๐สตรีอัปลักษณ์๐
๐หนังก็หนา* ตาก็โบ๋* “นางโม๋หมู่”
แต่เป็นผู้มีคุณธรรมอันสูงส่ง
สติปัญญาเลอล้ำช่วยดำรง
ได้เคียงองค์จักรพรรดิประวัติมี
๐ดั้งก็หัก* ตาก็ตี่* “จง หลี ชุน”
แต่มีทุนคือปัญญาเสริมราศี
กราบทูลบอกแนวทางได้อย่างดี
ฮ่องเต้ฉีจึงคว้าเอามาครอง
๐ปากก็เบี้ยว* ผมยุ่งเหยิง* “นางเมิ่งกวง”
ชายทั้งปวงหนีหาย ไม่หมายจ้อง
แต่นางมีคุณธรรม ไม่ลำพอง
“เหลียงหง” ปอง นางนี้เพราะดีนาง
“หย่วนเจียหนี่” สุดจะอัปลักษณ์
แต่ยึดหลักธรรมไว้ อยู่ไม่ห่าง
ด้วยความดี มีน้ำใจ อยู่ไม่จาง
สุดท้ายทาง “สวี่หยิน” ก็ยินดี! ฯ
อริญชย์
๒๐/๑๑/๒๕๕๔
*เป็นเพียงจินตนาการของการแต่งบทกลอน แต่สรุปก็คือ "ขี้เหร่" นั่นเองจ้ะประวัติศาสตร์จีน: สตรีที่อัปลักษณ์ในประวัติศาสตร์จีน
Submitted by chinesewang on Sat, 04/23/2011 - 19:39 ประวัติศาสตร์จีน: สตรีที่อัปลักษณ์ในประวัติศาสตร์จีน 中国历史:历史上的四大丑女
โม๋หมู่嫫母(Mómǔ)
ในอดีตกาลประมาณ5,000ปีในสมัยองค์จักรพรรดิหวงตี้มีสตรีคนหนึ่งนามว่าโม๋หมู่嫫母(Mómǔ)และเป็นถึงนางสนมอันดับสี่ของจักรพรรดิหวงตี้ ตามคำเล่าลือว่ากันว่าโม๋หมู่มีหน้าตาอัปลักษณ์ยิ่งนัก แต่เพราะเหตุใดนางจึงเป็นถึงสนมขององค์จักรพรรดิได้ อันที่จริงแล้วเป็นเพราะโม๋หมู่เป็นคนที่ประพฤติตัวดีมีคุณธรรมสูงส่ง สติปัญญาหลักแหลมและถือเป็นแบบอย่างของสตรีที่ดีนั่นเอง โดยจะให้การอบรมสั่งสอนด้านจริยธรรมและการประพฤติปฏิบัติตนให้แก่สตรีทั้งหลาย อีกทั้งยังเป็นผู้คิดค้นการเลี้ยงไหมและการทักผ้าไหมแทนเครื่องนุ่งห่มที่ทำมาจากพืชต่างๆอีกด้วย จนได้รับฉายานามว่า “เซียนฉานกูเหนียง” “先蚕姑娘”(Xiān Cán Gūniáng)
จง หลีชุน锺离春(Zhōng Líchūn)
มีสำนวนจีนที่ว่า貌似无盐(mào sì wú yán)ซึ่งใช้อุปมาถึงผู้หญิงที่มีหน้าตาอัปลักษณ์ สำนวนดังกล่าวมีที่มาจากการที่จง หลีชุน锺离春(Zhōng Líchūn)เป็นหญิงหน้าตาอัปลักษณ์คนหนึ่งเกิดที่อำเภอ无盐(Wúyán) รัฐฉี齐国(Qíguó) ในสมัยจั้นกว๋อ战国(Zhànguó)นั่นเอง
บิดาของจง หลีชุนเคยรับราชการทหารในสังกัดรัฐฉี ดังนั้นจึงได้ฝึกฝนศิลปะการป้องกันตัวแก่จง หลีชุน และบุตรทั้งหลาย จนมีความชำนาญและสามารถป้องกันตัวได้ดี และด้วยการที่จง หลีชุนเป็นผู้ที่มีความรักและห่วงใยต่อการบริหารประเทศชาติ จึงยอมไม่ได้ที่จะเห็นรัฐฉีของตนถูกรุกรานจากรัฐอื่น ซึ่งในช่วงนั้นถือเป็นช่วงที่ประชาชนตกยากแสนเข็ญ ระบบการเมืองการปกครองล้มเหลว ฮ่องเต้แห่งรัฐฉีไม่เอาใจใส่ต่อกิจของบ้านเมือง จง หลีชุนจึงได้ลักลอบเข้าเฝ้าองค์ฮ่องเต้เพื่อกราบทูลสถานการณ์บ้านเมืองที่อยู่ในขั้นวิกฤต และขอให้ฮ่องเต้ให้ทรงแก้ไขปรับปรุงโดยด่วน ซึ่งในเวลาต่อมาฮ่องเต้ทรงได้ให้จง หลีชุนช่วยเหลือพระองค์และแต่งตั้งให้เป็นไทเฮาในเวลาต่อมา
เมิ่งกวง孟光(Mèng Guāng)
เมิ่งกวง孟光(Mèng Guāng)เกิดในสมัยฮั่นตะวันออก มีรูปอวบอ้วนและผิวดำ บรรดาแม่สื่อก็พยายามแนะนำบุรุษที่ดีให้ แต่เมิ่งกวงกลับเพิกเฉยและกล่าวว่าชีวิตนี้จะไม่ยอมแต่งงานกับใครนอกจาก เหลียงหง梁鸿(liáng hóng)ผู้เดียวเท่านั้น และเป็นเรื่องขบขันของผู้ที่ทราบเรื่องนี้ เหลียงหงเป็นผู้ที่มีความรู้ บุคคลิกสง่าผ่าเผย เป็นที่ชื่นชมของเหล่าสตรีทั่วไป บรรดาพ่อแม่ที่มีชาติตระกูลต่างก็อยากมาได้เป็นลูกเขยแทบทั้งสิ้น
ถึงแม้ว่าเหลียงหงจะมีความรู้ความสามารถแต่ก็ไม่สนใจที่จะรับราชการแต่อย่างใด และสิ่งที่เหลือเชื่อก็คือการที่เหลียงหงตัดสินใจแต่งงานกับเมิ่งกวง เพราะได้เห็นถึงความมีคุณธรรมและการปฏิบัติตนที่ดีของเมิ่งกวงนั่นเอง หลังจากที่ทั้งคู่แต่งงานก็ได้ไปตั้งถิ่นฐานที่อู๋ตี้吴地(wú dì)ซึ่งปัจจุบันคือเมืองซูโจว ทั้งสองครองรักด้วยการให้เกียรติและเคารพซึ่งกันและกัน ว่ากันว่าเมิ่งกวงจะเตรียมอาหารให้เหลียงหงทุกเช้า และเมื่อเลิกงานกลับถึงบ้านเมิ่งกวงก็จะจัดเตรียมอาหารและประคองจานข้าวสองมือยกสูงระดับคิ้วยื่นให้แก่เหลียงหง จนภายหลังเป็นสำนวนที่ว่า举案齐眉(jǔ àn qí méi) ซึ่งใช้ในการอุปมาถึงสามีภรรยาที่รักและให้เกียรติซึ่งกันและกัน
หย่วนเจียหนี่阮家女(Ruǎn Jiā Nǚ)
ว่ากันว่าหย่วนเจียหนี่阮家女(Ruǎn Jiā Nǚ)เป็นสตรีที่มีหน้าตาอัปลักษณ์มากที่สุด เกิดในสมัยจิ้นตะวันออกหรือตงจิ้น มีเหตุการณ์ครั้งหนึ่งในวันแต่งงานของหย่วนเจียหนี่ ฝ่ายเจ้าบ่าวที่มีนามว่าสวี่หยิน许允(xǔ yǔn)เป็นบุคคคลที่มีชื่อเสียงขณะนั้น หลังจากที่ทำพิธีแต่งงานต่างๆเสร็จสิ้นก็จะเป็นการส่งเข้าเรือนหอ ในระหว่างที่สวี่หยินเปิดผ้าคลุมหน้านั้นก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อได้เห็นหน้าตาอันอัปลักษณ์ของหย่วนเจียหนี่ โดยวิ่งหนีออกจากห้องหอ ทางญาติๆต่างก็ช่วยกับปลอบประโลมและกล่าวกับสวี่หยินว่า อย่าดูแต่รูปลักษณ์ภายนอกของหย่วนเจียหนี่ จะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการประพฤติตัวและการมีความรู้เป็นสำคัญ และเมื่อสวี่หยินกลับเข้าไปในห้องหออีกครั้งก็ยังรู้สึกหวาดกลัว ขณะนั้นทางหย่วนเจีย หนี่จึงได้กล่าวขึ้นว่าผู้หญิงที่ดีจะต้องมีพร้อม4ประการ อันตัวข้านั้นขาดเพียงหนึ่งสิ่งนั่นก็คือความสวยงาม ส่วนตัวท่านละที่เป็นถึงบัณฑิตซึ่งจะต้องยึดปฏิบัติหลักคุณธรรมบัณฑิต100ประการ ท่านปฏิบัติอยู่หรือไม่ ทางสวี่หยินตอบอย่างไม่ลังเลว่า ข้านั้นยึดปฏิบัติครบทุกประการ หย่วนเจียหนี่จึงได้ตอบกลับว่า ตามที่ข้าทราบนั้นจะต้องให้ความสำคัญเรื่องความมีคุณธรรมเป็นสิ่งแรกไม่ใช่รึ แต่สิ่งที่ข้าเห็นในตอนนี้นั้นกลับไม่เป็นดั่งเช่นที่พูด สวี่หยินรู้สึกว่าหย่วนเจียหนี่คงไม่ใช่สตรีธรรมดาจึงได้ยอมอยู่กินฉันสามีภรรยา และภายหลังจึงได้ค้นพบความมีคุณธรรมของหย่วนเจียหนี่และครองรักกันจนแก่จนเถ้า
Tags:
บทความรู้จีน ประวัติศาสตร์จีน
http://www.chinesebkk.com/chinese-article/china-history/ugly-women-in-chinese-history