ของ – ฝาก .. จากพฤศจิกาฯเช้า, กระดิ่งลมเคาะเสนาะพริ้ง
ไหวกรุ๊งกริ๊งโมบายสายลมผ่าน
ใต้ต่ำเท้าหญ้าออกดอกละลาน-
ลู่ลม บาน, บางดอกก็ออกบิน
เคียวจันทร์ค้างรูปเรือลอยเหนือเมฆ
แอบโยกเยกตามเรือ, ผีเสื้อผิน
อีกไม่นานคงร่วงเป็นดวงดิน
เคียงคู่ดอกกระถินดอกดินดาว
ตาจับจ้องจับตาจนฟ้าแจ้ง
น้ำค้างแห้งเหินขยับ กลับห้วงหาว
กระดิ่งเดิมเริ่มอู้หยุดครู่คราว
จึงลมหนาวโน้มกิ่งกระดิ่งดัง
กับหมู่ดาว
เช้าหน่อย - ก็ม่อยหลับ
ภวังค์เช้าเจ่าจับกับความหลัง
จักรยานสนิมเขรอะดูเกรอะกรัง
พิงอยู่ข้างผนังอยู่อย่างนั้น
จนบางครั้งลืมไป - ว่าใครฝาก
เพราะนานมากเลิกใช้ไม่ได้ปั่น
ใคร? ตอนเด็กใช้ขี่หนีพระจันทร์
ไปเยี่ยมดวงตะวัน..ฉันซ้อนท้าย
ฉันต้อยตามเธอติดสนิทสนม
เป็นเจ้าหญิงตัวกลม - อมยิ้มง่าย
เพียงมงกุฎหญ้าน้อยร้อยระบาย
ก็มากมายสุขล้นเสียจนแล้ว
...
ใครจะรู้ ฉันรัก จักรยาน
รักเบาะ-อาน, โซ่, กริ่ง กระดิ่งแก้ว
รักกระถิน, ทุ่ง, ธาร ขนานแนว
อีกวงแววแถวน้อยรอยสองล้อ
ยามกระดิ่งดันดังกังวานก้อง
ทะยานท่องทางทอดทั้งยอด,ช่อ-
หมู่แมกไม้เลื้อยรากแอบดักรอ
เธอแยกวงไปต่อไม่รอช้า..เรามีโลกที่ใครเข้าไม่ถึง
เราต่างจึงไปต่อไม่รอท่า
หรือเราต่าง ห่างชัด ถูกพัดพา
โดยเวลา โดยเท้า โดยเช้านั้น
และโดยทางที่เดินห่างเหินนัก
ใจมีรักหักโค่นหรือโดนกั้น
ตื่น, จึงพบโลกร้าวเข้ากระชั้น
ตามเข็มสั้น-ยาวชี้ นาฬิกา
...
เงาจังหวะโมบายส่ายโหยงเหยง
เหมือนเร้าเร่งเพลงเช้าให้เหงาคร่า
ขณะจันทร์โล้เรือเหลือบางตา
จะเสาะหาจันทร์ได้จากใดกัน
ปฏิทินแผ่นบาง วางบนโต๊ะ
ใกล้ถูกโละจากห้อง – กล่องของขวัญ
แมงมุมชักหยากไย่โยงใยพัน
ราวกับเรื่องขำขัน
มันคอยรอ-
ให้คนรับกลับมาสิ้นหน้าหนาว
แกะริบบิ้นหวานพราว - เล่าฝันต่อ
จะคิดอ่านการณ์ใดไม่ดักคอ
ใจจดจ่อกรอฝัน อันย่อยยับ!...เช้า, อ้อยอิ่งมองเช้า, เช้า ช้า-ช้า
พฤศจิกา – หมุนเดือน เคลื่อนขยับ
โลกต้นหนาว-หนาวกว่าจะระงับ
แทรกตัวจับใจนี้ทีละน้อย.[/size]