ต่อไป »

[บุคคลทั่วไป]

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)

[สล่าผิน]

เฝ้าติดตามถามใจเป็นไรบ้าง
เช็คใจอย่างถ้วนถี่มีปัญหา
เพราะเฝ้าคิดถึงเธอเสมอมา
ทุกเวลาอยากเจอเธอทุกวัน

ยิ่งตอนอยู่ผู้เดียวแสนเปลี่ยวเหงา
อยู่ใต้เงาฟ้างามยามใจฝัน
ที่หัวใจได้ร่มห่มแสงจันทร์
จิตใจฉันเฝ้าซึ้งคิดถึงเธอ

จึงฝากเมฆเสกคำย้ำไปหา
ให้รู้ว่าส่งใจให้เสมอ
ใจฉันร่ำเรียกหาว่าอยากเจอ
เฝ้าพร่ำเพ้อเรียกหาทุกคราไป

ใจฝากย้ำคำถามข้ามขอบฟ้า
เฝ้าถามว่าอยู่เย็นเป็นสุขไหม
ฉันเป็นห่วงตัวเธอเสมอใจ
เก็บรักไว้อย่างดีมิมีเลือน

บ่มกายฉันนั้นไว้ในปุยเมฆ
ฉันขอเสกเมฆนั้นพลันคล้อยเคลื่อน
ห่มกายเธอด้วยหนาอย่าแชเชือน
ดาวและเดือนเฝ้าดูอย่ารู้กลาย

เราร่วมฝันมั่นใจในความรัก
ไม่ต่างนักใจเราเฝ้ามุ่งหมาย
ต่างเก็บรักภักดีมิมีคลาย
ถึงแม้กายเราสองต้องห่างกัน

สล่าผิน
22พค.2554

[Music]

ในความฝันเอื้อมอาจปรารถนา
หวังไขว่คว้าอิงแอบมาแนบขวัญ
ภาพลางเลือนเหมือนซ้อนย้อนตะวัน
ไล่คว้าทันจนเห็น..ว่าเป็นเธอ

ต้องมนต์เมฆเสกเป่า..เมื่อเข้าชิด
ประหนึ่งคิดตรงกันสวรรค์เพ้อ
ในอ้อมแขนแสนอุ่นเป็นบุญเจอ
ให้ออเออ..ตกลงแบบปลงใจ

ใต้เงาจันทร์วันเพ็ญเป็นพยาน
สะท้อนธารรานรอนอย่างอ่อนไหว
สองกระทบซบร่างสร้างเยื่อใย
ร่ำอาลัยแนบสนิท..ในนิทรา

<a href="http://www.youtube.com/v/w5e4HpDgH9k&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/w5e4HpDgH9k&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

[ดาว อาชาไนย]

ร่างหลับใหลในฝันอันแสนหวาน
ร่วมสำราญรสเล่ห์เสน่หา
จันทร์เป็นใจจึงแกล้งแฝงเมฆา
ใต้แผ่นฟ้าเชยชมได้สมปอง

สุขอยู่ในความฝันอันสมจิต
จนจันทร์ลาอาทิตย์สาดแสงส่อง
อยากให้ฝันเป็นจริงหญิงที่จอง
มาพบพ้องกันบ้างคนห่างไกล

[jatanin]

ร่างหลับใหลในฝันอันแสนหวาน
ร่วมสำราญรสเล่ห์เสน่หา
จันทร์เป็นใจจึงแกล้งแฝงเมฆา
ใต้แผ่นฟ้าเชยชมได้สมปอง

สุขอยู่ในความฝันอันสมจิต
จนจันทร์ลาอาทิตย์สาดแสงส่อง
อยากให้ฝันเป็นจริงหญิงที่จอง
มาพบพ้องกันบ้างคนห่างไกล...(ดาว อาชาไนย)

๐ โลกแห่งฝันนั้นงามทุกยามชื่น
โลกยามตื่นขื่นขมระทมไหม้
โลกแห่งฝันนั้นพราวถึงราวใจ
โลกจริงไร้ใครอยู่เป็นคู่เชย

๐ เมื่อหลับตาคราใดหัวใจสุข
ไร้สิ้นทุกข์สุขล้ำเกินคำเอ่ย
อยากสุขใจในฝันทุกวันเลย
อิงเขนยเชยฝันทุกวันคืน๚ะ๛

[สะเลเต]

ร่างหลับใหลในฝันอันแสนหวาน
ร่วมสำราญรสเล่ห์เสน่หา
จันทร์เป็นใจจึงแกล้งแฝงเมฆา
ใต้แผ่นฟ้าเชยชมได้สมปอง

สุขอยู่ในความฝันอันสมจิต
จนจันทร์ลาอาทิตย์สาดแสงส่อง
อยากให้ฝันเป็นจริงหญิงที่จอง
มาพบพ้องกันบ้างคนห่างไกล...(ดาว อาชาไนย)

๐ โลกแห่งฝันนั้นงามทุกยามชื่น
โลกยามตื่นขื่นขมระทมไหม้
โลกแห่งฝันนั้นพราวถึงราวใจ
โลกจริงไร้ใครอยู่เป็นคู่เชย

๐ เมื่อหลับตาคราใดหัวใจสุข
ไร้สิ้นทุกข์สุขล้ำเกินคำเอ่ย
อยากสุขใจในฝันทุกวันเลย
อิงเขนยเชยฝันทุกวันคืน๚ะ๛("จาตนิน")

โลกความจริงทิ้งห่างต่างจากฝัน
ความสุขนั้นหนีหายไร้สดชื่น
แสนเบื่อหน่ายหนักหนาล้าเต็มกลืน
ไม่อยากตื่นต้องรับกับระทม

เกลียดกลางวันเหว่ว้าไขว่คว้าเหงา
โลกสีเทาร้าวรานผ่านความขม
อยากหยุดพ้นหม่นหมองต้องตรอมตรม
ที่ถาถมจมแน่นถึงแกนใจ

--- สะเลเต ---

[sugarplus]

[/งามเอยงามแสงจันทร์วันฟ้าสวย
จันทร์จงช่วยถามเขาว่าเหงาไหม
ขอฝากรักของข้าผ่านฟ้าไป
ฝากให้ใครคนนั้นว่าฉันคอยsize]

[สล่าผิน]

[/งามเอยงามแสงจันทร์วันฟ้าสวย
จันทร์จงช่วยถามเขาว่าเหงาไหม
ขอฝากรักของข้าผ่านฟ้าไป
ฝากให้ใครคนนั้นว่าฉันคอยsize]

ใต้เงาจันทร์อันงามอร่ามฉาย
ยังมีชายนายหนึ่งซึ่งเหงาหงอย
นั่งแน่นิ่งอิงไม้ทำใจลอย
มองจันทร์พลอยจิตเหงาเศร้าโศกา

คิดถึงนางอย่างแรงณ.แห่งนี้
แม้จะมีจันทร์ส่องในท้องหล้า
จิตซึมเซาเฝ้าหวงห่วงน้องยา
ไม่รู้ว่าเธอนั้นฝันถึงใคร

สล่าผิน
27พค.2554

[ดาวระดา]

เหมือนหลบหลังเมฆใหญ่ไร้แสงส่อง
มัวมืดหมองมืดมิดปิดคลุมฉัน
แม้แสงโสมโคมฟ้าจ้าผ่องพรรณ
คอยรังสรรค์เสกแสงแข่งดวงดาว

ใจยังทรุดจุดทรามยากข้ามผ่าน
โถมทุกข์ทรมานเขี่ยด้านขาว
เหลือสีดำคร่ำคาบนฟ้าคราว
เทเจ็บร้าวก้าวย่ำกระหน่ำกาย

ไร้แสงผ่องส่องผ่านสู่มานเสื่อม
หรือเกินเอื้อมเสียแล้วสิ้นแววฉาย
ส่องถึงทรวงช่วงหนึ่งคงถึงตาย
เพราะติดค่ายเมฆเทาใต้เงาจันทร์


ดาวระดา

มาแบบง่วงๆๆๆครับ

[สล่าผิน]

ในความฝันเอื้อมอาจปรารถนา
หวังไขว่คว้าอิงแอบมาแนบขวัญ
ภาพลางเลือนเหมือนซ้อนย้อนตะวัน
ไล่คว้าทันจนเห็น..ว่าเป็นเธอ

ต้องมนต์เมฆเสกเป่า..เมื่อเข้าชิด
ประหนึ่งคิดตรงกันสวรรค์เพ้อ
ในอ้อมแขนแสนอุ่นเป็นบุญเจอ
ให้ออเออ..ตกลงแบบปลงใจ

ใต้เงาจันทร์วันเพ็ญเป็นพยาน
สะท้อนธารรานรอนอย่างอ่อนไหว
สองกระทบซบร่างสร้างเยื่อใย
ร่ำอาลัยแนบสนิท..ในนิทรา

http://www.youtube.com/watch?v=w5e4HpDgH9k&feature=related

โลกแห่งฝันปันใจให้เรารัก
ความจริงจักเป็นไรไร้ปัญหา
เพียงเราต่างสร้างสรรด้วยปัญญา
ร่วมกันหาแนวทางสร้างความรัก

เราทั้งคู่อยู่ในใต้ฟ้ากว้าง
แต่เราวางใจเราเข้าสมัคร
เข้าร่วมเรียงเคียงกันมั่นใจนัก
ให้ประจักแก่ใจในสองเรา

จะไม่หวั่นปัญหาที่ถาโถม
พายุโหมอย่างไรไม่มีเศร้า
จะร่วมกันสรรสร้างไม่ส่างเซา
สองต่างเข้าใจกันร่วมฝันไกล

ยามคิดถึงตรึงจิตด้วยพิษรัก
เราก็จักมองฟ้าพาสุขได้
ต่างมองฟ้าหารักมักสุขใจ
ส่งรักไปบนฟ้าพาพบกัน

สล่าผิน

[สล่าผิน]

ในโลกแห่งความจริงยิ่งกว่าทุกข์

หาความสุขไม่ได้อย่างในฝัน

อยู่กับใจขมขื่นทุกคืนวัน

ความสุขสันต์หาไม่มีในชีวา
 

สุขไม่มีในชีวาไม่น่าเชื่อ
เฮฮาเหลือใครใครไปทั่วหน้า
ใจร่าเริงบรรเทิงได้ในทุกครา
ยังมาว่าไม่สุขสันต์ทุกวันคืน

แค่ฟังเสียงสำเนียงใสก็ได้รู้
ฟังเสียงดูดั่งใจได้เริงรื่น
ไม่มีทุกข์ใดทำให้กล้ำกลืน
เธอสดชื่นสดใสได้ทุกวัน

เหมือนใบหน้าตาเธอไม่เจอทุกข์
ชอบสนุกเฮฮาพาให้ขัน
ไม่มีเคลียดไม่มีเศร้าเคล้าจาบัลย์
เธอสุขสันต์สดใสในชีวา

สล่าผิน

[ปนิตา]

ใต้แสงจันทร์ คราค่ำ ย้ำใจหวน
คิดทบทวน สิ่งใด ที่ใจหมาย
คิดถึงเจ้า ดวงจิต แทบมลาย
แทบวางวาย ดวงจิต เฝ้าติดตาม
 
ยอดดวงใจตอนนี้อยู่แห่งไหน
คิดถึงใคร ดวงใจ ฝากจันทร์ถาม
ข้าคิดถึง ตัวเจ้า ทุกโมงยาม
สุดจะห้าม หักจิตร คิดใฝ่ปอง

            -ปนิตา-