คือเสียงเอิ้นสั่ง คือสามัญปลายฤดู
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
24 พฤศจิกายน 2024, 01:00:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: คือเสียงเอิ้นสั่ง คือสามัญปลายฤดู  (อ่าน 2147 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
14 ธันวาคม 2011, 02:07:PM
ฟ้าฟื้น ธรรมชาติ
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 22
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 31



« เมื่อ: 14 ธันวาคม 2011, 02:07:PM »
ชุมชนชุมชน

คือเสียงเอิ้นสั่ง คือสามัญปลายฤดู

ฝนฮวยหนองคลองนาฟ้าสะอื้น
ห้วยลานหินดินชื้นน้ำรื่นไหล
ข้าวโอบกอก่อรวงโน้มหน่วงไกว
สุดนาไกลเขตข้างหว่างตำบล

เปียกลมหอบดอกน้ำฉ่ำอีกรอบ
ข้าวลู่หมอบยืนได้ไกวอีกหน
เขียดได้น้ำเริ่งร่าโดดมาปน
ปลาอดทนเบียดบืนขึ้นคันนา

โคกจอมปลวกดินตั้งทางฝั่งโน้น
ป่าเห็ดโคนจูมใหม่ดอกใหญ่หนา
เก็บเห็ดอ่อนช้อนวางหลังใบคา
ใส่ตะกร้าอิ่มหนึ่งจึงจากไป

ยามไซปลาลอบวางข้างหนองน้ำ
ปลาดุกดำดิ้นโผนจนไซไหว
เปิดย่ามเก่าสะพายหลังก็วางไว้
เลือกปลาใหญ่หากเล็กนักปล่อยกลับคืน

เบียดน้ำค้างเปียกพุงสะดุ้งโหยง
คันนาโคลงเขียดผวาปลาเต้นตื่น
อ่อนแล้วหนอดินนากว่าตนยืน
คงฉ่ำชื้นฝนสุดท้ายจะคล้ายโคลน

ยกรวงข้าวขวางทางให้ตั้งยืน
หนักรวงชื้นน้ำค้างหนึ่งยังดึงโหน
ค่อยเลาะเลียบเหยียบย่างข้างข้างโพน
ฝากรอยเท้าปูดโปนไว้โพนดิน

เสียงน้ำนาโตนตกซกซกไหล
สาดเสไปเลียบเลาะเซาะกรวดหิน
นกกระยางยืนทุ่งมุ่งจากบิน
จ่อจิกกินปลาเขียดเคียงข้างกัน

คือสามัญฝนสุดท้ายปลายฤดู
คือสามัญฝันรู้อยู่เคียงขวัญ
มาปูทางทุ่งทองของทุกวันรอ
เหมันต์แล้งหลงสู่ดงดอน

เอิ้นฟ้าร้องคำสุดท้ายอ้ายลาแล้ว
หนอนาแนวข้าวจ๋าขอลาก่อน
ให้ตะเกียงไต้ตั้งวางคบคอน
จุดไฟฟอนไล่หนาวอีกยาวไกล

วันสุดท้ายปลายแล้งแจ้งคิมหันต์
จะพบกันอีกครั้งนามฝนใหม่
หากคิมหันต์บอกลานาตอนใด
จะหอบให้ฝนสวยมาฮวยนา
__________________

ในวันที่ฝนพรำๆ ตกทั้งวันชาวอีสานจะเรียกว่า
ฝนฮินหรือฝนฮวยวัฏจักรของสายฝนนั้น
มาตั้งแต่เม็ดกล้าที่ยังเป็นเม็ดข้าวสู่การเติบต้นกกกอ
และอุ้มท้องออกรวงในเวลาเดียวกัน
ฝนไม่เพียงแต่นำการเติบโตของข้าว
แต่ฝนยังนำสิ่งมีชีวิตหลายพันธุ์มาด้วย
ไม่ว่าจะเป็นปลา กบ เขียด กุ้ง หอยเห็ดนานาชนิด
หน่อไม้ และสิ่งอื่นมาให้เด็กๆชาวชนบท
ได้รู้ปรับรู้เปลี่ยนและเรียนรู้วิถีชีวิตในการอยู่กินกับฤดูฝน

ท้ายที่สุดแล้วสัจธรรมของธรรมชาติได้ชี้ให้เห็นว่า
สรรพสิ่งล้วนมีการเกิด การอยู่อย่างนั้น และดับสิ้นไป
สำหรับฤดูฝนเองก็เป็นเช่นกันเมื่อวาระแห่งเหมันตฤดูมาถึง
รอยต่อของสองฤดูอันงดงาม
ก็ถึงเวลาแสดงความสามัญได้อย่างเต็มที่
ในช่วงระยะเวลาหนึ่งเวลาใด
ในช่วงเวลานั้น
การเล่นล้อระหว่างปลากับเบ็ด
เห็ดกับโพนปลวกกบกับเขียด
คันนากับหลุมรอยเท้าก็ได้มีให้เห็นตลอดช่วงฤดูฝน
ราวกับว่าธรรมชาติได้ให้รางวัลกับชาวนา
ที่ล้าอ่อนจากการสืบสาวข้าวงาม
ด้วยการเล่นล้อของสิ่งเหล้านั้น

ในความสามัญ ในปลายฤดูฝนเช่นนี้ผู้เทียวทาง
ผู้เป็นไทในท้องนา และผู้เสาะแสวงสายฝน
จะได้รับฟังเสียงฟ้าร้องก้องดัง หรีดหริ่งคร่ำครวญ
เสียงกบเขียดระงมทุ่ง
และเสียงฝนฮวยแต่รุ้งสางจวบจนฟ้าสนธยาในช่วงของวันหนึ่ง
ผิวเผินก็คือเสียงของสัตว์และธรรมชาติ
แต่สำหรับชาวชนบทอย่างเราแล้วมันคือเสียงเอิ้นสั่งลากันนั่นเอง

ฟ้าฟื้น ธรรมชาติ
วันเอิ้นสั่งลา ปลายฤดูฝนสู่ต้นฤดูหนาว

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Prapacarn ❀, รพีกาญจน์, panthong.kh, Thammada, พี.พูนสุข, บ้านริมโขง

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s