นิราศรักนักกลอนอาวรณ์ถึง
เบาะนั่งข้างว่างเปล่าเหงารำพึง............คนเคยซึ้งไยซ้ำย้ำโศกซม
จากโรงงานผ่านซุงกองสูงใหญ่..............ต้องเก็บไว้สำรองกองทับถม
เวลาผลิตผลาญทอนเหลือท่อนกลม........ฟันเลื่อยคมพิฆาตขาดกระเด็น
เปรียบเทียบตัวเราบ้างไม่ต่างนัก..........เขาเก็บรักสำรองก็มองเห็น
แล้วตัดรอนเลิกราน้ำตากระเซ็น..........เหมือนกับเป็นซุงท่อนแสนอ่อนใจ
ผ่านวัดจันทร์ประดิษฐ์คิดนอบนบ.........เคียมเคารพองค์พระประธานใหญ่
ที่เคยสร้างกุศลผลบุญไว้......................ขอพรให้รักคืนกลับยืนยง
ยังนึกถึงเมื่อก่อนตอนงานศพ..............พอสวดจบคนงามตามมาส่ง
หวานน้ำคำร่ำลาพาพะวง.....................ความหลังคงค้างใจวันได้พบ
มองวัดจันทร์วันนั้นกับวันนี้................ไม่ต่างกันตรงที่มีงานศพ
ต่างแต่ใจคนดีที่เคยคบ........................วันนี้หลบหน้าไปไม่พบกัน
ขับรถผ่านลานวัดสงัดเงียบ..................เย็นยะเยียบยามยลจนเสียขวัญ
ป่าช้าฝังรักสลายหน่ายสัมพันธ์.............ผ่านวัดจันทร์จึงหมองนองน้ำตา
ถึงโรงเรียนจันทร์ประดิษฐ์คิดครั้งก่อน......คำนึงย้อนรำลึกการศึกษา
พระคุณของคุณครูกรุณา............................มีวิชาจนได้เลี้ยงกายตน
หากหลักสูตรสอนไว้ในเรื่องรัก.................ลูกศิษย์จักขยันหมั่นฝึกฝน
ย่อมเชี่ยวชาญการพูดดึงดูดคน...................วิธีดลใจเขาเราคงรู้
นี่ต้องเดินคลำทางอย่างเขลาขลาด..............จึงมิอาจแข่งหาญทำการสู้
เขาเอารักคืนไปไม่เอ็นดู..........................ยอมเป็นผู้ปราชัยไปทันที
อีกไม่นานถึงศาลเจ้าพ่อเสือ.....................คนมากเหลือบนบานศาลที่นี่
ขอให้ช่วยสมหวังเกิดมั่งมี.........................ถูกลอตเตอรี่ร้ำรวยหวยใต้ดิน
นึกเห็นใจเจ้าพ่อน่าท้อจิต.........................เนรมิตเรื่อยไปให้ทั้งสิ้น
กี่หมื่นแสนคนขอทั่วธรณิน.....................หูทิพย์ยินอธิษฐานนานทุกยุค
เรามีความนับถือยกมือไหว้.....................อวยพรให้เจ้าพ่อขอให้สุข
อย่าเหมือนลูกช้างที่มีความทุกข์...............ทำสนุกหน้าชื่นฝืนอกตรม
ผ่านมหาวิทยาลัยสยาม............................เห็นสาวงามนักศึกษาหน้าสวยสม
คู่นักศึกษาชายที่หมายชม........................น่านิยมความเพียรร่ำเรียนมา
ความสำเร็จพร้อมพรักศักดิ์และสิทธิ์.......ทางชีวิตประเสริฐเลิศคุณค่า
แววแห่งสุขฉาบฉายทุกสายตา...............ปรารถนาสมหวังดังใจตน
ตะลิงปลิงร้านอาหารอยู่ด้านซ้าย.............เคยเยี่ยมกรายมาลองสองสามหน
ขับรถผ่านทีไรใจต้องทน.......................คิดถึงคนเคยพามาด้วยกัน
ไม่อยากมองจ้องนานสงสารลิ้น...............เพราะเพื่อนกินหายากอยากต้องกลั้น
คนคุ้นคุ้นก็ห่างเริดร้างพลัน...................คนสำคัญเลยอดงดไปนาน
ถึงบางไผ่เดิมทีคงมีไผ่...........................เหลือชื่อไว้จดจำเป็นคำขาน
บางไผ่คือชื่อโรงพยาบาล........................ฝั่งอีกด้านชื่อว่าพญาไท
เมื่อผ่านมาทุกครั้งยังนึกถึง.....................หมอคนหนึ่งงามงดสวยสดใส
เคยรับการรักษาเยียวยาใจ....................เชี่ยวชาญในโรคเหงาเฝ้าดูแล
เป็นหมอศัลยกรรมทำผ่าตัด...................ช่วยบำบัดโรคให้โดยไร้แผล
อยากฝากคำรำพึงซึ้งดวงแด...................คงได้แค่คำนึงถึงคนไกล
ผ่านสี่แยกท่าพระมนะนึก......................น้อมรำลึกคุณพระประณมไหว้
อธิษฐานดวงจิตบูชิตไป..........................อย่าเจอความจริงใจที่ไม่จริง
ขอคุณพระให้พบความอบอุ่น..................ด้วยผลบุญถอดถ่ายจากกายหญิง
ประทับใจกันและกันฝันแอบอิง................ไม่ทอดทิ้งสลัดตัดง่ายดาย
ให้คอยมาเยียวยารักษาจิต.......................เป็นคู่คิดวรรณศิลป์มิสิ้นสาย
เป็นเพื่อนฝันเรื่อยไปไม่กลับกลาย..........ถูกนับเป็นพี่ชายที่แสนดี
หากวันไหนใจเขาเศร้าสับสน..................ขอให้มนต์กานท์กลอนอักษรศรี
ประหนึ่งพรไปปลอบมอบพจี....................อย่าหน่ายหนีแรมร้างเหินห่างตัว
ถึงบุคคโลบ่ายคล้อยคอยแต่คิด...................เยาวมิตรเชิงกลอนขจรทั่ว
แม้บุคคลใดใดไม่เกรงกลัว.......................บุคลิกมิชั่วมัดใจชาย
ถึงสะพานกรุงเทพเจ็บทรวงลึก...............เพียงแค่นึกถึงกันคนมั่นหมาย
ทอดสะพานให้นั้นมันสั้นปลาย...............เทพก็หน่ายไปด้วยช่วยกระทำ
ถึงดาวคะนองดาวลองคะนองเล่น...........รักโลดเต้นลืมตนจนถลำ
ได้อ่านกลอนอ้อนหน่อยคอยหลงคำ........ยังจดจำเมื่อคราวดาวคะนอง
ดาวเคยนึกค้านในใจนิดนิด.....................คงไม่คิดร้ายเราให้เศร้าหมอง
วิสัยช่วยชีวิตตั้งจิดปอง.............................เขาอาจต้องสับสนอลเวง
สักพักหนึ่งถึงราษฏร์บูรณะ.....................ราษฏร์ใดจะบูรณะใจอาจไม่เก่ง
เว้นไว้แต่เพียงเขาเท่านั้นเอง..................ทราบแล้วเร่งมาดูบูรณะ
ถึงบ้านคุณกร แก้วไทยอยู่ในสวน..............ล้อมด้วยมวลไม้รื่นดื่นระดะ
ทั้งไม้ดอกไม้ใบหลายพรรณคละ................เป็นภาระคุณเพชรน้อยคอยดูแล
สำนักงานหนังสือชื่อร้อยฝัน......................แหล่งสังสรรค์ทำงานตรวจทานแก้
มาร่วมมือร่วมใจไม่ผันแปร......................ซึ่งล้วนแต่มิตรรักเหล่านักกลอน
พี่อำพัน ฉายางกูรคุณพี่ใหญ่......................พี่ดนัย อินทรบุรีแม่ฮ่องสอน
คุณเสมอ กลิ่นหอมพร้อมอาทร.................คุณ ส.เชื้อหอมเขียนตอนแสวงวิชา
พี่ไพศาล พจนีย์เกษมช่วยเต็มที่................คุณสุธีร์ พุ่มกุมารด้านปรึกษา
คุณพี่ลอง สนธิรัตนเต็มอัตรา....................คุณกรองแก้ว เจริญสุขมาแปดพอดี
บ.ก.กร แก้วไทยเหนื่อยไปหน่อย.............คุณเพชรน้อยอยู่ด้วยช่วยไม่หนี
คุณโฆรวิส เวตาลชาญกวี..........................คุณประสิทธิ์ศรี หอมสุวรรณช่วยกันคิด
คนเดียวพิมพ์ต้นฉบับแต่กลับยิ้ม...............วิ่งโรงพิมพ์ไปมาจนขาขวิด
คือคุณปริญญา อินทรปาลิต ......................คุณประจักษ์ สิทธิกรทวีชัย
สอนโน้ตเพลงบรรเลงที่ท้ายเล่ม...............คุณสุขเกษม นรสิงห์ผู้ยิ่งใหญ่
คุณปวีณา สุภาผลคนอยู่ไกล......................คุณภู ผาไทโฆษณาประชาสัมพันธ์
จนเลื่องลือชื่อไปกว้างไกลลิบ....................คุณรัตนทิพย์ พึ่งชยายกระจายฝัน
คุณเกษร ปานน้อยคอยช่วยกัน................ คุณเพียงใจ ชื่นเงินนั้นก็หมั่นเยือน
หมอวิชิต เอี่ยมอร่ามคอยถามไถ่..............คุณธงชัย จุลินทรเที่ยววอนเพื่อน
รวมสมาชิกให้ไม่ขอเลือน......................เปรียบเสมือนสายใยได้พบพา
ศิลปกรรมคุณปร เกศสิงห์สร้อย............ บ.ก.ร้อยฝันสาว-หนุ่มกลุ่มเด็กกว่า
คุณพินธุกรฝากไว้ให้เตือนตา................ คุณเกศรา เกษมสุขสถาพร
คุณกมลรัตน์ หนองรั้งยังอยู่นี่ ................คุณเกวลี คุณหนิง คุณหน่อยร้อยอักษร
ประดับฟ้าบรรเจิดเลิศสุนทร .................ทั้งคุณบอล ณัฐพล รัตนิพนธ์
เราผู้ทำซึ้งในไมตรีจิต..........................เหล่ามวลมิตรแสดงทั่วแห่งหน
สมทบทุนร้อยฝันกันทุกคน.................. ช่วยกันจนแช็งแกร่งเพราะแรงใจ
ก้าวเดินสู่โลกกว้างอย่างองอาจ...............เป็นแหล่งวาดกวีที่สดใส
สนามนี้จะดำรงยืนยงไป........................เพื่อรับใช้ทุกคนอวดผลงาน
รวมความรักนักกวีที่ร่วมฝัน..................เชิญสร้างสรรบทกลอนอันอ่อนหวาน
มาชะล้างความหมองของดวงมาน...........ประหนึ่งบ้านพำนักพักใจพลัน
เอื้ออาทรกันดีเหมือนพี่น้อง..................ช่วยประคองมิตรภาพอาบไอฝัน
ลอยอารมณ์ยามจิตคิดถึงกัน...................ฝากร้อยฝันสื่อรักจักสุขเอยฯ.
ดาว อาชาไนย