หนูน้อย
เมื่อโค้งรุ้งยังลอยร้อยสวรรค์
โอนอ้อไหวใบระบัดตัดตะวัน
ที่ซึมซบสงบงัน จะงอกงาม
เทียบฝันเธออาจบ้างทางมืดมิด
ระโหยล้าแรงติดจะปลิดหนาม
แต่คือหวังรั้งเธอให้เผลอตาม
ถึงเยียบเย็นนิยาม ระย่อไย
ดูเมฆคลุ้มอุ้มฝนบนฟ้านั่น
ทะมึนมืดครืดครั่นจนกัลป์ไหน
แต่หลังฝนหม่นอับก็ลับไป
แสงอันอุ่นอรุณไร ก็รังรอง
มีเจ็บลึก ลึกใดเท่าใจปัก
เช่นพยัคฆ์ปฏักบั้งยังผยอง
ทนเก็บเลือดกัดลิ้นไม่ผินมอง
กลืนเจ็บต้อง เก็บใต้ ในใจตน
หนูเอ๋ย
เธอคงเคยอยากลองท่องเวหน
มองวิหคผกเผินเพลินลมบน
ว่าสุขล้ำช่ำปรน โฉบเมฆโปรย
แต่ความจริงยิ่งลึกเกินศึกรับ
ปีกขยับแลกขย้อนอ่อนระโหย
ต้องออกแรงแข่งล้าข่มลาโรย
คราพายุบุโบย ใส่ปีกบาง
ถ้าอยากสูงมุ่งฟ้าท้าพิภพ
ต้องเจนหลบจบหลีกทั้งปีกหาง
ต้องเรียนรู้เล่ห์ลมหล่มทิศทาง
ไร้ลมลางล่างยก ก็ตกดิน
อย่าถอยท้อพ้อวันที่รันทด
ไม่หาญลีบบีบหด ภูผาหิน
แต่ตั้งใจมั่นจับรับราคิน
แหละยิ้มข้ามหยามหมิ่น เสียงนินทา
หนูที่รัก
แต่ซร้องศักดิ์จักให้คุ้มใฝ่หา
ใช่มงกุฏครุฑเคียนหรือเหรียญตรา
ที่จรัสจัดจ้า คือใจเธอ ฯ
พรายม่าน
สันทราย
๒๘.๐๔.๕๔