๐นายฮ้อยทมิฬ๐
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
22 พฤศจิกายน 2024, 02:29:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ๐นายฮ้อยทมิฬ๐  (อ่าน 8689 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
03 พฤศจิกายน 2011, 07:03:PM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2011, 07:03:PM »
ชุมชนชุมชน

            ๐คำพูน บุญทวี๐

รางวัลแรก    คนซีไรท์    แห่งไทยนี้
คือ คำพูน    บุญทวี        “ลูกอีสาน”
อีก “นายฮ้อย   ทมิฬดัง”    อหังการ
เป็นผลงาน   อมตะอยู่       มิรู้คลาย ฯ
 
                           อริญชย์
                        ๓/๑๑/๒๕๕๔

<iframe title="YouTube video player" class="youtube-player" type="text/html" width="480" height="390"src="
<a href="http://www.youtube.com/v/5MLuKX855Fw&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/5MLuKX855Fw&amp;rel=0&amp;fs=1</a>
" frameborder="0"></iframe>


      ๐นายฮ้อยทมิฬ๐

๐ต้อนฝูงควาย จากท้องที่ แดนอีสาน
คือตำนาน นายฮ้อย ไปร้อยถิ่น            (นายฮ้อย พ่อค้าเกวียนสมัยก่อน:อีสาน)
มีดนตรี โหวดพิณแคน กล่อมแดนดิน
ใจถวิล คิดถึงบ้าน อยู่นานวัน

๐บรรทุกเกวียน ด้วยสิ่งของ ที่ต้องขาย
เดินเรียงราย  ตามกันไป  โดยไม่หวั่น
นายฮ้อยเคน  ขี่ม้านำ  ออกคำพลัน
หาฐานมั่น  ที่พำนัก  ควรพักพิง

๐ทำพิธี บอกกล่าวผ่าน เจ้าท่านด้วย
ปราชญ์บ้านช่วย ในครานี้ ได้ดียิ่ง
วอนเทพไท้ พรายภูตผี หากมีจริง
และวอนสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ ป้องปิดภัย

๐ถึงดงพระยาไฟป่าแห่งอาถรรพณ์   (ภายหลัง ร.๕ โปรดพระราชทานชื่อใหม่เป็น "ดงพระยาเย็น")
ที่กลางวัน ยังต้อง พบหมองไหม้
ลายพาดกลอนนักล่าแห่งป่าไพร
กระโจนใส่คนไม่ยั้งอหังการ

๐บางครั้งมี โจรป่าร้าย สักลายขลัง
มาล้อมหลัง ล้อมหน้า ปล้นประหาร
นายฮ้อยเคน บัญชา กองคาราวาน
สู้ต่อต้าน พาลภัย รุกไล่มา

ย่ำราตรี ปอบ ผีป่า ออกมาหลอน
หมาในหอน  โหยหวนลั่น  สนั่นป่า   (หมาใน:พจนานุกรม)
ปลุกใจหวาด  ดั่งหยาดพิษ ยามนิทรา
นายฮ้อยกล้า เสกอาคม  ระดมมนต์

๐บางคนเป็นไข้ป่า เดินล้าอ่อน
จำต้องนอน ซมพิษไข้ กลางไพรสณฑ์
ยังตะขาบ จงอางป่า มาผจญ
เกือบหลายคน วายวาง อยู่กลางไพร

หลายเรื่องกองคาราวาน ได้พานพบ
จนแทบจบ สิ้นชีวา กลางป่าใหญ่
ยังโชคดี นายกองเกวียน กลเปลี่ยนไว
เพื่อนเก่า-ใหม่ ใจนักเลง  สู้เก่งพอ


ถึงเมืองล่าง สระบุรี  คือที่หมาย
ค้าฝูงควาย เกวียนสิ่งของ ทั้งผองหนอ
นั่งรถไฟ  กลับบ้านนา  น้ำตาคลอ
กราบแม่-พ่อ ด้วยคิดถึง  สุดซึ้งเอย ฯ


               คำพูน บุญทวี:ประพันธ์ (ต้นฉบับร้อยแก้ว)

                 




อริญชย์:ร้อยกรอง
๓/๑๑/๒๕๕๔



 เคารพรัก เธอนั่นแหละจ้ะ เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, ♥หทัยกาญจน์♥, กังวาน, รพีกาญจน์, Prapacarn ❀, รัตนาวดี

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
03 พฤศจิกายน 2011, 08:02:PM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« ตอบ #1 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2011, 08:02:PM »
ชุมชนชุมชน


รางวัลซีไรท์ (S.E.A. WRITE AWARD) #3
 
จันทน์กะพ้อ
 

... เดิมเขาชื่อคูน เกิดเมื่อ 26 มิถุนายน 2471 ที่เกิดที่บ้านทรายมูล ต.ทรายมูลจังหวัดยโสธร (ขณะนั้นยังเป็นจังหวัดอุบลราชธานี) เขาเป็นบุตรคนโตในจำ...
ตอน : คำพูน บุญทวี

 เดิมเขาชื่อคูน เกิดเมื่อ 26 มิถุนายน 2471 ที่เกิดที่บ้านทรายมูล ต.ทรายมูลจังหวัดยโสธร (ขณะนั้นยังเป็นจังหวัดอุบลราชธานี) เขาเป็นบุตรคนโตในจำนวน 7 คนของนายสนิทและนางลุน บุญทวี

เขาเรียนหนังสือที่บ้านเกิดจนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่โรงเรียนปรีชาบัณฑิต

เขาเริ่มทำงานหลายอย่างในจังหวัดภาคอีสาน เป็นหัวหน้าคณะรำวง และขายยาเร่ ต่อมาเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เป็นกรรมกรรับจ้างรายวันที่ท่าเรือคลองเตย เป็นคนเลี้ยงม้าแข่ง เป็นสารถีสามล้อ จนกระทั่งสอบเป็นครูได้บรรจุที่ภาคใต้ สอนหนังสืออยู่ 11 ปี จึงเปลี่ยนไปเป็นผู้คุมเรือนจำ ต่อมาแต่งงานกับ นางประพิศ ณ พัทลุง เมื่อ พ.ศ. 2504 มีบุตร 6 คน แล้วลาออกมาจากงานราชการนี้เมื่ออายุได้ 40 เศษๆ

 
 
   


เขาเริ่มเขียนหนังสือครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2513 เมื่อครั้งยังเป็นผู้คุม ตอนนั้นมีปัญหาเศรษฐกิจในครอบครัว เขาจึงมุมานะอ่านหนังสือ และเขียนเรื่องสั้น เรื่องสั้นเรื่องแรกที่เขาเขียน คือ "รักในเหวลึก" ส่งไปที่นิตยสาร ฟ้าเมืองไทย ของ อาจินต์ ปัญจพรรค์ อาจินต์ ปัญจพรรค์เปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น "นิทานลูกทุ่ง" พร้อมทั้งสนับสนุนให้เขาเขียนหนังสือต่อไป

เขาจึงเขียนนวนิยายเรื่องแรกคือ มนุษย์ 100 คุก

จากนั้นก็เขียนเรื่อยมา เขาจึงกลายเป็นนักเขียนนวนิยาย เรื่องสั้นและสารคดี หนังสือที่ได้รับรางวัลได้แก่

 
 
   


ลูกอีสาน ได้รับรางวัลดีเด่น ประเภทนวนิยาย จากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ ประจำปี 2519 และได้รับรางวัล ซีไรท์ เมื่อ 2522 เป็นผลงานที่ได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์ ได้รับคัดเลือกเป็นหนังสืออ่านนอกเวลาระดับมัธยมปลาย ลูกอิสาน ได้รับการแปลภาษาต่างประเทศหลายภาษา เช่น อังกฤษ ญี่ปุ่น และฝรั่งเศส

นายฮ้อยทมิฬ ได้รับรางวัลชมเชย ประเภทนวนิยายจากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ ประจำปี 2520 หลังจากนั้นเขาจึงลาออกจากผู้คุมมาเขียนหนังสือ
เป็นอาชีพ

เมื่อภรรยาคนแรกเสียชีวิต เขาจึงมีภรรยาใหม่ ชื่อ ลันนา เจริญสิทธิชัย ซึ่งภายหลังได้เขียนนวนิยายเรื่อง "เจ๊กบ้านนอก" โดยใช้นามปากกาว่า กิมหลั่น และร่วมกันทำสำนักพิมพ์โป๊ยเซียน เพื่อพิมพ์หนังสือของครอบครัว

 นวนิยายเรื่องอื่นๆที่คำพูนเขียน เช่น

ดอกฟ้ากับหมาคุก
คำสารภาพของขี้คุก
เลือดอีสาน
อีสานพเนจร
เสียงกระซิบจากโซ่ตรวน
ลูกลำน้ำโขง
วีรบุรุษเมืองใต้
ใหญ่ก็ตายไม่ใหญ่ก็ตาย
นายหน้า แมงดา อาโก โสเภณีเด็ก
นรกหนาวในเยอรมัน
ตำนานรักลูกปักษ์ใต้


 รวมเรื่องสั้น

หอมกลิ่นบาทา
นักเลงลูกทุ่ง
แม่หม้ายที่รัก
เสือกเกิดมารวย
พยาบาลที่รัก


สารคดี

ไปยิงเสือโคร่ง
คำพูนกลัวตาย
สี่เด๋อย่ำเยอรมัน

ฯลฯ

 
 
   


เมื่อปี พ.ศ. 2544 คำพูน บุญทวี ได้รับรางวัลศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2544

วันที่ 4 เม.ย.46 นายคำพูน บุญทวี ได้เสียชีวิตลงแล้ว ด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน รวมอายุได้ อายุ 74 ปี

คำพูน1
คำพูน2
หนังสือ 100 นักประพันธ์ไทย ผ.ศ. ประทีป เหมือนนิล
 

http://noknoi.com/magazine/series.php?id=1264

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : กังวาน, รพีกาญจน์, รัตนาวดี

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
05 พฤศจิกายน 2011, 02:45:PM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« ตอบ #2 เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2011, 02:45:PM »
ชุมชนชุมชน

         ๐เสียงเพรียกจากควาย๐

๐“ควาย” ถิ่นไทยเป็นสัตว์ประวัติศาสตร์
ลากไถคราดช่วยชาวนาชาวไร่
เทียมเกวียนบรรทุกของไม่รองใคร
เล็มหญ้าไปสุขสันต์บนคันนา

๐สงครามไทยต้านพม่ายังปรากฏ
ทองเหม็นปลดควายขี่เข้าตีฆ่า
เกียรติควายยิ่งขึ้นชื่อเลื่องลื่อชา
ใครเคยด่าควายไว้ตรองให้ดี

๐ควายเป็นสัตว์สองเขาแหลมยาวโค้ง
ป่าทึบ-โปร่ง พร้อมบุกไปทุกที่
กินเพียงหญ้าอ่อนล้วนก็อ้วนพี
ไม่เคยหนี หากใคร จับใช้งาน

๐คนมักจะกล่าวหาควายว่าโง่
ปากยโสพูดเหน็บกันเจ็บซ่าน
สุดจะทนถูกด่าควายประจาน
ก็ทำการทะเลาะกันจนบรรลัย

๐ความจริง ควายแสนรู้ชอบอยู่ทุ่ง
ไม่อยากยุ่งกับคนให้หม่นไหม้
ใช้ ค.ควาย แทน ฅ.ฅน ทุกหนไป
ฅนเกรงใจหน่อยหนา ก่อนด่า ควาย!


คนเกรงใจหน่อยหนา ก่อนด่า ฟาย!!! ฯ

                      อริญชย์:สวรรค์บ้านนา
                       ๒๓/๑๐/๒๕๕๔





 เธอนั่นแหละจ้ะ สาวน้อยเซย์ ฮาโหล เต้นบัลเลย์ สาวน้อยเซย์ ฮาโหล เธอนั่นแหละจ้ะ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Prapacarn ❀, รัตนาวดี, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s