กาลองค์อินทร์ปิ่นสรวงติดบ่วงรัก
ครั้งยลพักตร์พระอนงค์จึงลงศร
ต้องเอวองค์สรงสระอรชร
ฤทัยอ่อนชะแง้สุดแลตาม
จึงตรัสว่า"มาตลี นีที่ไหน
ทราบนามนางหรือไม่ใคร่อยากถาม
นางเป็นใครไฉนอยู่ป่าดูงาม
พอแจ้งความอย่างไรใคร่ตอบมา"
สารถีกล่าวตอบชอบใจนัก
คงถูกปักศรเล่ห์สิเน่หา
"พระพรหมสร้างนางงามนามอหลยา
เป็นเมียป่าคู่มุนีฤษีเคา(ตมะ)"
แม้จอมเทพทรงรู้ทางดูเสี่ยง
อันชื่อเสียงมุนีนี้จะเฉา
จึงกลับไปใจรำพึงถึงนงเยาว์
ข่มใจเศร้านิทราลาบรรทม
พอเช้ารุ่งแอบแฝงองค์ตรงภูผา
ดูมหามุนีที่อาศรม
พอฤษีออกห่างพลางเหินลม
มาเชยชมโฉมงามตามใจจินต์
ครั้นนวลหงเห็นองค์อินทร์มิสิ้นคิด
ใช่จะชิดกลับถอยห่างพลางติฉิน
นี่หรือองค์รุจิรัตน์วัชรินทร์
ใยดูหมิ่นศักดิ์ศรีสตรีจรรย์
มาหักหาญราญหญิงชิงความสุข
มาคามคุกบุกข่มเหงให้เกรงขวัญ
พระโยคีรู้การณ์ด้วยญาณพลัน
กลับมาทันเปิดประตูรู้ว่าใคร
อันองค์อินทร์สติดีมีไหวพริบ
แปลงกายทิพย์เป็นแมวแก้วตาใส
อหลยาหน้านิ่งกริ่งกลัวภัย
"นี่อะไร" มุนีถามในความครัน
ด้วยไหวพริบลิบเล่ห์จึงเฉกล่าว
"นี่ไงเจ้า มัชชาโอ อย่าโมหันต์"
ฟังคำตอบชอบใจอย่างไรกัน
"มัช- ของฉัน -ชาโอ ชู้ รู้กันดี"
แม้จะแปลว่าแมวให้แคล้วคลาด
ด้วยฉลาดใช่โกหกปกปิดนี่
จึ่งลดโทษกึ่งช่วยด้วยใยดี
แต่ด้วยที่ร่วมผิดจึงติดตรม
จะสาปนางพลางปลงสงสารยิ่ง
ร่างนางนิ่งกลายเป็นหินมลทินขม
อีกหมื่นปีมีพระรามตามคลายปม
จะสุขสมพบหน้าอีกคราแล
วิฬาร์เห็นเป็นไปตกใจตื่น
กลับร่างคืนอมรินทร์เทวินทร์แน่
พระมุนีกล่าวกล้ำช้ำดวงแด
มิยอมแลดูหน้ายอมปราชัย
ด้วยความผิดจิตตกมาฉกหญิง
ไม่ประวิงกริ่งเกรงข่มเหงได้
แม้เป็นจอมเทวัญอันเกริกไกร
ใช่อภัยในโทษโปรดรับเทอญฯ
เราขอสาปเพียงเบาเคา(ตมะ)ท่านว่า
ทั่วกายาปรากฎเพศให้เข็ดเขิน
คล้อยพันปีจะมีเทพมาเหน็บเนิน
แล้วสรรเสริญท่านว่านัยน์ตาพัน
เครื่องหมายแห่งอัปยศจะหมดได้
"ท้าวสหัสนัยน์" ได้สุขสันต์
เป็นชื่อเสียงเกียรติยศปรากฎกัน
มฆวันคอยสอดส่องผองเทวา
แล้วกล่าวว่าอย่าวิตกใช่ผกผัน
ครั้นนานวันสิ่งทั้งหลายใช่ปัญหา
ทุกสิ่งล้วนล่วงผ่านกาลเวลา
แม้กายาตนสิ้นกลืนกินเอง
ตุลาทิตย์
จากร้อยแก้ว เรื่อง ภารตนิยาย
มาตลี ชื่อสารถีของพระอินทร์
พระอนงค์ ฉายาของกามเทพ
มัชชาโอ เป็นภาษาปรากฤต คำเดียวแปลว่า แมว ถ้าแยกคำจะได้ มัช แปลว่า ของฉัน ชาโอ แปลว่า ชู้
นามพระอินทร์ อื่นๆ ท้าวสหัสนัยน์ วัชรินทร์ องค์อัมรินทร์ มฆวัน มฆวาน มหินทร์ สุรินทร์ ศักรินทร์ อมเรศ พระพันเนตร เทพบดี โกสีย์...