กวีชาวบ้าน
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
22 พฤศจิกายน 2024, 09:55:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กวีชาวบ้าน  (อ่าน 16765 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
10 พฤศจิกายน 2011, 03:53:PM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2011, 03:53:PM »
ชุมชนชุมชน

          ปราชญ์ชาวบ้าน

ปราชญ์ชาวบ้าน  แดนไพร  ถิ่นไทยกว้าง
เป็นอยู่อย่าง  เพียงพอ  ตามพ่อสอน
เลี้ยงปลา   เลี้ยงเป็ด ไก่    เลี้ยงสุกร
ผักบ้านดอนตามสวน เย้ายวนตา

เหลาไม้ไผ่  จักสาน  แบบบ้านทุ่ง
ข้อง  กระบุง  ไซ  กระด้ง  กะต่า  (กะต่า:ตระกร้าใบใหญ่สำหรับใส่ของ   อีสาน)
พัดไม้  กระติบข้าวเหนียวชาวนา
สานเป็นฝาไผ่ล้อมกระท่อมไพร

งานวัด-บ้าน คนมัก เชิญนักปราชญ์
คอยอาราธนานำ ศีลธรรมไว้
ทำขวัญนาค สะเดาะเคราะห์ เชิญก็ไป
ชาวบ้านให้เกียรติปราชญ์สามารถดี

สมุนไพรธรรมชาติท่านปราชญ์รู้
ชี้ให้ดู  อย่างโน้นบ้าง  เป็นอย่างนี้
ประสบการณ์ผ่านมาบรรดามี
บอกวิธี  ลึกล้ำ ธรรมชาติ

ปราชญ์ชาวบ้านทางหนึ่งที่พึ่งได้   (ได้=ด้าย)
คนมากมายถามไถ่อยู่ไม่ขาด
ป.๔  แต่  รู้อะไร มักไม่พลาด
วิชาอาจเทียบค่าปริญญาชน!ฯ


                     อริญชย์: "แข็งทื่อดุจค้อนทั่ง"
               ๑๐/๑๑/๒๕๕๔



ปล.ยังไม่ลืมความเป็นเรา อิอิ 








 เธอนั่นแหละจ้ะ เต้นบัลเลย์ เธอนั่นแหละจ้ะ




ไซ (อุปกรณ์จับปลา)จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
สำหรับความหมายอื่น ดูที่ ไซ (แก้ความกำกวม)
ไซ เป็นเครื่องมือดักสัตว์น้ำ โดยมากดักปลาในกลุ่มปลาเล็กปลาน้อย ใช้งานในแหล่งน้ำ

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%8B_(%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2)

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, พี.พูนสุข, ♥หทัยกาญจน์♥, เมฆา..., ...สียะตรา.., ตะวันฉาย, Design with love ᵔᴥᵔ, สุนันยา, บ้านริมโขง, กามนิต, รพีกาญจน์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, Thammada, รัตนาวดี, เอ๊พ, สมนึก นพ, บูรพาท่าพระจันทร์, กาญจนธโร, ไม่รู้ใจ, คนกันเอง.., สิงขร

ข้อความนี้ มี 21 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
10 พฤศจิกายน 2011, 04:16:PM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« ตอบ #1 เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2011, 04:16:PM »
ชุมชนชุมชน

แม่หาบกะต่าสองบ่าด้าน   
เปลี่ยนข้างไม้คานสองด้านบ่า
ทุกเช้าค่ำย่ำเทียวทางไปนา   
ฤดูกาลผ่านมาได้ผ่านไป

คือกะต่าชะตากรรมสัมภาระ   
คือพันธะที่หน่วงหนักที่รักใคร่
อุทิศทั้งชีวิตและจิตใจ   
เลี้ยงลูกจนเติบใหญ่ได้เป็นคน

ได้เป็นคน จนปีกกล้าจนขาแข็ง   
ไปแสวงแสงสว่างในต่างหน
ความใฝ่ฝันซึ่งไกลมากจากบ้านตน 
ปล่อยให้แม่จ้ำป่นอยู่คนเดียว

 (บทกวีภาพของแม่:บุญยศักดิ์  ทองน้อย  )

http://www.oknation.net/blog/theManOfTomorrow/2011/01/08/entry-1


เคยลงมติชนสุดสัปดาห์เมื่อประมาณปี ๒๕๔๐

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เมฆา..., พี.พูนสุข, ...สียะตรา.., สุนันยา, บ้านริมโขง, กามนิต, เพรางาย, รพีกาญจน์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, Thammada, รัตนาวดี, สมนึก นพ, บูรพาท่าพระจันทร์, ♥หทัยกาญจน์♥, กาญจนธโร, ไม่รู้ใจ, panthong.kh, คนกันเอง..

ข้อความนี้ มี 18 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
12 พฤศจิกายน 2011, 01:16:PM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« ตอบ #2 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2011, 01:16:PM »
ชุมชนชุมชน

  ๐เพลินใจไผ่ครวญ๐

๐ลำนำเพลงอัคนีเสียดสีไผ่
ลมพัดไล้ไผ่ลั่นรำพันผ่าน
พรายรุ้งพราววาววับระยับธาร
เรไรขานขับกล่อมกระท่อมไพร

๐สิ้นฤดูวสันต์ เหมันต์ย่าง
ยินครวญครางดั่งตรมอารมณ์ไผ่
ให้ข้าคำนึงหม่นถึงคนไกล
อยู่หนใด ไยจางรักร้างลา

หรือลืมคำที่เคยเฉลยหวาน
ฝากกลอนกานท์กล่อมเห่สิเนหา
ประหนึ่งรอยจุมพิตก่อนนิทรา
เพียงหลับตายาพิษพลันปลิดปลง..

ฟังไผ่อ้อนคล้ายเอ่ยเฉลยเศร้า
พลันกลิ่นเผาไหม้ฉุยคล้ายผุยผง
แทรกซึมเสียงไผ่บ้านนาพาพะวง
แท้เพลิงส่งข้าวหลามเผาเป็นเถ้าเลย! ฯ
     
                       อริญชย์:ข้าวเอ๋ยข้าวหลาม
                          ๑๒/๑๑/๒๕๕๔




 เต้นบัลเลย์ เธอนั่นแหละจ้ะ เต้นบัลเลย์



ปล.มิอาจลืมความเป็นเรา 

การเผาข้าวหลาม ดูตามนี้จ้ะ

http://www.chiangmainews.co.th/page/?p=13526


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เมฆา..., victoria's secret, พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, สุนันยา, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ...สียะตรา.., Thammada, สมนึก นพ, บ้านริมโขง, บูรพาท่าพระจันทร์, ♥หทัยกาญจน์♥, กาญจนธโร, ไม่รู้ใจ, panthong.kh, รัตนาวดี, คนกันเอง.., สิงขร

ข้อความนี้ มี 18 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
12 พฤศจิกายน 2011, 05:46:PM
สุนันยา
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 799
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,805


ความรักของฉัน อยู่ในบทวี จบบทกวี ก็ไม่มีความรัก


« ตอบ #3 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2011, 05:46:PM »
ชุมชนชุมชน

ยินเสียงพลิ้ว แผ่วหวาน ที่ขานขับ
สร้อยสดับ ลำนำ เมื่อยามเผย
ลมพัดหวน ทวนซ้ำ นำเปรียบเปรย
โอ้ไผ่เอย เบียดกอ ดังอ้ออี

หวิวแว่วไกล คล้ายเพลงบรรเลงกล่อม
พร้อมกลิ่นหอม ลอยเคล้า เย้าสุขศรี
เดินตามกลิ่น ไออวน ป่วนฤดี
ที่แท้มี ข้าวหลาม ทำยั่ว(น้ำลาย)เรา งอนแล้วด้วย

"สุนันยา"


ตั้งใจจะหวานซะหน่อย สะดุดข้าวหลาม
หวานไม่ออกเลย  ขำแบบกระแดะหน่อยๆ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, รพีกาญจน์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, พี.พูนสุข, ...สียะตรา.., Thammada, รัตนาวดี, สมนึก นพ, บ้านริมโขง, บูรพาท่าพระจันทร์, ♥หทัยกาญจน์♥, กาญจนธโร, ไม่รู้ใจ, panthong.kh, คนกันเอง.., สิงขร

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ชะตาชีวิต ลิขิตผกผัน....ดิ้นรนฝ่าฟัน..เพื่อฝันที่มี
24 พฤศจิกายน 2011, 11:12:AM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« ตอบ #4 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2011, 11:12:AM »
ชุมชนชุมชน

    ๐โสนน้อยเหลืองงาม๐

๐ดอกโสนเหลืองทองริมคลองน้ำ
ยังสวยงามสดใสพลิ้วไหวก้าน
หมู่แมลงต่างมองหมายต้องการ
เคล้าน้ำหวานจากเจ้าทุกเช้า-เย็น

๐ไม่งามแบบดอกฟ้าเมืองสวรรค์
แต่เฉิดฉันริมนทีราศีเด่น
งามธรรมชาติบางเบาดั่งเจ้าเป็น
แต่แฝงเร้นคุณค่าให้น่ามอง

๐เจ้าไม่มีสิทธิ์แม้ปักแจกัน
แม้ในฝันเจ้าก็ไม่ถูกยกย่อง
ทุกเช้า-ค่ำบานปริ่มอยู่ริมคลอง
สีเหลืองทองตระการที่บ้านนา

๐แต่เจ้าเปี่ยมด้วยคุณค่ามหาศาล
คนต้องการทำขนมนิยมค่า
ไม่สูงส่งดั่งดอกไม้ละไมตา
เจ้ายังมาเป็นอาหารน่าทานเอย!ฯ

                    อริญชย์
            ๑๐/๙/ ๒๕๕๓

<iframe title="YouTube video player" class="youtube-player" type="text/html" width="480" height="390"src="
<a href="http://www.youtube.com/v/znECNHbZGIA&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/znECNHbZGIA&amp;rel=0&amp;fs=1</a>
" frameborder="0"></iframe>



 เต้นบัลเลย์ เธอนั่นแหละจ้ะ เต้นบัลเลย์

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Prapacarn ❀, ยามพระอาทิตย์อัสดง, พี.พูนสุข, ...สียะตรา.., พ่อค้าพเนจร, Thammada, รพีกาญจน์, รัตนาวดี, สมนึก นพ, บ้านริมโขง, บูรพาท่าพระจันทร์, ♥หทัยกาญจน์♥, สุนันยา, กาญจนธโร, ไม่รู้ใจ, panthong.kh, สิงขร

ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
25 พฤศจิกายน 2011, 03:44:PM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« ตอบ #5 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2011, 03:44:PM »
ชุมชนชุมชน

      ๐ท้องถิ่นไทย๐

๐วิถีไทยครรลองคนท้องถิ่น
ศาสตร์และศิลป์เฉิดฉันในวันผ่าน
สุภาษิต ดนตรี คำนิทาน
เครื่องจักสานสร้างชื่อเลื่องลือไกล

๐โอ่งอ่างไหงามศิลป์ปั้นดินเผา
เกวียนเล่มเก่า ไม้กวาด แอก คราด ไถ
อาหารจากป่าเขาลำเนาไพร
น้ำสวยใสจากบ่อมากพอเพียง

๐เลี้ยงเป็ดไก่สุกรปล่อยจรทุ่ง
หอยปลากุ้งตามคลองไม่ต้องเลี้ยง
พืชผักสวนยวนตาบุปผาเคียง
เจื้อยแจ้วเสียงสุขสันต์นกบรรเลง

๐คนท้องถิ่นมากมีไมตรีจิต
ต่างรวมมิตรชาวบ้านช่วยงานเก่ง
ร่วมผิงไฟ สุขล้ำ ร้องรำเพลง
ใจยำเกรงธรรมชาติที่อาจมี

๐สิ่งยึดเหนี่ยวมีไว้หลากหลายอย่าง
ทั้งแนวทางธรรมพุทธและภูตผี
อนุรักษ์ทำเนียมประเพณี
ไร้เทคโนฯก็มีสุขีเอย !ฯ

                   อริญชย์
             ๒๖/๖/๒๕๕๒




 เธอนั่นแหละจ้ะ เต้นบัลเลย์ เธอนั่นแหละจ้ะ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Prapacarn ❀, รัตนาวดี, พี.พูนสุข, ยามพระอาทิตย์อัสดง, Thammada, สมนึก นพ, รพีกาญจน์, บ้านริมโขง, บูรพาท่าพระจันทร์, ♥หทัยกาญจน์♥, สุนันยา, กาญจนธโร, ไม่รู้ใจ, คนกันเอง..

ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
10 ธันวาคม 2011, 02:57:PM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« ตอบ #6 เมื่อ: 10 ธันวาคม 2011, 02:57:PM »
ชุมชนชุมชน

    ๐เสาวรส รสหอมหวาน๐

๐ “เสาวรส” สุกหวานเปรี้ยวทานง่าย
เป็นพันธุ์ไม้เถาเลื้อยยาวเฟื้อยทั่ว
ปลูกตามโคนต้นไม้นั้น ขึ้นพันพัว
หรือตามรั้วหน้าบ้านทนทานดี

๐หลายพันธุ์ผลสุกมีสีเหลืองม่วง
ห้อยเป็นยวงเรียงรายอยู่หลายที่
เป็นของว่างขึ้นจานให้ทานฟรี
รสชาตินี่ หอมหวนรัญจวนใจ

๐สรรพคุณพฤกษาเป็นยาด้วย
ลูกกลมสวยดูไปกลมคล้ายไข่
ทานบำรุงสายตา นิรามัย
มีกากใยเสริมค่าโภชนาการ

๐ราวหนึ่งปีปลูกไว้จึงให้ผล
เพื่อให้คนชิมรสสุกสดหวาน
เป็นเถาวัลย์ยาวยื่นอยู่ยืนนาน
ดอกงามบานพร่าตายั่วแมลง

๐หลายคนชอบติดตามซื้อถามหา
คนบ้านนาปลูกไว้อยู่หลายแห่ง
น้ำเสาวรส สินค้า  ดีมาแรง
ขายไม่แพง ซื้อดื่ม จะปลื้มเอย ฯ

                         “ อริญชย์”:กวีชาวบ้าน

ปล.  ๑๐ กว่าปีมานี่ ทางอีสานก็ปลูกกันมาก แต่เป็นพันธุ์สีเหลือง เปรี้ยวนิด ๆ ทานสด ๆ ก็ได้ (ทั้งเมล็ดเลย ไม่เป็นอันตราย) ทำน้ำปั่นก็ได้


ข้อมูลเพิ่มเติม



http://www.raisuknirundorn.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539117296&Ntype=5
 
   
เป็นไม้เลื้อยเนื้อแข็งขนาดเล็ก อายุหลายปี อาจปลูกเป็นไม้ริมรั้วหรือทำค้าง หรือซุ้มให้เลื้อยพันก็ได้ ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเวียนสลับ เป็นพู 3 พู ปลายพูแหลม โคนใบมน ขอบใบเป็นจัก แผ่นใบสีเขียวอ่อน
________________________________________
   
ดอกเป็นดอกเดี่ยวเส้นผ่าศูนย์กลางดอก 6-8 เซนติเมตร กลีบเลี้ยงและกลีบดอกสีขาวหรือสีเขียว กลีบรูปรี มีรยางค์เรียงเป็นวง สีขาวปลายม่วง มีดอกตลอดปี ออกผลเป็นลูกกลมรีแบบไข่ฟองใหญ่ เปลือกเรียบมีสีเขียว ผิวเป็นมัน  เมื่อสุกเปลือกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง บางพันธุ์ก็เป็นสีม่วง หรือ ไม่ก็มีสีผสมกันระหว่างสีแดงกับสีทอง
________________________________________
 ภายในผลมีลักษณะคล้ายรวงผึ้งเต็มไปด้วยเมล็ดและเนื้อสีเหลืองอมเขียว มีน้ำเยอะ รสเปรี้ยวจัด ในบางผลที่เนื้อมีสีส้มอมแดง รสจะหวานมีกลิ่นหอม
 
________________________________________
 
 การดื่มน้ำเสาวรสเป็นประจำทุกวันจะดีต่อสุขภาพตา ทำให้การมองเห็นชัดเจน เพราะในเสาวรสมีวิตามินเอสูง นอกจากนี้ยังช่วยรักษาอาการนอนไม่หลับ รักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ รสเปรี้ยวของเสาวรสยังช่วยลดอาการเจ็บคอ สร้างภูมิคุ้มกันโรค กำจัดสารพิษในเลือด บำรุงผิวพรรณ และช่วยฟื้นฟูตับและไตที่อ่อนแอ แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องน้ำตาลในเลือดไม่ควรดื่มมาก เพราะน้ำเสาวรสมีน้ำตาลอยู่ในปริมาณสูง
การซื้อเสาวรส ให้เลือกลูกที่เริ่มสุก เปลือกจะมีสีเหลือง เปลือกเต่งตึง ไม่เหี่ยว  จะมีให้เลือกซื้อทั้งลูกใหญ่ ลูกกลาง ลูกเล็ก ราคาขึ้นอยู่กับขนาด ถ้าลูกใหญ่ก็แพงหน่อย เพราะเนื้อเยอะแล้วยังสามารถตักกินได้ง่ายด้วย เมื่อซื้อมาควรกินหรือทำน้ำผลไม้ดื่มเลย ถ้าทิ้งไว้หลายวันเปลือกจะเหี่ยว เนื้อและเมล็ดจะหายไป กลิ่นรสก็เปลี่ยนไปด้วย
การทำน้ำเสาวรสต้องใช้เครื่องปั่น เพราะเสาวรสมีเมล็ดเยอะ เมล็ดมีขนาดเล็กเวลาปั่นต้องผสมน้ำลงไปด้วย เพื่อลดความเข้มข้น ใช้อัตราส่วนเสาวรส 1 ผลกลาง ปั่นกับน้ำ 1-2 แก้ว
 
เสาวรสยังมีคุณค่าทางสมุนไพร คือผลนั้นคนโบราณใช้แก้ปวด บำรุงปอด ใบสดนั้นใช้พอกแก้หิด ดอกใช้ขับเสมหะ แก้ไอ แต่ทั้งต้นสด มีสารพิษคือ สาร cyanogenetic glycoside หากอยู่ ๆ เด็ดเถาต้นสดเข้าปกาเคี้ยวเล่น ก็อาจถึงตายเชียว อย่าทำเป็นเล่นไป คอยให้ออกผลมากินให้ชื่นใจดีกว่า

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
1. นิตยสาร "ครัว" ปีที่ 6 ฉบับที่ 64 ตุลาคม 2542
2. วราภรณ์ วิชญรัฐ, ไม้เลื้อยกินได้, สุรีวิยาสาส์น กรุ




 เธอนั่นแหละจ้ะ อายจัง เธอนั่นแหละจ้ะ


             


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, Prapacarn ❀, บูรพาท่าพระจันทร์, ♥หทัยกาญจน์♥, สุนันยา, Thammada, กาญจนธโร, ไม่รู้ใจ, คนกันเอง..

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
17 ธันวาคม 2011, 05:55:PM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« ตอบ #7 เมื่อ: 17 ธันวาคม 2011, 05:55:PM »
ชุมชนชุมชน

        ๐ไม่มีแล้วเสียงตีข้าว๐

๐ตีเมล็ดข้าวลงลานที่บ้านทุ่ง
กลิ่นฟางฟุ้งพร่างพรมรับลมหนาว
ค่ำถึงดึกจันทร์ดาราแจ่มฟ้าพราว
ใกล้รุ่งเช้าก็กึกก้องทั่วท้องนา

๐เป็นวิถีท้องทุ่งไทยสมัยเก่า
หลังเกี่ยวข้าวรวงทองมากองหนา
ก็วานมิตรชิดใกล้ร่วมใจมา
กินข้าวปลาก่อนแล้วเฮาตีข้าวกัน

๐เสียงฟ่อนข้าวยามดึกดังตึกตัก
เหนื่อยก็พักสนทนาเฮฮาลั่น
มีน้ำดื่มจากกานดายื่นมาพลัน
นัยน์ตาฝันหนุ่ม-สาวจ้องพราวพราย

๐วิทยุบรรเลงบทเพลงหวาน
ลูกทุ่งซ่านซึ้งจิตมิตรสหาย
เสียงตีข้าวเป็นระยะดังประปราย
ไม่นานได้กองข้าวสูงเท่าตัว

๐ปัจจุบัน ตีข้าวนี้ไม่มีแล้ว
ไร้วี่แววงานก้องกึกระทึกทั่ว
มีเพียงเสียงรถปั่นสั่นระรัว
ดังน่ากลัว ไม่สุขสันต์เช่นวันวาน ! ฯ

                        อริญชย์
                  ๑๗/๑๒/๒๕๕๔


<iframe title="YouTube video player" class="youtube-player" type="text/html" width="480" height="390"src="
<a href="http://www.youtube.com/v/Uq3RCjSUIZQ&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/Uq3RCjSUIZQ&amp;rel=0&amp;fs=1</a>
" frameborder="0"></iframe>



thresh
VI. นวดข้าว
    relate:{ฟาดข้าว}
    syn:(thrash)
VT. นวดข้าว
    relate:{ฟาดข้าว}
    syn:(thrash)
VT. เฆี่ยน
    relate:{ฟาด}{หวด}{โบย}
VT. พิจารณาละเอียด
N. การนวดข้าว
    relate:{การฟาดข้าว}
    syn:(threshing)
http://th.w3dictionary.org/index.php?q=%E0%B8%9F%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7




การตีข้าวลงลาน/หรือการฟาดข้าว
http://www.google.co.th/imgres?q=%E0%B8%9F%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%99&um=1&hl=th&biw=1280&bih=578&tbm=isch&tbnid=uejtNLRKXPy9aM:&imgrefurl=http://www.isan.clubs.chula.ac.th/para_norkhai/%3Ftransaction%3Dpost_view.php%26cat_main%3Dall%26id_main%3D54%26star%3D470&docid=2InKcmHWtG3GQM&itg=1&imgurl=http://www.isan.clubs.chula.ac.th/para_norkhai/up_files/20101215103552.jpg&w=400&h=372&ei=cHTsTuGHJ4HVrQee0b2ECQ&zoom=1&iact=hc&vpx=182&vpy=181&dur=1469&hovh=216&hovw=233&tx=133&ty=115&sig=109517044478079691225&page=3&tbnh=167&tbnw=161&start=30&ndsp=10&ved=1t:429,r:0,s:30



 เคารพรัก ยิ้มให้จ้ะ เคารพรัก






ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, บูรพาท่าพระจันทร์, สุนันยา, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, Thammada, กาญจนธโร, ♥หทัยกาญจน์♥, ไม่รู้ใจ, ...สียะตรา.., panthong.kh, คนกันเอง..

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
21 ธันวาคม 2011, 08:46:PM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« ตอบ #8 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2011, 08:46:PM »
ชุมชนชุมชน

   






๐เรื่องของน้อยหน่า๐

๐อัน “น้อยหน่า” มีใครบ้างไม่รู้
ทานกันอยู่บ่อยบ่อยผลน้อยหน่า
รสชาติดีหอมหวานจากบ้านนา
หลายคนหาซื้อเหมาทุกเช้า-เย็น

๐ลูกน้อยหน่าคล้ายกะลูกระเบิด
บ่มสุกเปิดทุกคราวเนื้อขาวเด่น
เป็นของว่างมีใครทานไม่เป็น
คนมาเห็นส่วนมากก็อยากทาน

๐อนึ่ง ใบน้อยหน่าใช้ฆ่าเหา
คั้นน้ำเอา สระหัวให้ ยาไหลผ่าน
กลิ่นฉุนทำให้เหาพบร้าวราน
เพียงไม่นานเหาทั้งหลายก็หายไป

๐เป็นผลไม้สมบูรณ์ด้วยคุณค่า
เป็นพฤกษาคู่ควรแก่สวนไร่
ต้นไม่สูง ผลดาษดื่นน่าชื่นใจ
ชาวนาไพรเก็บขายรายได้ดี

๐แดนสยามก้าวหน้าการเกษตร
ภูมิประเทศเหมาะสมอุดมที่
ปลูกผลไม้ท้องถิ่นขายกินฟรี
น้อยหน่ามีคุณประโยชน์ไร้โทษเอย ฯ

                         อริญชย์
                    ๒๑/๑๒/๒๕๕๔


“น้อยหน่าข้าวกล่ำ” ยามสุกผิวจะสีม่วง[


http://www.google.co.th/imgres?q=%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%B2+%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%B3&um=1&hl=th&sa=N&biw=1280&bih=578&tbm=isch&tbnid=MbI4BKNhka46eM:&imgrefurl=http://www.vcharkarn.com/vcafe/47436&docid=WZ-SMIoPDztPmM&imgurl=http://www.vcharkarn.com/uploads/30/30060.jpg&w=504&h=498&ei=eeLxTu7DDcm8rAeEkuQF&zoom=1&iact=hc&vpx=566&vpy=186&dur=1469&hovh=223&hovw=226&tx=128&ty=132&sig=103523001594072643518&page=5&tbnh=167&tbnw=169&start=38&ndsp=10&ved=1t:429,r:2,s:38


 สาวน้อยเซย์ ฮาโหล อายจัง สาวน้อยเซย์ ฮาโหล

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, Prapacarn ❀, Thammada, กาญจนธโร, ♥หทัยกาญจน์♥, รพีกาญจน์, ไม่รู้ใจ, สุนันยา, ...สียะตรา.., บูรพาท่าพระจันทร์, รัตนาวดี, คนกันเอง.., สิงขร

ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
24 ธันวาคม 2011, 03:46:PM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« ตอบ #9 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2011, 03:46:PM »
ชุมชนชุมชน

     



       ๐ทุ่งรวงทอง๐

๐ไผ่ออดอ้อนขับกล่อมกระท่อมป่า
ท้องทุ่งนาต้นข้าวพราวไสว
ยามเมื่อสายฝนพรำฉ่ำฤทัย
แสงอุทัยสาดส่องคลองลำธาร

แดดสายสายบ่ายแก่แก่แพรวงข้าว
ลู่ลมหนาวเอนล้มผสมผสาน
กุ้งปูปลาตับเต่าหอยร้อยตำนาน
หรีดเรไรขับขานเพลงบ้านไพร

เสียงกบเขียดร่ำร้องดังก้องทุ่ง
นั่นสายรุ้งเกี่ยวโค้งเลี้ยวลงไหน
ทุ่งเอ๋ยทุ่งรวงทองผ่องอำไพ
ยังวิไลชื่นบานตระการตา

ประเพณีดีงามอันล้ำเลิศ
เป็นสิ่งเชิดชูศรีมีคุณค่า
ตามวิถีครรลองคนท้องนา
มีข้าวปลาแบ่งกันไปด้วยไมตรี ฯ

                    อริญชย์ 
                 ๒๔/๑๒/๒๕๕๔


ต้นฉบับเพลง "จากบ้านนาด้วยรัก"  วิเศษ เวณิกา

<a href="http://www.youtube.com/v/aRqALLQkIUU&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/aRqALLQkIUU&amp;rel=0&amp;fs=1</a>



 เธอนั่นแหละจ้ะ สาวน้อยเซย์ ฮาโหล เคารพรัก สาวน้อยเซย์ ฮาโหล เธอนั่นแหละจ้ะ


ทดสอบการลงรูปจ้ะ  วันนี้เพิ่งทำได้ พยายามมาตั้งนาน 555 (อย่าบอกใครนะ)







http://www.oknation.net/blog/print.php?id=113511

 เต้นบัลเลย์ สาวน้อยเซย์ ฮาโหล เต้นบัลเลย์


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, Thammada, ไม่รู้ใจ, รัตนาวดี, สุนันยา, ...สียะตรา.., บูรพาท่าพระจันทร์, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, เอ๊พ, คนกันเอง.., สิงขร

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
24 ธันวาคม 2011, 08:40:PM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« ตอบ #10 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2011, 08:40:PM »
ชุมชนชุมชน

    ๐เสาวรส รสหอมหวาน๐

๐ “เสาวรส” สุกหวานเปรี้ยวทานง่าย
เป็นพันธุ์ไม้เถาเลื้อยยาวเฟื้อยทั่ว
ปลูกตามโคนต้นไม้นั้น ขึ้นพันพัว
หรือตามรั้วหน้าบ้านทนทานดี

๐หลายพันธุ์ผลสุกมีสีเหลืองม่วง
ห้อยเป็นยวงเรียงรายอยู่หลายที่
เป็นของว่างขึ้นจานให้ทานฟรี
รสชาตินี่ หอมหวนรัญจวนใจ

๐สรรพคุณพฤกษาเป็นยาด้วย
ลูกกลมสวยดูไปกลมคล้ายไข่
ทานบำรุงสายตา นิรามัย
มีกากใยเสริมค่าโภชนาการ

๐ราวหนึ่งปีปลูกไว้จึงให้ผล
เพื่อให้คนชิมรสสุกสดหวาน
เป็นเถาวัลย์ยาวยื่นอยู่ยืนนาน
ดอกงามบานพร่าตายั่วแมลง

๐หลายคนชอบติดตามซื้อถามหา
คนบ้านนาปลูกไว้อยู่หลายแห่ง
น้ำเสาวรส สินค้า  ดีมาแรง
ขายไม่แพง ซื้อดื่ม จะปลื้มเอย ฯ

                         “ อริญชย์”:กวีชาวบ้าน

ปล.  ๑๐ กว่าปีมานี่ ทางอีสานก็ปลูกกันมาก แต่เป็นพันธุ์สีเหลือง เปรี้ยวนิด ๆ ทานสด ๆ ก็ได้ (ทั้งเมล็ดเลย ไม่เป็นอันตราย) ทำน้ำปั่นก็ได้


ข้อมูลเพิ่มเติม



http://www.raisuknirundorn.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539117296&Ntype=5
 
   
เป็นไม้เลื้อยเนื้อแข็งขนาดเล็ก อายุหลายปี อาจปลูกเป็นไม้ริมรั้วหรือทำค้าง หรือซุ้มให้เลื้อยพันก็ได้ ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเวียนสลับ เป็นพู 3 พู ปลายพูแหลม โคนใบมน ขอบใบเป็นจัก แผ่นใบสีเขียวอ่อน
________________________________________
   
ดอกเป็นดอกเดี่ยวเส้นผ่าศูนย์กลางดอก 6-8 เซนติเมตร กลีบเลี้ยงและกลีบดอกสีขาวหรือสีเขียว กลีบรูปรี มีรยางค์เรียงเป็นวง สีขาวปลายม่วง มีดอกตลอดปี ออกผลเป็นลูกกลมรีแบบไข่ฟองใหญ่ เปลือกเรียบมีสีเขียว ผิวเป็นมัน  เมื่อสุกเปลือกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง บางพันธุ์ก็เป็นสีม่วง หรือ ไม่ก็มีสีผสมกันระหว่างสีแดงกับสีทอง
________________________________________
 ภายในผลมีลักษณะคล้ายรวงผึ้งเต็มไปด้วยเมล็ดและเนื้อสีเหลืองอมเขียว มีน้ำเยอะ รสเปรี้ยวจัด ในบางผลที่เนื้อมีสีส้มอมแดง รสจะหวานมีกลิ่นหอม
 
________________________________________
 
 การดื่มน้ำเสาวรสเป็นประจำทุกวันจะดีต่อสุขภาพตา ทำให้การมองเห็นชัดเจน เพราะในเสาวรสมีวิตามินเอสูง นอกจากนี้ยังช่วยรักษาอาการนอนไม่หลับ รักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ รสเปรี้ยวของเสาวรสยังช่วยลดอาการเจ็บคอ สร้างภูมิคุ้มกันโรค กำจัดสารพิษในเลือด บำรุงผิวพรรณ และช่วยฟื้นฟูตับและไตที่อ่อนแอ แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องน้ำตาลในเลือดไม่ควรดื่มมาก เพราะน้ำเสาวรสมีน้ำตาลอยู่ในปริมาณสูง
การซื้อเสาวรส ให้เลือกลูกที่เริ่มสุก เปลือกจะมีสีเหลือง เปลือกเต่งตึง ไม่เหี่ยว  จะมีให้เลือกซื้อทั้งลูกใหญ่ ลูกกลาง ลูกเล็ก ราคาขึ้นอยู่กับขนาด ถ้าลูกใหญ่ก็แพงหน่อย เพราะเนื้อเยอะแล้วยังสามารถตักกินได้ง่ายด้วย เมื่อซื้อมาควรกินหรือทำน้ำผลไม้ดื่มเลย ถ้าทิ้งไว้หลายวันเปลือกจะเหี่ยว เนื้อและเมล็ดจะหายไป กลิ่นรสก็เปลี่ยนไปด้วย
การทำน้ำเสาวรสต้องใช้เครื่องปั่น เพราะเสาวรสมีเมล็ดเยอะ เมล็ดมีขนาดเล็กเวลาปั่นต้องผสมน้ำลงไปด้วย เพื่อลดความเข้มข้น ใช้อัตราส่วนเสาวรส 1 ผลกลาง ปั่นกับน้ำ 1-2 แก้ว
 
เสาวรสยังมีคุณค่าทางสมุนไพร คือผลนั้นคนโบราณใช้แก้ปวด บำรุงปอด ใบสดนั้นใช้พอกแก้หิด ดอกใช้ขับเสมหะ แก้ไอ แต่ทั้งต้นสด มีสารพิษคือ สาร cyanogenetic glycoside หากอยู่ ๆ เด็ดเถาต้นสดเข้าปกาเคี้ยวเล่น ก็อาจถึงตายเชียว อย่าทำเป็นเล่นไป คอยให้ออกผลมากินให้ชื่นใจดีกว่า

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
1. นิตยสาร "ครัว" ปีที่ 6 ฉบับที่ 64 ตุลาคม 2542
2. วราภรณ์ วิชญรัฐ, ไม้เลื้อยกินได้, สุรีวิยาสาส์น กรุ




 เธอนั่นแหละจ้ะ อายจัง เธอนั่นแหละจ้ะ


             





ลูกเสาวรสมีหลายสี ผ่าออกมาจะมีเมล็ดเยอะข้างใน เอาช้อนตักกินทั้งเมล็ดเลย  สีม่วงจะหวานมากกว่าสีเหลืองที่ออกเปรี้ยวปนหวาน





ปลูกไว้ตามรั้วหรือตามโคนต้นไม้ มันขึ้นได้หมด  ออกลูกเยอะด้วย ปลูกปีที่ ๒ (ออกลูก)









ต่างจังหวัดกิโลละ 20-30 บาท  กรุงเทพฯ กิโลละ 80-100




บ้านใครมีพื้นที่ว่าง ๆ รั้วบ้านหรือมีต้นไม้ที่มีดินอุดมสมบูรณ์หน่อยควรหาเมล็ดเสาวรสปลูกไว้ฮะ   (มันขึ้นต้นไม้สูงน่ะดี จะได้ไกลมือเด็ก ๆ  ติดลูกสุกแล้ว ไม่นานจะหล่นลงมาเอง)


ฝรั่งเขาก็ทานทั้งเมล็ดเลยนะ  มีไทยเรานี้แหละส่วนมากทำเป็นน้ำปั่น

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, รัตนาวดี, คนกันเอง.., บูรพาท่าพระจันทร์, สุนันยา, Thammada, เมฆา...

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
09 มีนาคม 2012, 06:53:PM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« ตอบ #11 เมื่อ: 09 มีนาคม 2012, 06:53:PM »
ชุมชนชุมชน



ขอบคุณภาพจาก อินเตอร์เน็ต

  “ลำนำเพลงไฟไหม้ภู”

๐ลำนำเพลงไฟไหม้ภูมองดูเด่น
คล้ายกับเป็นมังกรสะท้อนแสง
เพลิงระอุคุโชนทโมนแดง
คืนฟ้าแจ้งหน้าหนาวในราวภู

๐เสือคงเศร้าถูกไฟลามไล่หลัง
กวางละมั่งคงสลดใจหดหู่
นกเค้าแมว อีกา น้ำตาพรู
กระรอก หนู  ช้าง หมูป่า น้ำตาริน

๐มองภูเขายามดึกระทึกขวัญ
ไฟป่านั่นโหมมาไหม้บ้าบิ่น
เกิดจากความร้อนที่ธุลีดิน
หรือคนสิ้นคิดคลี่บุหรี่ลง

๐หมีคงนองน้ำตาในป่าใหญ่
เพลิงโหมไหม้ลมเติมพัดเสริมส่ง
จิ้งจอกตื่นจากนิทรายืนพะวง
กิ้งก่าคงหนีไปแทบไม่ทัน

๐ปล้องไผ่แตก ป่ะ!ปุ่!ปะทุก้อง
เสียงสัตว์ร้องโหยไห้ชวนไหวหวั่น
โอ้!ชีวิตอนิจจา กลางอรัญ
หน้าหนาวนั้น ไฟไหม้ภู  ฤดูกาล

ยากแก้ไขไฟป่าเมื่อหน้าหนาว
ลมพัดกราวเพลิงมาโหมประหาร
เป็นวัฏฏะจักรมีคู่ภูมานาน
รัฐบาลไหนแก้ได้….คงไม่มี !ฯ

                           อริญชย์
                        ๘/๓/๒๕๕๕



 อายจัง สาวน้อยเซย์ ฮาโหล อายจัง





<a href="http://www.youtube.com/v/8E6WU93BloU&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/8E6WU93BloU&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บูรพาท่าพระจันทร์, พยัญเสมอ, พี.พูนสุข, สุนันยา, Thammada, panthong.kh, เมฆา..., รพีกาญจน์, สิงขร

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
09 มีนาคม 2012, 07:48:PM
บูรพาท่าพระจันทร์
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 848
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,717


ผู้นิยม..ชมรส..บทกานท์กลอน./


« ตอบ #12 เมื่อ: 09 มีนาคม 2012, 07:48:PM »
ชุมชนชุมชน







 
ฉลองกัน


ไฟไหม้ป่า ฤทธาน้อย ด้อยพิษสง
ถูกปลิดลง ปลงลด จนหมดศรี
ไฟดวงจิต พิษหนัก กว่าอัคคี
ตามราวี ชี้นำ มุ่งทำลาย

มีเพียงธรรม ล้ำเลิศ ประเสริฐสุด
ที่คอยฉุด หยุดฤทธิ์ พิษสลาย
หากไร้ธรรม นำตน จวบจนตาย
พาวอดวาย หายหด ด้วยหมดดี.../



 เคารพรัก


บูรพาท่าพระจันทร์

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, Thammada, panthong.kh, เมฆา..., รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, พยัญเสมอ, สิงขร

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

"สั้น-ตรงเป้า-เร้าใจ"
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s