เพียงคนจร
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
24 พฤศจิกายน 2024, 08:08:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เพียงคนจร  (อ่าน 8210 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
02 พฤศจิกายน 2011, 11:23:PM
เฮยอิง
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 151
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 228



« เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2011, 11:23:PM »
ชุมชนชุมชน

ร่ อ น เ ร่ พ เ น จ ร

ผ่านหนาวผ่านร้อนมากมายหนักหนา

สู้ฝันลำพังบนทางมายา

พยุงกายไหวล้า. .เดินหน้าเพียงลำพัง

ผมยาวปกคลุมห่มหน้า

เก็บฝันนัยตาดีกว่านั่งหมดหวัง

ริ้มรสนุ่ม-อ่อนของบทกลอนเป็นกำลัง

มองฟ้ากี่ครั้งฟากฝั่งยังแพรวพราว

พรมพร่างกลางท้องทุ่งนา

ผิวขลุ่ยเหว่ว้าดุจว่าคลายหนาว

ขับกล่อมทิวไพรในคืนฟ้าสกาว

เก็บร่างเหน็บหนาวเก็บดวงดาวแนบอักษรา

สะท้อนทิวไม้ไพรพรรณ

สื่อผ่านคืนวันอันอ่อนล้า

บรรยายลายทางระหว่างรอดผ่านม่านดวงตา

เพื่อย้ำเตือนว่า. ."ข้าเพียงคนจร"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ♥หทัยกาญจน์♥, อริญชย์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, Music, รัตนาวดี, Prapacarn ❀, สะเลเต, รพีกาญจน์, รัตติกาล, พิมพ์วาส, panthong.kh, พี.พูนสุข, อาทิตย์สีดำ, บ้านริมโขง, เอ๊พ

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ไม่ต้องรู้หรอกว่าคนแต่งชื่ออะไร  แค่รู้ว่ามาจากใจก็พอ. . .
03 พฤศจิกายน 2011, 10:39:AM
สะเลเต
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1101
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,335


ขอขอบคุณ..ภาพจากอินเตอร์เน็ต


« ตอบ #1 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2011, 10:39:AM »
ชุมชนชุมชน


พเนจร....รอนแรมแต้มสีสัน
หัวใจฉันนั้นหลง.... ดงอักษร
ยามจิตเหงาเศร้าใจหายรุ่มร้อน
ใช้โคลงกลอน... ผ่อนคลายหลายทิวา

ดุจกาฝากหลากฝัน.....กลั่นงานศิลป์
โบกโบยบินบำเรอ..เสนอภาษา
สร้างประโยชน์....ยิ่งอยู่ดูงามตา
เป็นกาฝากมากค่าน่าชื่นชม

---สะเลเต---

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เฮยอิง, ♥หทัยกาญจน์♥, รพีกาญจน์, อริญชย์, Music, ยามพระอาทิตย์อัสดง, รัตติกาล, panthong.kh, พี.พูนสุข, เอ๊พ

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
03 พฤศจิกายน 2011, 12:50:PM
Prapacarn ❀
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1148
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,439


♥ แกร่งกล้า..ประภาคาร.. ตระหง่านตั้ง.. ณ ฝั่งคอย ♥


« ตอบ #2 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2011, 12:50:PM »
ชุมชนชุมชน


ฝากใจไว้กับมวลหมู่แมกไม้
ยามดารารายเริงร่ายผสม
ฝากรักลอยล่องเป็นทำนองตรม
ยามหนาวใช้ห่มได้อุ่นห้วงใจ

ฝากความคิดถึงซึ้งทรวงห่วงหา
ไว้ในวาจาเว้าวอนอ่อนไหว
ฝากฝันกับดาวพร่างพราวอำไพ
และฝากหัวใจกับ..คนพเนจร

"ประภาคาร...ไม่เคยหมอง นั่งสองไฟ"
 เต้นบัลเลย์ เต้นบัลเลย์ เต้นบัลเลย์

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, Music, ♥หทัยกาญจน์♥, เฮยอิง, รพีกาญจน์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, รัตติกาล, panthong.kh, พี.พูนสุข, สะเลเต

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

Take my love, take my land
Take me where I cannot stand
I don't care, I'm still free
You can't take the sky from me..
03 พฤศจิกายน 2011, 01:48:PM
เฮยอิง
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 151
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 228



« ตอบ #3 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2011, 01:48:PM »
ชุมชนชุมชน

เพียงแค่บางคนในหมู่ชนใต้ฟ้า

ถักสายมายาโรยราถอดถอน

แลเห็นไออุ่นหนุนในคำกลอน

ที่ส่งเสียงป้อนสะท้อนทิวไพร

เพียงคนเร่ร่อนร่างกายอ่อนล้า

สู้ฝันมายาสู้ฟ้าเมืองใหญ่

แลประภาคารตระกาลดวงไฟ

สว่างสดใส. ."กลางใจคนจร"



ปล.ขอบคุณพี่พี่ทุกท่านที่แวะเวียนยังแหล่งคนจร

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Prapacarn ❀, อริญชย์, รพีกาญจน์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, รัตติกาล, พิมพ์วาส, panthong.kh, พี.พูนสุข, สะเลเต

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ไม่ต้องรู้หรอกว่าคนแต่งชื่ออะไร  แค่รู้ว่ามาจากใจก็พอ. . .
05 พฤศจิกายน 2011, 11:08:AM
เฮยอิง
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 151
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 228



« ตอบ #4 เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2011, 11:08:AM »
ชุมชนชุมชน

สายธารสวยด้วยแสงแห่งสุรีย์

รัศมีเจิดจ้าใต้ฟ้าใหญ่

แต่ทิวรอบกรอบแผลกดูแปลกไป

ลำพงไพรใยเป็นแท่งแหล่งสัญจร

ประมงชนขนข่ายดูหน่ายหนัก

เหล่าคู่รักทักทายดูถ่ายถอน

ผู้เฒ่าแก่แคร่ไม้ที่ใช้นอน

ใยเปียกปอนอ่อนไหวดูคล้ายระทม

ข้าคนจรนอนพักยังหลักเมือง

ถนนเขื่องเลื่องนามที่น้ำถม

แลเคหะสถานหมู่บ้านจม

ฤาข้าห่มปมภวังค์ยังเลอะเลือน. . .




อรุณลับลาแล้วหรือไรเจ้าเอย

ก่อนคุ้นเคยคลอเคลียเข้าชิดใกล้

ทิวาวันเวียนวนว่ายเวียนไกล

นำปลีกไปเปล่าเปลี่ยวปานเดียวดาย

คิดถึงถ้วงทิวทองที่ทาบทา

จะลับลาร้างรอนแรมให้หลากหลาย

ดวงจันทร์แจ่มเจิดจ้าเจ้าย่างกราย

เปรียบเหมือนหมายมามอบมวลอุ่นไอ

สนิทเนาแนบนวลนภาแล้ว

ลมแผ่วแผ่วพัดพลิ้วพลิ้วปลิวสไว

คนจรจับจ้องจวนเจียนจะปลิ่มใจ

ฝากวรไว้ว่าวิเวกอย่าเสกนาน [




ถักร้อยถ้อยกวี. .รำพัน

ผันผ่าน. .คืนวัน. .อ่อนล้า

ฉันเพียงคนผ่านพ้นโลกมายา

ที่เกาะเกี่ยวอักษรา. .ถักสาน

เดียวดายกลางราตรี

ค ำ นึ ง ถึ ง วิ ถี ที่ ผั น ผ่ า น

เพียงคนจร. .วรได้แค่กังวาล

มิอาจผ่านม่านแหวกแทรก. .ถึงใจ

ฝากถ้อยพจน์วลีนี้ไปหน่อย

ถึงคนที่เคยคอย. .หวั่นไหว

คิดถึงนะ. .คิดถึงคนไกล

วันนี้หนาวหัวใจ. .ความอบอุ่นฉันไม่มี

เธออยู่ไหน. .ในคืนที่อ่อนล้า

ฉันเดียวดายใต้โลกมายาหนนี้

ไหนเล่าว่าจะเคียงข้างกันอย่างดี

ใยปล่อยให้ราตรี. .คนจรนี้ทรมาณ. ./center]

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, อริญชย์, Prapacarn ❀, รัตติกาล, พิมพ์วาส, panthong.kh, พี.พูนสุข, สะเลเต, เอ๊พ

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ไม่ต้องรู้หรอกว่าคนแต่งชื่ออะไร  แค่รู้ว่ามาจากใจก็พอ. . .
11 พฤศจิกายน 2011, 02:11:PM
Prapacarn ❀
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1148
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,439


♥ แกร่งกล้า..ประภาคาร.. ตระหง่านตั้ง.. ณ ฝั่งคอย ♥


« ตอบ #5 เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2011, 02:11:PM »
ชุมชนชุมชน

           
ยังนั่งอยู่ ใกล้ใกล้..ฝากใจกล่อม
ท่ามสายลม ห่มห้อม รวยรินผ่าน
จะกอดกุม จุมพิต แนบชิดมาน
กระซิบคำ รักหวาน มาปลอบเธอ...

คิดถึงกัน มากไหม คนไกลถาม
หรือชั่วครู่ ชั่วยาม เธอพร่ำเผลอ
มีอ้อมแขน กันและกัน ฝันละเมอ
นี่เธอเพ้อ เพราะพิษไข้...ใช่ไหม..เฮยอิง

แซมค่ะ
 อายจัง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, สะเลเต, เฮยอิง, รพีกาญจน์, อริญชย์, รัตติกาล

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

Take my love, take my land
Take me where I cannot stand
I don't care, I'm still free
You can't take the sky from me..
11 พฤศจิกายน 2011, 03:18:PM
เฮยอิง
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 151
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 228



« ตอบ #6 เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2011, 03:18:PM »
ชุมชนชุมชน

           
ยังนั่งอยู่ ใกล้ใกล้..ฝากใจกล่อม
ท่ามสายลม ห่มห้อม รวยรินผ่าน
จะกอดกุม จุมพิต แนบชิดมาน
กระซิบคำ รักหวาน มาปลอบเธอ...

คิดถึงกัน มากไหม คนไกลถาม
หรือชั่วครู่ ชั่วยาม เธอพร่ำเผลอ
มีอ้อมแขน กันและกัน ฝันละเมอ
นี่เธอเพ้อ เพราะพิษไข้...ใช่ไหม..เฮยอิง

แซมค่ะ
 อายจัง

คิดถึงมากจึงฝากฟากฟ้ากล่าว

และยืนยาวยาวนานกว่าทุกสิ่ง

ไม่ใช่เพ้อเผลอไผล. .จากใจจริง

จึงประวิงวิ่งอ้อนฟ้าสุธาธาร

คำว่ารักเคยบอก ฤา หยอกเล่น

จึงซ่อนเร้นเฟ้นกายไร้ข่าวสาร

เสียงกระซิบที่หยิบซึ้งถึงดวงมาน

ยังกังวาลหวานไหวในใจนี้

เพียงคนจรอ่อนไหวใต้ฟากฟ้า

เพียงพฤกษาป่าไพรที่ไร้สี

แค่เพียงลมพรมพร่างหว่างกวี

โปรดบอกทีเฮยอิงนี้พี่ลืม(หรือ)ยัง. . .




ทักทายและ ขอบคุณที่แวะเวียนเช่นเดิมขอร้าบ บ บ^ ^

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, อริญชย์, บ้านริมโขง, รัตติกาล

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ไม่ต้องรู้หรอกว่าคนแต่งชื่ออะไร  แค่รู้ว่ามาจากใจก็พอ. . .
11 พฤศจิกายน 2011, 03:59:PM
อาทิตย์สีดำ
LV3 นักเลงกลอนประจำซอย.
***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 11
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 33



« ตอบ #7 เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2011, 03:59:PM »
ชุมชนชุมชน

เพียง หนึ่งซึ่งคือโลกมายา
เพราะ สร้างเสกสรรค์มาลวงล่อ
คำ เล่นลิ้นหอมหวนเคล้าเคลียคลอ
หวาน ตรึงจ่อจับจิตคิดรื่นรมย์
เผา กายใจไหม้เกรียมเหี้ยมโหด
ผลาญ ตนโฉดเดือดดื่นขื่นขม
ตัว เน่าเฝะเละหนองตรองตรม
ตน เจ็บจมดื่มด่ำช้ำวิญญา
อย่า หลงผิดจิตอาจโทรมประโลมเคราะห์
เชื่อ วาจาไพเราะเจ็บหนักหนา
คำ อุบายหมายปองนองน้ำตา
คน คือสัตว์นักฆ่าช่างน่ากลัว
เจ็บ มากพอขอหยุดผุดฟื้น
จน ตาตื่นในแสงจ้าฟ้าสลัว
บรร เจิดจ้ารู้ทันบ่พันพัว
ลัย จากตัวอย่าแผ้วพานผ่านพ้นไป

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, เฮยอิง, รพีกาญจน์, บ้านริมโขง, เอ๊พ, รัตติกาล

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
11 พฤศจิกายน 2011, 04:45:PM
เฮยอิง
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 151
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 228



« ตอบ #8 เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2011, 04:45:PM »
ชุมชนชุมชน

เพียง หนึ่งซึ่งคือโลกมายา
เพราะ สร้างเสกสรรค์มาลวงล่อ
คำ เล่นลิ้นหอมหวนเคล้าเคลียคลอ
หวาน ตรึงจ่อจับจิตคิดรื่นรมย์
เผา กายใจไหม้เกรียมเหี้ยมโหด
ผลาญ ตนโฉดเดือดดื่นขื่นขม
ตัว เน่าเฝะเละหนองตรองตรม
ตน เจ็บจมดื่มด่ำช้ำวิญญา
อย่า หลงผิดจิตอาจโทรมประโลมเคราะห์
เชื่อ วาจาไพเราะเจ็บหนักหนา
คำ อุบายหมายปองนองน้ำตา
คน คือสัตว์นักฆ่าช่างน่ากลัว
เจ็บ มากพอขอหยุดผุดฟื้น
จน ตาตื่นในแสงจ้าฟ้าสลัว
บรร เจิดจ้ารู้ทันบ่พันพัว
ลัย จากตัวอย่าแผ้วพานผ่านพ้นไป

เพียงมายา




เพียง. .ถ้อยคำถลำลึกไม่ตรึกตรอง

คำ. .คล้อยคล้องจองติดเกินคิดไหว

แห่ง. .วลีพรมห่มฟ้า. .หิมาลัย

โลก. .หวานไหวไหม้หม่นป่นเพราะคำ

อุป. .กรณ์แห่งศิลป์จินตนา

โลก. .ลวงตาราวว่าช่างน่าขำ

มา. .ก็เจ็บเก็บทุกรอยถ้อยกระทำ

ยา. .ใจช้ำช้ำเพราะแค่แพ้อักษร. . .

อย่า. .อาวรชุ่มชื้น  . .  ลวงตา

หลง. .ดั่งบุษรา  . .  เลิศล้ำ

คำ. .ถ้อยกล่าวครวญหา  . .  ดังว่าห่างไกล

ลวง. .ก่อเกิดความช้ำ  . . เพื่อย้ำ"มายา"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, อาทิตย์สีดำ, อริญชย์, รัตติกาล

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ไม่ต้องรู้หรอกว่าคนแต่งชื่ออะไร  แค่รู้ว่ามาจากใจก็พอ. . .
11 พฤศจิกายน 2011, 06:37:PM
อาทิตย์สีดำ
LV3 นักเลงกลอนประจำซอย.
***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 11
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 33



« ตอบ #9 เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2011, 06:37:PM »
ชุมชนชุมชน

เพียง หนึ่งซึ่งคือโลกมายา
เพราะ สร้างเสกสรรค์มาลวงล่อ
คำ เล่นลิ้นหอมหวนเคล้าเคลียคลอ
หวาน ตรึงจ่อจับจิตคิดรื่นรมย์
เผา กายใจไหม้เกรียมเหี้ยมโหด
ผลาญ ตนโฉดเดือดดื่นขื่นขม
ตัว เน่าเฝะเละหนองตรองตรม
ตน เจ็บจมดื่มด่ำช้ำวิญญา
อย่า หลงผิดจิตอาจโทรมประโลมเคราะห์
เชื่อ วาจาไพเราะเจ็บหนักหนา
คำ อุบายหมายปองนองน้ำตา
คน คือสัตว์นักฆ่าช่างน่ากลัว
เจ็บ มากพอขอหยุดผุดฟื้น
จน ตาตื่นในแสงจ้าฟ้าสลัว
บรร เจิดจ้ารู้ทันบ่พันพัว
ลัย จากตัวอย่าแผ้วพานผ่านพ้นไป

เพียงมายา




เพียง. .ถ้อยคำถลำลึกไม่ตรึกตรอง

คำ. .คล้อยคล้องจองติดเกินคิดไหว

แห่ง. .วลีพรมห่มฟ้า. .หิมาลัย

โลก. .หวานไหวไหม้หม่นป่นเพราะคำ

อุป. .กรณ์แห่งศิลป์จินตนา

โลก. .ลวงตาราวว่าช่างน่าขำ

มา. .ก็เจ็บเก็บทุกรอยถ้อยกระทำ

ยา. .ใจช้ำช้ำเพราะแค่แพ้อักษร. . .

อย่า. .อาวรชุ่มชื้น  . .  ลวงตา

หลง. .ดั่งบุษรา  . .  เลิศล้ำ

คำ. .ถ้อยกล่าวครวญหา  . .  ดังว่าห่างไกล

ลวง. .ก่อเกิดความช้ำ  . . เพื่อย้ำ"มายา"




บอก คำขานผ่านพิรุณอุ่นไอฟ้า

เล่า  ผ่านผาม่านสวรรค์วรรณศิลป์

คำ   เลอค่ามายาร่างสร้างแผ่นดิน

มนุษย์ ยินเสียงเสนาะเพราะกังวาน

สุด   เพรียกพร่ำร่ำครวญตรวนโซ่ติด

แท้   ลิขิตโลกต่อแต้มแซมสังขาร

จริง   ประจักษ์หนักแน่นแล่นล่วงกาล

ใจ    ร้าวรานหลงคำำช้ำกมล


คำมนุษย์เล่าอ้าง      สุดชึ้ง ตรึงจิต
หลงแค่เพียงคนึง     ก่อช้ำ
อาจเพราะเชื่อคิดถึง  เปรียบดั่ง จมปรัก
พิษชุ่มอกกลืนกล้ำ    เจ็บแท้คำหวาน


อาทิตย์สีดำ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, เอ๊พ, เฮยอิง, อริญชย์, รัตติกาล

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
11 พฤศจิกายน 2011, 07:29:PM
เฮยอิง
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 151
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 228



« ตอบ #10 เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2011, 07:29:PM »
ชุมชนชุมชน

เพียง หนึ่งซึ่งคือโลกมายา
เพราะ สร้างเสกสรรค์มาลวงล่อ
คำ เล่นลิ้นหอมหวนเคล้าเคลียคลอ
หวาน ตรึงจ่อจับจิตคิดรื่นรมย์
เผา กายใจไหม้เกรียมเหี้ยมโหด
ผลาญ ตนโฉดเดือดดื่นขื่นขม
ตัว เน่าเฝะเละหนองตรองตรม
ตน เจ็บจมดื่มด่ำช้ำวิญญา
อย่า หลงผิดจิตอาจโทรมประโลมเคราะห์
เชื่อ วาจาไพเราะเจ็บหนักหนา
คำ อุบายหมายปองนองน้ำตา
คน คือสัตว์นักฆ่าช่างน่ากลัว
เจ็บ มากพอขอหยุดผุดฟื้น
จน ตาตื่นในแสงจ้าฟ้าสลัว
บรร เจิดจ้ารู้ทันบ่พันพัว
ลัย จากตัวอย่าแผ้วพานผ่านพ้นไป

เพียงมายา




เพียง. .ถ้อยคำถลำลึกไม่ตรึกตรอง

คำ. .คล้อยคล้องจองติดเกินคิดไหว

แห่ง. .วลีพรมห่มฟ้า. .หิมาลัย

โลก. .หวานไหวไหม้หม่นป่นเพราะคำ

อุป. .กรณ์แห่งศิลป์จินตนา

โลก. .ลวงตาราวว่าช่างน่าขำ

มา. .ก็เจ็บเก็บทุกรอยถ้อยกระทำ

ยา. .ใจช้ำช้ำเพราะแค่แพ้อักษร. . .

อย่า. .อาวรชุ่มชื้น  . .  ลวงตา

หลง. .ดั่งบุษรา  . .  เลิศล้ำ

คำ. .ถ้อยกล่าวครวญหา  . .  ดังว่าห่างไกล

ลวง. .ก่อเกิดความช้ำ  . . เพื่อย้ำ"มายา"




บอก คำขานผ่านพิรุณอุ่นไอฟ้า

เล่า  ผ่านผาม่านสวรรค์วรรณศิลป์

คำ   เลอค่ามายาร่างสร้างแผ่นดิน

มนุษย์ ยินเสียงเสนาะเพราะกังวาน

สุด   เพรียกพร่ำร่ำครวญตรวนโซ่ติด

แท้   ลิขิตโลกต่อแต้มแซมสังขาร

จริง   ประจักษ์หนักแน่นแล่นล่วงกาล

ใจ    ร้าวรานหลงคำำช้ำกมล


คำมนุษย์เล่าอ้าง      สุดชึ้ง ตรึงจิต
หลงแค่เพียงคนึง     ก่อช้ำ
อาจเพราะเชื่อคิดถึง  เปรียบดั่ง จมปรัก
พิษชุ่มอกกลืนกล้ำ    เจ็บแท้คำหวาน


อาทิตย์สีดำ


คา รมณ์คมเพริศพริ้งสิ่งใดใด

รา ตรีไกวไหวแกว่งแหล่งถักสาน

วะ ลีคล้อยถ้อยรสพจมาน

แด่ วิญาณผู้เพี้ยง สำเนียงกวี

ท่าน ทั้งหลายหน่ายช้ำคำมายา

อา ลัยหาคราหายในแสงสี

วุ ฒิภาวะจะนำเราเข้าใจดี

โส ภากวีถิ่นนี้ที่ถักทอ



ข้าน้อยคนจร ขอคาราวะท่านพี่อาทิตย์สีดำ
ปล.ขออภัยที่ทักทายช้า^ ^

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, รพีกาญจน์, รัตติกาล, อาทิตย์สีดำ

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ไม่ต้องรู้หรอกว่าคนแต่งชื่ออะไร  แค่รู้ว่ามาจากใจก็พอ. . .
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s