"...สัมผัสพิศวง..."
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
01 พฤศจิกายน 2024, 11:25:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: "...สัมผัสพิศวง..."  (อ่าน 9848 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
24 กันยายน 2011, 10:56:PM
ภู กวินท์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 364
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 383


สนสามใบ กับใครหลายคน


« เมื่อ: 24 กันยายน 2011, 10:56:PM »
ชุมชนชุมชน





เผชิญหน้า
....................

ดินชั้นแรกแตกออกกลางหมอกพร่า
เห็นแววตาสีแดงรอยแฝงลึก
บรรยากาศอึดอัดสงัดดึก
หลังซอยลึกนึกหวาด, ขยาดกลัว

หลอดไฟดวงสุดท้ายขยายม่าน
บนเพดานดูจืดมืดสลัว
อาคารร้างแสงอับถึงกับมัว
ปกคลุมทั่วด้วยหญ้า, นานาพรรณ

กลิ่นเหม็นหืนขื่นขับจับจมูก
เดาไม่ถูกทั้งหมดแทบอดกลั้น
สิ่งที่เห็นสัมผัสเข้าประจัญ
สะดุ้งพลัน! อารมณ์, เมื่อก้มมอง

ดวงตานั้นปูดโปนเหมือนโดนพิษ
ปากน้อยนิดโหยหวนชวนสยอง
วินาทีก้าวขามาประคอง
เนื้อสมองหลุดลุ่ย, เป็นขุยดิน

กัดฟันกรอด ลอด กรามยามสะบัด
แล้วสลัดหนอนหลุดไปสุดหิน
ดันตัวลุกขึ้นพาดผงาดบิน
จนหนอนดิ้นเป็นทาง, ระหว่างเดิน

ไม่ทันได้เอ่ยถามคำรามขู่
กระโจนสู่กำแพงจากแรงเหิน
สบสายตาเบื้องบนดูหม่นเมิน
มันหลอนเกินสติ, อธิบาย

พอม่านตาขยายก็หายวับ
ไปพร้อมกับเสียงผุดครั้งสุดท้าย
“...เสียงระฆังกังวานจนบานปลาย
แล้วความตายหลายครา,จะมาเยือน!...”

..........................

 เดี๋ยวจะโดนนะ...สราด
ภาพจากอินเตอร์เน็ต

โปรดติดตามตอนต่อไป!

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บัณฑิตเมืองสิงห์, ช่วงนี้ไม่ว่าง, ♥หทัยกาญจน์♥, รัตติกาล, รพีกาญจน์, Music, บ้านริมโขง, ยามพระอาทิตย์อัสดง, สะเลเต, น้ำผึ้ง, สล่าผิน, tina, ดาว อาชาไนย, พี.พูนสุข, นพตุลาทิตย์, ตะวันฉาย, hort39, ♥ กานต์ฑิตา ♥, พิมพ์วาส, masapaer, คนเผาถ่าน

ข้อความนี้ มี 21 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
25 กันยายน 2011, 01:37:PM
ภู กวินท์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 364
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 383


สนสามใบ กับใครหลายคน


« ตอบ #1 เมื่อ: 25 กันยายน 2011, 01:37:PM »
ชุมชนชุมชน





ชายขี้เมา

....................

ภายในร้านอาราโอเกะริมถนน
มีหลายคนเมาพับอยู่กับเพื่อน
เหล้าโซดาไม่ขาดวางกลาดเกลื่อน
ยกมือเลื่อนเปลี่ยนเพลง, บรรเลงดัง

บรรยากาศเฮฮาเวลานี้
หลายคนที่เมาหนักก็พักนั่ง
บางคนก็ลุกเต้นไม่เน้นฟัง
หมดไปอีกหลายลัง, แล้วโซดา

ผละจากห้องเสียงดังไปหลังร้าน
คิดถึงเรื่องเมื่อวานนานผวา
ไฟปะทุบุหรี่ขยี้ตา
ความอ่อนล้าระเหย, ไม่เคยจาง

มองออกไปที่มุมพุ่มไม้ใหญ่
ลมแกว่งไกวใบลู่อยู่ไม่ห่าง
กลิ่นเหม็นหื่นขื่นขับเหมือนจับวาง
คลับคล้ายร่างกระดิก, ยืนหงิกงอ

ขยี้ตาหลายครั้งก่อนคลั่งบ้า
ภาพตรงหน้าหายวับดับไปหนอ
สิ้นความเมาทันทีไม่รีรอ
หายใจพอผ่าวแผ่ว, แล้วกลับไป
………....

นาฬิกาหลังเก้าอี้เกือบตีสาม
พยายามเดินลัดกลับทางใหญ่
จนมาถึงฝั่งที่ไม่มีไฟ
ได้ยินเสียงร่ำไห้, ของใครกัน

มากับลมโหยหวนชวนสยอง
ความอับของอากาศเริ่มหวาดหวั่น
เสียงระฆังกังวานก็นานพลัน
กลิ่นเหม็นอันเน่าเน่า, ย่างเข้ามา

" …ช่วยด้วย! "
เหมือนคนป่วยร้องลั่นอย่างผวา
ไม่ทันได้ยั้งคิดมันติดตา
ร่างของชายชรา, ถูกฆ่าตาย

ด้วยนัยน์ตาอ่อนแรงสีแดงเถือก
บรรจงเลือกฉีกร่างอย่างกระหาย
ปากเล็กแหลมเรียวยื่นกลืนทำลาย
กระหน่ำย้ำร่างกาย, ชายขี้เมา

เสียงขวดเหล้ากระแทกหล่นแตกเกลื่อน
เลือดไหลเปื้อนเป็นทางอยู่ข้างเสา
ร่างกระตุกติดพันตัวสั่นเทา
กระแทกเข้ากับหิน, จนสิ้นใจ

แล้วหันมาสบตาเวลาดึก
ข้างในมันเต้นตึกเกินนึกไหว
ก่อนสติผลิบอกวิ่งออกไป
ยังแสงไฟขาสั่น, ไม่หันมอง !

......................

 น้อยใจแล้วด้วย
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ♥หทัยกาญจน์♥, น้ำผึ้ง, ...สียะตรา.., บัณฑิตเมืองสิงห์, รพีกาญจน์, สล่าผิน, บ้านริมโขง, สะเลเต, tina, ดาว อาชาไนย, พี.พูนสุข, ช่วงนี้ไม่ว่าง, นพตุลาทิตย์, hort39, ♥ กานต์ฑิตา ♥, amika29, Music, พิมพ์วาส, masapaer

ข้อความนี้ มี 19 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
25 กันยายน 2011, 06:34:PM
ภู กวินท์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 364
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 383


สนสามใบ กับใครหลายคน


« ตอบ #2 เมื่อ: 25 กันยายน 2011, 06:34:PM »
ชุมชนชุมชน




กำเนิดปีศาจ
....................

แสงสลัวลมแผ่วแว่วสายฝน
ขับเน้นจนเงียบฉี่ตอนตีสอง
กลางซอยแคบแถบเมืองอันเรืองรอง
ตาจดจ้องประตู, อยู่ผู้เดียว

ใช้ไขควงเจาะอัดเข้างัดแงะ
ค่อยค่อยแซะประตูดูเฉลียว
ในลานวัดเสียงขรมระงมเชียว
หมาหอนเกรียวกราวกราด, ไม่หวาดกลัว

ขึ้นไปบนหอระฆังกำลังสุด
ตาสะดุดทองเหลืองอยู่เยื้องหัว
ใช้คีบตัดโซ่ขาดอุ้มพาดตัว
ยิ้มเย้ยยั่วชั่วต่ำ, เพราะทำเลว

ขณะที่ก้าวลงบรรจงจับ
ถูกงูงับฉกจริงกลิ้งลงเหว
เสียงระฆังดังแตกกระแทกเอว
ร่างแหลกเหลวโรยริน, เกือบสิ้นใจ

ทั้งเณร, พระ แตกตื่นในคืนดึก
ใครตกตึกหอระฆังดังหวั่นไหว
รีบเรียกรถพยาบาลประสานไว
เลือดยังไหลเป็นทาง, อย่างโดดเดี่ยว!

………….

เห็นแสงไฟหัวเตียงเพียงหริบหรี่
กระทบที่ดวงตาเวลาเหลียว
ผ้าพันอกปกปิดอยู่นิดเดียว
หน้าซีดเซียวเขียวคล้ำ, ถึงลำคอ

ลมหายใจแห้งแหบแทบขาดช่วง
นัยน์ตากลวงร่วงโรยโอดโอยขอ
เอ็นปูดโปนเจียนหลุดผุดเป็นตอ
นิ้วหงิกงอพอสั่น, เกือบกลั้นใจ

ริมฝีปากบางเฉียบเหมือนเยียบหนาว
เหม็นกลิ่นคาวห้องอับขยับไหว
สัมผัสถึงความกลัวติดตัวไป
ซุกซ่อนในแขนขา, ออกอาการ

หอบหายใจอย่างแรงตะแคงพื้น
ผลักตัวยืนเหยียดตึงถึงตระหง่าน
เซถลาล้มลุกจนคลุกคลาน
ทรมานหวั่นหวาด, ขยาดกลัว

ได้เพียงเหม่อมองผ่านออกด้านนอก
เป็นเนื้องอกหรือไม่อยู่ในหัว
เอามือกุมหน้าผากลำบากตัว
มันพร่ามัวติดขัด, บีบรัดมา

กัดฟันครางเคลียคลอจนพอรู้
เราเป็นผู้ทดลองต้องรักษา
ก่อนล้มตัวหันกลับแล้วหลับตา
เข็มฉีดยาจ่อปาก, ฉากสำคัญ

จวบจนถึงรุ่งสางสายยางช่วย
จับผู้ป่วย “ รีบทำ ” พร้อมห้ำหั่น
การทดลองไม่คิดติดต่อกัน
พอพูดจบก็หัน “ มันตายแล้ว ! ”

………….

ชายในชุดเสื้อกาวน์สีขาวขุ่น
อารมณ์ฉุนอิดออดขว้างหลอดแก้ว
นามด๊อกเตอร์ดีกรีผู้มีแวว
บันทึกแนวทดลอง, ยืนมองยา

จับเอาคนใกล้ตายร่างกายดิ้น
ทดลองชิ้นเนื้อเยื่อเผื่อรักษา
ฉีดใส่เนื้อสมองลองวิชา
แต่มันกับไม่ลืมตา, น่าเสียดาย

“ …เอาไปฝัง! ” เสียงดังเมื่อฟังชัด
ปฏิบัติทันทีไม่หนีหาย
แบกเอาศพอีกหนของคนตาย
ซุกไว้ท้ายของรถ, แล้วขับไป

อาคารร้างข้างทางกลางซอยเปลี่ยว
รถก็เลี้ยวเสร็จสรรพดับเคลื่อนไหว
แล้วขุดหลุมฝังศพกลบอย่างไว
ทิ้งหนอนให้ชอนไช, อยู่ในดิน !

……………………..
 โอว์...มายก็อด

ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ♥หทัยกาญจน์♥, สะเลเต, รพีกาญจน์, tina, ดาว อาชาไนย, พี.พูนสุข, ช่วงนี้ไม่ว่าง, นพตุลาทิตย์, hort39, ♥ กานต์ฑิตา ♥, amika29, Music, บัณฑิตเมืองสิงห์, พิมพ์วาส, masapaer, คนเผาถ่าน, บ้านริมโขง

ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
26 กันยายน 2011, 04:18:PM
tina
Special Class LV4
นักกลอนรอบรู้กวี

****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 124
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 336



เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 26 กันยายน 2011, 04:18:PM »
ชุมชนชุมชน

อ่านสัมผัส ชัดลึก นึกสยอง
หากใครมอง ย่องหา พาเสียขวัญ
ยิ่งมิรู้ ผู้เข้ามา น่าหวาดหวั่น
ต้องจบกัน เป็นร้องกรี๊ด น่าซีดเซียว

ยังต้องเห็น เป็นภาพ อาบด้วยเลือด
ถูกเฉือนเชือด ฉีกร่าง อย่างหวาดเสียว
ทั้งระงม จมเสียงหอน สะท้อนเกรียว
ตัวคนเดียว ต้องเลี้ยวลับ กลับบ้านไป

แต่คนใจ ไม่ใสดี มีกรรมบัง
จึ่งมิรั้ง ยั้งกายตัว ชั่วไปใหญ่
แม้ลางเตือน ที่เยือนมา แต่คราใด
มิสนใจ ด้วยใฝ่ร้าย ที่หมายปอง

จนสุดท้าย ตายแน่ แก่มือหมอ
นอนตัวงอ รอบนเตียง เสี่ยงลองของ
เป็นได้แต่ แค่หนูตะเภา เฝ้าทดลอง
จนรู้มอง ตรองได้ว่า ไม่น่าเลย

เป็นบทเรียน ใครเพียรทำ แต่กรรมชั่ว
ภัยถึงตัว ชัวร์ได้ ไม่ต้องเอ่ย
ทำแต่สิ่ง ที่จริงดี ตอนนี้เลย
ได้เปิดเผย ที่เคยเป็น มิเห็นลาง

มันส์มาก อ่านไป wake dance ไปอ่ะคะ 55+

ขอบคุณค๊า จิ๊กกริ่ววว ว

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ดาว อาชาไนย, พี.พูนสุข, ช่วงนี้ไม่ว่าง, รพีกาญจน์, ภู กวินท์, ♥หทัยกาญจน์♥, นพตุลาทิตย์, สะเลเต, ♥ กานต์ฑิตา ♥, amika29, Music, บัณฑิตเมืองสิงห์, พิมพ์วาส, masapaer, บ้านริมโขง

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แซวๆ ขำๆ กันเองนะคะ
26 กันยายน 2011, 08:25:PM
ภู กวินท์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 364
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 383


สนสามใบ กับใครหลายคน


« ตอบ #4 เมื่อ: 26 กันยายน 2011, 08:25:PM »
ชุมชนชุมชน




ผวา
.....................

พลิกตัวไปไม่ถูกบนฝูกหมอน
ล้มตัวนอนให้หลับแต่กลับดิ้น
เนื้อตัวสั่นหวั่นหวาดประสาทกิน
เสียงนกบินปะทะ, ขวัญกระเจิง

ภาพยังคงติดตาเวลานี้
ใจไม่ดีทุกอย่างดูว้างเวิ้ง
จนสติเตลิดแทบเปิดเปิง
มันยุ่งเหยิงลึกลับ, เมื่อหลับตา

ทิ้งคำถามคาใจซุกในอก
เป็นนรกซาตานวิญญาณผวา
หรือภูตผีปีศาจประหลาดมา
อนิจจาเพ้อพก, ตระหนกใจ

นึกถึงบทสวดมนต์อยู่บนหิ้ง
ขอทุกสิ่งหายวับพร้อมหลับใหล
ท่องคาถาทุกบทกำหนดไป
กับสิ่งไม่คาดคิด, ทุกทิศทาง

เพียงแค่ห้วงคำนึงผ่านถึงเช้า
มองที่เสานาฬิกาแขวนหน้าต่าง
แสงตะวันผันผ่อนสีอ่อนจาง
ดูตารางเวลา, ก่อนเข้างาน

ถึงโรงงานทรงกระบอกรีบตอกบัตร
ปฏิบัติอย่างเคยเพื่อนเอ่ยขาน
“เป็นอะไรไปว่ะ! ดูอาการ
เห็นตั้งแต่เมื่อวาน, เหงื่อพล่านเชียว ”

“ ปะ..ปะ..เปล่า ไม่มีอะไร ..”
แต่ส่วนลึกข้างในหัวใจเสียว
แล้วรีบเดินไม่หยุดสะดุดเกลียว
ลากเอาถังใบเดียว, เลี้ยวกลิ้งไป

จนยาเม็ดตกหายกระจายหล่น
เสียงคนบ่นไล่หลังดังหวั่นไหว
“…โรงงานนี้..ผลิตยาหากำไร
เอ็งทำไมไม่ดู, ของกูพัง! ”

……………………

 โอว์...มายก็อด

ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ♥หทัยกาญจน์♥, รพีกาญจน์, นพตุลาทิตย์, สะเลเต, hort39, ช่วงนี้ไม่ว่าง, ♥ กานต์ฑิตา ♥, amika29, Music, บัณฑิตเมืองสิงห์, พิมพ์วาส, masapaer, คนเผาถ่าน, รัตติกาล, บ้านริมโขง, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
27 กันยายน 2011, 09:11:PM
ภู กวินท์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 364
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 383


สนสามใบ กับใครหลายคน


« ตอบ #5 เมื่อ: 27 กันยายน 2011, 09:11:PM »
ชุมชนชุมชน




เดนมนุษย์
....................

แสงไฟสาดเป็นริ้ว ผิวถนน
เสียงเครื่องยนต์คำรามอยู่สามครั้ง
กลางค่ำคืนดึกดื่นเหมือนปืนดัง
ทะยานไปไม่ยั้ง, ฝั่งสะพาน

ไม่คาดหวังสิ่งใดในคืนค่ำ
เพียงดื่มด่ำสายตาความกล้าหาญ
ท่ามกลางท่อไอเสียเข้าเคลียร์ลาน
เสียงมันปานระเบิด, กระเจิดกระเจิง

ใบหน้าอันสนุกซ่อนซุกปาก
บิดกระชากลากถูดูยุ่งเหยิง
กับหัวใจแหลกเหลวดั่งเปลวเพลิง
หลงระเริงความเขลา, ติดเหล้า-ยา

ค่ำคืนนี้ ลีลา อาละวาด
เอาไม้ฟาดทุกอย่างที่ขวางหน้า
กิตติศัพท์จับโยนทะโมนมา
ก้อนหินปารถเขา, อย่างเมามัน

จากกลุ่มเล็กมากมายขยายใหญ่
ซิ่งออกไปให้ตื่นในคืนนั้น
พอทุกอย่างต่างแตกก็แยกกัน
อีกสามคันขับไป, ที่ในซอย !


……………..


รถมาส่งถึงที่ตอนตีสอง
หน้าร้านทองไฟปิดแสงนิดหน่อย
ทำโอทีดึกดื่นแทบยืนลอย
ตามันคอยจะหลับ, เดินกลับบ้าน

แสงไฟส่องสว่างบนทางเท้า
ตัวสั่นเทาอึดอัดลมพัดผ่าน
ในชุดฟอร์มสีขาวสาวโรงงาน
เห็นอาคารโดดเดี่ยว, ช่างเปลี่ยวใจ

ไม่กล้ามองเข้าไปในซอยแคบ
ได้แต่แอบฉงนปนสงสัย
เป็นตึกร้างสนิทถูกปิดไป
ก้าวขาอย่างว่องไว, ขนลุกชัน

เห็นจุดหมายปลายทางอยู่ข้างหน้า
เดินพ้นป่ากระถินมีดินกั้น
คิดเรื่อยเปลื่อยเหนื่อยงานมานานวัน
จะนอนฝันทั้งคืน, แล้วตื่นสาย

“…ทันใดนั้น! ” แสงเข้าตามากับเสียง
กระชากเหวี่ยงตัวคนจนล้มส่าย
สาวโรงงานคลานเซเทกระจาย
ของเรียงรายกลาดเกลื่อน, ลงเปื้อนดิน

เดนมนุษย์จอดรถไม่สะทกสะท้าน
รวมผสานกันมา “…แกอย่าดิ้น.”
สายตาหื่นขื่นขับแทบจับกิน
สร้างมลทินติดตัว, ชั่วเลวทราม

หมดกำลังน้อยนิดที่คิดสู้
เดินลากถูหยุดลงฝั่งตรงข้าม
เข้าในซอยน้อยลึกนึกติดตาม
พยายามขัดขืน, แต่ฝืนแรง !


……………….


สายลมในคืนมืดจืดสนิท
บ้านเรือนปิดไฟหลับแล้วดับแสง
ภายในหลุมมุมอับกับสีแดง
มันคอยแฝงร่างอยู่, ไม่รู้ตัว

สาวโรงงานนอนแผ่โดนแก้ผ้า
ลมหายใจโรยราตาสลัว
เดนมนุษย์อุบาทน่าหวาดกลัว
ลูบไล้ทั่วเรือนร่าง, อย่างเมามัน

“…ฉึก..โอ้ย! ”
ร้องโอดโอยเสียงหลงอยู่ตรงนั้น
ร่างหนึ่งถูกกระแทกเข้าแดกดัน
จนไม่ทันจะดิ้น, ก็สิ้นใจ

อีกสองคนลนลานอาการตื่น
ลุกขึ้นยืนจะวิ่งแต่นิ่งไหว
ได้ยินเสียงระฆังกังวานไกล
ทั้งตับไตไหลออก, มานอกร่าง

“..แฮ่ !.” เสียงคำรามปานปีศาจ
อาละวาดหลอนหลอกลากออกข้าง
ผิวตะปุ่มตะป่ำร้องครวญคราง
กัดกินอย่างเลือดเย็น, เอ็นไขมัน

เดนมนุษย์สุดอนาถเลือดสาดทั่ว
หญิงสาวกลัวลนลานลลุกคลานสั่น
กระโจนพรวดอย่างแรงจากแห่งนั้น
วิ่งหนีฝันวันหม่น, สุดชีวิต!

..........................
ภาพจาก play.kapook.com
 น้อยใจแล้วด้วย

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ♥หทัยกาญจน์♥, สะเลเต, ♥ กานต์ฑิตา ♥, ช่วงนี้ไม่ว่าง, amika29, Music, บัณฑิตเมืองสิงห์, รพีกาญจน์, พิมพ์วาส, masapaer, คนเผาถ่าน, รัตติกาล, นพตุลาทิตย์, บ้านริมโขง, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
28 กันยายน 2011, 10:48:PM
ภู กวินท์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 364
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 383


สนสามใบ กับใครหลายคน


« ตอบ #6 เมื่อ: 28 กันยายน 2011, 10:48:PM »
ชุมชนชุมชน




ลางสังหรณ์
...................

พัดลมเก่าใกล้พังกำลังหมุน
กาแฟอุ่นประจำสีดำสนิท
นั่งอยู่หน้าบันไดขมไปนิด
ลุกขึ้นบิดขี้เกียจ, พักสายตา

หัวที่ใจชาเย็นมันเต้นตึก
จนรู้สึกราบเรียบเงียบผวา
อาจเป็นเพราะเมื่อคืนยังตื่นมา
ลุกกินยาหลายที, ไม่คลี่คลาย

ความรู้สึกบางอย่างลางสังหรณ์
เกิดขึ้นตอนคืนค่ำระส่ำระสาย
คิดไปตามอารมณ์ที่งมงาย
อธิบายไม่ถูก, เหมือนผูกปม

รีบอาบน้ำแต่งตัวกลัวจะช้า
จนเกือบลืมขวดยาใต้ผ้าห่ม
กินตั้งแต่เมื่อวานอาการซม
เริ่มระบมข้างหลัง, เกือบทั้งตัว

ออกจากบ้านผ่านซอยทยอยเพิ่ม
อาการเริ่มเสียหลักจนหนักหัว
ได้ยินเสียงระฆังดังหวาดกลัว
กลิ่นเหม็นยั่วยวนจิต, คิดระแวง!


……………......


มองเห็นคนเอะอะเหมือนจะวิ่ง
บางคนนิ่งศรีษะขยะแขยง
บางคนก็สะอื้นยืนตะแคง
บ้างแสดงอาการ, สะอิดสะเอียน

เห็นตำรวจหลายนายยืนรายล้อม
เอาเชือกอ้อมเป็นทางบ้างยืนเขียน
เห็นนักข่าวหลายคนเดินวนเวียน
แล้วก็เปลี่ยนกันถ่าย, วุ่นวายดี

เห็นเลือดเหนียวยืดหยดหมดถนน
เห็นร่างคนฉีกขาดบาดวิถี
เห็นสมองกองเปื้อนเกลื่อนทุกที
เห็นว่ามีความตาย, อีกหลายศพ

ลางสังหรณ์เมื่อคืนให้ยืนคิด
คอยตามติดประหลาดไม่อาจหลบ
ยิ่งวิ่งหนีเหตุการณ์ยิ่งพานพบ
ให้กระทบกระเทือน, จนเลื่อนลอย

มันคือตัวอะไรแน่แค่อยากรู้
ที่สิงสู่วิญญานร้าวรานบ่อย
เกิดขึ้นอย่างคลั่งบ้าเหมือนมาคอย
ฆ่าคนถ่อยถอยเหี้ยน, สะเอียนใจ

คงต้องหาสาเหตุอาเพศร้าย
เพื่อทำลายปีศาจขนาดใหญ่
เราต้องกล้าเผชิญเดินคิดไป
จะต้องหยุดมันไว้, อย่างไรดี!

……………………
 น้อยใจแล้วด้วย

ภาพจาก photonovice.com



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บัณฑิตเมืองสิงห์, พิมพ์วาส, Music, masapaer, คนเผาถ่าน, ♥หทัยกาญจน์♥, รัตติกาล, รพีกาญจน์, นพตุลาทิตย์, บ้านริมโขง, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
29 กันยายน 2011, 08:51:PM
ภู กวินท์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 364
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 383


สนสามใบ กับใครหลายคน


« ตอบ #7 เมื่อ: 29 กันยายน 2011, 08:51:PM »
ชุมชนชุมชน




เบาะแส!
.................

เดินข้ามไปอีกฝั่งหลังตลาด
ยกมือปาดเหงื่อไหลในตอนนี้
ถึงโรงงานตัวสั่นขึ้นทันที
เหมือนว่ามีอาการ, อยู่พล่านตัว

อาจเป็นเพราะฤทธิ์ยาหามาเพิ่ม
รู้สึกเริ่มอื้ออึงไปถึงหัว
ทั้งหนาว-ร้อนอ่อนล้าแทบตามัว
ใจเต้นรัวทั่วห้อง, ของโรงงาน

หรือเพราะยาในขวดจึงปวดมาก
เอามาจากในครัวตัวเดินผ่าน
เห็นขวดยาวางเหลือแต่เมื่อวาน
เก็บมาทานหนึ่งขวด, แก้ปวดตา

จะต้องกินหลายหนจนแทบทรุด
ถ้าหากหยุดอาการพาลจะบ้า
มันหม่นเมินเกินคิดเหมือนติดยา
จึงต้องหามาเพิ่ม, อาจเริ่มดี

เดินผ่านห้องหนาวเหน็บ เก็บสินค้า
คว้าขวดยาที่หมายอยู่หลายสี
ได้ยินเสียงอื้ออึงถึงนาที
รีบเดินหนีออกมา, นอกอาคาร


………………


“..คนโรงงานของเราเขาโดนฉุด! ”
ต้องสะดุดคำพูดที่กล่าวขาน
ต่างส่งเสียงโจษจันกันประจาน
เกิดเหตุการณ์เมื่อคืน, เขายืนคุย

มันเกิดขึ้นอีกแล้วในซอยแคบ
ใจเจ็บแปลบขึ้นมาจนหน้ามุ่ย
กลางหมู่บ้านผงะ ฆ่ากระจุย
กระโดดลุยออกมา, อย่างน่ากลัว

ภายในหลังโรงงานผ่านมาพบ
กลิ่นตลบอบอวลล้วนสลัว
ประตูติดปิดหายจนตายตัว
เหมือนมีรั้วกั้นไว้, ไม่ให้เข้า

ห้องอะไรไม่รู้ดูสงสัย
เหม็นมาจากข้างในมีใครเฝ้า
จึงถามยามเขาดูผู้อยู่เก่า
เขาตอบมาอย่างเบาเบา “ ห้องทดลอง? ”


……………….


“…ต้องรู้ให้ได้ ว่ามันคืออะไร ? ”
ปรารถนาอยู่ข้างในใจเกี่ยวข้อง
นั่งอยู่ข้างซอกตึกแล้วนึกตรอง
ให้ย้อนมองขอบเขต, ของเหตุการณ์

ลำดับแต่ละช่วงห้วงภวังค์
มันคงยังแอบอยู่ในหมู่บ้าน
เรื่องทั้งหมดหดหู่ดูไม่นาน
เหมือนวิญญาณขื่นขับ, กลัวจับใจ

มันต้องเกิดเรื่องร้ายคนตายแน่
หาทางแก้ทุกจุดหยุดมันไว้
ปลุกขวัญให้หึกเหิมเติมเชื้อไฟ
อยู่หรือไปได้รู้, ว่าสู้จริง!

…………………

 งง....
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ตครับ!

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ♥หทัยกาญจน์♥, พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, masapaer, Music, นพตุลาทิตย์, บัณฑิตเมืองสิงห์, รัตนาวดี, บ้านริมโขง

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
02 ตุลาคม 2011, 10:25:PM
ภู กวินท์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 364
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 383


สนสามใบ กับใครหลายคน


« ตอบ #8 เมื่อ: 02 ตุลาคม 2011, 10:25:PM »
ชุมชนชุมชน





เสียงกรีดร้องของหญิงสาว

....................

ฟ้าสีดำเมฆหนุนดูขุ่นคลั่ก
ใกล้หอพักค้างคืนเธอยืนนิ่ง
ปากสีแดงแก้มรับขยับอิง
แสงไฟที่ด่ำดิ่ง, ยิ่งเย้ายวน

กระโปรงสั้นผ้าเหลืออยู่เหนือเข่า
เสื้อแหว่งเว้าเร้าอกขึ้นปรกห้วน
ใครเดินมาพร่ำหว่านการชักชวน
ให้รัญจวนครวญจิต, แนบชิดกาย

คลุกคลีความกำหนัดเหมือนสัตว์ป่า
ให้เวลากำหนดเป็นบทขาย
แลกกับเงินที่ถือจากมือชาย
จวบจนถึงที่หมาย, เป็นรายวัน

มีภาพพจน์ติดลบเมื่อพบเห็น
จึงกลายเป็นซื้อขายอยู่หลายขั้น
เพียงแค่ความอิ่มหน่ำไม่สำคัญ
ให้เขาหยันเขาเหยียด, เพื่อเบียดเบียน!


…………………..


แสงจากเสาไฟฉายอยู่รายล้อม
เธอเดินอ้อมทางไปอย่างไม่เปลี่ยน
เดินเข้าออกในซอยคอยแวะเวียน
กลางคืนที่สะอิดสะเอียน, หวาดผวา

เดินตัวปลิวลิ่วลอยหาวหวอดหวอด
ได้ยินเสียงเล็ดลอดตลอดหน้า
สีของมันดูเข้มเข้าเต็มตา
อนิจจา! น่ากลัว,  จนตัวลอย

วิ่งออกมาจากพุ่มด้วยสุ่มเสียง
ส่งสำเนียงเหมียวหง่าวเธอก้าวถอย
เป็นแค่แมวสีดำประจำซอย
ตกใจอยู่ไม่น้อย, จากรอยแมว

รีบสาวเท้าอย่างไวเหงื่อไหลพล่าน
ออกอาการหงุดหงิดสะกิดแผ่ว
หันซ้ายทีขวาทีไร้วี่แวว
แม้แต่แนว ลมพัด, ก็ไม่มี

สักพัก! เสียงดังฟังกุกกัก
จนกระอักกระอวนให้ชวนหนี
ได้ยินเสียงระฆังกังวานดี
ลมหายใจเต้นถี่,  ทุกทิศทาง

กลิ่นเหม็นคาวโชยจากอีกฝากหนึ่ง
ความง่วงจึงหายวับกับทุกอย่าง
สัมผัสถึงหนึ่งเงา สีเทาจาง
สลับเสียงครวญคราง, อย่างน่ากลัว

“…ทันใด!..”
ความเคลื่อนไหวไหลลงอยู่ตรงหัว
จนยากที่จะลบประกบตัว
เลือดสีแดงสาดทั่ว, ยั่วน้ำลาย

มันดูดกลืนทีละนิดนอนบิดเบี้ยว
จากคมเขี้ยวขย้ำ จ้ำจนส่าย
แล้วสะบัดกัดเท เซกระจาย
เธอทุรนทุราย, ไม่หายใจ

เปลือกตาเธอเหมือนรวมความเจ็บปวด
เสียงดังพรวด! มือล้วงทะลวงไส้
กัดฟันกรอดเคี้ยวงับถึงตับไต
แล้วกระหน่ำฟาดลงไป, ในสมอง

ร่างกายที่แน่นิ่งยิ่งกระชาก
เห็นหน้าผากเป็นขดสยดสยอง
ทั้งแขนขาฉีกขาดขึ้นพาดกอง
ท่ามเสียงร้องของมัน, ดังพิลึก

แสงจากมอเตอร์ไซด์สาดไฟส่อง
มันหันมองกลับมาเวลาดึก
กับหัวใจดวงนี้ที่ระทึก
เกินรู้สึกนึกเห็น, ว่าเป็นจริง!

......................

 โอว์...มายก็อด

ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ตครับ!

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Music, รพีกาญจน์, ♥หทัยกาญจน์♥, นพตุลาทิตย์, บัณฑิตเมืองสิงห์, บ้านริมโขง, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
08 ตุลาคม 2011, 10:24:AM
Nuanna2
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #9 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2011, 10:24:AM »
ชุมชนชุมชน

 เอ็นดู เอ็นดู

กลอนหน้ากลัวทุกกลอนเลยค่ะ


พี่ๆเเต่งกลอนกันเก่งจังเลย


ขอบคุณค่ะ ชอบใจๆ ชอบใจๆ ชอบใจๆ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ♥หทัยกาญจน์♥, ภู กวินท์, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
08 ตุลาคม 2011, 10:50:PM
ภู กวินท์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 364
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 383


สนสามใบ กับใครหลายคน


« ตอบ #10 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2011, 10:50:PM »
ชุมชนชุมชน




ปะทะ
..................

เสียงเครื่องยนต์ตอนดึกดังคึกคัก
เร่งเสียจนควันคลั่กไม่ยักนิ่ง
พร้อมทั้งเสียงหัวใจไม่ไหวติง
แล้วก็วิ่งออกตัว, ไม่กลัวตาย

พุ่งเข้าชนอย่างแรงตะแคงพับ
เครื่องยนต์ดับทับก่อนแล้วนอนหงาย
จนน้ำเหลืองไหลล้นปนน้ำลาย
แตกกระจายหลายจุด, ไปสุดทาง

เสียงของมันประหลาดเหมือนกราดเกรี้ยว
เห็นคมเขี้ยวขาววับขึ้นกับร่าง
รีบผลักตัวลงหมอบข้างขอบยาง
อยู่ระหว่างความนิ่ง, ยิ่งลังเล

สัตว์นรก! ผุดขึ้นแล้วตะปบ
ไม่ทันหลบตบร่างอย่างหันเห
ลอยละลิ่วคว้างหล่นจนตัวเซ
เริ่มถ่ายเทความร้อน, เข้าย้อนกาย

ทันใดนั้น!...ความรู้สึก…
ในส่วนลึกทั้งหมดเริ่มหดหาย
เอ็นปูดโปนขึ้นมาจนตาลาย
แรงมากมายก่ายกอง, เพราะลองยา

เป็นเพราะยาที่กินเริ่มดิ้นพล่าน
ออกอาการเสียหลักเป็นหนักหนา
ผลข้างเคียงเพียงนิดสะกิดมา
แม้แต่ตายังเปลี่ยน, เริ่มเพี้ยนไป

จากร่างกายนุ่มนุ่มกุมขมับ
เนื้อแข็งจับกับตัวไม่รั่วไหล
เลือดลมซ่านผ่านทั่วขั้วหัวใจ
เหมือนเราไม่ใช่คน, พิกลนัก

กล้ามขยายหลายเซ็นขึ้นเป็นมัด
สารพัดความร้อนซ่อนประจักษ์
จากแรงที่ไม่ดีมีคึกคัก
ร่างกายแข็งแน่นหนัก, เหมือนกับหิน

ด้วยอารมณ์โมโหเข้าโผใส่
ชกที่ขากรรไกรลงไปดิ้น
สัตว์นรกเหมือนจุกนอนซุกดิน
พร้อมได้ยินเสียงคราง, อย่างน่ากลัว

เสียงกัดฟันดัง กรอด! ตลอดร่าง
เคลื่อนไหวอย่างว่องไวเป็นไปทั่ว
กระโจนเข้า โผซบ ประกบตัว
จนหน้ามืดตามัว, สั่นสะท้าน

มือของมันบีบคอจนตัวแกว่ง
สายตาแห่งปีศาจผู้อาจหาญ
กรงเล็บแหลมจิกคอทรมาน
จ้องเล่นงานอย่างหนัก, จักเอาตาย

จนอารมณ์บังเกิดระเบิดแค้น
ใช้สองแขนผลักออกแล้วศอกหงาย
พอมันเซ เดินวนอจนตาลาย
โดดเตะชาย ซี่โครง, ห้อยโตงเตง

บนต้นไม้ไม่ห่างร้องครางลั่น
เสียงของมันได้ฟังยังโหวงเหวง
ตัวมันฝืนยืนนิ่งไม่กริ่งเกรง
พร้อมกับเปล่งเสียงมา, ลับตาไป

เพียงคำพูดสุดท้ายก่อนหายหน้า
“…แกกินยาเข้าไปแล้วใช่ไหม ? ”
รู้สึกปวดหนักหน่วงช่วงหัวใจ
เหมือนอะไรสิงสู่, ไม่รู้ตัว!

……………………

 น่าสงสารจริงๆ
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ♥หทัยกาญจน์♥, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s