๐@ ~แสนเดียวดาย~ @๐
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
27 พฤศจิกายน 2024, 11:01:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1] 2
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ๐@ ~แสนเดียวดาย~ @๐  (อ่าน 18752 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
25 พฤศจิกายน 2011, 01:39:PM
บ้านริมโขง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 869
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,026



« เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2011, 01:39:PM »
ชุมชนชุมชน



เลยสุดสายปลายฟ้า..หาใดพบ
มองเกินกลบลบถวิล..แม้ถิ่นไหน
มองจากจินต์สิ้นสนอง..ละอองไอ
มองหวั่นไหวตามย้ำ..ให้รำพึง

หลับตาลงตรงนิ่ง..พิงพนัก
ไร้ใดจักเกี่ยวข้อง..หมองเพียงหนึ่ง
ไร้คนคอยคนหวน..ชวนคะนึง
ไร้คนใดใครจึง..คิดถึงเรา

เพียงเดียวดายหมายรู้..สู่สำนึก
ความรู้สึกเหว่ว้า..นั่นพาเหงา
ความสงบพบสงัด..กร่อนกัดเอา
ความซึมเศร้าเข้าแทรก..แหวกอาการ

เหมือนเป็นหนึ่งซึ่งยั้ง..ยังชีวิต
หนึ่งในโลกโศกลิขิต..ไร้สิทธิ์หวาน
หนึ่งคนที่มีไหน..ใคร่พบพาน
หนึ่งร้าวรานปานบิ่น..จนสิ้นลาย

อยู่รอวันอันดับ..รอรับสิทธิ์
รอวันที่ชีวิต..พิชิตหมาย
รอวันที่สมปอง..ของหญิงชาย
รอวันตายหมายแน่..ไม่แปรไป

แสนเดียวดายปลายฝัน..ยังหวั่นหวาด
กลัวตายขาดทาสกรรม..ทำไฉน
กลัวได้เกิดเลิศลักษณ์..เกินหักใจ
กลัวเกิดใหม่ได้เป็น..ดังเช่นคน.

"บ้านริมโขง"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ♥ กานต์ฑิตา ♥, Music, Thammada, Design with love ᵔᴥᵔ, panthong.kh, Prapacarn ❀, ยามพระอาทิตย์อัสดง, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, ♥หทัยกาญจน์♥, ...สียะตรา.., สุนันยา, ไม่รู้ใจ, คนกันเอง.., บูรพาท่าพระจันทร์, amika29, sunthornvit, กามนิต, พี.พูนสุข, อริญชย์, masapaer, สายใย, นางฟ้า ชาลี, สล่าผิน, พ่อค้าพเนจร, พิมพ์วาส, ..กุสุมา..

ข้อความนี้ มี 27 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

25 พฤศจิกายน 2011, 10:10:PM
สุนันยา
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 799
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,805


ความรักของฉัน อยู่ในบทวี จบบทกวี ก็ไม่มีความรัก


« ตอบ #1 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2011, 10:10:PM »
ชุมชนชุมชน



ละอองไอ ม่านหมอก ดุจหยอกเย้า
สายลมเบา พัดผ่าน ม่านเวหน
บนเส้นทาง ดังเปล่าให้เราทน
ช้ำกมล เมื่อไร้ ใครเหลียวมอง

เพียงเดียวดาย ความหมาย ในรู้สึก
ที่ส่วนลึก สุดเหงา เฝ้าแต่หมอง
ด้วยห่างร้าง อยู่เดียว เปลี่ยวคู่ครอง
อยู่เมืองทอง แสงสี ศิวิไล

แต่เหมือนเดิน บนทาง ที่ร้างเปลี่ยว
อีกยังเคี้ยว-คดขวาง สร้างหวั่นไหว
หลากฝูงชน คนเมือง เรืองแสงไฟ
ระคนไป ร้ายดี มิรู้เลย

เหงาสุดเหงา เฝ้ามอง แต่ท้องฟ้า
ไยเทวา เบื้องบน ทนเมินเฉย
แสนเดียวดาย เพ้อพก โอ้อกเอย
ยากจะเผย ร้ายดี ที่ปลายทาง

ละอองไอ ม่านหมอก ออกสีหม่น
คราวที่ฝน โปรยมา ครารุ่งสาง
ความเหว่ว้า เกาะกิน ไม่สิ้นวาง
แม้ฝนจาง...ยังอดสู...เมื่ออยู่เดียว....

"สุนันยา"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, ไม่รู้ใจ, ♥หทัยกาญจน์♥, บ้านริมโขง, คนกันเอง.., Thammada, ...สียะตรา.., รัตนาวดี, บูรพาท่าพระจันทร์, ♥ กานต์ฑิตา ♥, amika29, sunthornvit, กามนิต, พี.พูนสุข, อริญชย์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, masapaer, สล่าผิน, พิมพ์วาส, ..กุสุมา..

ข้อความนี้ มี 20 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ชะตาชีวิต ลิขิตผกผัน....ดิ้นรนฝ่าฟัน..เพื่อฝันที่มี
26 พฤศจิกายน 2011, 02:48:AM
♥หทัยกาญจน์♥
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 469
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 814


เพียงความเคลื่อนไหว ผ่านบทกวี


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2011, 02:48:AM »
ชุมชนชุมชน


  ..................
แสนเดียวดายปลายฝัน..ยังหวั่นหวาด
กลัวตายขาดทาสกรรม..ทำไฉน
กลัวได้เกิดเลิศลักษณ์..เกินหักใจ
กลัวเกิดใหม่ได้เป็น..ดังเช่นคน.

"บ้านริมโขง"


มาถึงพ่อ คนดี เธอ....มีเรา

ที่สุดท้าย ปลายฟ้า พาเราพบ
แผ่นดินกลบ เกลื่อนหน้า ข้า....สับสน
แผ่นน้ำกั้น สั่นสะท้าน ผ่านกลอนกล
แผ่นจิตต่าง สร้างตน จนหวั่นใจ

หากหลับตา ข้าลง ตรงริมฝั่ง
มีความฝัน ฝากหวัง ดั่งเขาใหญ่
มีความรัก ปักผ่าน กานท์หทัย
มีความสุข สดใส ให้มิเลือน

ข้าสับสน ด้นกลอน อ้อนพินิจ
ตราบดวงจิต บรรจง จนบทเคลื่อน
ตราบห่วงหา อาทร ย้อนวันเดือน
ตราบคือเธอ เสมอเพื่อน เยือน...ไมตรี

ข้าคือมิตร จิตวาง สร้างสรรค์สุข
มาปลอบปลุก ประโลม โหมสุขี
มาขีดพจน์ รสดึก ตรึกกวี
มาถึงพ่อ คนดี เธอ....มีเรา

แสนเดียวดาย ภายหน้า สโมสร
จงเขียนกลอน กลบท จดขุนเขา
จงขีดเมฆ เสกดิน สินธุ์ธารเงา
จงวาดเหงา เศร้าโศก ในโลกกานท์

หทัยกาญจน์
๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๔
 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Prapacarn ❀, บ้านริมโขง, คนกันเอง.., Thammada, ...สียะตรา.., รพีกาญจน์, รัตนาวดี, ไม่รู้ใจ, สุนันยา, บูรพาท่าพระจันทร์, ♥ กานต์ฑิตา ♥, amika29, sunthornvit, กามนิต, พี.พูนสุข, อริญชย์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, masapaer, สล่าผิน, พิมพ์วาส, ..กุสุมา..

ข้อความนี้ มี 21 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อักษราจารึก รักผลึกตรึกตรองคำ
ร้อยเรียงเคียงคู่ธรรม ศาสตร์ศิลป์ร่ำลำ
26 พฤศจิกายน 2011, 03:51:AM
บ้านริมโขง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 869
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,026



« ตอบ #3 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2011, 03:51:AM »
ชุมชนชุมชน




ละอองไอ ม่านหมอก ดุจหยอกเย้า
สายลมเบา พัดผ่าน ม่านเวหน
บนเส้นทาง ดังเปล่าให้เราทน
ช้ำกมล เมื่อไร้ ใครเหลียวมอง

เพียงเดียวดาย ความหมาย ในรู้สึก
ที่ส่วนลึก สุดเหงา เฝ้าแต่หมอง
ด้วยห่างร้าง อยู่เดียว เปลี่ยวคู่ครอง
อยู่เมืองทอง แสงสี ศิวิไล

แต่เหมือนเดิน บนทาง ที่ร้างเปลี่ยว
อีกยังเคี้ยว-คดขวาง สร้างหวั่นไหว
หลากฝูงชน คนเมือง เรืองแสงไฟ
ระคนไป ร้ายดี มิรู้เลย

เหงาสุดเหงา เฝ้ามอง แต่ท้องฟ้า
ไยเทวา เบื้องบน ทนเมินเฉย
แสนเดียวดาย เพ้อพก โอ้อกเอย
ยากจะเผย ร้ายดี ที่ปลายทาง

ละอองไอ ม่านหมอก ออกสีหม่น
คราวที่ฝน โปรยมา ครารุ่งสาง
ความเหว่ว้า เกาะกิน ไม่สิ้นวาง
แม้ฝนจาง...ยังอดสู...เมื่ออยู่เดียว....

"สุนันยา"


เกิดเพียงหนึ่งพึงรับกับชีวิต
ฟ้าลิขิตหนึ่งใครไหนแลเหลียว
ยามเติบใหญ่ใฝ่ฝันสัมพันธ์เกลียว
ยากจริงเจียวเหนี่ยวหนึ่งมาพึงชม

ต้องแรมทางห่างจิตชีวิตคู่
หามวลหมู่ซึ้งซับกับสุขสม
ในทางเลือกเปลือกสวยอวยอารมณ์
ข้างในตรมขมขื่นสะอื้นทรวง

ใบหน้ายิ้มพริ้มผ่องละอองอุ่น
แต่จิตขุ่นฝุ่นฟุ้งพุ่งสู่สรวง
ไม่หวังเกินหวังสูงดุจยูงยวง
แต่ยังร่วงทุกครายามคว้ามือ

ชะแง้หาตามองป้องตาฝัน
ปากรำพันพลันรำร่ายหมายเอื้อมถือ
เสนอสนองปองไว้ใดร่ำลือ
คำตอบคือโดดเดี่ยว..แสนเดียวดาย

"บ้านริมโขง"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, Thammada, ...สียะตรา.., รพีกาญจน์, ♥หทัยกาญจน์♥, รัตนาวดี, ไม่รู้ใจ, สุนันยา, บูรพาท่าพระจันทร์, ♥ กานต์ฑิตา ♥, amika29, sunthornvit, กามนิต, พี.พูนสุข, อริญชย์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, masapaer, สล่าผิน, พิมพ์วาส, ..กุสุมา..

ข้อความนี้ มี 20 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

26 พฤศจิกายน 2011, 04:20:AM
บ้านริมโขง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 869
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,026



« ตอบ #4 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2011, 04:20:AM »
ชุมชนชุมชน



มาถึงพ่อ คนดี เธอ....มีเรา

ที่สุดท้าย ปลายฟ้า พาเราพบ
แผ่นดินกลบ เกลื่อนหน้า ข้า....สับสน
แผ่นน้ำกั้น สั่นสะท้าน ผ่านกลอนกล
แผ่นจิตต่าง สร้างตน จนหวั่นใจ

หากหลับตา ข้าลง ตรงริมฝั่ง
มีความฝัน ฝากหวัง ดั่งเขาใหญ่
มีความรัก ปักผ่าน กานท์หทัย
มีความสุข สดใส ให้มิเลือน

ข้าสับสน ด้นกลอน อ้อนพินิจ
ตราบดวงจิต บรรจง จนบทเคลื่อน
ตราบห่วงหา อาทร ย้อนวันเดือน
ตราบคือเธอ เสมอเพื่อน เยือน...ไมตรี

ข้าคือมิตร จิตวาง สร้างสรรค์สุข
มาปลอบปลุก ประโลม โหมสุขี
มาขีดพจน์ รสดึก ตรึกกวี
มาถึงพ่อ คนดี เธอ....มีเรา

แสนเดียวดาย ภายหน้า สโมสร
จงเขียนกลอน กลบท จดขุนเขา
จงขีดเมฆ เสกดิน สินธุ์ธารเงา
จงวาดเหงา เศร้าโศก ในโลกกานท์

หทัยกาญจน์
๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๔
 เคารพรัก

หลับตาลงตรงนี้ที่ขีดเขียน
เลือดไหลเวียนเปลี่ยนหมุนอุ่นสมาน
แต่ใจหนาวร้าวรอนอ้อนดวงมาน
ถึงสะท้านพาสะท้อนวอนอารมณ์

นั่นคือเพื่อนเยือนหมู่ผู้ร่วมสร้าง
แต่อ้างว้างวางใด..ได้สุขสม
คนชิดใกล้ไหนคู่..เป็นชู้ชม
มีแต่ลมพรมผ่าน..รานฤทัย

จึงหวังเพียงเสียงวจีที่เผยบอก
ว่าช้ำชอกออกสู่คงลู่ไหล
จากหนึ่งทรวงถึงหนึ่งคนเพียงสนใจ
ขอหนึ่งใครเคียงข้างอย่าร้างเลย

ทั้งทุกข์ท้อรอเกี่ยวเดียวดายนัก
ยังยากจนข้นคลักจักเฉลย
คงเป็นเหตุแห่งห่างร้างชื่นเชย
ไร้คำเอ่ย..อวดอ้าง..คนอย่างเรา.

"บ้านริมโขง"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ...สียะตรา.., Thammada, panthong.kh, รพีกาญจน์, ♥หทัยกาญจน์♥, รัตนาวดี, ไม่รู้ใจ, สุนันยา, Prapacarn ❀, บูรพาท่าพระจันทร์, ♥ กานต์ฑิตา ♥, amika29, sunthornvit, กามนิต, พี.พูนสุข, อริญชย์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, masapaer, สล่าผิน, พิมพ์วาส, ..กุสุมา..

ข้อความนี้ มี 21 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

26 พฤศจิกายน 2011, 04:47:AM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #5 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2011, 04:47:AM »
ชุมชนชุมชน

เคารพรัก เคารพรัก
ชะแง้หาตามองป้องตาฝัน
ปากรำพันพลันรำร่ายหมายเอื้อมถือ
เสนอสนองปองไว้ใดร่ำลือ
คำตอบคือโดดเดี่ยว..แสนเดียวดาย

"บ้านริมโขง"

นั่งอ่านกลอน สะท้อนในวงจิต
อยากเป็นมิตร ปลอบใจ ให้หายคลาย
โลกกว้างใหญ่ แล้วไย ถึงเดียวดาย
หรือแค่เพียง ไร้คู่หมาย ชายเลยตรม

อย่าขมขื่น ไปเลย คนเคยรัก
อย่าคิดมาก จักพา ให้ขื่นขม
แม้อยู่เดียว เปลี่ยวใจ ไร้คู่ชม
จะขอเป็น ผ้าห่ม ให้เธอเอง

คุณ''จิตใจดี ''มิใช่คนไร้ค่า
อย่าเศร้าตรม อุรา นะคนเก่ง
ฝีปากจัด เข้าขั้น จนหวั่นเกรง
ขอบรรเลง ใช่อวดเก่ง เบ่งแข่งครู

พันทอง

วันนนี้มาต่อกลอน ไม่รู้จะโดนอีกหรือเปล่าน้อ 
 น้อยใจแล้วด้วย น้อยใจแล้วด้วย

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, ♥หทัยกาญจน์♥, รัตนาวดี, ไม่รู้ใจ, สุนันยา, Thammada, บ้านริมโขง, Prapacarn ❀, บูรพาท่าพระจันทร์, ...สียะตรา.., ♥ กานต์ฑิตา ♥, sunthornvit, กามนิต, พี.พูนสุข, ยามพระอาทิตย์อัสดง, masapaer, สล่าผิน, พิมพ์วาส, amika29, ..กุสุมา..

ข้อความนี้ มี 20 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
26 พฤศจิกายน 2011, 11:55:AM
บ้านริมโขง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 869
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,026



« ตอบ #6 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2011, 11:55:AM »
ชุมชนชุมชน




คุณ''จิตใจดี ''มิใช่คนไร้ค่า
อย่าเศร้าตรม อุรา นะคนเก่ง
ฝีปากจัด เข้าขั้น จนหวั่นเกรง
ขอบรรเลง ใช่อวดเก่ง เบ่งแข่งครู

พันทอง

วันนนี้มาต่อกลอน ไม่รู้จะโดนอีกหรือเปล่าน้อ 
 น้อยใจแล้วด้วย น้อยใจแล้วด้วย



โลกกว้างใหญ่ไพศาลเกินพานพบ
ยากเจนจบครบถ้วนอันควรสู่
หนึ่งธุลีดินถวิลใดใครเชิดชู
คนเอ็นดูคู่ขวัญอันตรธาน

หนาวฤดูคู่หมายคล้ายหายห่าง
หนาวกายร่างวางผ้าพาสมาน
หนาวดวงจิตคิดแก้ยังแลลาน
หนาวดวงมานขานรับกับสิ่งใด

ซ้อนผ้าห่มกี่ชั้นกันหนาวนี้
หนาวทุกปียังสั่นด้วยหวั่นไหว
หนาวหนักอกตกทรวงหนาวหน่วงใจ
เพราะขาดใครคนซึ้ง..จึงหนาวนาน

ยิ่งเดียวดายปลายฝนเข้าต้นหนาว
น้ำค้างพราวยามรุ่งช่วยปรุงหวาน
แต่..ใจคนกลับหมองครองร้าวราน
เกินขับขานสานฝัน..นะ..พันทอง.

"บ้านริมโขง"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สุนันยา, Prapacarn ❀, บูรพาท่าพระจันทร์, ...สียะตรา.., ♥ กานต์ฑิตา ♥, รพีกาญจน์, ♥หทัยกาญจน์♥, amika29, sunthornvit, กามนิต, Thammada, พี.พูนสุข, ไม่รู้ใจ, รัตนาวดี, ยามพระอาทิตย์อัสดง, masapaer, สล่าผิน, พิมพ์วาส, ..กุสุมา..

ข้อความนี้ มี 19 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

27 พฤศจิกายน 2011, 05:53:PM
♥หทัยกาญจน์♥
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 469
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 814


เพียงความเคลื่อนไหว ผ่านบทกวี


เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2011, 05:53:PM »
ชุมชนชุมชน

หลับตาลงตรงนี้ที่ขีดเขียน
เลือดไหลเวียนเปลี่ยนหมุนอุ่นสมาน
แต่ใจหนาวร้าวรอนอ้อนดวงมาน
ถึงสะท้านพาสะท้อนวอนอารมณ์

นั่นคือเพื่อนเยือนหมู่ผู้ร่วมสร้าง
แต่อ้างว้างวางใด..ได้สุขสม
คนชิดใกล้ไหนคู่..เป็นชู้ชม
มีแต่ลมพรมผ่าน..รานฤทัย

จึงหวังเพียงเสียงวจีที่เผยบอก
ว่าช้ำชอกออกสู่คงลู่ไหล
จากหนึ่งทรวงถึงหนึ่งคนเพียงสนใจ
ขอหนึ่งใครเคียงข้างอย่างร้างเลย

ทั้งทุกข์ท้อรอเกี่ยวเดียวดายนัก
ยังยากจนข้นคลักจักเฉลย
คงเป็นเหตุแห่งห่างร้างชื่นเชย
ไร้คำเอ่ย..อวดอ้าง..คนอย่างเรา.

"บ้านริมโขง"


หลับตายิ้ม....

หลับตายิ้มริมฝั่งยังขีดเขียน
ความเดียวดายคล้ายเหรียญพลิกเวียนเศร้า
ความเปล่าเปลี่ยวเหลียวหลังดังเช่นเงา
ความเหว้หว้าว่าเหงาเข้ามาแทน

ความดิ้นร้นจนกล่าวสาวคำตอบ
ความผิดหวังพังปลอบชอบสุดแสน
ความอกหักรักช้ำจำไร้แฟน
ความพลั้งพลาดขาดแคลนแก่นความจริง

ความทุกข์ท้อทรมานขาดเรื่องรัก
ความระกำช้ำหนักพักบางสิ่ง
ความจำยอมพร้อมฟังยังแอบอิง
ความเดียวดายคล้ายสิ่งวิ่งเคียงกัน

ความโศกเศร้าเล่าเรื่องเฟื่องฟุ้งผ่าน
ความระทมข่มกานท์สาส์นสวรรค์
ความโดนเด่นเช่นแสงแจ้งจากจันทร์
ความปะทะตะวันฉันขอเคียง

หทัยกาญจน์
๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๔
 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : amika29, รพีกาญจน์, บ้านริมโขง, sunthornvit, บูรพาท่าพระจันทร์, กามนิต, Thammada, panthong.kh, พี.พูนสุข, ไม่รู้ใจ, รัตนาวดี, สุนันยา, ยามพระอาทิตย์อัสดง, masapaer, สล่าผิน, พิมพ์วาส, ..กุสุมา..

ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อักษราจารึก รักผลึกตรึกตรองคำ
ร้อยเรียงเคียงคู่ธรรม ศาสตร์ศิลป์ร่ำลำ
27 พฤศจิกายน 2011, 09:31:PM
บ้านริมโขง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 869
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,026



« ตอบ #8 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2011, 09:31:PM »
ชุมชนชุมชน

 


หลับตายิ้ม....

หลับตายิ้มริมฝั่งยังขีดเขียน
ความเดียวดายคล้ายเหรียญพลิกเวียนเศร้า
ความเปล่าเปลี่ยวเหลียวหลังดังเช่นเงา
ความเหว้หว้าว่าเหงาเข้ามาแทน

ความดิ้นร้นจนกล่าวสาวคำตอบ
ความผิดหวังพังปลอบชอบสุดแสน
ความอกหักรักช้ำจำไร้แฟน
ความพลั้งพลาดขาดแคลนแก่นความจริง

ความทุกข์ท้อทรมานขาดเรื่องรัก
ความระกำช้ำหนักพักบางสิ่ง
ความจำยอมพร้อมฟังยังแอบอิง
ความเดียวดายคล้ายสิ่งวิ่งเคียงกัน

ความโศกเศร้าเล่าเรื่องเฟื่องฟุ้งผ่าน
ความระทมข่มกานท์สาส์นสวรรค์
ความโดนเด่นเช่นแสงแจ้งจากจันทร์
ความปะทะตะวันฉันขอเคียง

หทัยกาญจน์
๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๔
 เคารพรัก

ยิ้ม..ในทรวงห่วงถึงรำพึงฝาก
ยิ้มคราพรากจากกันจำนรรจ์เสียง
ยิ้มเกลื่อนหน้าพาชื่นรื่นร้อยเรียง
ยิ้มหวังเคียงเพียงหมายคล้ายฝันไป

จึง..เพียงยิ้มพริ้มรับคำขับขาน
จึงเพียงสานสู่สองมองหวั่นไหว
จึงเพียงเอื้อเผื่อพลาดหากบาดใจ
จึงเพียงใครสู่สมนิยมคำ

ไหว..หวั่นตนทนหมองยามต้องจาก
ไหวหวั่นมากหากรักจักถลำ
ไหวหวั่นจนทนท้อรอระกำ
ไหวหวั่นทำจำลาน้ำตานอง

ใจ..เจ้าเอยไฉนเลยไม่เคยชื่น
ใจขมขื่นกลืนช้ำระกำหมอง
ใจรอคอยหงอยเหงายังเฝ้าปอง
ใจร่ำร้องครองคู่หวังอยู่เคียง

จึง..ตั้งตาพาฝันมั่นเสมอ
จึงพร่ำเพ้อเธอฉันรำพันเสียง
จึงรอคอยรอยทางวางมองเมียง
จึงร้อยเรียงสำเนียงกานท์ผสานใจ

เปลี่ยน..เวียนวนจนหวั่นวันคอยคู่
เปลี่ยนฤดูสู่ฤดีที่หวามไหว
เปลี่ยนคืนวันผันผ่านม่านวิไล
เปลี่ยนอย่างไรใจยังเปลี่ยว..แสนเดียวดาย.

..ยิ้มจึงไหวใจจึงเปลี่ยน..

"บ้านริมโขง"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ♥หทัยกาญจน์♥, รพีกาญจน์, รัตนาวดี, พี.พูนสุข, panthong.kh, ไม่รู้ใจ, สุนันยา, Thammada, บูรพาท่าพระจันทร์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, masapaer, กามนิต, สล่าผิน, พิมพ์วาส, amika29, ..กุสุมา..

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

28 พฤศจิกายน 2011, 03:56:AM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #9 เมื่อ: 28 พฤศจิกายน 2011, 03:56:AM »
ชุมชนชุมชน

 
ส่งจูบจ้ะ ส่งจูบจ้ะ
ยิ่งเดียวดายปลายฝนเข้าต้นหนาว
น้ำค้างพราวยามรุ่งช่วยปรุงหวาน
แต่..ใจคนกลับหมองครองร้าวราน
เกินขับขานสานฝัน..นะ..พันทอง.

"บ้านริมโขง"

เอากายแทน ผ้าห่ม กันลมหนาว
เอาอกอุ่น จากสาว นอนแนบห้อง
เอาเอวที่ อ้อนแอ้น ของพันทอง
ให้เจ้ากอด ประครอง อยู่ทั้งคืน

ยามหนาวลม พัดมา กายาห่ม
ยามปวดร้าว ระทม คงได้ชื่น
ยามนอนเล่า ตัวเจ้า ไม่กล่ำกลืน
ยามผวา กลางคืน ไม่ตื่นกลัว

ทั้งงานบ้าน งานเรือน จัดให้เสร็จ
ทำสะเด็ด รับรอง น้องนี้ชัวร์
ทั้งหุงข้าว ทำแกง ใช่แกล้งมั่ว
ขอเพียงตัว ของพี่ นี้มีใจ

พันทอง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, รพีกาญจน์, ไม่รู้ใจ, สุนันยา, Thammada, อริญชย์, บูรพาท่าพระจันทร์, พี.พูนสุข, บ้านริมโขง, ยามพระอาทิตย์อัสดง, masapaer, กามนิต, สล่าผิน, พิมพ์วาส, ..กุสุมา..

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
28 พฤศจิกายน 2011, 07:12:PM
♥หทัยกาญจน์♥
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 469
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 814


เพียงความเคลื่อนไหว ผ่านบทกวี


เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 28 พฤศจิกายน 2011, 07:12:PM »
ชุมชนชุมชน

ยิ้ม..ในทรวงห่วงถึงรำพึงฝาก
ยิ้มคราพรากจากกันจำนรรจ์เสียง
ยิ้มเกลื่อนหน้าพาชื่นรื่นร้อยเรียง
ยิ้มหวังเคียงเพียงหมายคล้ายฝันไป

จึง..เพียงยิ้มพริ้มรับคำขับขาน
จึงเพียงสานสู่สองมองหวั่นไหว
จึงเพียงเอื้อเผื่อพลาดหากบาดใจ
จึงเพียงใครสู่สมนิยมคำ

ไหว..หวั่นตนทนหมองยามต้องจาก
ไหวหวั่นมากหากรักจักถลำ
ไหวหวั่นจนทนท้อรอระกำ
ไหวหวั่นทำจำลาน้ำตานอง

ใจ..เจ้าเอยไฉนเลยไม่เคยชื่น
ใจขมขื่นกลืนช้ำระกำหมอง
ใจรอคอยหงอยเหงายังเฝ้าปอง
ใจร่ำร้องครองคู่หวังอยู่เคียง

จึง..ตั้งตาพาฝันมั่นเสมอ
จึงพร่ำเพ้อเธอฉันรำพันเสียง
จึงรอคอยรอยทางวางมองเมียง
จึงร้อยเรียงสำเนียงกานท์ผสานใจ

เปลี่ยน..เวียนวนจนหวั่นวันคอยคู่
เปลี่ยนฤดูสู่ฤดีที่หวามไหว
เปลี่ยนคืนวันผันผ่านม่านวิไล
เปลี่ยนอย่างไรใจยังเปลี่ยว..แสนเดียวดาย.

..ยิ้มจึงไหวใจจึงเปลี่ยน..

"บ้านริมโขง"


คือทรงจำจดงามท่ามอรุณฯ....

หลับตายิ้มพริ้มรับกลับความสุข
หลับตาปลอบตอบปลุกทุกข์สหาย
หลับตาหวานสาส์นคำย้ำเคียงกาย
หลับตาทีพี่ชายหมายมีเรา

หลับตาเถิดเปิดโลกโศกกว้างใหญ่
หลับตาลงปลงใจใช่..ถึงเขา
หลับตาแล้วแก้วกล้าข้าคือเงา
หลับตาผ่องของเจ้าเล่าแล้ว..ฟัง

หลับตานึกตรึกตรองมองถ้วนถี่
หลับตาจิตคิดดีที่ข้างหลัง
หลับตาหันพันแสงแจ้งประดัง
หลับตารู้ดูหวังยั่งหยัดยืน

หลับตามืดจืดสนิทมิตรสว่าง
หลับตาบนหนทางสร้างสุขชื่น
หลับตาสวยรวยรินศิลป์ค่ำคืน
หลับตามองต้องตื่นฟื้นในคำ

เปิดดวงตาตามอ่านกานท์เช้าสาย
ดวงจิตจะละลายร่ายงามขำ
ยิ้มจึงไหวใจจึงเปลี่ยนเขียนเรียงนำ
คือทรงจำจดงามท่ามอรุณฯ....

หทัยกาญจน์
๒๘ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๔
 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, สุนันยา, บูรพาท่าพระจันทร์, พี.พูนสุข, บ้านริมโขง, รพีกาญจน์, Thammada, ยามพระอาทิตย์อัสดง, panthong.kh, masapaer, ไม่รู้ใจ, นางฟ้า ชาลี, กามนิต, สล่าผิน, รัตนาวดี, hathaichanok, ..กุสุมา..

ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อักษราจารึก รักผลึกตรึกตรองคำ
ร้อยเรียงเคียงคู่ธรรม ศาสตร์ศิลป์ร่ำลำ
29 พฤศจิกายน 2011, 02:07:AM
บ้านริมโขง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 869
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,026



« ตอบ #11 เมื่อ: 29 พฤศจิกายน 2011, 02:07:AM »
ชุมชนชุมชน



คือทรงจำจดงามท่ามอรุณฯ....

หลับตายิ้มพริ้มรับกลับความสุข
หลับตาปลอบตอบปลุกทุกข์สหาย
หลับตาหวานสาส์นคำย้ำเคียงกาย
หลับตาทีพี่ชายหมายมีเรา

หลับตาเถิดเปิดโลกโศกกว้างใหญ่
หลับตาลงปลงใจใช่..ถึงเขา
หลับตาแล้วแก้วกล้าข้าคือเงา
หลับตาผ่องของเจ้าเล่าแล้ว..ฟัง

หลับตานึกตรึกตรองมองถ้วนถี่
หลับตาจิตคิดดีที่ข้างหลัง
หลับตาหันพันแสงแจ้งประดัง
หลับตารู้ดูหวังยั่งหยัดยืน

หลับตามืดจืดสนิทมิตรสว่าง
หลับตาบนหนทางสร้างสุขชื่น
หลับตาสวยรวยรินศิลป์ค่ำคืน
หลับตามองต้องตื่นฟื้นในคำ

เปิดดวงตาตามอ่านกานท์เช้าสาย
ดวงจิตจะละลายร่ายงามขำ
ยิ้มจึงไหวใจจึงเปลี่ยนเขียนเรียงนำ
คือทรงจำจดงามท่ามอรุณฯ....

หทัยกาญจน์
๒๘ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๔
 เคารพรัก

ตบมือให้

หลับตายิ้ม..พริ้มรับกับวาบหวาม
หลับตายาม..ทรามสงวนชื่นชวนหนุน
หลับตาพร้อมยอมรับ..กับละมุน
หลับอบอุ่นจริงจับ..กับละมัย

จะเดียวดาย..คล้ายลับระงับโกรธ
จะเดียวโดด..คล้ายยิ่งสิ่งสงสัย
มีคนคอยห่วงบ้าง...ต่างมีนัย
เกินกว่าใจจะห่าง...ต่างมีนาง

อารมณ์หวาน...ขานซึ้งรำพึงใฝ่
อารมณ์ไหว...ไม่มั่นหวั่นใดขวาง
เกินสรรหาคำสม...ชื่นชมวาง
ในทุกอย่างไร้ขม...ชื่นชมวัน

จึงซึ้งค่า...อารมณ์พรมชื่นฉ่ำ
จึงซึ้งคำ...พร่ำกลับรับสุขสันต์
จิตใจนางช่างละมุน...ครุ่นรำพัน
หนึ่งแจ่มจันทร์อบอุ่น...ครุ่นรำเพย

เกินเสกสรร...ปันคำนำสวยหรู
เกินเสกสู่...คู่ควรล้วนเฉลย
วจีงามทรามสงวน...ชวนชื่นเชย
วจีเปรยเผยรื่น...ชวนชื่นชม

เป็นน้องสาว...พราวกานท์สารสลวย
เป็นน้องสวย...ด้วยจิตมิตรสุขสม
ฉลาดคิดประดิษฐ์คำ....ฉ่ำพริ้มพรม
ดื่นนิยมอมยิ้ม...ฉ่ำพริ้มพราย.

"บ้านริมโขง"


ยิ้มหน้าใส กลบทสร้อยสลับคู่สะคราญ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, ♥หทัยกาญจน์♥, Thammada, รพีกาญจน์, บูรพาท่าพระจันทร์, panthong.kh, สุนันยา, อริญชย์, masapaer, พี.พูนสุข, ไม่รู้ใจ, กามนิต, สล่าผิน, พิมพ์วาส, hathaichanok, ..กุสุมา..

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

29 พฤศจิกายน 2011, 03:03:AM
บ้านริมโขง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 869
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,026



« ตอบ #12 เมื่อ: 29 พฤศจิกายน 2011, 03:03:AM »
ชุมชนชุมชน

เอากายแทน ผ้าห่ม กันลมหนาว
เอาอกอุ่น จากสาว นอนแนบห้อง
เอาเอวที่ อ้อนแอ้น ของพันทอง
ให้เจ้ากอด ประครอง อยู่ทั้งคืน

ยามหนาวลม พัดมา กายาห่ม
ยามปวดร้าว ระทม คงได้ชื่น
ยามนอนเล่า ตัวเจ้า ไม่กล่ำกลืน
ยามผวา กลางคืน ไม่ตื่นกลัว

ทั้งงานบ้าน งานเรือน จัดให้เสร็จ
ทำสะเด็ด รับรอง น้องนี้ชัวร์
ทั้งหุงข้าว ทำแกง ใช่แกล้งมั่ว
ขอเพียงตัว ของพี่ นี้มีใจ

พันทอง

เคารพรัก

โอ้..โฉมตรูคู่ขวัญรัญจวนจิต
โอ้..มิ่งมิตรจิตหวั่นรำพันใฝ่
โอ้.. “พันทอง” ปองหวานงานวิไล
มอบอุ่นไอจากอกตระหนกครวญ

ให้สะท้านครั่นครืนยืนขาสั่น
คำจำนรรจ์ล้วนเลิศเกิดห่วงหวน
ด้วยจริงใจเปิดเผยเลยรัญจวน
อยากจะด่วนรับรู้เป็นคู่นาง

จะรับได้เพียงใดก็ไม่รู้
เพราะโฉมตรูมุ่งมั่นจะฟันถาง
จะเกี่ยวกอดตลอดคืนชื่นไม่จาง
ถึงรุ่งสางขาคงถ่างนอนคางเกย

ด้วยยังคอยเลี้ยงดู..ผู้ต้อนรับ
จนเสร็จสรรพเคียงอยู่คู่เขนย
ไม่ต้องทำงานใดให้เหนื่อยเลย
เพียงนอนเฉยเชยชั้น..พันฯ ทำเอง

ขอบคุณล้นบนไมตรีที่เสนอ
จริงนะเออเธอเล่าเจ้านั้นเก่ง
กลัวถูกหลอกให้สอนกลอนบรรเลง
ทำนองเพลงทุกที่..ล้วนพี่ทำ..  ขำแบบกระแดะหน่อยๆ

"บ้านริมโขง"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, Thammada, รพีกาญจน์, บูรพาท่าพระจันทร์, สุนันยา, อริญชย์, masapaer, พี.พูนสุข, ♥หทัยกาญจน์♥, ไม่รู้ใจ, กามนิต, สล่าผิน, พิมพ์วาส, hathaichanok, ..กุสุมา..

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

29 พฤศจิกายน 2011, 04:09:AM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #13 เมื่อ: 29 พฤศจิกายน 2011, 04:09:AM »
ชุมชนชุมชน

 
ส่งจูบจ้ะ ส่งจูบจ้ะ ส่งจูบจ้ะ
จะรับได้เพียงใดก็ไม่รู้
เพราะโฉมตรูมุ่งมั่นจะฟันถาง
จะเกี่ยวกอดตลอดคืนชื่นไม่จาง
ถึงรุ่งสางขาคงถ่างนอนคางเกย

ด้วยยังคอยเลี้ยงดู..ผู้ต้อนรับ
จนเสร็จสรรพเคียงอยู่คู่เขนย
ไม่ต้องทำงานใดให้เหนื่อยเลย
เพียงนอนเฉยเชยชั้น..พันฯ ทำเอง

ขอบคุณล้นบนไมตรีที่เสนอ
จริงนะเออเธอเล่าเจ้านั้นเก่ง
กลัวถูกหลอกให้สอนกลอนบรรเลง
ทำนองเพลงทุกที่..ล้วนพี่ทำ..

"บ้านริมโขง"

ด้วยว่าน้อง เป็นหญิง รักจริงแท้
ไม่ผันแปร แต่กลัว ตัวชายดำ
มาหลอกหญิง ทิ้งให้ ใจชอกช้ำ
เพ้อรำพัน อยู่เดียว เปลี่ยวเอกา

โอ้ยอดชาย ของฉัน สวรรค์สร้าง
ไยกล่าวอ้าง ให้หลง พะวงหา
จะไม่ให้ ทำงาน บ้านเชียวนา
กลัวมาหลอก ผลาญพล่า แล้วลาไกล

อันว่าชาย รักง่าย แล้วหน่ายหนี
ปล่อยหญิงตรม ฤดี จนหมองไหม้
เขาว่าชาย นั้นร้าย กว่าเสือไง
ครั้นมอบกาย มอบใจ ต้องใคร่ครวญ

แม้นหากพี่ รักจริง ไม่ทิ้งขว้าง
ตัวน้องนาง มีใจ ใคร่เชิญชวน
จะพนอ คลอเคล้า เย้ายียวน
คงได้ม่วน ทั้งคืน ยันตื่นนอน
พันทอง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Thammada, รพีกาญจน์, บูรพาท่าพระจันทร์, สุนันยา, อริญชย์, masapaer, บ้านริมโขง, พี.พูนสุข, ♥หทัยกาญจน์♥, ไม่รู้ใจ, รัตนาวดี, กามนิต, สล่าผิน, พิมพ์วาส, hathaichanok, ..กุสุมา..

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
29 พฤศจิกายน 2011, 09:13:PM
♥หทัยกาญจน์♥
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 469
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 814


เพียงความเคลื่อนไหว ผ่านบทกวี


เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: 29 พฤศจิกายน 2011, 09:13:PM »
ชุมชนชุมชน


หลับตายิ้ม..พริ้มรับกับวาบหวาม
หลับตายาม..ทรามสงวนชื่นชวนหนุน
หลับตาพร้อมยอมรับ..กับละมุน
หลับอบอุ่นจริงจับ..กับละมัย

จะเดียวดาย..คล้ายลับระงับโกรธ
จะเดียวโดด..คล้ายยิ่งสิ่งสงสัย
มีคนคอยห่วงบ้าง...ต่างมีนัย
เกินกว่าใจจะห่าง...ต่างมีนาง

อารมณ์หวาน...ขานซึ้งรำพึงใฝ่
อารมณ์ไหว...ไม่มั่นหวั่นใดขวาง
เกินสรรหาคำสม...ชื่นชมวาง
ในทุกอย่างไร้ขม...ชื่นชมวัน

จึงซึ้งค่า...อารมณ์พรมชื่นฉ่ำ
จึงซึ้งคำ...พร่ำกลับรับสุขสันต์
จิตใจนางช่างละมุน...ครุ่นรำพัน
หนึ่งแจ่มจันทร์อบอุ่น...ครุ่นรำเพย

เกินเสกสรร...ปันคำนำสวยหรู
เกินเสกสู่...คู่ควรล้วนเฉลย
วจีงามทรามสงวน...ชวนชื่นเชย
วจีเปรยเผยรื่น...ชวนชื่นชม

เป็นน้องสาว...พราวกานท์สารสลวย
เป็นน้องสวย...ด้วยจิตมิตรสุขสม
ฉลาดคิดประดิษฐ์คำ....ฉ่ำพริ้มพรม
ดื่นนิยมอมยิ้ม...ฉ่ำพริ้มพราย.

"บ้านริมโขง"



..ขีด..คืน..ร้อย..เสียง..เรียง..รัก..

ในรำพึง หนึ่งยิ้ม พริ้มน้อมรับ
ในรำพัน ฝันกลับ ขับเช้าสาย
ขีด..บรรเลง เพลงพจน์ รสเคียงกาย
ขีด..เรียงราย ร้อยบท รสเคียงกัน

ในคำคม ชมคำ ย้ำเคียงใกล้
ในคำครวญ ชวนใจ ใฝ่สุขสันต์
คืน..ค่ำหนึ่ง ซึ้งน้อง จ้องดวงจันทร์
คืน..ค่ำนั้น น้องมอง จ้องดวงใจ

ในความเดี่ยว โดดเด่น เห็นความคิด
ในความดาย คล้ายจิต ลิขิตใส่
ร้อย..สัมพันธ์ มั่นวาง สร้างสรรค์ไกล
ร้อย..สำเนียง เสียงไซร้ สร้างสรรค์กานท์

ในคำกล ยลยิน ศิลป์แห่งศาสตร์
ในคำกลอน ย้อนวาด กระดาษสาส์น
เสียง..เศร้าสร้อย ถ้อยคำ จำจดจาร
เสียง..โศกหวาน วนล้ำ จำจดจินต์

ในความนี้ วจี ที่น้องกล่าว
ในความนัย น้องสาว ราวสุขศิลป์
เรียง..เฉกรัก ปักพ้น บนกวิน
เรียง..เช่นนก ผกผิน บนกวี

กลบท รสจัด กระหวัดร่าย
กลบาท วาดส่าย คล้ายสดศรี
รัก..ใดเอย เผยศิลป์ รินวาที
รัก..วจี จดจินต์ รินวาทะ

หทัยกาญจน์
๒๙ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๔
 เคารพรัก
ยิ้มหน้าใส กลบทสร้อยสลับคู่สะคราญ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Thammada, อริญชย์, สุนันยา, ไม่รู้ใจ, รพีกาญจน์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, Design with love ᵔᴥᵔ, พี.พูนสุข, รัตนาวดี, นางฟ้า ชาลี, บ้านริมโขง, กามนิต, สล่าผิน, panthong.kh, พิมพ์วาส, hathaichanok, บูรพาท่าพระจันทร์, ไพร พนาวัลย์, ..กุสุมา..

ข้อความนี้ มี 19 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อักษราจารึก รักผลึกตรึกตรองคำ
ร้อยเรียงเคียงคู่ธรรม ศาสตร์ศิลป์ร่ำลำ
30 พฤศจิกายน 2011, 01:02:PM
พี.พูนสุข
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1269
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,104


ทิวาฉาย ณ ปลายผา


« ตอบ #15 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2011, 01:02:PM »
ชุมชนชุมชน

                                               

                                                                        ตบมือให้ ตบมือให้ ตบมือให้

                                                           กานท์คู่กล

                                                                            กลคู่กานท์.. เหมืิอนต้องมนต์ยลเดียวดาย
                                                กลคู่กราย.. ร้อยคมคำฉ่ำสุกใส
                                                 สนิทสมชมชิดเชื้อ..เอื้ออุ่นไอ
                                                 สนิทใจกูลก่อเกื้อ..เอื้ออุ่นอวล

                                                เป็นแบบอย่าง..วางแวววรรณสรรประพฤติ
                                                เป็นแบบยึด..กรองคำย้อมให้หอมหวน
                                                 สำเนียงหวานซ่านซาบซึ้ง..คะนึงนวล
                                                 สำเนียงครวญติดตราตรึง..คะนึงนาย

                                                หอมไอดิน..ไม่สุดสิ้นรินเรื่องราว
                                                หอมไอดาว..เอื้อมสอยสาวพราวแสงฉาย
                                                 ประโลมหล้าฟ้าสล้าง..พร่างแพรวพราย
                                                 ประทิ่นอายกวีแก้ว..พร่างแพรวพรรณ

                                                คู่กานท์ไทย..ร้อยรสหวามงามผุดผ่อง
                                                คู่กานท์ทอง..ล้อต่อคำนำสุขสันต์
                                                 หยิกหยอกเอินเพลินคำกรอง..กระทบกัน
                                                 งามเฉิดฉันด้นดั้นกลอน..กระทบกล

                                                เจริญแรง..แสงมุ่งมั่นฟั่นเกลียวกลม
                                                เจริญรมย์..หล่อหลอมพร้อมฝึกฝน
                                                พลาดพลั้งผิดพากเพียรแก้..ได้ตื่นตน
                                                น้อมดวงมนตรึกตรองไว้..ได้ตื่นตัว.

                                                       ด้วยรักและชื่นชมคู่ขวัญ
                                                            ..Peepoonsuk..


                                                                                     
                                                               

                                   
                                                   

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : กามนิต, panthong.kh, อริญชย์, รพีกาญจน์, สล่าผิน, สุนันยา, Thammada, รัตนาวดี, ♥หทัยกาญจน์♥, พิมพ์วาส, บ้านริมโขง, hathaichanok, บูรพาท่าพระจันทร์, ไพร พนาวัลย์, นางฟ้า ชาลี, ..กุสุมา..

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
30 พฤศจิกายน 2011, 09:32:PM
บ้านริมโขง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 869
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,026



« ตอบ #16 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2011, 09:32:PM »
ชุมชนชุมชน




..ขีด..คืน..ร้อย..เสียง..เรียง..รัก..

ในรำพึง หนึ่งยิ้ม พริ้มน้อมรับ
ในรำพัน ฝันกลับ ขับเช้าสาย
ขีด..บรรเลง เพลงพจน์ รสเคียงกาย
ขีด..เรียงราย ร้อยบท รสเคียงกัน

ในคำคม ชมคำ ย้ำเคียงใกล้
ในคำครวญ ชวนใจ ใฝ่สุขสันต์
คืน..ค่ำหนึ่ง ซึ้งน้อง จ้องดวงจันทร์
คืน..ค่ำนั้น น้องมอง จ้องดวงใจ

ในความเดี่ยว โดดเด่น เห็นความคิด
ในความดาย คล้ายจิต ลิขิตใส่
ร้อย..สัมพันธ์ มั่นวาง สร้างสรรค์ไกล
ร้อย..สำเนียง เสียงไซร้ สร้างสรรค์กานท์

ในคำกล ยลยิน ศิลป์แห่งศาสตร์
ในคำกลอน ย้อนวาด กระดาษสาส์น
เสียง..เศร้าสร้อย ถ้อยคำ จำจดจาร
เสียง..โศกหวาน วนล้ำ จำจดจินต์

ในความนี้ วจี ที่น้องกล่าว
ในความนัย น้องสาว ราวสุขศิลป์
เรียง..เฉกรัก ปักพ้น บนกวิน
เรียง..เช่นนก ผกผิน บนกวี

กลบท รสจัด กระหวัดร่าย
กลบาท วาดส่าย คล้ายสดศรี
รัก..ใดเอย เผยศิลป์ รินวาที
รัก..วจี จดจินต์ รินวาทะ

หทัยกาญจน์
๒๙ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๔
 เคารพรัก
ยิ้มหน้าใส กลบทสร้อยสลับคู่สะคราญ

ยิ้มหน้าใส กลบทรักร้อย
ให้มีคำซ้ำกันหนึ่งคู่ อยู่ชิดกันภายในวรรค


ร่ำคำอ้อนอ้อนคำล้วนฉ่ำจิต
ชวนเชยชิดชิดชื่นรื่นเลยล่ะ
ฟังน้ำเสียงเสียงใสจริงใจนะ
เกินที่จะจะยั้งเพียงนั่งมอง

มาร่ายเรียงเรียงหมายเพื่อคลายขุ่น
มีแม่คุณคุณขามาสนอง
ต่อคำขานขานรับจับทำนอง
สุขสมสองสองฝ่ายร่ายลำนำ

แม้นดายเดียวเดียวหมายเพียงภายนอก
ภายในบอกบอกนางอย่างชุ่มฉ่ำ
มีเธอคอยคอยเห็นเป็นเพื่อนจำ
สารส่งคำคำคู่สู่ภิรมย์

เป็นพี่น้องน้องเอยที่เคยห่วง
เป็นเดือนดวงดวงดาวพราวสุขสม
เป็นพระพรายพรายพลิ้วละลิ่วลม
เป็นดุจพรหมพรหมสถานในบ้านกลอน

อบอุ่นนักนักนี่ยามมีเจ้า
ทุกค่ำเช้าเช้าขึ้นรีบตื่นก่อน
มองเมียงหาหาพจน์รสสุนทร
พบบทตอนตอนตอบมอบไมตรี

อบอุ่นจิตจิตซึ้งจึงรำร่าย
ได้ผ่อนคลายคลายเหงาไล่เศร้าหนี
ไม่เดียวดายดายเดียวเปลี่ยวฤดี
น้ำใจนี้นี้มอบ..คำขอบคุณ.

"บ้านริมโขง"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ♥หทัยกาญจน์♥, Thammada, รพีกาญจน์, รัตนาวดี, hathaichanok, สุนันยา, พี.พูนสุข, บูรพาท่าพระจันทร์, ..กุสุมา.., ไพร พนาวัลย์

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

01 ธันวาคม 2011, 04:03:AM
♥หทัยกาญจน์♥
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 469
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 814


เพียงความเคลื่อนไหว ผ่านบทกวี


เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 01 ธันวาคม 2011, 04:03:AM »
ชุมชนชุมชน


ร่ำคำอ้อนอ้อนคำล้วนฉ่ำจิต
ชวนเชยชิดชิดชื่นรื่นเลยล่ะ
ฟังน้ำเสียงเสียงใสจริงใจนะ
เกินที่จะจะยั้งเพียงนั่งมอง

มาร่ายเรียงเรียงหมายเพื่อคลายขุ่น
มีแม่คุณคุณขามาสนอง
ต่อคำขานขานรับจับทำนอง
สุขสมสองสองฝ่ายร่ายลำนำ

แม้นดายเดียวเดียวหมายเพียงภายนอก
ภายในบอกบอกนางอย่างชุ่มฉ่ำ
มีเธอคอยคอยเห็นเป็นเพื่อนจำ
สารส่งคำคำคู่สู่ภิรมย์

เป็นพี่น้องน้องเอยที่เคยห่วง
เป็นเดือนดวงดวงดาวพราวสุขสม
เป็นพระพรายพรายพลิ้วละลิ่วลม
เป็นดุจพรหมพรหมสถานในบ้านกลอน

อบอุ่นนักนักนี่ยามมีเจ้า
ทุกค่ำเช้าเช้าขึ้นรีบตื่นก่อน
มองเมียงหาหาพจน์รสสุนทร
พบบทตอนตอนตอบมอบไมตรี

อบอุ่นจิตจิตซึ้งจึงรำร่าย
ได้ผ่อนคลายคลายเหงาไล่เศร้าหนี
ไม่เดียวดายดายเดียวเปลี่ยวฤดี
น้ำใจนี้นี้มอบ..คำขอบคุณ.

"บ้านริมโขง"


..กล..กานท์..กลอน..ร้อย..รัก..

กล..ร้อยรักรักร้อยถ้อยคำรัก
กล..ทอถักถักทอต่อเกื้อหนุน
กล..เคียงคู่คู่เคียงเรียงละมุน
กล..หวานอุ่นอุ่นหวานสาส์นแห่งกล

กานท์..สมงามงามสมชมขีดเขียน
กานท์..ร่ำเรียนเรียนร่ำชำนาญผล
กานท์..ศาสตร์ศิลป์ศิลป์ศาสตร์วาดกมล
กานท์..ยินยลยลยินจินต์แห่งกานท์

กลอน..บทเพลงเพลงบทพจน์เศร้าโศก
กลอน..โบยโบกโบกโบยโปรยประสาน
กลอน..เดียวดายดายเดียวเทียวจดจาร
กลอน..ขับขานขานขับศัพท์แห่งกลอน

ร้อย..เล่าเรื่องเรื่องเล่าเจ้าคมยิ่ง
ร้อย..เพริศพริ้งพริ้งเพริศเลิศอักษร
ร้อย..ส่งเสียงเสียงส่งลงสุนทร
ร้อย..งามงอนงอนงามความแห่งร้อย

รัก..เอื้อนเอยเอยเอื้อนเพื่อนพี่น้อง
รัก..เราสองสองเราเฝ้าเอื้อมสอย
รัก..คืนค่ำค่ำคืนตื่นรอคอย
รัก..แช่มช้อยช้อยแช่มแต้มแห่งรัก

หทัยกาญจน์
๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔
 เคารพรัก


ยิ้มหน้าใส กลบทรักร้อย
ให้มีคำซ้ำกันหนึ่งคู่ อยู่ชิดกันภายในวรรค

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บ้านริมโขง, Thammada, รพีกาญจน์, บูรพาท่าพระจันทร์, พี.พูนสุข, ไพร พนาวัลย์, panthong.kh, รัตนาวดี, ..กุสุมา..

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อักษราจารึก รักผลึกตรึกตรองคำ
ร้อยเรียงเคียงคู่ธรรม ศาสตร์ศิลป์ร่ำลำ
02 ธันวาคม 2011, 02:29:AM
บ้านริมโขง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 869
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,026



« ตอบ #18 เมื่อ: 02 ธันวาคม 2011, 02:29:AM »
ชุมชนชุมชน



..กล..กานท์..กลอน..ร้อย..รัก..

กล..ร้อยรักรักร้อยถ้อยคำรัก
กล..ทอถักถักทอต่อเกื้อหนุน
กล..เคียงคู่คู่เคียงเรียงละมุน
กล..หวานอุ่นอุ่นหวานสาส์นแห่งกล

กานท์..สมงามงามสมชมขีดเขียน
กานท์..ร่ำเรียนเรียนร่ำชำนาญผล
กานท์..ศาสตร์ศิลป์ศิลป์ศาสตร์วาดกมล
กานท์..ยินยลยลยินจินต์แห่งกานท์

กลอน..บทเพลงเพลงบทพจน์เศร้าโศก
กลอน..โบยโบกโบกโบยโปรยประสาน
กลอน..เดียวดายดายเดียวเทียวจดจาร
กลอน..ขับขานขานขับศัพท์แห่งกลอน

ร้อย..เล่าเรื่องเรื่องเล่าเจ้าคมยิ่ง
ร้อย..เพริศพริ้งพริ้งเพริศเลิศอักษร
ร้อย..ส่งเสียงเสียงส่งลงสุนทร
ร้อย..งามงอนงอนงามความแห่งร้อย

รัก..เอื้อนเอยเอยเอื้อนเพื่อนพี่น้อง
รัก..เราสองสองเราเฝ้าเอื้อมสอย
รัก..คืนค่ำค่ำคืนตื่นรอคอย
รัก..แช่มช้อยช้อยแช่มแต้มแห่งรัก

หทัยกาญจน์
๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔
 เคารพรัก


ยิ้มหน้าใส กลบทรักร้อย
ให้มีคำซ้ำกันหนึ่งคู่ อยู่ชิดกันภายในวรรค


ดูเดียวดายดึงดัน ทุกวันผ่าน
นั่งนอนนานนับเนื่อง ด้วยเรื่องหลัก
คนเคยคู่เคียงครอง ร่ำร้องนัก
จำใจจักจริงจัง ไม่ลังเล

เห็นห่วงหาโหยไห้ พิไรร่ำ
นิ่งนานนำนุ่มนาง เกินห่างเห
สงสารสาวสมสอง ต้องพังเพ
รักรวนเรรุ่มร้อน บังอรครวญ

เจียมใจจิตจดจ้อง ประคองค่า
ในเนื้อนานางนำ พร่ำสงวน
คงคู่ครองเคียงคำ นำสำนวน
อันอบอวลอิ่มอาบ ทุกคราบครา

คิดคงค้างคืนคอย อย่างหงอยเศร้า
ฝันฝากเฝ้าฝักใฝ่ ให้โหยหา
หวั่นหวาดไหวหวิวหวาด ขาดกานดา
น้ำนองหน้านี้แน่ หากแพ้พาล

เมื่อมองเมินไม่มอง ให้ร้องบอก
กลิ้งกลับกลอกเกลื่อนกล้ำ จากคำขาน
อย่าหยิกหยอกอย่างอยาก กากน้ำตาล
ทุกข์ทนทานท้าทาย สลายใจ

จงจริงจังจริงจิต สนิทแน่น
ความคลอนแคลนเคลื่อนคำ ทำหวั่นไหว
อวลอบอุ่นโอบเอื้อ เมื่อมีใจ
นิ่งนานในเนื้อนา ชั่วฟ้าดิน

"บ้านริมโขง"
๒ ธันวาคม ๒๕๕๔


ยิ้มหน้าใส กลบทเบญจวรรณห้าสี  ยิ้มให้จ้ะ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ♥หทัยกาญจน์♥, panthong.kh, ไพร พนาวัลย์, Thammada, บูรพาท่าพระจันทร์, รพีกาญจน์, ..กุสุมา.., พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

02 ธันวาคม 2011, 03:31:AM
บ้านริมโขง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 869
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,026



« ตอบ #19 เมื่อ: 02 ธันวาคม 2011, 03:31:AM »
ชุมชนชุมชน

ตบมือให้ ตบมือให้ ตบมือให้

กานท์คู่กล
    กลคู่กานท์.. เหมืิอนต้องมนต์ยลเดียวดาย
กลคู่กราย.. ร้อยคมคำฉ่ำสุกใส
สนิทสมชมชิดเชื้อ..เอื้ออุ่นไอ
สนิทใจกูลก่อเกื้อ..เอื้ออุ่นอวล

เป็นแบบอย่าง..วางแวววรรณสรรประพฤติ
เป็นแบบยึด..กรองคำย้อมให้หอมหวน
สำเนียงหวานซ่านซาบซึ้ง..คะนึงนวล
สำเนียงครวญติดตราตรึง..คะนึงนาย

หอมไอดิน..ไม่สุดสิ้นรินเรื่องราว
หอมไอดาว..เอื้อมสอยสาวพราวแสงฉาย
ประโลมหล้าฟ้าสล้าง..พร่างแพรวพราย
ประทิ่นอายกวีแก้ว..พร่างแพรวพรรณ

คู่กานท์ไทย..ร้อยรสหวามงามผุดผ่อง
คู่กานท์ทอง..ล้อต่อคำนำสุขสันต์
หยิกหยอกเอินเพลินคำกรอง..กระทบกัน
งามเฉิดฉันด้นดั้นกลอน..กระทบกล

เจริญแรง..แสงมุ่งมั่นฟั่นเกลียวกลม
เจริญรมย์..หล่อหลอมพร้อมฝึกฝน
พลาดพลั้งผิดพากเพียรแก้..ได้ตื่นตน
น้อมดวงมนตรึกตรองไว้..ได้ตื่นตัว.

ด้วยรักและชื่นชมคู่ขวัญ
.Peepoonsuk..


                                                               
ด้วยซาบซึ้ง ถึงวจีที่เอ่ยขาน
ด้วยซาบซ่าน ฤทัยไม่สลัว
มีหนึ่งซึ้งตรึงค่า...พารื่นรัว
มีหนึ่งขั้วตัวตื่น...พารื่นรมย์

ซึ้งน้ำใจ..ในครูผู้รู้ศิษย์
ซึ้งน้ำจิต..ร่วมกันวันสุขสม
ไม่มองผ่านการณ์ใด..ใฝ่นิยม
มาชื่นชมคมไข...ใฝ่นิยาม

ด้วยเพราะรัก...สลักคำนำมาเขียน
ด้วยเพราะเรียน...แบบแผนแดนสยาม
ปราชญ์กวีจารสลัก...ปักนิยาม
จึงล้นหลามตามตัก...ปักนิยม

อาจไม่ดี...ดังใจที่ได้เห็น
อาจไม่เด่น...เท่าใดทำให้ขม
มอบดวงจิตคิดสร้าง....วางรื่นรมย์
มอบสุขสมทุกอย่าง...วางรื่นรวย.

"บ้านริมโขง"


ขอบคุณครับ  เคารพรัก
                                   
                                                   

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ♥หทัยกาญจน์♥, panthong.kh, Thammada, รัตนาวดี, บูรพาท่าพระจันทร์, รพีกาญจน์, ..กุสุมา.., พี.พูนสุข, อริญชย์, ไพร พนาวัลย์

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หน้า: [1] 2
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s