ข้อความนี้ มี 28 สมาชิก มาชื่นชม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
..สัมผัสทิพย์ปรารถนาอารมณ์แล้ว..
|
|
|
19 กุมภาพันธ์ 2012, 02:48:PM |
เมฆา...
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2012, 02:48:PM » |
ชุมชน
|
..ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตครับ.. ๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐‘...ฤๅ..เฝ้าฝัน?..’
๐ ครืนครืนครั่น ครั้นฟังเริ่มดังเรื่อย ฝนเม็ดเฉื่อยเริ่มชัด..บัดสลัว เมฆมวลดำคร่ำฟ้าช่างน่ากลัว พลัน!ก็รัวอิทธิฤทธิ์..มหิตทัณฑ์ ๐ คล้ายความหวังวังเวงละเลงอาบ ฝนแห่งบาปชโลมโคมสวรรค์ เปียกปอนทั่วทุกทิศ..มิดถึงจันทร์ ชุ่ม!แม้ฝันอันฝากฟากสุรีย์ ๐ จนเปื่อยยุ่ยผุยผงลงคลุกคละ ฝันระกะด้าวดิ้นทั้งกลิ่นสี อนาถเนื้อเหลือชมสมประดี เถ้าธุลีแห่งฝัน..อันเคยงาม ๐ แต่!มิวายเลิกหวังยังตั้งมั่น กอบซากฝันเศษเสียดเย้ยเหยียดหยาม มาปะต่อปะติดเหมือนอิฐราม สร้างนิยามอีกที ณ ที่ใจ
๐ จับบรรจงลงเชื่อมอาจเหลื่อมบ้าง ขาดไปข้างขอบคดก็ทดไว้ ฝันก่อโครงโหวงแหว่งค่อยแต่งไป เดี๋ยวคงได้อย่างคนึง..เพียรกลึงเกลา ๐ เพียงระลึกบนฐานด้วยมานชอบ อย่าประกอบโทสะอันจะเขลา สำทับใจปล่อยวาง..อย่างเคยเนา ฤๅ..จะเฝ้าแต่ฝัน!..จนฟั่นเฟือน..
////////////////////
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สุนันยา, panthong.kh, รการตติ, บูรพาท่าพระจันทร์, Thammada, Music, sunthornvit, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, D, บอม ซอง ดุ๊ก, ไม่รู้ใจ, ...สียะตรา.., แป้งน้ำ, ยามพระอาทิตย์อัสดง, กังวาน, เนิน จำราย, รัตนาวดี, กาญจนธโร, ไพร พนาวัลย์, sucklife
ข้อความนี้ มี 21 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
..สัมผัสทิพย์ปรารถนาอารมณ์แล้ว..
|
|
|
22 กุมภาพันธ์ 2012, 05:05:PM |
เมฆา...
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 22 กุมภาพันธ์ 2012, 05:05:PM » |
ชุมชน
|
ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตครับ. ‘...ฤๅ.ฟั่นเฟือน?..’
๐ ยิ้มกับฝันวันฟ้าตั้งท่าฝน จิตลุกลนล่องลอยเห็นรอยเกลื่อน ศัพท์ประพนธ์หล่นครืนบนพื้นเรือน พร้อมกับเดือนดึงร่วงพวงพิรุณ ๐ ห้ามหัวเราะคงยากหากเผลอผัน แสงตะเกียงน้ำมันเริ่มปั่นหมุน ดาวแค่เอื้อมมือดึงก็ถึงคุณ หมึกแค่ฝุ่นหากกรอก็ถึงดาว ๐ ประกายแสงวับวับขยับวาด เป็นบทพาทย์ผังแผนแทนห้วงหาว จรดทุกคำย้ำชัดคัดเรื่องราว พร้อมลมหนาวแนบฝนหล่นหลังคา ๐ เสียงกระเถาะเปาะแปะและปกป้อง ยังขำก้องบวกขลาดหวาดผวา สองมือโอบรอบอกปรกนัยน์ตา เหมือนวิญญายื้อยุดหยุดหรือไป ๐ ครั้นสำนวนหวนโหยโชยนาสิก เกิดอยากพลิกอยากแพลงตะแคงใส่ หมึกจากฝุ่นจึงฟ่องร่องควันไฟ เขียนด้วยใจยิ้มเยาะหัวเราะตัว ๐ จึงตามต่อแต่งแต้มแซมบาทบท กลายเป็นคดลดลงยิ่งงงหัว ฤๅ..ฟอนเฟะฟั่นเฟือนเกลื้อนกลากกลัว จนกลิ้งกลั้วกลืนกลอน..กร่อนลงเกรียว...
///////////////////////
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : D, บูรพาท่าพระจันทร์, sunthornvit, พี.พูนสุข, บอม ซอง ดุ๊ก, panthong.kh, ไม่รู้ใจ, ...สียะตรา.., รพีกาญจน์, แป้งน้ำ, ไพร พนาวัลย์, Thammada, ยามพระอาทิตย์อัสดง, กังวาน, เนิน จำราย, รัตนาวดี, กาญจนธโร, sucklife
ข้อความนี้ มี 18 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
..สัมผัสทิพย์ปรารถนาอารมณ์แล้ว..
|
|
|
11 มีนาคม 2012, 12:50:PM |
เมฆา...
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 11 มีนาคม 2012, 12:50:PM » |
ชุมชน
|
ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตครับ. ๐๐๐๐๐๐๐๐๐‘..ฤๅ..เลื่อนลอย?..’
๐ พนมกรอ้อนกรรมอย่าพร่ำหลอก มโนบอก กรอกตนจนหวาดเสียว อัตตาตะปะรูปเพียงวูบเดียว มันก็เปลี่ยวเปล่าเกินประเมินนัก
๐ ขยาดคำซ้ำซ้อนซุ่มซ่อนซุก มณีมุกหมกเม็ดล้นเกล็ดกลัก ร่วงลงกรูกราวกรอบหมอบชะงัก ยามประจักษ์แจ้งจิตอนิจจัง
๐ ครั้นฟ้าแลบแปลบปลาบฉายภาพเวิ้ง ตะเกียงเพลิงเร่งเพลงบรรเลงหวัง รากเหง้าเดิมเริ่มชื้นฟื้นกำลัง ก่อแผนผังครั้งใหม่ ณ ใจตน
๐ เริ่มจากอิฐก้อนอ่าน เป็นฐานราก รับให้มากจากแหล่งทุกแห่งหน คำวิจารย์หาญกล้าฝ่าผจญ แล้วปรับค้นเคี่ยวปรักอักษรา
๐ ค่อยค่อยคัดจัดวางสร้างประดิษฐ์ คำนิมิตรคิดคาดปรารถนา กานท์วลีดาวดึงส์ถึงนภา โน้มลงมาหาหมวด ฝังลวดลาย
๐ ดุจประหนึ่งตรึงกรอบขอบความคิด มิให้บิดบั่นทอนจนกร่อนหาย ฤๅ..เลื่อนลอยปล่อยทิ้งยิ่งละอาย ตก!ม้าตายแต่ต้น..จนลืมกลอน...
///////////////////
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Thammada, ยามพระอาทิตย์อัสดง, บูรพาท่าพระจันทร์, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, ไม่รู้ใจ, กังวาน, sunthornvit, พี.พูนสุข, เนิน จำราย, กาญจนธโร, ไพร พนาวัลย์, sucklife
ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
..สัมผัสทิพย์ปรารถนาอารมณ์แล้ว..
|
|
|
01 เมษายน 2012, 12:59:PM |
เมฆา...
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 01 เมษายน 2012, 12:59:PM » |
ชุมชน
|
ขอขอบคุณ ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตครับ. ๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
‘..ฤๅ..ย่อยยับ?..’
๐ ศัพท์ประดิษฐ์คิดค้นคล้ายกลแกล้ง จัดแสดงแย้งยัดขัดคำสอน เข้าใจเพียงตัวตนจนบางตอน มันโคลงคลอนเคลื่อนคลาดจากมาตรา ๐ เลือกคำนี้คำนั้นคั่นคำไหน จึงจักจ้องต้องใจเที่ยวไล่หา แม้นเลือกผิดเลือกพลั้งดั่งสัญญา เหมือนจักว่า..ย่อยยับในฉับพลัน ๐ พิษคำแผลงแสลงโสตโจทย์กระดิก แล่นกระซิกซึมทรวงจ้วงมหันต์ อกกระตุกลุกลี้ปรี่ประจัน จำเปลี่ยนผันควั่นปลดบทวลี ๐ ถั่งถาโถมโหมหวั่นกลั้นดวงจิต จวนหวุดหวิดผิดพ่ายแทบอายหนี ร้องระงมตรมมานซ่านฤดี กับมณีคำเขียนเจียนสิ้นลม ๐ แต่ก็ยึดแผนผังตั้งแกนก่อ แก่นกระพ้อกระพี้ที่ทับถม มาแต่ครั้งดรุณคุ้นอารมณ์ ผูกเป็นปมไต่เต้าเข้าลานคำ ๐ แม้นคราวนี้ฝนซาไม่หนาเม็ด วลีเด็ดครูพรมยังคมขำ ศัพท์ประดิษฐ์ผิดแผกแปลกกระทำ ให้รู้จำรู้จดเป็นบทวาง ๐ เมื่อสำนึกเกิดในหัวใจแป้ว คงไม่แคล้วหนาวสั่นตะวันสาง แสงตะเกียงหยุดหมุนฝุ่นควันจาง ศัพท์พยางค์ก็พลอย..ลอยลับเลือน
////////////////////////
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, แป้งน้ำ, sunthornvit, เนิน จำราย, พี.พูนสุข, รัตนาวดี, กาญจนธโร, Thammada, ไพร พนาวัลย์, เพรางาย, ไม่รู้ใจ, sucklife, ยามพระอาทิตย์อัสดง
ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
..สัมผัสทิพย์ปรารถนาอารมณ์แล้ว..
|
|
|
|