สัตตะฤกษ์เบิกฟ้าตำราอ้าง
หนาวเหน็บคว้างร่างกายสลายฝัน
เป็นความเหงาเข้ารุมเหมือนสุมควัน
ให้โลกันตร์บั่นทอนถอนจิตใจ
วันจันทร์หนาวราวเทือกเป็นเยือกน้ำ
ที่แข็งย้ำซ้ำอกถึงฟกไหม้
เส้นเลือดตีบบีบแน่นถึงแก่นใน
เจ็บเจียนใกล้ไฟเพลิงในเชิงเทียน
วันอังคารมานดับหนาวจับจิต
เป็นชีวิตทิศร่วงยังห่วงเศียร
สัปดลบนโลกวิโยคเวียน
ที่โล่งเตียนเปลี่ยนสุขคือทุกข์จินต์
ถึงวันพุธกุดหัวเอาชั่วออก
โลหิตซอกแซมพุ่งให้ฟุ้งกลิ่น
จึงหนาวเลือดเหือดร่างเมื่อห่างดิน
สลดสิ้นสูญสาปในคราบคาว
วันพฤหัสบดีชีวีช้ำ
นั่งกลืนกล้ำดำหัวจนตัวหนาว
เกศาโรยโปรยถ่วงร่วงระนาว
มิยืนยาวขาวล้ำเหมือนสำลี
วันศุกร์เศร้าเหงาโศกทำโลกเปลี่ยน
จนอาเจียนเวียนหัวเหมือนกลัวผี
หนาวตับไตไขข้อก็ไม่ดี
ซ้ำไม่มีที่พักพำนักกาย
วันเสาร์วนหม่นใจใกล้หยุดนิ่ง
ความหนาววิ่งสิงในจึงไม่หาย
เย็นยะเยือกเลือกยากซากเดียวดาย
ลำบากคล้ายวายปราณในม่านตรม
วันอาทิตย์ริดรอนร่างอ่อนน่วม
หัวใจอ่วมท่วมทุกข์ยุคขื่นขม
หนาวเสียบคอจ่อหาพยายม
หมดอารมณ์ปมเหงาเล่าเป็นกลอน
บัณฑิตเมืองสิงห์