วันนี้วันเด็ก ตื่นแต่เช้าเตรียมตัวไปทำงานตามปรกติ มองฟ้าเห็นฟ้ามืดครึ้ม ชักเอะใจว่าฝนจะตกหรือนี่ สองวันก่อนมองฟ้ามีแต่เมฆก็คิดว่าเป็นเมฆในหน้าหนาวเท่านั้น
คงไม่มีอะไร แต่ที่ไหนได้วันนี้มีฝนโปรยปรายมาจริงๆ ลงมาห้องคอมนั่งมองฝนตก ทำให้หวนไปคิดถึงเมื่อปีกราย ฝนตกเมื่อเดือนเมษายน ตอนวันสงกรานต์จนน้ำเจิ่งนองไปทั่วลานบ้าน จากนั้นฝนก็ตกมาทุกบ่อยๆ จนเกิดน้ำท่วม น้ำเต็มเขื่อน ไม่เคยปรากฎมาก่อนเลย เหตุเพราะว่าดินอุ่มน้ำไม่ไหว ฝนตกมากเกินที่จะรับได้ เขื่อนก็ไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ได้อีก เนื่องจากน้ำมีปริมาณมากเกินที่จะรับแล้ว น้ำจึงท่วมดั่งปรากฎให้เห็น
มาปีนี้ แค่มกราคม ฝนก็เริ่มโปรยปรายมาแล้ว แผ่นดินยังไม่ทันได้แห้ง หน้าแล้งยังไม่ครบเทอมดี ฝนได้หล่นมาพรมผืนดินเสียแล้ว น้ำในเขื่อนยังไม่ลดไปสักกี่มากน้อย จึงทำให้ผมเป็นห่วงอย่างยิ่งว่า หากฝนตกแบบนี้ไปเรื่อยๆ ทั้งๆที่เป็นหน้าแล้ง ฝนก็ยังตก หากถึงหน้าฝนจริงๆฝนตกมาเพิ่มอีกและจำนวนมากหน่อย อะไรจะเกิดขึ้น นี่ผมไม่ได้มาพยากรณ์นะครับ ผมเกิดความเป็นห่วงเพื่อนพ้องน้องพี่ชาวไทยเราทุกท่านที่จะประสบภัย จึงได้คิดแต่งกลอนเพื่อบอกกล่าวกันให้คิดวางแผนไว้แต่เนิ่นๆครับ ลองคิดพิจารณาว่า จะเป็นอย่างไร หากฝนปีนี้มากเท่าปีกราย น้ำเต็มเขื่อนรอก่อนแล้ว อะไรจะเกิดขึ้นครับ
ด้วยใจที่เป็นห่วงครับ
เห็นน้ำท่วมอ่วมไปไทยเดือดร้อน
เมื่อปีก่อนน้ำบ่าน้ำตาไหล
ปีห้าสี่มีน้ำฉ่ำเมืองไทย
แสนห่วงใยพี่น้องต้องทุกข์ทน
น้ำเพิ่งแห้งแล้งเพิ่งมาในหน้าหนาว
ความปวดร้าวผ่านไปได้หนึ่งหน
ทรัพย์สิ่งของต้องขว้างอย่างจำนน
หลายผู้คนจดจำเรื่องช้ำจินต์
เห็นหน้าหนาวเข้ามาไม่พาหนาว
เห็นเมฆขาวเต็มฟ้าพาหนาวสิ้น
ฝนแทนหนาวคราวฟ้ามาหลั่งริน
ทั่วธาณินทร์ฉ่ำชื้นฝนขืนกาล
อยากเตือนภัยให้รู้คิดดูเถิด
ไทยได้เกิดน้ำล้นปีพ้นผ่าน
เพราะเมษาพาฝนหล่นเป็นนาน
มหาศาลฝนโปรยโรยลงมา
ดินรับน้ำเต็มที่ธรณีชื้น
น้ำไหลลื่นสู่เขื่อนเหมือนน้ำบ่า
เขื่อนทุกเขื่อนเตือนภัยให้ประชา
รับรู้ว่าเขื่อนเต็มอิ่มเอมน้ำ
เพิ่งผ่านไปใช้กาลไม่นานช้า
มกราพาฝนหล่นชุ่มฉ่ำ
นั่งมองฟ้าพาฝนหล่นพรำพรำ
ห่วงยิ่งล้ำห่วงฟ้าไม่ปรานี
ดินนั้นยังไม่แห้งหน้าแล้งแล้ว
น้ำในเขื่อนไม่แคล้วแนวเต็มปรี่
ฝนมาไวกว่าก่อนเป็นค่อนปี
เหตุฉะนี้จึงห่วงใยเพื่อนไทยเรา
สล่าผิน