ภารกิจ
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
23 พฤศจิกายน 2024, 10:24:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ภารกิจ  (อ่าน 2367 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
09 ตุลาคม 2011, 09:11:PM
rit sriduang
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 65
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 39



« เมื่อ: 09 ตุลาคม 2011, 09:11:PM »
ชุมชนชุมชน

เป็นเรื่องเชื่อมระหว่างงานชุดเรือตอนที่ 1 แหวนดอกไม้กับเรือตอนที่ 2 กลับบ้าน

ขณะฟ้าจรดน้ำเริ่มค่ำลง..
...........................................

ภารกิจ
๑.ลมทะเลในอ่าวช่างหนาวชื้น
หมอกเป็นปื้นเป็นไอชวนให้หลง
คิดถึงไอชาเช้าที่เจ้าชง
ม้วนเป็นวงน่าชิมและลิ้มเล็ม

นานเหลือเกินจากคอนมาร่อนเร่
น้ำทะเลยังงามสีครามเข้ม
น้ำทะเลสีครามคือความเค็ม
ที่ปรี่เต็มทะเลทุกเวลา

เรือที่ล่องลอยออกไปนอกฝั่ง
พอหันหลังก็เห็นแต่เส้นฟ้า
เมื่อชายฝั่งลับหายจากสายตา
มองข้างหน้าก็เห็นแต่เส้นเล

ลมยังพัดใบเรืออยู่เหนือคลื่น
ฟ้าค่ำคืนเห็นดาวจระเข้
ไร้แสงไฟกระทั่งเรือตังเก
เจ้าว้าเหว่เหน็บหนาวไหมดาวดวง

มีบางครั้งชีวิตเคยผิดคาด
เคยผิดพลาดพลั้งไปอย่างใหญ่หลวง
แต่ป่วยการจะตามไปถามทวง
เพราะวันล่วงเลยลับเกินกลับไป

ดูซิเลสีเข้มและเค็มนัก
แม้ฝนจักทมิฬแผ่นดินไหว
แต่เลยังเค็มเข้มและเค็มไอ
อยากให้ใจข้าเข้มดั่งเค็มน้ำ

เกาะกลางอ่าวยามดึกดูลึกลับ
จะหันกลับคืนอู่หรือสู่ถ้ำ
เหนือเกาะยังถูกเสกด้วยเมฆดำ
เรือจะนำทางไปถูกไหมเรือ

นี่คือกล่องแกะสลักอันศักดิ์สิทธิ์
ข้านำติดตัวข้ามุ่งหน้าเหนือ
มันกลืนกินชีวิตของญาติเครือ
จนไม่เหลือสิ่งใดจะให้แล้ว…

๒.เรือถูกดึงแล่นเลยจนเกยหาด
เกาะประหลาดหนาวจัดลมพัดแผ่ว
มีคบไฟเป็นระยะให้กะแนว
ปักเป็นแถวนำสู่ประตูลึก

เขาย่างเท้าเย็นเฉียบลงเหยียบหาด
และไม่อาจจะห้ามความรู้สึก
เพราะหวาดหวั่นจนใจไหวระทึก
เอาแต่นึกนี่มันคงฝันไป

ปรากฏภาพนวลนางสำอางผิว
เป็นแถวทิวสองข้างสำอางใส
นางสวมชุดประหลาดสัญชาติไทย
ยุคสมัยโยนกเป็นธานี

แล้วปรากฏนางพญาสง่านัก
องครักษ์กำยำประจำที่
นางว่าเชิญด้านบนเถิด..มนตรี
เสียงเทวีเชื้อเชิญผู้เดินทาง    

มนตรีหยุดเดินเท้าทางเข้าถ้ำ
เห็นหินดำขลิบทองอยู่สองข้าง
สลักรูปนกป่าปีกกล้ากาง
เหมือนคำอ้างของพ่อทุกข้อคำ

ในถ้ำเป็นห้องโถงลายลงรัก
หินสลักเสลาเป็นเสาค้ำ
ดนตรีขับบรรเลงเป็นเพลงรำ
นางระบำยักย้ายอยู่รายล้อม

นางพญาขึ้นนั่งบัลลังก์แท่น
แล้วโบกแขนไปที่ดนตรีกล่อม
เพลงดนตรีชะงักโดยพรักพร้อม
ต่างค่อมค้อมคารวะแล้วผละไป

ขณะเขาตาค้างอยู่กลางโถง
รู้สึกโล่งใจกว่าตอนมาใหม่
ผีนางพรายพ่อว่าอย่าวางใจ
เหตุไฉนเป็นมิตรใช่คิดแค้น..

๓.ฟังข้าเถิดมนตรี..เทวีกล่าว
ข้าอยู่อ่าวโบราณมานานแสน
ตั้งแต่ทองเต็มถิ่นทุกดินแดน
แคว้นทุกแคว้นรู้พอไม่ก่อกรรม

เพราะผู้คนมั่นในศาสนา
และรู้ว่าฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ
มีจิตใจเปี่ยมด้วยคุณธรรม
ผุดทองคำทั่วลานเรียก..แหลมทอง

ไม่ว่าความศรัทธา..ดวงอาทิตย์
เมื่อสถิตอยู่สูงเป็นแสงส่อง
มนุษย์ย่อมเชื่อมั่นในครรลอง
ไม่ลำพองและโลภละโมบทรัพย์

แต่อาทิตย์ยามบ่ายย่อมคลายแสง
เป็นดวงแดงค่ำลงก็คงดับ
เมื่อศรัทธาละลายลงหายวับ
คนไม่รับรู้ธรรมและกรรมดี

เมื่อนั้นทองทั้งหลายจึงหายสิ้น
จมสู่ดินลึกจัดจนบัดนี้
ค่าทองคำจึงพุ่งพูนทวี
มนุษย์ที่แข็งแรงก็แย่งเอา

แต่พระเจ้าพรหมมหาราช
ผู้กู้ชาติจากขอมผู้จอมเผา
ให้โยนกฟื้นศพจากซบเซา
ฟื้นจากเถ้าธุลีเป็นสีรุ้ง

ทรงกราบพระอาจารย์ผู้ชาญฤทธิ์
ด้วยทรงคิดสร้างเมืองให้เรืองรุ่ง
สร้างเจดีย์พระทองฉลองกรุง
เพื่อผดุงศาสนาชั่วฟ้าดิน

อาจารย์จึงสร้างกล่องแกะสลัก
เป็นรูปกลักสำหรับเรียกทรัพย์สิน
เรียกทองคำล้ำค่าไร้ราคิน
ตราบธานินทร์ทุกวาศรัทธาพุทธ

ตราบนั้นกล่องจะสร้างคลังสมบัติ
ตราบกษัตริย์มีศีลบริสุทธิ์
หากกิเลสครอบงำส่ำมนุษย์
กล่องจะผุดหายสิ้นในดินดำ

วันใดที่ตัณหาบรรดาสัตว์
ถูกขจัดด้วยศีลจนสูงล้ำ
แผ่นดินจะอุดมด้วยทองคำ
กล่องจะนำสินทรัพย์หวนกลับคืน

ถ้ากล่องนี้ผู้ถือนั้นมือบาป
จะถูกสาปล่มจมและขมขื่น
จะถูกความวิบัติมากัดกลืน
หลับและตื่นสับสนทุรนทุราย

ซึ่งพระเจ้าพรหมมหาราช
ผู้เป็นปราชญ์ในธรรมรู้ความหมาย
ทรงคิดวางรูปแบบอย่างแยบคาย
ให้นางพรายคงคารักษาทรัพย์

เพราะทรงรู้เช่นกันในวันหน้า
หลังตัณหาชุ่มโชกจนโลกดับ
ย่อมจะเกิดดวงแก้วอันแวววับ
มอบกล่องกับเอกองค์ผู้ทรงธรรม..

๔.มนตรีสบตาพรายผู้คลายเศร้า
นี่ถ้าเล่าบอกใครคงได้ขำ
เคยรับรู้ว่าพรายหัวใจดำ
ผู้ก่อกรรมโง่เขลาคือเราเอง

เขาคืนกล่องไม้กลักอันศักดิ์สิทธิ์
ขอชิวิตล่มล้มถูกข่มเหง
ได้คืนกลับจากปลักแห่งนักเลง
ไม่ลอยเคว้งไร้รักและหลักลอย

เทวีรับกล่องคืนสะอื้นไห้
ทั้งขอบใจเคารพมานพน้อย
ถ้ำด้านหลังมีเพชรและเม็ดพลอย
หากจะสอยระวังเจ้ามังกร

เธอจะต้องต่อสู้อย่างผู้กล้า
แล้วชะตาเงื่อนผูกจะถูกถอน
ถ้าชนะสัตว์ร้ายจะได้พร
หรือเลือกจรกลับหลังลองชั่งดู

เขาหลับตาทั้งสองและตรองคิด
ผ่านชีวิตทารุณทั้งบุ๋นบู๊
ทางที่ฉาบด้วยหนามกุหลาบปู
ฉันเลือกสู้..เขากลั่นอย่างกลั้นใจ

นางพรายจึงส่งดาบอันวาบวับ
เขาเอื้อมจับหนักอึ้งไปถึงไหล่
เดินจากโถงอ้อมผ่านไปด้านใน
ได้กลิ่นไอผ่าวร้อนมังกรร้าย

ที่ปากถ้ำมังกรร้อนระอุ
เสียงปะทุลาวาเป็นห่าสาย
นึกถึงเรื่องโง่เขลาเรื่องเจ้าชาย
แค่นิยายรกสมองนี่ของจริง

หัวใจเขาเต้นดังไร้จังหวะ
เอาละวะ!..ต้องสวมหัวใจสิงห์
นี่ถ้าหาปืนได้จะไล่ยิง
ให้ล้มกลิ้งคารังเลยมังกร..


๕.ถ้ำสะเทือนลั่นสนั่นโยก
หินโตรกเลื่อนลั่นเป็นพันก้อน
หล่นพื้นตุ๊บตั๊บกลับกระดอน
เพลิงร้อนทะลุขึ้นคุโชน

หินหล่นเขาหลบในรูร่อง
เสียงร้องดังราวภูเขาโค่น
สัตว์เผยร่างมืดมึนทะโมน
ตาโพลนดุจไฟประลัยกัลป์

มังกรตัวโต..ไดโนเสาร์
สูงเท่าตึกรามสักสามชั้น
เขาหวาดสะทกสัตว์ตกมัน
ถึงวันต้องตายหรือไงกู

มันพ่นเปลวไฟกระหายโหด
เขาโดดหลบทันจะหันสู้
สติต้องตั้งมั่นถ้าพันตู
ไฟกรูเฉียดหน้าแค่ฝ่ามือ

ดูคอมังกรค่อนข้างคอด
จุดบอดของมันกระนั้นหรือ
ลมที่ปีกสัตว์พัดกระพือ
อึงอื้อยากจะปะทะลม

เขาเห็นหินพร่องเป็นช่องกว้าง
จึงวางแผนดักด้วยปลักหล่ม
และจะตัดฉับด้วยดาบคม
กรีดจมตัดข้อลำคอมัน

จึงโผล่จากซอกไปหลอกล่อ
มังกรชูคอคำรามลั่น
พุ่งร่างดั่งลมสลาตัน
ฉับพลันหินขาดจึงพลาดล้ม

คอคอดคาพาดบนลาดหิน
ปีกวิ่นเว้าแหว่งและแรงล่ม
ร่างชายผู้ท้าพระยายม
ลูบคมของดาบอันวาบวับ

เงื้อดาบสีทองสุดสองแขน
หากแม้นฉับพลันเขาฟันฉับ
เลือดคงไหลโครมเข้าโถมทับ
ยากซับให้หมดทุกหยดรอย…


๖.เขามองตามังกรผู้อ่อนล้า
แกชราเกินวัยมิใช่น้อย
ฉันปรารถนาจะคว้าพลอย
ฉันซิถ่อยยิ่งกว่ามหาโจร

แกแสดงศักดาเพราะหน้าที่
พร้อมจะพลีชีพตัวเพราะหัวโขน
หลังภาพอันหม่นมัวของตัวโลน
คือร่างโทนไม่มีทั้งพี่น้อง

ฉันจะไม่ผิดซ้ำหรือทำพลาด
และไม่อาจเป็นโจรขโมยของ
ถ้าเพียงใช้หัวใจคอยไตร่ตรอง
คงไม่ต้องลำเค็ญอยู่เช่นนี้

เขาลดดาบลงดินอย่างสิ้นหวัง
เดินหันหลังด้วยไฟในใจหรี่
มังกรกลับขึ้นบินอย่างยินดี
เปลวอัคคีไหววับก็ดับลง

มันโผบินขึ้นกราวแล้วกล่าวว่า
เราศรัทธาจิตใจผู้สูงส่ง
ท่านชนะใจฉันอย่างมั่นคง
เราประสงค์มอบพลอยและให้พร

วันชะตาท่านดับจะกลับฟื้น
เหมือนว่าตื่นฉับพลันจากฝันหลอน
เว้นแต่ท่านอยากไปสู่ไฟฟอน
แค่ท่านนอนลงพับจะหลับยาว

ภาพสลักหน้าถ้ำที่ท่านเห็น
คือลายเส้นของภาพพิราบขาว
จะพาท่านสู่ห้วงแห่งดวงดาว
เมื่อถึงคราวท่านดับลงกับดิน…

พลอยสีเพลิงสูงค่าได้ปรากฏ
สีแดงสดผุดพูนจากมูลหิน
ขณะมังกรกลับขยับบิน
เขาได้ยินเสียงนกก็ตกใจ

๗.เขาคงหลับในเรือจนรุ่งเช้า
คงจะเมาเรือพับลงหลับไหล
เกาะที่เห็นตอนค่ำอยู่รำไร
กลับหายไปทั้งเกาะหรือเพราะเมา

ก้มควานหากลักไม้ที่ในเป้
ตกทะเลหลุดมือไปหรือเปล่า
มีเพียงหินแดงฉายประกายเงา
ในกระเป๋าข้างเป้สนเท่ห์นัก

จึงหยิบหินสีแดงให้แสงส่อง
เนื้อแดงผ่องน้ำงามได้น้ำหนัก
จบสิ้นแล้วงานยากจึงอยากพัก
แล้วจึงชักใบเรือขึ้นเหนือตน

จึงลอยเรือกลับหลังสู่ฝั่งฟาก
หวังว่าหากเมื่อไรเห็นใบสน
ก็จะเห็นดวงตาของหน้ามล
ดูซิ! ฝนทำท่าว่าจะเท…..

๙ ตุลาคม ๒๕๕๔
..............................

เขาเดินทางมาจากอีกฟากฝั่ง
หอบความหวังมั่นมุ่งเต็มถุงเป้......

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : --ณัชชา--, ♥หทัยกาญจน์♥, รพีกาญจน์, สุนันยา, Design with love ᵔᴥᵔ, Music, พิมพ์วาส, มังตรา, Prapacarn ❀, พี.พูนสุข, sitang, ภู กวินท์

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s