“ถามกวี?”
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
23 พฤศจิกายน 2024, 02:57:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: “ถามกวี?”  (อ่าน 10064 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
08 สิงหาคม 2011, 02:19:PM
masapaer
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 457
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 601


ร้อยยิ้มและเสียงหัวเราะของคุณคือรางวัลอันยิ่งใหญ่


เว็บไซต์
« เมื่อ: 08 สิงหาคม 2011, 02:19:PM »
ชุมชนชุมชน



“ถามกวี?”


เพราะพายุพัดฟ้าเมฆาไหว
หรือเพราะใจนักกลอนต่างอ่อนหวาน
จึงกลั่นกรองร้อยศิลป์ประทินกานท์
พัดเอามานบางคน..กมลคลอน

เช่นดอกไม้ไหวเอนเล่นลมลู่
ช่อดอกชูไสวร่ายอักษร
แผ่ระบิลศิลป์ปราชญ์พิลาสพร
เรืองบวรบานดอกออกกลางมาน

เพียงยอดหญ้าลมพัดระบัดพลิ้ว
พระพายผิวคลื่นลมห่มดอกก้าน
หรือจิตซ่อนอ่อนไหวไปตามกาล
มิทัดทานคลื่นฝันอันวิไล

ยอดกิ่งก้านกานท์คัดจัดแต่งช่อ
ประหนึ่งล่อภูมรินโผบินใกล้
หรือเพราะฉันนั้นเล่ามิเข้าใจ
เอนอ่อนไหวอารมณ์ข่มไม่ทัน

พระพายทูตแห่งรักจักระบัด
โอบล้อมรัดรั้งใจสู่ในฝัน
จินตนาการท่องล่องนิรันดร์
แพรประพันธ์ห่มจิตลิขิตพา

ดั่งระบำอักษรเล่นอ้อนหยอก
ระคนบอกนัยจินต์ถวิลหา
มีบ้างไหมใคร่เผยเปรยความมา
อักษราซ่อนใดในบทความ

ไม่มีความจริงใดในโลกเผย
ใจถวิลรำเพยเอ่ยทวงถาม
เธอผู้สร้างกวีที่งดงาม
มีนิยามฉันไหมในกวี

..ของเธอ..


 อายแบบน่ารัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ระนาดเอก, เมฆา..., Music, กามนิต, บ้านริมโขง, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ไม่รู้ใจ, คนเผาถ่าน, ช่วงนี้ไม่ว่าง, ~ploy pim~, สะเลเต, ...สียะตรา.., กาแฟดำ, ปรางทิพย์, นพตุลาทิตย์, ไพร พนาวัลย์, --ณัชชา--, BuaJantra, Thammada, บูรพาท่าพระจันทร์, สุนันยา, ดุลย์ ละมุน, ♥หทัยกาญจน์♥

ข้อความนี้ มี 24 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

08 สิงหาคม 2011, 05:24:PM
เมฆา...
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 698
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 624


..............


« ตอบ #1 เมื่อ: 08 สิงหาคม 2011, 05:24:PM »
ชุมชนชุมชน



“ถามกวี?”


เพราะพายุพัดฟ้าเมฆาไหว
หรือเพราะใจนักกลอนต่างอ่อนหวาน
จึงกลั่นกรองร้อยศิลป์ประทินกานท์
พัดเอามานบางคน..กมลคลอน

เช่นดอกไม้ไหวเอนเล่นลมลู่
ช่อดอกชูไสวร่ายอักษร
แผ่ระบิลศิลป์ปราชญ์พิลาสพร
เรืองบวรบานดอกออกกลางมาน

เพียงยอดหญ้าลมพัดระบัดพลิ้ว
พระพายผิวคลื่นลมห่มดอกก้าน
หรือจิตซ่อนอ่อนไหวไปตามกาล
มิทัดทานคลื่นฝันอันวิไล

ยอดกิ่งก้านกานท์คัดจัดแต่งช่อ
ประหนึ่งล่อภูมรินโผบินใกล้
หรือเพราะฉันนั้นเล่ามิเข้าใจ
เอนอ่อนไหวอารมณ์ข่มไม่ทัน

พระพายทูตแห่งรักจักระบัด
โอบล้อมรัดรั้งใจสู่ในฝัน
จินตนาการท่องล่องนิรันดร์
แพรประพันธ์ห่มจิตลิขิตพา

ดั่งระบำอักษรเล่นอ้อนหยอก
ระคนบอกนัยจินต์ถวิลหา
มีบ้างไหมใคร่เผยเปรยความมา
อักษราซ่อนใดในบทความ

ไม่มีความจริงใดในโลกเผย
ใจถวิลรำเพยเอ่ยทวงถาม
เธอผู้สร้างกวีที่งดงาม
มีนิยามฉันไหมในกวี

..ของเธอ..


 อายแบบน่ารัก


" ตอบกวินท์ "


๐ พิณบรรเลง..เพลงล่องทำนองลื่น
ไพเราะดื่น..ดั่งดรุณกรุ่นรัศมี
แต่ล่ะเส้นเด่นโสต..ปราโมทย์ดี
จังหวะสีสำเนียง..เสียงอบอวล

๐ คลอพายุอ่อนอ่อน..พัดก้อนฟ้า
หมู่เมฆาคลาเคล้า..เร้าคำผวน
พิณประภา..ซ่อนใดในสำนวน
คล้ายดั่งครวญปุชชา..ภาษากานท์

๐ ครั้นได้ยิน..จินต์ยิ่งอ้อยอิ่งวาตย์
มิบังอาจตอบย้ำ..คำฉะฉาน
ด้วยมิใช่..กวี..ศรีเชิงชาญ
อนุมาน..เพียงคนแอบยลคำ

๐ แต่พระพายคล้ายทูต..วิสูตรเทพ
พัดสังเขป..เพลงกลอนสะท้อนพร่ำ
ระทึกใหญ่ในทรวง..ห้วงลำนำ
สะเทือนย้ำ..ให้ตอบปลอบตามลม

๐ มีหรือไม่..ในพจน์บทวิลาศ
อยู่ที่มาตร..หมายมองมิหมองขม
ขจรกลิ่นคำกลั่น..ครั้นเชยชม
สุขภิรมย์..หรือไม่โปรดใคร่ครวญ

๐ แม้นหากจริง..ดั่งจิตที่คิดขบ
หมายคือพบ..คำเผยที่เปรยสรวล
กลอนจะกล่อมเจ้าหนอ..ช่อลำดวน
ดาวสีนวล..จะนำร่ำความนัย

๐ ขอบังอาจ..ตอบจินต์ตามพิณร่ำ
หลงระบำ..อักษรจนอ่อนไหว
แพรประพันธ์เย้าหยด..เกินอดใจ
จึงตอบไป..เยี่ยงคน..ยลกวี....


 ยิ้มหน้าใส

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : คนเผาถ่าน, ไม่รู้ใจ, พี.พูนสุข, ~ploy pim~, สะเลเต, ช่วงนี้ไม่ว่าง, ...สียะตรา.., ระนาดเอก, บ้านริมโขง, กาแฟดำ, amika29, รพีกาญจน์, ปรางทิพย์, นพตุลาทิตย์, ไพร พนาวัลย์, --ณัชชา--, Music, กามนิต, masapaer, BuaJantra, Thammada, บูรพาท่าพระจันทร์, สุนันยา, ดุลย์ ละมุน, ♥หทัยกาญจน์♥

ข้อความนี้ มี 25 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..สัมผัสทิพย์ปรารถนาอารมณ์แล้ว..
08 สิงหาคม 2011, 05:49:PM
ช่วงนี้ไม่ว่าง
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 358
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 792



« ตอบ #2 เมื่อ: 08 สิงหาคม 2011, 05:49:PM »
ชุมชนชุมชน



มิใช่เป็นเช่นกวีที่สามารถ
นุชนาฏผิดหนาในครานี้
เป็นแค่คนแต่งกลอนห่อนสุนทรี
ที่ใจมีแค่สนุกไป 1 1

ทั้งแสงศัพท์  จับคำ  ไม่ฉ่ำหวาน
บ้างก็คร้านคัดคำมาพร่ำสรรค์
เรียกว่ากลอนพาไปซึ้งใดกัน
เขาเดียจฉันท์ว่าทรามไม่งาม TA

เขามองเห็นเช่นว่าเป็นกาฝาก
เป็นเช่นกากหยากเยื่อน่าเบื่อหน้า
ไม่มีใครใจดีมีมุทิตา
เขาเหยียบย่ำต่ำช้าไม่มามอง

แต่ถามว่าในใจมีเธอไหม
ก็บอกได้ว่ามีไม่บกพร่อง
จึงสู้แต่งร่ายรำตามทำนอง
ถึงไม่คล้องขาดเกินอย่าเมินไกล



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เมฆา..., สะเลเต, คนเผาถ่าน, พี.พูนสุข, บ้านริมโขง, กาแฟดำ, amika29, รพีกาญจน์, ปรางทิพย์, นพตุลาทิตย์, --ณัชชา--, ไม่รู้ใจ, ...สียะตรา.., Music, กามนิต, masapaer, Thammada, บูรพาท่าพระจันทร์, ดุลย์ ละมุน, สุนันยา, ♥หทัยกาญจน์♥

ข้อความนี้ มี 21 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
08 สิงหาคม 2011, 07:09:PM
กังวาน
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 904
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,505



« ตอบ #3 เมื่อ: 08 สิงหาคม 2011, 07:09:PM »
ชุมชนชุมชน

อยากเขียนกลอนให้หวานปานน้ำผึ้ง
และให้ซึ้งซ่านสุขทุกอักษร
ให้คนอ่านอิ่มสุขในทุกตอน
หาคนสอนสั่งให้ก็ไม่มี

ก็เลยต้องลองเองบรรเลงเรื่อย
ดูเฉื่อยเฉื่อยเชื่องช้าอย่าเพิ่งหนี
เพราะรักในกาพย์กลอนกานท์กวี
แค่ธุลีของทุกท่าน...ฉันพอใจ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : amika29, คนเผาถ่าน, รพีกาญจน์, สะเลเต, ปรางทิพย์, นพตุลาทิตย์, ระนาดเอก, --ณัชชา--, ไม่รู้ใจ, ...สียะตรา.., Music, เมฆา..., กามนิต, masapaer, Thammada, บูรพาท่าพระจันทร์, สุนันยา, ดุลย์ ละมุน, พี.พูนสุข, ♥หทัยกาญจน์♥

ข้อความนี้ มี 20 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ถ้ารู้สึกพอ ก็เป็นสุขทันที
08 สิงหาคม 2011, 07:54:PM
บ้านริมโขง
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 869
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,026



« ตอบ #4 เมื่อ: 08 สิงหาคม 2011, 07:54:PM »
ชุมชนชุมชน


ใคร..กวี?


คนที่ถามงามคำนำมาอ้าง
นำพจน์วางช่างรู้ดูสดศรี
ร่ายอักษราภาษาบรรดามี
ต่างเข้าที่เข้าทางอย่างอัศจรรย์

เป็นกวีเป็นอย่างไรในคำถาม
เป็นเพราะตามคนเรียกเพรียกเสกสรร
หรือตามกานท์หวานล้ำคำรำพัน
หรือตามฉันเรียกเองด้วยเก่งเกิน

หากจะถามหัวใจใคร่บอกกล่าว
ทุกเรื่องราวที่ร่ายหมายสรรเสริญ
ภาษาไทยในวงวรรณ นั้นจำเริญ
จากขวยเขินเดินตามงามลักขณา

ให้ลุ่มหลงความหมายคล้ายมากล้น
จากผู้คนเขียนกลอนป้อนภาษา
เรียงคำหวานกานท์สวยด้วยกิริยา
สื่อออกมาเอมอิ่มพราวพริ้มพราย

จึงเป็นเพียงหนึ่งคนอยู่บนโลก
ที่ทุกข์โศกเศร้าหมองลองเขียนร่าย
นำรู้สึกจากลึกผนึกลาย
สื่อความหมายคล้ายรำพึง..อยู่หนึ่งเดียว

จึงหาใช่ในกวีที่เสาะหา
ด้วยวาจายังห่างเดินทางเปลี่ยว
สุดอ้างว้างบางครั้งนั่งซีดเซียว
แอบนั่งเหลียวมองกานท์..ท่านกวี.

"บ้านริมโขง"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : กาแฟดำ, คนเผาถ่าน, รพีกาญจน์, สะเลเต, ปรางทิพย์, ช่วงนี้ไม่ว่าง, นพตุลาทิตย์, ระนาดเอก, --ณัชชา--, ไม่รู้ใจ, ...สียะตรา.., Music, เมฆา..., กามนิต, masapaer, Thammada, บูรพาท่าพระจันทร์, สุนันยา, ดุลย์ ละมุน, panthong.kh, พี.พูนสุข, ♥หทัยกาญจน์♥

ข้อความนี้ มี 22 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

08 สิงหาคม 2011, 11:57:PM
พรายม่าน
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 548
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 556


Praiman CharlesTep CharlesTep
เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 08 สิงหาคม 2011, 11:57:PM »
ชุมชนชุมชน


ถามกวี..กุลีตอบ

กวีร้อยลมเล่นเหมือนเส้นไหม
เขียนดาวเดือนด้วยใจที่ไหวถี่
แต่หยาบกร้านปราณปรุคือกุลี
โรยริบหรี่ใช่ดาว แรงก้าวเดิน

กวีทาบสีทองบนท้องฟ้า
ล้อดอกหญ้าเต้นย่ำระบำเหิน
ตะวันล้าคือกุลีที่เผชิญ
กับรอยเหยียบยับเยิน รากหญ้ายัน

กวีท่องธารทอมรกต
พรมไผ่พจน์บทละเวงเพลงสวรรค์
แต่ธารหลากพรากท้อมาลงทัณฑ์
กับคานไผ่ไล่ลั่น บ่าด้านชา

กวีเห็นพราวเพชรในเม็ดฝน
กับโค้งรุ้งเรียดหล่น โอบวนป่า
คือฝนเดียวรั่วหลั่งรูหลังคา
แหละรุ้งแสงแสบตา จากล้าแรง

แต่วันหนึ่งกวีเห็นความแห้งเหือด
กับร่อยเหลือกุลีเลือด ที่เหือดแห้ง
ที่หล่อทุนหนุนเศรษฐีให้มีแรง
เห็นใจแล้งแห้งร้ายบนลายคน

แล้วแต่นั้นฝันจริงก็ยิ่งชัด
รุ้งลมบนเลิกสะบัด กระแสบ่น
ยุติธรรมหรือเท่ายุติทน
กุลีกวีกับที่ผจญ ก็คนเดียว ฯ

พรายม่าน
สันทราย
๐๘.๐๘.๕๔

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ช่วงนี้ไม่ว่าง, ไพร พนาวัลย์, ระนาดเอก, --ณัชชา--, บ้านริมโขง, ไม่รู้ใจ, ...สียะตรา.., Music, รพีกาญจน์, นพตุลาทิตย์, เมฆา..., กามนิต, masapaer, Thammada, บูรพาท่าพระจันทร์, สุนันยา, ดุลย์ ละมุน, panthong.kh, พี.พูนสุข, ♥หทัยกาญจน์♥

ข้อความนี้ มี 20 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

09 สิงหาคม 2011, 07:07:AM
...สียะตรา..
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 396
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,049


.


« ตอบ #6 เมื่อ: 09 สิงหาคม 2011, 07:07:AM »
ชุมชนชุมชน





......มิอาจตอบ..เพราะใช่ศรีกวีกล้า

...เพียง..นักล่า..คำศัพท์ประดับเสียง

...นำวลีเนื่องร้อยสร้อยสำเนียง

...ละเลียดเรียง...อารมณ์ย้ำ..คำจึงตาม



......ว่าแต่....ถามว่าอะไรค๊ะ.. ยิ้มหน้าใส

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไม่รู้ใจ, Music, รพีกาญจน์, นพตุลาทิตย์, เมฆา..., บ้านริมโขง, กามนิต, masapaer, Thammada, ไพร พนาวัลย์, บูรพาท่าพระจันทร์, สุนันยา, ดุลย์ ละมุน, พี.พูนสุข, ♥หทัยกาญจน์♥

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
12 มีนาคม 2012, 11:20:PM
masapaer
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 457
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 601


ร้อยยิ้มและเสียงหัวเราะของคุณคือรางวัลอันยิ่งใหญ่


เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 12 มีนาคม 2012, 11:20:PM »
ชุมชนชุมชน



พระพายทูตเคลื่อนผ่าน ณ ลานศิลป์
โปรยประทินกำจายดุจคล้ายล่าม
หว่านประพันธ์ร้อยศัพท์รับข้อความ
ขยายนามตอบสาส์นผ่านเวลา

เสนาะพลิ้วทิวศัพท์กาพย์ประพจน์
ที่หลั่งไหลหยาดหยดรดเวหา
เชิญกวีส่งกานท์ประพันธ์มา
ตอบภาษากมลให้ยลยิน

เสียงบรรเลงเพลงพิณระบิลแว่ว
คงเริ่มแผ่วแววแพ้อ่อนแอศิลป์
หากมิรู้ถึงนัยใจกวิน
ผู้หลั่งรินสายกาพย์กำซาบใจ

หวังพระพายทูตรักจักส่งมอบ
นำคำตอบกวีที่หลงใหล
เผยประตูรู้เห็นสิ่งเร้นนัย
แลเผยความเป็นไปในดวงมาน

ยินสำเนียงเคียงเลียบเทียบม่านเมฆ
ดั่งมนตร์เสกโปรยปรายรำบายผ่าน
หวั่นกวีนี้หายไม่อยู่นาน
สิ้นสำราญองค์วรรรณคงผันจร

นิมิตรร่ายบทกลอนสะท้อนฝัน
สารพันประดิษฐ์ทิศอักษร
ชะโลมทิวภูผาดุจอาภรณ์
หวังสะท้อนคำตอบมอบเรือนใจ


มีฉันไหม...ในกวีของเธอ

 เธอนั่นแหละจ้ะ

มะสะแป

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Thammada, กาญจนธโร, ไพร พนาวัลย์, บูรพาท่าพระจันทร์, สุนันยา, ...สียะตรา.., ดุลย์ ละมุน, panthong.kh, พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, ♥หทัยกาญจน์♥

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

13 มีนาคม 2012, 07:51:AM
บูรพาท่าพระจันทร์
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 848
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,717


ผู้นิยม..ชมรส..บทกานท์กลอน./


« ตอบ #8 เมื่อ: 13 มีนาคม 2012, 07:51:AM »
ชุมชนชุมชน





ฉลองกัน


พังไพเราะ เสนาะคำ ทำนองซึ้ง
ปานประหนึ่ง ซึ่งบทเพลง บรรเลงใส
หลากหลายรส บทกลอน ฝังซ่อนนัย
มากบรรเจิด เพริศพิไล หาใดปาน

เพียงคำน้อย ร้อยเรียง เผดียงบอก
ดั่งกลั่นออก จากจิต ลิขิตขาน
มีทั้งหวาน ซ่านรส พจมาน
บ้างร้าวราน พานสลด รันทดทรวง

ดุจต้องมนตร์ ดลหทัย อาลัยหลง
จิตพะวง ฝันใฝ่ อย่างใหญ่หลวง
อยากรีดเน้น เค้นสรรพ์ ฝันทั้งปวง
แล้วเร่งล้วง ลิขิต ตามจิตปอง

คงเป็นเพียง เยี่ยงชน สนใจเขียน
ค่อยค่อยเรียน เพียรคิด จิตสนอง
คำกวี นี้ยังไกล เกินใฝ่ครอง
แค่คิดลอง มองอ่าน สำราญใจ.../



 เคารพรัก


บูรพาท่าพระจันทร์ 
 

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สุนันยา, ...สียะตรา.., ดุลย์ ละมุน, Thammada, panthong.kh, พี.พูนสุข, masapaer, รพีกาญจน์, ♥หทัยกาญจน์♥

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

"สั้น-ตรงเป้า-เร้าใจ"
13 มีนาคม 2012, 11:57:AM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #9 เมื่อ: 13 มีนาคม 2012, 11:57:AM »
ชุมชนชุมชน


ใคร..กวี?


คนที่ถามงามคำนำมาอ้าง
นำพจน์วางช่างรู้ดูสดศรี
ร่ายอักษราภาษาบรรดามี
ต่างเข้าที่เข้าทางอย่างอัศจรรย์

เป็นกวีเป็นอย่างไรในคำถาม
เป็นเพราะตามคนเรียกเพรียกเสกสรร
หรือตามกานท์หวานล้ำคำรำพัน
หรือตามฉันเรียกเองด้วยเก่งเกิน

หากจะถามหัวใจใคร่บอกกล่าว
ทุกเรื่องราวที่ร่ายหมายสรรเสริญ
ภาษาไทยในวงวรรณ นั้นจำเริญ
จากขวยเขินเดินตามงามลักขณา

ให้ลุ่มหลงความหมายคล้ายมากล้น
จากผู้คนเขียนกลอนป้อนภาษา
เรียงคำหวานกานท์สวยด้วยกิริยา
สื่อออกมาเอมอิ่มพราวพริ้มพราย

จึงเป็นเพียงหนึ่งคนอยู่บนโลก
ที่ทุกข์โศกเศร้าหมองลองเขียนร่าย
นำรู้สึกจากลึกผนึกลาย
สื่อความหมายคล้ายรำพึง..อยู่หนึ่งเดียว

จึงหาใช่ในกวีที่เสาะหา
ด้วยวาจายังห่างเดินทางเปลี่ยว
สุดอ้างว้างบางครั้งนั่งซีดเซียว
แอบนั่งเหลียวมองกานท์..ท่านกวี.

"บ้านริมโขง"



เป็นกวี หรือไม่ เราไม่รู้
ภาษาหรู เกินไหม มิใช่นี่
แต่งไปเรื่อย เพราะชอบ บทกวี
อ่านทุกที ตรึงจิต คิดอยากลอง

แต่งผิดบ้าง ถูกบ้าง บางครั้งพลาด
มิบังอาจ ข้ามรุ่น อย่าขุ่นข้อง
เป็นอาจารย์ สอนสั่ง ของพันทอง
คิดถึงจัง ไยต้อง จำจรไป

เคยหลังไมค์ ทุกวัน พันยังหวัง
อย่าชิงชัง กลับมา อย่าช้าได้
ยังคิดถึง ยังห่วง ดวงหทัย
กลับมาไว เถิดหนอ รอคนดี

จึงเขียนกลอน กานต์มา เผื่อว่าอ่าน
ขอให้ท่าน คืนหวน ด่วนเร็วจี๋
ลูกศิษย์คร่ำ ครวญหา ทุกนาที
แม้ได้อ่าน กลอนนี้ รี่กลับมา
พันทอง
คิดถึงจ้า




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สุนันยา, พี.พูนสุข, masapaer, รพีกาญจน์, Thammada, พยัญเสมอ, ♥หทัยกาญจน์♥, บูรพาท่าพระจันทร์

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s